นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว สามจังหวัดเมืองรองต้องร้องกรี๊ด ใครว่าเส้นตะวันออกเส้นนี้ไม่มีดี ผมขอยกมือเถียงสู้ขาดใจ เพราะไปมาแล้วหลายรอบ ล่าสุดจัดอีกสองวันหนึ่งคืน และนับเฉพาะปีนี้เที่ยวมาแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 3-4 ครั้งแล้วล่ะ
เพราะเป็นเมืองเที่ยวสนุก เลยขอคัดสรรสถานที่น่ารักๆ ตามเส้นทางท่องเที่ยวมาให้เน้นๆ กับ 32 สถานที่ต้องหลงเลิฟ มีทั้งทุ่งนาสีเขียว แหล่งเรียนรู้เชิงเกษตร น้ำตกเพียบไปหมด สถานที่เล่นน้ำ ล่องห่วงยาง เขื่อนยักษ์ใหญ่ อ่างเก็บน้ำมุมสวยๆ จุดชมวิว ที่เที่ยวผจญภัย วัดวาอาราม งดงามทางศิลปะ โบราณสถานปราสาทขอม พิพิธภัณฑ์ มรดกทางวัฒนธรรม คาเฟ่ ร้านอาหารเก๋ๆ หลายสไตล์
ครบทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับขาเที่ยว ภายในหนึ่งรีวิวสามจังหวัด เก็บเป็นเช็คลิสต์ไว้ไปเที่ยวได้ยาวๆ ตามเส้นทางเที่ยวแบบต่อเนื่องครับ
1. สวนป้าอินทร์
นครนายก อ.องครักษ์
คาเฟ่ร่มรื่นเขียวสวยสุดใจ เพราะตั้งอยู่ภายหมู่บ้านตลาดไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15 องครักษ์ พัฒนาตัวเองจากร้านขายต้นไม้ธรรมดาๆ มาเป็นคาเฟ่ซึ่งบอกเลยว่ากำลังอินและต้องไปเช็คอินให้ได้ มีทั้งเครื่องดื่ม อาหาร รสชาติดี ราคาไม่สูงเกิน พร้อมมุมถ่ายรูปนั่งพักผ่อน มุมชิลๆ สูดอากาศสดชื่นเพียบ
ใครจะไปซื้อต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้กระถาง กระบองเพชร เขาก็ยังเปิดขายเป็นปกตินะครับ
อยู่ริมคลอง 15 อ.องครักษ์ นครนายก เข้ามาจากถนน ทล.305 (รังสิต-นครนายก) ประมาณ 3 กิโลเมตร
เปิด 8.00-18.00 น. หยุดวันพุธ
โทร. 0973593937
www.facebook.com/suanpaincoffee
2. อุโมงค์ต้นไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม
นครนายก อ.บ้านนา
อีกจุดเช็คอินมาแรงของนครนายก มาเที่ยววัดแต่ไม่ได้เที่ยววัด... เอ๊ะยังไง เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อไหว้พระทำบุญเป็นจุดประสงค์หลักน่ะสิ แต่ไฮไลท์คือซุ้มต้นไผ่สูงใหญ่ที่โค้งเข้าหากันจนเป็นเหมือนอุโมงค์ยักษ์สูงหลายเมตร และยาวนับร้อยเมตร
ขอบอกว่าถ้ามาวันธรรมดาจะชิลมาก ได้รูปสวยๆ กลับไปเพียบแน่นอน
อยู่ ต.บ้านพริก อ.บ้านนา นครนายก เข้าจากถนน ทล.33 ประมาณ 2 กิโลเมตร
3. โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
นครนายก อ.เมือง
ในโรงเรียนทหารก็มีที่ให้เที่ยวเหมือนกันนะ การเที่ยวแบบฉบับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เที่ยวเด่นๆ คือ ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน - พิพิธภัณฑ์ จปร. 100 ปี - ศาลาวงกลม อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาสวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว - วัดเขาชะโงก ซึ่งมีพระพุทธฉายศักดิ์สิทธิ์ และรอยพระพุทธบาทคู่ให้สักการบูชา
สำหรับการท่องเที่ยวอย่างที่สองคือทำกิจกรรมต่างๆ พายเรือ เลื่อนข้ามลำน้ำ กระโดดหอสูง 34 ฟุต โรยตัวจากหน้าผาจำลอง โรยตัวจากหน้าผาจริง ยิงปืนด้วยแสงเลเซอร์ รวมถึงเข้าค่ายพักแรม เดินป่าผจญภัย ฝึกฝนการดำรงชีพในป่า ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมกลุ่ม ให้ติดต่อล่วงหน้าผ่านทางสำนักงานท่องเที่ยวโรงเรียนนายร้อย จปร. และรับเฉพาะเป็นหมู่คณะเท่านั้น
อยู่ที่ ต.พรหมณี อ.เมือง นครนายก
แยกเข้ามาจาก ทล.305 ประมาณ 6 กิโลเมตร หรือแยกเข้ามาจาก ทล.33 ถนนสุวรรณศร ประมาณ 5 กิโลเมตร
สำนักการท่องเที่ยวโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โทร. 037393185
www2.crma.ac.th/crmatour
4. ภูกะเหรี่ยง
นครนายก อ.เมือง
แหล่งเรียนรู้ทางด้านการเกษตรที่ใครเข้าไปแล้วก็ต้องหลงรัก ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของบ้านคีรีวัน (ภูกระเหรี่ยง) มีกิจกรรมเกี่ยวกับการเกษตรต่างๆ เช่น การสีข้าวซ้อมมือ การทำไข่เค็ม ทำขนมข้าวยาคู เลี้ยงแพะ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ รวมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่น มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านสินค้าจากชาวบ้านในชุมชนให้บริการด้วย
