สวัสดีค่าชาว README กลับมาอีกแล้วกับทริปล่าสุดที่โฟล์คเพิ่งได้ไปตะลุยมา

แดดจ้า อากาศร้อนสะใจขนาดนี้ จะไปไหนได้อีกอ่ะนอกจาก ทัลเลลลล๊

เราเลือกไปเที่ยวทะเลที่จังหวัดกระบี่จ้า เดินทางวันที่ 16.05.2019 กลับ 18.05.2019 ค่า

Travel plan

  • 1st day เที่ยวเล่น และพักที่หาดอ่าวนาง
  • 2nd day นั่งเรือทัวร์หมู่เกาะ และพักที่หาดไร่เลย์
  • 3rd day เที่ยวเล่นที่หาดไร่เลย์ และกลับกรุงเทพฯ

สำหรับทริปนี้ก็เหมือนเดิมค่า เราเดินทางด้วยรถสาธารณะ เหมาะกับใครที่ไม่มีรถส่วนตัวแบบเรา :D

ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไปเที่ยวด้วยกันเล้ยยย~


🌞 DAY 1 🌞


เราเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบิน Thai Air Asia เหมือนเดิมค่า

ไฟล์ท 9.35 น. ถึงสนามบินนานาชาติกระบี่เวลา 11.00 น.

หลังจากลงเครื่อง เราสองคนไม่รอช้าที่จะหารถไปหาดอ่าวนาง พอออกมาจากตัวสนามบิน เราจะเจอคุณลุงคุณป้ามายืนเรียกให้ขึ้นรถเยอะแยะ โชคดีที่เราไปวันธรรมดา คนไม่เยอะพลุกพล่า

เดินหาสักพักก็ไปเจอกับวินรถตู้ที่สามารถพาเราไปหาดอ่าวนางได้! ราคาคนละ 100 บาท

แต่เนื่องจากเป็นวันธรรมดาทำให้คนมาเที่ยวไม่เยอะ และเป็นช่วง Low Season ทำให้รถตู้ไม่เต็มสักที คนดูแลคิวรถเลยแจ้งว่ารถตู้คนไม่เต็ม กว่าจะเต็มคงอีกนาน เลยย้ายเราสองคน และฝรั่งอีก 2 คนบนรถไปนั่งแท็กซี่ด้วยกันเลยจ้า 4 คน คนละ 100 บาท เท่ากับ 400 บาทเท่าค่ารถแท็กซี่พอดี

หลังจากขึ้นรถแท็กซี่ คุณลุงก็ชวนคุยยาวววเลย ถามนู่นถามนี่จนจบที่คุณลุงแนะนำที่เที่ยว คุณลุงจอดรถให้ลงที่ศาลาหกเหลี่ยม ซึ่งบริเวณนั้นเป็นที่จอดเรือหางยาวพาข้ามฝั่งไปเกาะกลาง จู่ๆ ก็มีคุณพี่มาชาร์จตัวจะพาทัวร์เกาะกลาง ซึ่งเราตั้งใจจะไปอยู่แล้วเพื่อไปหาร้านกินข้าวที่ดูรีวิวมา เลยตกลงราคากัน สรุปทัวร์คือ พาเที่ยวเกาะกลาง ไปดูเขาขนาบน้ำ พาไปส่งร้านกินข้าว และรอจนกลับขึ้นฝั่ง ทั้งหมดนี้ 500 บาท เรากับแฟนคุยกันละว่าคุ้มดีเลยตอบตกลงไป

งั้นไปขึ้นเรือกันดีกว่า ⛅

วิวบนเรือหางยาวจ้าาา ฟ้าใสมากเว่อ แดดแรงสะใจมากๆๆๆๆ


ถึงร้านกินข้าวแล้ววว จะบอกเลยว่าไม่มีคนเลย มีโต๊ะเราโต๊ะเดียว55555 สบายใจมากกก

ร้านข้าวที่เราไปทานชื่อร้าน กระชัง ขนาบน้ำวิวซีฟู๊ด จุดเด่นของร้านอาหารแถวนี้คือ จะมีกระชังปลาภายในร้าน ซึ่งจะมีทั้งปลาเลี้ยงปลากินค่ะ


มาดูแต่ละเมนูดีกว่าว่าเราสั่งอะไรมาทานบ้าง จะบอกว่าอร่อยทุกจานนนนนนนน พูดละหิวเลย ฮือ ;___;