แต่ทีเด็ดที่ทำให้สายเที่ยวต้องมาเช็คอินที่ภูกะเหรี่ยงคือสะพานสีฟ้าทอดยาวสู่ทุ่งนาเขียวขจี เป็นจุดถ่ายรูปที่ต้องบอกว่าปังสุดๆ บรรยากาศดีตลอดทั้งวัน ไม่ผิดหวังสำหรับคนชอบถ่ายภาพแน่นอน
อยู่ที่ ต.ศรีนาวา อ.เมือง นครนายก เข้าจากถนน ทล.3239 (ศรีนาวา-เขื่อนขุนด่าน) 1 กิโลเมตร
เที่ยวชมทั่วไป (สะพานทุ่งนา) เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ 8.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม 49 บาท นำไปแลกเครื่องดื่ม ขนมหวาน ผลไม้ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้
การทำกิจกรรมหมู่คณะ วันจันทร์-ศุกร์ ติดต่อล่วงหน้า โทร. 0873615821
5. เขาหล่น
นครนายก อ.เมือง
เขาลูกเตี้ยๆ สลับซับซ้อนตั้งอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว แต่เพิ่งมาฮิตเที่ยวช่วงสองปีที่ผ่านมา พร้อมการปรับปรุงพื้นที่ให้เก๋ไก๋ด้วยสะพานไม้ไผ่ทอดโค้งไปตามแนวภูเขา เป็นจุดชมวิวชั้นดี และเป็นที่ถ่ายรููปชิคๆ ให้ทุกคนต้องอยากมาเช็คอิน หากหน้าฝนจะได้ภาพหญ้าและต้นไม้เขียวๆ ถ้าหน้าแล้งก็จะเจอทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง
การขึ้นเขาหล่นสามารถขับรถขึ้นถึงลานจอด จากนั้นเดินตามสะพานไม้ไผ่ชมวิวความยาวสัก 300 เมตร สุดทางจะเป็นเส้นทางธรรมชาติเดินขึ้นเขาลูกนั้นลูกนี้ได้ มีระเบียงชมวิวบนยอดสูงสุด ออกแรงนิดหน่อยเหนื่อยไม่มากหรอก แต่วิวที่เห็นคุุ้มค่า มองเห็นทุกทิศ 360 องศา ฝั่งหนึ่งเห็นสันเขื่อนขุนด่านปราการชลชัดเจน มีเขาใหญ่เป็นฉากหลังอลังการมาก
ทางเข้าอยู่ริมถนน ทล.3049 (ทางไปเขื่อนขุนด่าน) ขับรถเข้าไปตามป้ายเขาหล่นผจญภัย 1 กิโลเมตร
เปิดทุกวัน 6.00-18.00 น. ไม่มีค่าเข้าชมใดๆ
6. น้ำตกสาริกา
นครนายก อ.เมือง
วัดกันเรื่องความสวย (ตอนมีน้ำนะ) น้ำตกสาริกาคือเบอร์หนึ่งของนครนายกเลยล่ะ เพราะเป็นน้ำตกใหญ่ ไหลหล่นจากหน้าผาสูงหลายสิบเมตร บรรยากาศร่มรื่นอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีร้านขายอาหารให้บริการอยู่ทางเข้าด้านหน้า มีโซนนั่งทานอาหารเป็นระเบียบเรียบร้อย
ขอบอกนิดว่าตรงนี้เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกับเอกชน ลานจอดรถหน้าประตูทางเข้าเป็นที่ส่วนบุคคล มีค่าจอดรถ 40 บาท หากต้องการจอดฟรีที่ลานของอุทยานฯ ต้องขยับออกมาสัก 300 เมตร จะมีป้ายติดว่าเขตอุทยานแห่งชาติบอกอยู่ อาจจะงงๆ สักหน่อยแต่เป็นกรณีพิพาทมายาวนานแล้วล่ะ
อาจดูยุ่งยากสักนิด แต่ถ้าไปตอนน้ำเยอะๆ อย่างที่บอกครับ ที่นี่สวยสุดๆ ไปเลย (ในภาพเป็นตอนเดือนสิงหาคม ช่วงฝนตกติดต่อกันนานหลายวัน)
อยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง แยกเข้าไปจากถนน ทล.3049 ที่แยกสาริกา ประมาณ 4 กิโลเมตร
เปิดทุกวัน 8.00-17.00 น.
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ค่าจอดรถพื้นที่อุทยานฯ ฟรี จอดรถพื้นที่เอกชน 40 บาท
7. พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์
นครนายก อ.เมือง
สร้างขึ้นจำลองเหตุการณ์สำคัญวันมาฆบูชา พระอรหันต์ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายที่วัดเวฬุวัน และพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมโอวาทปฎิโมกข์ มีความสวยงามน่าเที่ยวชม ที่สำคัญยังอยู่ใกล้กับสถานที่เที่ยวต่างๆ ของนครนายก แวะมาไม่เสียหายครับ
อยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง ก่อนถึงน้ำตกสาริกาเล็กน้อย
8. แก่งสามชั้น
นครนายก อ.เมือง
ตามแม่น้ำนครนายกมีแห่งเล็กแก่งน้อยมากมาย ห่างกันกิโลสองกิโลก็มีชื่อเรียกให้ต่างกันแล้วล่ะ แต่คงเป็นแก่งสามชั้นนี่แหละที่ยอดฮิตที่สุด เดินทางสะดวก สายน้ำไหลเย็นทั้งปี มีการจัดทำซุ้มเพิงสำหรับนั่งรับประทานอาหารพักผ่อน มีของกินของขาย มีแนวตลิ่งริมน้ำ มีห่วงยางให้เช่า เรียกว่าครบสูตรสำเร็จแห่งศิลปะการเล่นน้ำเลยล่ะ (ฮา...)