เมนูที่สั่ง : กุ้งทอดซอสมะขาม, ต้มยำทะเลน้ำใส (อร่อยแซ่บมากกกก), ปลาหมึกลวกจิ้ม, ข้าวเปล่า, โค้ก

ราคารวม : 780 บาท

ส่วนสับปะรดเป็น service ของทางร้านนะคะ หวานฉ่ำเลย *w*

วิวตอนทานข้าวจะเป็นป่าโกงกาง พี่คนขับเรือบอกว่าช่วงนี้น้ำน้อยเลยเข้าไปไม่ได้ เข้าได้ตอนน้ำขึ้นเยอะ

กินอิ่มแล้ววว ไปล่องเรือเล่นก่อนกลับขึ้นฝั่งดีกว่าาาา

ถึงฝั่งก็รีบหารถไปอ่าวนางเลย เพราะกลัวจะไปถึงที่พักเย็นเกิน

เราขึ้นรถสองแถวสีขาวไปหาดอ่าวนาง รถจะขับไปหาดนพรัตน์ธารา และอ่าวนาง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

  • จุดจอดรถสองแถว : แถวห้าง Vogue (โวค)
  • ราคาค่ารถสองแถว : 50 บาท/คน

ระหว่างทางที่เดินไปห้างโวค เราเห็นละชอบมากเลยถ่ายรูปเก็บไว้ เป็นรูปปั้นลิง 4 ตัวยืนอยู่บนเสาไฟจราจร 4 ต้น ตอนกลางคืนได้ตกใจแน่ๆ อ่ะ55555

ถึงที่พักละค่าาา เราพักที่ iRest Ao Nang Sea Front ราคาตกคืนละ 1,150 บาท

ถูกมากไม่พอ ใกล้หาดมากเด้อออ ร้านอาหารก็เดินไม่ไกล เดินเที่ยวได้ทั่วหาดเลยค่า


ตรงหน้าที่พัก พอเริ่มเย็นๆ ใกล้ค่ำเขาจะมีบาร์ไว้ให้นั่งชิลด้วยน้า

ตรงฟร้อนท์จะมีใบปลิวแนะนำเที่ยวเยอะมาก และมีบริการจองทัวร์ด้วยนะ ใครขี้เกียจไปหาก็จอยกรุ๊ปที่นี่ได้เลยค่า สามารถสอบถามราคากับพนักงานได้เลย บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใสดีค่ะ😘

Note. ตอนเช็คอิน พนักงานจะเก็บค่ามัดจำห้อง 1,000 บาท ได้คืนวันเช็คเอ้าท์น้า


ทางเดินไปห้องพัก

สภาพห้องเป็นห้องพักธรรมดา ชิลๆ แต่มีอ่างอาบน้ำไว้ให้นอนแช่สบายใจด้วยยย คิvคิ

หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อย เราสองคนเลยออกไปเดินเล่นริมหาดกันเพื่อรอเวลาทานมื้อเย็น

พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว---

เนื่องจากเรายังไม่ได้จองเรือไปทัวร์เกาะ เลยเดินหาไปเรื่อยๆ แต่มีคนรู้จักแนะนำว่าให้ไปทัวร์กับสหกรณ์เรือหางยาว เราเลยไปถ่ายรูปป้ายราคามาไว้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

เดินเล่นหาร้านข้าวไปพลางๆ วนไปวนมาก็ยังหาร้านที่ถูกใจไม่ได้ สรุปเดินไปดูเมนูร้านนึงละโดนอาบังเชียร์เข้าร้าน ด้วยราคาไม่แรงมากบวกกับได้ลดราคาเมนูละ 20% โด้ยยย ช่วง Low Season มันดีฉะนี้แล

รออะไรล่ะ ลุยเลยเด้ ชื่อร้าน GURU Restaurant อาหารรสชาติดีใช้ได้เลย บริการดีทุกคนเลยค่ะ

เมนูที่สั่ง : ต้มยำทะเลน้ำข้น, กุ้งชุบแป้งทอด, ปลาหมึกนึ่งมะนาว, กุ้งแช่น้ำปลา, ข้าวเปล่า, โค้ก

ราคารวม : 1,160 บาท


กินอิ่มจนสบายพุง กลับไปนอนพักกันดีฝ่า พรุ่งนี้ต้องตะลอนทัวร์ทั้งวัน

ขอลาไปด้วยภาพเมืองตรงหาดอ่าวนางนะคะ บรรยากาศเขียวชะอุ่มดี เจอกันใหม่ DAY 2 เด้ออ


🌞 DAY 2 🌞


เรารีบตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปที่สหกรณ์เรือหางยาวเพื่อไปถามราคา เรากับแฟนคุยกันไว้แล้วว่าอยากไปทัวร์แบบส่วนตัว (เรือหางยาวแต่ละลำ จุคนได้มากสุด 6 คน)

ทัวร์ที่ไป : ทัวร์ 5 เกาะ (เกาะปอดะ, เกาะทับ, เกาะไก่, ทะเลแหวก, ถ้ำพระนาง, หาดไร่เลย์)

ราคาทัวร์ : 2,200 บาท

เนื่องจากวันนี้เราพักที่หาดไร่เลย์เลยต้องคุยกับคนขับเรือก่อนว่าขอให้จบทริปที่หาดไร่เลย์ได้ไหม (เราอยากไปทะเลแหวกด้วย ซึ่งต้องเช็คทุกวันว่าจะแหวกเช้าหรือบ่าย) โชคดีที่ทะเลแหวกจะแหวกตอนบ่ายพอดี เราเลยตกลงซื้อทัวร์ทันที เย่

พอตกลงซื้อทัวร์เรียบร้อย จะมีคุณลุงขับรถพาไปจุดขึ้นเรือหางยาว ซึ่งจะมีเรือหางยาวจอดเต็มเลย เหมือนเป็นบขส.เรือหางยาว 55555

ปายปายยย ไปโลดแล่นกันเถ้อะ!!! วิวระหว่างล่องเรือ ผืนน้ำทะเลสีฟ้ากว้างใหญ่สวยงามเหลือเกิน~

หาดแรกที่เราไปเล่นน้ำคือ หาดปอดะ ค่าาา น้ำทะเลสีเขียวมรกตสวยม้ากกก >w<

พี่คนขับเรือบอกต้องไปจ่ายค่าเล่นที่หาดตรงหน้าหาด (เขาจอดเรือตรงท้ายหาดเพราะเห็นคนน้อยดี)

ราคาคนไทย : เด็ก 20 บาท, ผู้ใหญ่ 40 บาท

ตรงหน้าหาดจะมีร้านขายของชำเล็กๆ มี Lifeguard ประจำอยู่ที่หาด มีห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อม

ระหว่างทางจากท้ายหาดไปหน้าหาดค่า ธรรมชาติมากกก

กินน้ำเย็นสบายชื่นนนใจ ชื่นใจกว่าตรงที่เขาใช้หลอดกับแก้วกระดาษ🌈

เราเล่นน้ำที่นี่นานมากกกก เล่นอะไรก็ไม่รู้อยู่ในทะเล ว่ายไปว่ายมาอยู่นั่นแต่สนุกมาก 555555

เล่นจนหนำใจเลยบอกคนขับเรือว่าไปทะเลแหวกได้เลยไหม เขาบอกไปได้เลย น่าจะเริ่มแหวกแล้ว

แต่คนเยอะมากจริงๆ เลยไม่ค่อยได้เล่นอะไรเยอะ สิริเวลาที่อยู่ที่ทะเลแหวก 20 นาทีถ้วน

หลังจากนั้นพี่คนขับเรือก็พาไปดำน้ำค่าา เขาพาไปปล่อยจุดๆ นึง ดำน้ำไปเลยจนกว่าเราจะพอใจ ซื้อทัวร์ส่วนตัวมันดีแบบนี้แหละ คุ้มๆๆๆ ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ซื้อแบบนี้นะ จะไปจะมาตามใจเราเล้ย👍 (ไม่มีรูปเพราะเอามือถือวางทิ้งไว้บนเรือค่ะ แง)

ที่สุดท้ายในทริปคือถ้ำพระนาง และหาดไร่เลย์ แต่เราพักที่นี่อยู่แล้ว คนขับเรือมาส่งละกลับเลย เราเลยเดินแวะดูแถวถ้ำแปปนึง

ศาลปลัดขิกบริเวณถ้ำ เห็นตอนแรกก็ตกใจนิดหน่อย แปลกๆ ดี

อยากอาบน้ำมากไม่ไหวแล้ว เลยเดินหาที่พักละจ้า อ่านป้ายตรงนี้ได้เลย เขามีบอกหมดเลยค่ะว่าที่พักแต่ละที่อยู่ตรงไหนบ้าง อ่านเข้าใจง่ายด้วย