วิธีการเล่นน้ำที่แก่งสามชั้นให้สนุกแนะนำว่าควรใช้ห่วงยางเป็นตัวช่วยแล้วปล่อยไหล แค่นี้ก็สนุกสุดเหวี่ยง และบริเวณแก่งสามชั้นมีที่พัก รีสอร์ท ให้บริการด้วยครับ
อยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง แยกเข้ามาจากถนน ทล.3049 (ฝั่งเข้าเมือง) 1 กิโลเมตร
เปิดทุกวัน 8.00-17.30 น.
ค่าเข้าชมคิดเป็นคันรถ/คน รถยนต์ไม่เกิน 4 คน 20 บาท รถยนต์ 5 คน 30 บาท รถยนต์ 6 คน 50 บาท
9. วังตะไคร้
นครนายก อ.เมือง
สถานที่เที่ยวเล่นน้ำโด่งดังใกล้กรุง มีชื่อเสียงมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นไฮไลท์ลำดับต้นๆ ของนครนายกเพราะเดินทางสะดวก อยู่ใกล้ตัวเมือง
วังตะไคร้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของราชสกุลบริพัตรซึ่งซื้อต่อมาจากชาวบ้านนานมาแล้ว ก่อนพัฒนาเป็นสวนพฤกษชาติ อุทยานวังตะไคร้ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจตั้งแต่ปี 2505 มีบ้านพัก ร้านอาหาร ทุกวันจะมีคนแวะเวียนมาเที่ยวอยู่เสมอ เพราะใครได้มาแช่ลำธารเย็นๆ ที่วังตะไคร้ต้องติดใจทั้งนั้นแหละ
อยู่ที่ ต.หินตั้ง อ.เมือง ทางเข้าอยู่ริมถนน ทล.3049 (ฝั่งไปเขื่อนขุนด่าน) ก่อนถึงสามแยกเขื่อนท่าด่านเล็กน้อย
เปิดทุกวัน 8.00-17.00 น.
ค่าเข้าชมคิดเป็นคันรถ รถทุกประเภท คันละ 150 บาท หากผู้โดยสารเกิน 8 คน คิดเพิ่มคนละ 10 บาท กรณีเดินเข้าคนละ 20 บาท
ติดต่อบ้านพัก 0819890365, 037385164
10. น้ำตกนางรอง
นครนายก อ.เมือง
น้ำตกสวยและมีชื่อเสียง พื้นที่จริงๆ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เรื่องการดูแลท่องเที่ยวจัดการบริการโดยหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งทำให้มาเที่ยวที่นี่มีให้บริการพร้อมเรื่องอาหาร ของกิน รวมถึงบ้านพัก ลานกางเต็นท์
ทางเดินศึกษาธรรมชาติท่ามกลางร่มไม้ใหญ่พาเราเดินขึ้นไปตามชั้นน้ำตก บางช่วงเป็นลำธารไหลผ่านซอกหิน น้ำสวยใสน่าเล่น บรรยากาศสดชื่นมาก ถ้าอยากเล่นแบบแอ่งใหญ่ๆ ไม่ไกลจากทางเข้ามีฝายน้ำล้นให้แช่สบายใจ
อยู่ที่ ต.หินตั้ง สุดถนน ทล.3049
เปิดทุกวัน 8.00-17.00 น.
ปัจจุบันอยู่ในระหว่างยกเว้นค่าเข้าชม จะมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศอีกครั้ง
11. เขื่อนขุนด่านปราการชล
นครนายก อ.เมือง
เขื่อนใหญ่ใกล้กรุง กักต้นแม้น้ำนครนายก รับน้ำมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีประโยชน์ในทุกด้าน ทั้งผลิตไฟฟ้า ชลประทาน แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ และมีอะไรให้ทำเยอะแยะมากมายกว่าแค่ขับรถขึ้นมาชมวิวทั่วไป
มาที่นี่มีไฮไลท์เด่นสามอย่างครับ
1.เล่นน้ำใต้เขื่อน สนุกชุ่มฉ่ำ ลานจอดรถกว้าง มีร้านขายของ เพิงพักผ่อน เช่าห่วงยางมาล่องตามน้ำได้
2. ขึ้นสันเขื่อนชมวิวและความใหญ่ยักษ์ของเขื่อนแห่งนี้ มีร้านกาแฟ รถไฟฟ้านำชมวิว ค่าบริการคนละ 30 บาท
3. ล่องเรือชมวิวอ่างเก็บน้ำและไปเที่ยวน้ำตกเล็กๆ สามแห่งที่ต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น คือน้ำตกผางามงอน น้ำตกคลองคราม และน้ำตกช่องลม โดยสองที่แรกจะมีน้ำเยอะเฉพาะฤดูฝน หากหมดฝนก็เที่ยวได้เฉพาะน้ำตกช่องลมนั่นแหละ และกำลังฮิตมากคือทางเดินสู่น้ำตกช่องลม ซึ่งสดชื่นสวยด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว ขาถ่ายรูปขาโพสต์โซเชียลปักหมุดมาเช็คอินกันไม่ขาด ค่าเรือลำละ 1,500 บาท นั่งได้ 7 คน เกินจากนั้นปรับเป็นคิดรายคน คนละ 200 บาท
อยู่ ต.หินตั้ง อ.เมือง เดินทางสะดวกทั้งจากถนน ทล.3049 และ ทล.3239
พื้นที่สันเขื่อน เปิด 6.00-18.00 น.