ที่พักเราอยู่ฝั่งตะวันออก ซึ่งเรือที่มาจอดเขาจอดฝั่งตะวันตก เนื่องจากตอนบ่ายฝั่งตะวันออกน้ำจะแห้งแบบนี้เลยค่ะ แห้งขนาดที่มีรถลงไปขับได้เลย

เดินไกลเหมือนกัน เหนื่อยเลยแหละ55555 ระหว่างทางมีป้ายบอกตลอด

ใกล้ถึงละว้อยยยยย

ถึงล้าวววววว กรี๊ดดดดดดด

เราพักที่ Railay Phutawan Resort ตกคืนละ 1,160 บาท

สภาพภายในห้องค่ะ แลดูอบอุ่นดี วิวตรงระเบียงหน้าห้องก็ดีงามสบายตามากก เขียวชอุ่มเล้ย

หลังจากเล่นน้ำดำน้ำมา คือเหนื่อยมากกกกกกกๆๆๆๆ อาบน้ำเสร็จ มานอนเล่นบนเตียงเผลอหลับไปเฉยตื่นมาอีกที 6 โมงจ้า 55555 แพลนที่ตอนแรกจะไปคาเฟ่สรุปต้องเลื่อนไปพรุ่งนี้ แต่ไม่เป็นไร ออกไปกินข้าวที่โรงแรมก็ได้ เพราะเขามีโปรโมชั่นลด 10% ทั้งอาหารและบาร์เลย ต้องโดนละมะะะ

วิวตอนนั่งทานข้าวค่ะ เวลาที่เราไปยังไม่มีใครเลย สบายหูสบายตามากกกกอุแง้

เมนูที่สั่ง : ปลาทอดราดพริก, ต้มยำทะเลน้ำใส, ส้มตำไทย, กุ้งอบวุ้นเส้น, ข้าวเปล่า, น้ำมะนาวปั่น, น้ำสับปะรดปั่น (ปอเปี๊ยะทอดเป็น service ของโรงแรมจ้า)

ราคารวม : 1,170 บาท

อาหารราคาไม่แพง วิวสวย อากาศดี หัวใจฟูฟ่องงง💗

อ้อ ถ่ายรูปเวลาเปิด-ปิดบาร์กับสระว่ายน้ำมาฝากด้วยค่ะ เช็คเวลาก่อนไปใช้บริการด้วยน้า

หลังจากกลับไปนอนพักท้องที่ห้อง เราก็ยังไม่สาแก่ใจ ยังคงอยากเล่นน้ำ อุตส่าห์เตรียมชุดว่ายน้ำมาเพื่อการนี้ 55555 ใช่ค่ะ ไปว่ายน้ำกันค่ะ แต่ไหนๆ ก็ไปแล้ว ดื่มอะไรเบาๆ เคลิ้มๆ กันซะหน่อย

เมนูที่สั่ง : จำชื่อไม่ได้ แต่แก้วชมพูคือสตรอเบอรี่ สีฟ้าคือบลูฮาวาย ผสมไรบ้างไม่รู้แต่รวมๆ คืออร่อย จิบไปว่ายน้ำไป เพลินนนน~

ราคารวม : 380 บาท

วิวสระว่ายน้ำตอนกลางคืนโรแมนติคม้ากกกกกก มากๆๆๆ ใครไปกับแฟนนี่ฟินแน่นอน ว่ายน้ำภายใต้แสงจันทร์ จิบค็อกเทลเบาๆ เพลินๆ 🌛




หลังจากว่ายน้ำประมาณชั่วโมงกว่าๆ รู้สึกว่าหิว... 5555555 กินก่อนนอนอีกสักมื้อละกันแหม่ๆๆ

เมนูที่สั่ง : หอยแมลงภู่อบสมุนไพร, ผัดฉ่าทะเล, ข้าวเปล่า, โค้ก

ราคารวม : 455 บาท

อิ่มแล้ว นอนได้! สำหรับวันที่ 2 ก็จบลงด้วยมื้อค่ำ(มาก)แบบนี้แหละ อิอิ

ไปนอนดีกว่า สบายใจละวันนี้ ฝันดีค่าาา✨


🌞 DAY 3 🌞


วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว ฮรุก TwT

พวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปทานมื้อเช้าของโรงแรม ซึ่งแต่ละห้องจะได้รับคูปองทานมื้อเช้าฟรี 2 ใบ/ห้อง (ได้รับตอน Check in)


อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นพวก Breakfast ซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าใครกลัวไม่อิ่มท้อง เขามีแกงกับข้าวสวยบริการเหมือนกันนะคะ (ตอนเราไปเป็นแกงเขียวหวานไก่)


อาคารนี้คือจุดไว้ทานมื้อเช้านะคะ ผาด้านข้างเป็นจุดสำหรับปีนเขาพอดี ดูเขาปีนเขาเพลินเลย ลุ้น55555


วิวรอบๆ โรงแรมจากห้องอาหารจ้า สดชื่นมากเว่อออออ อ อ อ


และแล้วก็ถึงเวลา Check out แล้ว ฮึก... ไว้เจอกันใหม่นะภูตะวัน~


แต่!!! ทริปของเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ เรายังไม่ได้ไปคาเฟ่ที่จะไปเมื่อวานเลย

ระหว่างทางที่จะไปคาเฟ่ จะผ่านถ้ำพระนางในด้วยจ้า มีค่าเข้านะ ถ้าใครสนใจก็ลองแวะชมก่อน


แถมเจอฝูงน้องลิงเยอะมากกกก นั่งขวางทางเดินเลย ตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ แต่พอเดินไปใกล้ๆ น้องไม่สนใจเราเลย (ถ้าไม่เอาอาหารหรืออะไรไปล่อ)



เดินมาเรื่อยๆ เราจะเจอกับทางทะเลที่เมื่อวานแห้งขอด แต่วันนี้มีน้ำเต็มฝั่งแล้วจ้า!


คาเฟ่ที่เราตั้งใจจะไปก็คือออ Tew Lay Bar นั่นเองงงงง

ใครที่อยากไปแนะนำให้ไปเช้าๆ หน่อยนะคะ เพราะตอนเราไปคือคนเยอะมากกกกกกกกก เหมือนร้านเขายังตั้งรับกับคนเยอะๆ แบบนี้ไม่ทันเลยทำอะไรช้ามากกกกก แต่เขาพูดจาดีนะ ขอโทษขอโพย TvT

ระหว่างทางไปคาเฟ่จ้า (จากรร.ภูตะวัน เดินค่อนข้างไกลเหมือนกัน)

ถึงแล้ววววว กว่าจะถึง เล่นเอาหอบเหมือนกันแฮะ

เราเลือกนั่งโต๊ะติดหาดค่ะ ฟังเสียงคลื่นกระทบโขดหินก็เพลินไปอีกแบบ


เมนูที่สั่ง : ยำวุ้นเส้น, น้ำมะนาวปั่น, น้ำแตงโมปั่น

ราคารวม : 380 บาท


และจุดขายของที่นี่คือวิวตรงนี้จ่ะ ต่อคิวกันไปสิ 55555

ได้มาสมใจละ กลับกันดีกว่า...

เราเดินไปหาดฝั่งตะวันตกเพื่อหาเรือกลับไปหาดอ่าวนาง

ค่าเรือจากหาดไร่เลย์ - หาดอ่าวนาง คนละ 100 บาท

ระหว่างรอเรือออก ก็พบกับสิ่งนี้... ขายบนดินไม่ได้ ก็ขายบนเรือแม่มเลอ 55555 มีทั้งส้มตำ ขนมขบเคี้ยว น้ำดื่ม ครบเครื่อง


ขึ้นเรือละจ้าาาา เจอกันอีกทีบนหาดอ่าวนางเด้อว---

ชะแว้บบบ ถึงแล้วค่า คุณลุงพาลัดซอกภูเขามา เลยถึงหาดไวมาก ไม่ถึง 20 นาทีเลย


จากนั้นเราต้องหารถนั่งไปตัวเมืองกระบี่ เพื่อหารถไปสนามบินอีกที

เราสองคนเลยนั่งรอรถที่ Bus stop ซึ่ง Bus stop ของที่นี่น่ารักมากเลยง่ะ เป็นแบบนี้ทุกจุด ;w;


สายรถประจำทางแต่ละประเภทนะคะ


เราเลือกนั่งรถสองแถวไปลงตัวเมืองกระบี่ คนละ 50 บาท บ๊ายบายน้า See you sooooon

รถสองแถวจอดให้เราลงตรงห้าง Vogue จากนั้นเราจึงหารถอื่นๆ เพื่อนั่งต่อไปยังสนามบิน เราเลือกนั่งรถตู้ซึ่งใช้วิธีโทรถามวินรถตู้ได้เลยว่ามารับเราตรง...ได้ไหม กี่โมง กี่คน