12. วัดแก้วพิจิตร
ปราจีนบุรี อ.เมือง
ไทย จีน ยุโรป และเขมร นั่นคือสถาปัตยกรรมและศิลปะของชาติต่างๆ ที่หลอมรวมอยู่ในวัดแก้วพิจิตร วัดสวยงสามและมีความสำคัญที่สุดของเมืองปราจี โดยเฉพาะภายในพระอุโบสถหลังสีชมพูอมส้ม พระประธานคือหลวงพ่ออภัยวงศ์ ออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังวาดโดยช่างหลวงสมัยรัชกาลที่ 6
อยู่ที่ถนนแก้วพิจิตร ตัวเมืองปราจีนบุรี
13. The River Café
ปราจีนบุรี อ.เมือง
คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร ริมแม่น้ำปราจีนบุรี บรรยากาศชิลมากกกก... ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันคือวัดแก้วพิจิตร วัดพระอุโบสถสีชมพูสัญลักษณ์ของเมืองปราจีน บอกเลยว่ามานั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่นี่เพลินใจเป็นที่สุด
ร้านตกแต่งสไตล์วินเทจลอฟต์อิฐแดงเปลือย มีทั้งโซนในห้องแอร์ และด้านนอกชมวิวชิลริม สาวน้อยสาวใหญ่น่าจะถูกใจกับการมาถ่ายภาพเช็คอินที่นี่
อยู่ที่ถนนปราจีนอนุสรณ์ ตัวเมืองปราจีนบุรี ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกับวัดแก้วพิจิตร
เปิดทุกวัน 8.00-20.00 น. (เมนูอาหารเริ่มบริการ 10.30 น.)
โทร. 0845203662
14. พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ปราจีนบุรี อ.เมือง
แลนด์มาร์คของปราจีน สัญลักษณ์ของปราจีน อาคารสีเหลืองสถาปัตยกรรมบาโรคสวยงาม นั่นทำให้ใครมาเที่ยวปราจีนต้องเลี้ยวเข้าโรงพยาบาล (ฮา...)
อธิบายคร่าวๆ แบบนี้แล้วกันว่าโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทยแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปนี่แหละ แต่มีแผนกที่ให้บริการนวดแผนไทยนวดเพื่อสุขภาพ เราสามารถใช้บริการได้
ส่วนที่สองคืออาคารสีเหลืองที่พูดถึงข้างต้น ตรงนี้คือพิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นศูนย์รวบรวมอนุรักษ์ตำราไทย สมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทย ฯลฯ ภายในมีนิทรรศการประวัติของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และเรื่องราวการแพทย์แผนไทยมากมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหมุนเวียนเกี่ยวกับสมุนไพรไทยทุกสุดสัปดาห์ และยังเป็นที่ตั้งของร้านสมุนไพรไทยโพธิ์เงินโอสถ กับสินค้าต่างๆ ของอภัยภูเบศร
ส่วนที่สามคืออภัยภูเบศร เดย์สปา บริการสปาครบวงจร กับร้านอาหารสปา คิวซีน บริการอาหารไทยเพื่อสุขภาพ ถือเป็นการยกระดับการนำแพทย์แผนไทยสู่ความเป็นสากล
อยู่ที่ถนนปราจีนนุสรณ์ ตัวเมืองปราจีนบุรี
อาคารเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดทุกวัน 8.30-16.00 น. ไม่มีค่าเข้าชมใดๆ ยกเว้นการทำกิจกรรมพิเศษต่างๆ ซึ่งต้องติดต่อล่วงหน้า อภัยภูเบศร เดย์ สปา เปิดวันพุธ-อาทิตย์ 8.30-20.00 น. สปา คิวซีน เปิดทุกวัน 8.00-20.00 น.
15. บ้านเล่าเรื่อง
ปราจีนบุรี อ.เมือง
เด็กรุ่นใหม่ๆ อาจไม่รู้ แต่ถ้าถามคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ชาวปราจีนว่าร้านหมอฟันอยู่ตรงไหน ทุกคนร้องอ๋อทันทีและจะชี้มาที่ “บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร” ข้างศาลพระหลักเมือง บ้านหลังนี้เคยเป็นอดีตคลีนิคทันตกรรมของ ทพ.ทศพล เปี่ยมสมบูรณ์ ที่ปัจจุบันมอบให้เป็นสาธารณประโยชน์ โดยมีมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเข้ามาบริหารจัดการ
บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร เปิดเป็นร้านอาหารสไตล์พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก แสดงนิทรรศการความเป็นมาของเมืองปราจีน และที่มาที่ไปของการเป็นเมืองสมุนไพร นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมหรือใช้บริการร้านอาหารที่เน้นไปทางอาหารเพื่อสุขภาพ ขณะที่กลุ่มองค์กร หน่วยงาน โรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ สามารถติดต่อเพื่อทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และเรียนรู้เรื่องราวของสมุนไพรไทยได้เช่นกัน
อยู่ในตัวเมืองปราจีน ใกล้กับศาลพระหลักเมือง
บ้านเปิดทุกวัน 10.00-19.30 น.
ครัวเปิด 11.00-19.00 น. หยุดวันจันทร์
โทร. 0970211037
www.facebook.com/banlaoreung
16. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี
ปราจีนบุรี อ.เมือง
เห็นชื่อแล้วอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติซึ่งจัดแสดงวัตถุโบราณต่างๆ และบอกเล่าเรื่องราวจากครั้งอดีตได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ หรืออย่างน้อยด้านในก็คือห้องแอร์เย็นฉ่ำ จัดแสงสวยงามมากมายนะจ๊ะ
วัตถุโบราณส่วนมากมาจากยุคสมัยทวารวดี แต่ไฮไลท์ล่าสุดคือพระพิฆเนศหินทรายแกะสลักอายุกว่าพันปี ค้นพบที่เมืองโบราณศรีมโหสถ อ.ศรีโหสถ ปราจีนบุรี นี่แหละ เมื่อก่อนจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ก่อนย้ายกลับมาปราจีนบุรีไม่นานมานี้ ขอบอกว่ามีเรื่องเด็ดเกี่ยวกับเลขเด็ดด้วยนะสำหรับพระพิฆเนศองค์นี้ (ฮา...) เสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตเอาแล้วกัน
ใครคิดว่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเป็นเรื่องน่าเบื่อก็ว่ากันไป สำหรับผมคือไม่เลย และชอบทุกครั้งที่ได้มาเรียนรู้เรื่องราวที่นี่ครับ
อยู่ในตัวเมืองปราจีนบุรี หลังศาลากลางจังหวัดหลังเก่า
เปิด 9.00-16.00 น. หยุดวันจันทร์และอังคาร
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา ชมฟรี
โทร. 037211586
17. De'Ya Café
ปราจีนบุรี อ.เมือง
ปราจีนบุรีก็มีที่แบบนี้นะ... Deya Cafe (เดอ-ย่า คาเฟ่) ร้านชิคๆ ชิลๆ แอนด์ คูลๆ สวยเก๋สไตล์เรือนกระจกสองชั้น พร้อมพร็อพตกแต่งที่ให้กลิ่นอายวินเทจนิดๆ คอคาเฟ่สามารถนั่งได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อเลยเชียว
อาหาร ขนมหวาน เครื่องดื่ม มีให้บริการครบครัน แถมยังสรรหาเมนูใหม่ๆ ตามฤดูกาลมานำเสนออยู่ตลอด น้องๆ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสบริการดีมาก แนะนำเลยล่ะร้านนี้
อยู่ถนนสุวินทวงศ์ ตัวเมืองปราจีนบุรี (ตรงข้ามบริษัทไทยประกันชีวิต)
เปิดทุกวัน 9.00-21.00 น.
โทร. 037452353
www.facebook.com/DeYabykhunya
18. พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์
ปราจีนบุรี อ.เมือง
คนรุ่นเก่าสะสมของเก่าไม่ใช่เพื่อใคร... ก็เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้รากเหง้าเก่าก่อนก่อนโลกจะหมุนมาถึงยุคที่อะไรก็รวดเร็วว่องไวแบบนี้นี่แหละ
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนส่วนตัวของคุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ ของสะสมทำเอาทุกคนตาโตคงหนีไม่พ้นตะเกียงเจ้าพายุ ซึ่งแขวนเรียงรายอยู่บนเพดานรวมแล้วมากกว่า 10,000 ดวง แต่ละดวงนำเข้าจากต่างประเทศ มีอายุกว่า 80 ปี ถือเป็นของมีค่ามากในสมัยนั้น กระทั่งหมดความสำคัญลงเมื่อไฟฟ้าเข้ามา
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ควรค่ามากกับการมาเที่ยวชมครับ
อยู่ ต.ดงพระราม อ.เมือง ปราจีนบุรี ริมถนน ทล.3452 (ถนนปราจีนตคาม) ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร
เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ที่ไม่ใช่นักขัตฤกษ์ 9.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท
โทร. 037218511-2
www.facebook.com/YusuksuwanMuseum
www.yusuksuwan.com
19. ดินแดนหิ่งห้อยนับแสน ค่ายพรหมโยธี
ปราจีนบุรี อ.เมือง
สารภาพตอนได้ยินสมญานามว่าดินแดนหิ่งห้อยนับแสน ในใจยังคิดว่าเกินไปมั้ง โม้แน่นอน แต่พอได้เห็นกับตาแล้วต้องขอตบปากตัวเองสามที... เพราะมันเยอะและสวยขนาดนั้นจริงๆ ตั้งแต่เกิดมาเห็นหิ่งห้อยระยิบระยับเยอะสุดก็คราวนี้แหละ
การเที่ยวชมที่นี่ขับรถเข้าไปในค่ายพรหมโยธี กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ฯ ได้เลย ถึงที่จอดรถจะมีเจ้าหน้าที่ทหารนำทางไปยังจุดชมหิ่งห้อยซึ่งมีการล้อมรั้วอย่างดี ไม่ต้องกลัวว่าเราจะรบกวนพวกมันเลย
การชมหิ่งห้อยสามารถทำได้ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ซึ่งทางค่ายก็เปิดให้ชมเฉพาะช่วงนั้นด้วย เวลาเหมาะสมคือประมาณต้นเดือนกรกฎาคม มีโอกาสพบเห็นหิ่งห้อยเยอะที่สุดในคืนวันที่มีฝนตกก่อนหน้าแล้ววันดังกล่าวไม่มีฝน
ข้อแนะนำสำคัญคือหิ่งห้อยเยอะ ยุงก็เยอะด้วย (ฮา...) และในเมื่อเราไม่ควรทาหรือฉีดยากันยุง เพราะหิ่งห้อยก็กลัวยากันยุงเหมือนกัน จึงควรใส่เสื้อแขนยาว ขายาว รองเท้าผ้าใบเพื่อกันยุงให้ได้มากที่สุด ใครใส่ขาสั้นไปชมหิ่งห้อย รับรองเดินออกมาขาลายแน่นอน