ค่ารถตู้จากตัวเมืองกระบี่ - สนามบิน คนละ 100 บาท

แต่หลังจากที่เราโทรจองรถตู้ เราก็ได้ค้นพบจุดจอดรถสองแถวที่จะพาเราไปส่งที่สนามบิน... ตลกร้าย

จุดจอดรถสองแถว : ใกล้ตึกธนาคารกสิกรไทย ค่ารถ (ประมาณ) คนละ 40 บาท


แต่พอขึ้นรถตู้ สรุปมีแค่เราสองคนที่คุณลุงพาไปส่ง ค่อยรู้สึกสบายใจ + คุ้มเงินหน่อย เหมือนเหมาทั้งคันเพื่อไปส่งฉัน 55555 (รถตู้นั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำเลยค่า คุณลุงขับดีด้วยๆๆ)


ถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ~ ก่อนลงรถคุณลุงถามว่าไปอาคาร 1 หรือ 2 (ประมาณนี้) แฟนเลยบอกกลับกรุงเทพอ่ะครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน คุณลุงก็พาไปส่งถึงที่หมายอย่างปลอดภัย อิอิ


สรุปค่าใช้จ่าย (ไม่รวมค่าขนมกินเล่น)

ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ - กระบี่ : 2,996 บาท (คนละ 1,498 บาท)

ค่าที่พัก @ iRest Ao Nang Sea Front 1 คืน : 1,150 บาท (คนละ 575 บาท)

ค่าที่พัก @ Railay Phutawan Resort 1 คืน : 1,160 บาท (คนละ 580 บาท)

ค่าอาหารกลางวัน @ กระชัง ขนาบน้ำวิวซีฟู๊ด : 780 บาท (คนละ 390 บาท)

ค่าอาหารเย็น @ GURU Restaurant : 1,160 บาท (คนละ 580 บาท)

ค่าอาหารเย็น @ Pool Bar : 1,170 บาท (คนละ 585 บาท)

ค่าอาหารค่ำ @ Pool Bar : 455 บาท (คนละ 227.5 บาท)

ค่าค็อกเทล @ Pool Bar : 380 บาท (คนละ 190 บาท)

ค่าอาหาร @ Tew Lay Bar : 380 บาท (คนละ 190 บาท)

ค่ารถตู้จากสนามบิน - ตัวเมืองกระบี่ : 100 บาท

ค่าเรือเที่ยวเขาขนาบน้ำ, เกาะกลาง : 500 บาท (คนละ 250 บาท)

ค่ารถสองแถวจากเมืองกระบี่ - หาดอ่าวนาง : 50 บาท

ค่าทัวร์เรือหางยาว (ทริปทัวร์ 5 เกาะ) : 2,200 บาท (คนละ 1,100 บาท)

ค่าเรือจากหาดไร่เลย์ - หาดอ่าวนาง : 100 บาท

ค่ารถสองแถวจากหาดอ่าวนาง - ตัวเมืองกระบี่ : 50 บาท

ค่ารถตู้จากตัวเมืองกระบี่ - สนามบินกระบี่ : 100 บาท

Total (ต่อคน) : 6,565 บาท


เป็นทริปที่กินดุพอสมควร (หรา) แต่อิ่มอกอิ่มใจมั่กม้าก ถ้ามีโอกาสก็จะไปอีกแน่นอน!

อ่านแล้วถูกใจ อ่านแล้วดีต่อใจ ฝากแชร์ด้วยน่ะก๊ะ ไว้กระทู้หน้าเราจะไปตะลอน(กิน)ที่ไหนอีก แจกัน 💖


กระทู้อื่นๆ ที่ผ่านมา

สัมผัสไอหมอก ณ ปางอุ๋ง, บ้านรักไทย

ล่องแพ แลธรรมชาติ @ The For Rest Resort กาญจนบุรี

♥ พาใจไปพักที่ภูเก็ต (หาดราไวย์, หาดไม้ขาว)

เอาใจสายซีฟู้ด ณ ปากคลองโฮมสเตย์ จันทบุรี

❥. ฮักน่านนานนานนะ (ปัว, เมืองน่าน)

☀ นอนบ้านเบื่อละ ไปนอนรถบ้านกันบ้างป้ะ (CAMP OUT KORAT) ☀

ความคิดเห็น