ค่ายพรหมโยธี กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ฯ อยู่ริมถนน ทล.33 ต.ไม้เค็ด อ.เมือง ปราจีนบุรี
เปิดให้เข้าชมทุกวันในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 18.00-20.00 น. ไม่มีค่าเข้าใดๆ
20. เขาอีโต้
ปราจีนบุรี อ.เมือง
จริงๆ คำว่าเขาอีโต้เป็นการอธิบายลักษณะของภูเขาอย่างหนึ่งคือมีสันด้านหนึ่งลาดเอียงและยาว มีหน้าผาชัน และมีพลาญหินทรายกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งที่ปราจีนบุรีก็มีภูเขาลักษณะนี้อยู่และเรียกชื่อกันว่าเขาอีโต้แบบตรงไปตรงมาเลยด้วย เป็นเทือกเขาที่ต่อเนื่องมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
การเที่ยวเขาอีโต้ ปราจีนบุรี ทำได้ง่ายๆ บนเขามีจุดเด่นเพียบ ตั้งแต่น้ำตกเขาอีโต้ อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ที่เราสามารถไปชมวิว นั่งชิลที่ร้านกาแฟ หรือกางเต็นท์พักแรมได้สบาย จัดทำตามโครงการป่าในเมือง ถ้าเลยจากอ่างเก็บน้ำไปอีกหน่อยจะพบจุดชมวิวผาหินซ้อนสำหรับชมวิวเมืองปราจีนและพระอาทิตย์ตก
ถัดไปคือพุทธอุทยานเขาอีโต้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ พระปรางค์นาคปรกองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ และถ้าตรงต่อไปเรื่อยๆ ก็จะถึงยอดสูงสุดเขาอีโต้ เป็นถนนสีเขียวร่มรื่นมาก เรียกว่าพอขึ้นมาแล้วจะเที่ยวให้ครบต้องใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะ
อยู่ที่ ต.บ้านพระ อ.เมือง ปราจีนบุรี เข้ามาจากถนน ทล.33 ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ไม่มีค่าเข้าชมใดๆ
21. อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา
ปราจีนบุรี อ.นาดี
“นฤบดินทรจินดา” คือนามพระราชทานโครงการหลวงสุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมากกว่าที่โครงการนี้จะสำเร็จเป็นรูปร่าง และพร้อมช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ประชาชนในพื้นที่
ด้วยสภาพพื้นที่ที่อยู่ไม่ไกลจากป่ามรดกโลก อุทยานแห่งชาติทับลาน วิวทิวทัศน์สวยงาม เชื่อว่าอีกไม่นานที่นี่คงยกระดับให้เป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของปราจีนบุรีได้ไม่ยาก ส่วนใครอยากไปเที่ยวตอนนี้ก็สามารถทำได้แล้ว
อยู่ที่ ต.แก่งดินสอ อ.นาดี ปราจีนบุรี
22. วัดรัตนเนตตาราม
ปราจีนบุรี อ.นาดี
บอกชื่อวัดรัตนเนตตารามก็ยังคงๆ พอบอกว่าที่นี่คือวัดเปลือกหอยปราจีนล่ะก็คงมีใครหลายคนได้มาเยือนแล้ว โด่งดัง (ในด้านดี) ออกข่าวทีวีมาแล้วหลายช่อง จากการที่ท่านเจ้าอาวาส พระภิกษุ และลูกศิษย์ลูกหาช่วยกันสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมสวยงามด้วยเปลือกหอยหลากชนิดขึ้นมา สวยงามน่าชมมากครับ สรุปสั้นๆ ตรงนี้เลย
อยู่ที่ ต.สำพันตา อ.นาดี ห่างจากแยกกบินทร์บุรี ไปทางนาดี ประมาณ 17 กิโลเมตร
23. อุทยานแห่งชาติทับลาน
ปราจีนบุรี อ.นาดี
เอาล่ะ... ความจริงคืออุทยานแห่งชาติทับลานมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในนครราชสีมา และแหล่งท่องเที่ยวดังๆ ก็อยู่วังน้ำเขียว เสิงสาง ครบุรี แต่ตรงที่ทำการอุทยานฯ และป่าลานผืนสุดท้ายซึ่งเป็นที่มาของชื่อทับลาน อยู่ในเขตปราจีนบุรีนะเอ้อ
บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควรสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาศึกษาธรรมชาติ และมีลานกางเต็นท์พักแรมด้วย รายละเอียดเพิ่มเติมในการเที่ยวธรรมชาติและชมป่าลานให้ลึกมากยิ่งขึ้นติดต่ออุทยานฯ ได้โดยตรงเลย
ที่ทำการฯ อยู่ริมถนน ทล.304 อ.นาดี ปราจีนบุรี เยื้องกับ เดอะ เวโรน่า ทับลาน
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
โทร. 0925500172
24. คอฟฟี่ฮิลล์ คาเฟ่ (สาขา 2)
สระแก้ว อ.เมือง
คาเฟ่เจ้าดังของสระแก้ว ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศร้าน ขนมหวานอร่อย เครื่องดื่มหลากหลาย เฉพาะในเขตตัวเมืองสระแก้วมีสองสาขา ขอแนะนำสาขา 2 ใจกลางเมืองใกล้เทศบาลก็แล้วกัน เป็นร้านห้องแถวดูเหมือนจะเล็กๆ แต่เข้าไปแล้วบรรยากาศดีน่ารักมาก สาวๆ ต้องหลงรักแน่นอน
อาหารอร่อยทั้งเมนูแบบไทยๆ และยุโรป โดยเฉพาะเนื้อวากิว ใช้เนื้อชั้นดีนุ่มละมุนลิ้น เครื่องดื่มสั่งเลยสดชื่นทุกเมนู เช่นเดียวกับขนมหวานนานาชนิด และเค้กโฮมเมดทางร้านทำเอง คุณภาพครบครัน
อยู่ที่ถนนสุวรรณศร ระหว่างซอยเทศบาล 17 กับ 19 ติดกับห้างทองโต๊ะกัง
เปิดทุกวัน 7.00-21.00 น.
โทร. 037550318
www.facebook.com/CoffeeHills
25. วัดเขาสิงโต
สระแก้ว อ.เมือง
แลนด์มาร์คล่าสุดของสระแก้ว ซึ่งคนกลัวความสูงอาจจะมีขาสั่นผั่บๆๆๆๆ (ฮา...)
เขาสิงโตเป็นเขาหินปูนลูกเล็กโดดๆ ตั้งอยู่กลางที่ราบแห่งสระแก้ว ทางวัดจัดสร้างเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาใช้เวลาประมาณ 15 นาที เหนื่อยกำลังดี ด้านบนมีสกายวอล์คและระเบียงชมสวยๆ มองเห็นรอบทิศทางกว้างไกลสุดสายตา
ส่วนข้างล่างยังมีถ้ำวังนาคาที่เราสามารถเข้าไปเที่ยวชมและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ได้ด้วยนะครับ ทั้งขึ้นเขาเข้าถ้ำมาทีเดียวเก็บให้ครบ
อยู่ที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 27 กิโลเมตร
เป็นเขตวัด เที่ยวชมได้ในเวลาตามสมควร
26. อุทยานแห่งชาติปางสีดา
สระแก้ว อ.เมือง
จากวนอุทยานปางสีดา สู่อุทยานแห่งชาติปางสีดา และกลายเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลก เขาใหญ่-ดงพญาเย็น ต้องบอกว่าถึงปัจจุบันป่าปางสีดายังคงความสมบูรณ์มาก ยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงกรกฎาคม นี่คือหนึ่งในจุดที่มีความหลากหลายของผีเสื้อมากที่สุดในประเทศก็ว่าได้
จุดชมผีเสื้อมีสองจุด จุดแรกคือโป่งผีเสื้อ อยู่ในพื้นที่ไม่ไกลจากที่ทำการฯ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รถทุกชนิดเข้าถึง เป็นโป่งเทียมริมทาง สามารถชมผีเสื้อหามุมถ่ายรูปเพลิดเพลินตามสบาย
อีกจุดคือลานหินดาด จุดไฮไลท์ซึ่งทำให้ปางสีดาเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ แต่ต้องใช้บริการรถโฟร์วีลของอุทยานฯ เท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำรถเข้าไปเองเด็ดขาดเนื่องจากทางลูกรังลำบาก ถนนเล็กเลนเดียว ระยะทาง 11 กิโลเมตร ค่าบริการ 1,600 บาท รับนักท่องเที่ยวได้ 8 คน
นอกจากนี้ยังมีอีกจุดน่าสนใจคือจุดชมวิว กม.25 ซึ่งนักท่องเที่ยวนำรถขึ้นไปเองได้ ยามเช้าๆ หากใครโชคดีจะได้เห็นทะเลหมอกแห่งปางสีดา
ศููนย์บริการนักท่องเที่ยว อช.ปางสีดา อยู่ที่ ต.ท่าแยก อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์ 30 บาท
ค่าบริการรถนำเที่ยวลานหินดาด คันละ 1,600 บาท นั่งได้ 8 คน
ติดต่อที่พัก กางเต็นท์ รถนำเที่ยวลานหินดาด ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0818621511
www.facebook.com/Pangsida.NationalPark
27. อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก
สระแก้ว อ.เมือง
อ่างเก็บน้ำธรรมดาที่บรรยากาศไม่ธรรมดา เป็นโลเกชั่นที่เหมาะกับมาถ่ายภาพแฟชั่นหรือพรีเวดดิ้งมากๆ ขนาดไปช่วงกลางวันยังเดินเล่นหามุมถ่ายรูปสนุก แทบไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าเป็นตอนบ่ายแก่ๆ หรือใกล้เย็นจะฟินและชิลขนาดไหน
ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำ มีร้านอาหาร เรือถีบ เรือพาย ห่วงยาง ให้บริการด้วยครับ ทุกสุดสัปดาห์จะมีเด็กๆ ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว มาพักผ่อนกันไม่ขาด
อยู่ที่ ต.ท่าแยก อ.เมือง
ห่างจากตัวเมือง 35 กิโลเมตร ห่างจาก อช.ปางสีดา 10 กิโลเมตร
28. ปราสาทสด๊กก๊อกธม
สระแก้ว อ.โคกสูง
ปราสาทขอมโบราณพันปีแต่เพิ่งบูรณะเสร็จสิ้นไม่ถึงสิบปีที่ผ่านมา ตัวปราสาทอาจไม่ใหญ่โตอลังการหากเทียบกับพิมาหรือพนมรุ้ง แต่ก็ขรึมขลังด้านประวัติศาสตร์ไม่แพ้กัน ถือเป็นปราสาทขอมที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดของภาคตะวันออก ตอนนี้อยู่ในระหว่างจัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งใหม่
เผื่อใครอยากรู้ สด๊กก๊อกธม เป็นภาษาเขมรแปลเป็นไทยประมาณว่าเมืองใหญ่ในป่าต้นกก ส่วนเรื่องราวที่เหลือแนะนำให้ไปค้นหากันที่นั่นครับ สาวๆ เตรียมพร็อพไปกันแดดหรือใช้ถ่ายรูปสวยๆ ด้วยล่ะ
อยู่ที่บ้านหนองเสม็ด ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง
เปิดทุกวัน 8.00-18.00 น. ปัจจุบันยังไม่เก็บค่าเข้าชม
29. ละลุ
สระแก้ว อ.ตาพระยา
ละลุแปลว่าทะลุ ละลุเป็นภาษาเขมร ทะลุเป็นภาษาไทย ความหมายง่ายๆ แค่นี้แหละ (ฮา..) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่าเสาดิน มีหลายแห่งในประเทศไทย แต่ที่นี่มีไฮไลท์น่าชมเพราะชุมชนจัดการเรื่องท่องเที่ยวกันเองอย่างมีระเบียบ ได้นั่งรถอีแต๊กแบบสนุกๆ บอกเลยว่าเก๋สุดๆ
ดิน น้ำ ลม ฝน และกาลเวลา หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้จับมือช่วยกันขัดเกลาให้พื้นที่รกร้างทำการเกษตรอะไรไม่ได้กลายเป็นความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ เป็นที่เที่ยวถ่ายรูปสุดกิ๊บเก๋กับปรากฏการณ์ซึ่งเราเรียกกันว่า เสาดิน
ไม่ใช่เพียงแค่กลางวัน แต่ละลุยังสามารถมาเที่ยวกลางคืน มาดูดาวได้สวยสุดๆ มืดสนิท สถานที่เปิดโล่ง แสงรบกวนน้อยมาก และมีที่พักโฮมสเตย์ให้บริการ สามารถติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลย
อยู่ที่ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา
เปิดทุกวัน ไม่มีค่าเข้าชม แต่มีค่าบริการสำหรับผู้ที่ต้องการรถอีแต๊กนำเที่ยว
ค่ารถอีแต๊กนำเที่ยว คันละ 200 บาท นั่งได้ 6 คน
ค่ารถอีแต๊กดูดาว คันละ 300 บาท นั่งได้ 6 คน และมีค่าบริการเพิ่มเติมคนละ 100 บาท
เข้าพักโฮมสเตย์ ห้องพัดลม คนละ 150 บาท / ห้องแอร์ หลังละ 500 บาท พักได้ 2 คน
ค่าอาหารเย็น คนละ 150 บาท อาหารเช้า คนละ 50 บาท
ติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวละลุ โทร. 0654577801
30. มีเขามีเรา คาเฟ่
สระแก้ว อ.เขาฉกรรจ์
ทุ่งดอกไม้นานาชนิด มีเขาหินปูนลูกใหญ่ชื่อว่าเขาฉกรรจ์เป็นฉากหลัง นั่นแหละมีเขามีเรา คาเฟ่ ร้านกาแฟและขนมหวานสไตล์เอาดอร์ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่กำลังฮิตสุดๆ แห่งหนึ่งของสระแก้ว มาถึงที่แล้วเตรียมพร็อพเตรียมชุดสวยมาให้พร้อม เพราะจะต้องถ่ายภาพกลับไปเพียบแน่ๆ
ที่นี่จะสลับปลูกดอกไม้เรื่อยๆ ในแต่ละเดือนแต่ละช่วงเวลาจะได้เห็นความสวยของดอกไม้นานาพรรณต่างกัน นอกจากนี้ตอนเย็นยังสามารถชมฝูงค้างคาวที่จะบินจากถ้ำบนเขาออกมาหากินเป็นทางยาวอีกต่างหาก บอกเลยเช็คอินที่นี่มีแต่คนอิจฉา
อยู่ที่ ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ ทางเดียวกับวัดถ้ำเขาฉกรรจ์เปิดทุกวัน 10.00-19.00 น.
31. แก่งสะเดา
สระแก้ว อ.วังน้ำเย็น
อีกหนึ่งจุดพักผ่อนเล่นน้ำที่มีชื่อเสียงของสระแก้ว เป็นแก่งหินและน้ำตกเล็กๆ ในคลองพระสะทึง ใครชอบบรรยากาศครื้นเครง ผู้คนสนุกกับการแช่น้ำเล่นน้ำก็เหมาะเลย มีร้านค้า ร้านอาหาร เพิงนั่งทานอาหารเรียงรายให้เลือก นอกจากนี้ยังมีบริการล่องแก่งด้วยนะครับ เรือยางนั่งได้ 6-7 คน ช่วงเวลาสนุกคือประมาณเดือนปลายมิถุนายน ถึงปลายกุมภาพันธ์
อยู่ที่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น ห่างจากตัวเมืองสระแก้ว 45 กิโลเมตร
ค่าบริการล่องแก่ง 600-1,200 บาท ตามระยะทาง
ติดต่อผู้ใหญ่ต้น 0983186494, 0856999104
32. ถ้ำน้ำเขาศิวะ
สระแก้ว อ.คลองหาด
อันซีนแห่งสระแก้ว ที่นี่ไม่ใช่ถ้ำในเขาหินปูนธรรมดา แต่เป็นถ้ำที่เราต้องว่ายน้ำลอยคอเข้าไป เพราะมีน้ำไหลด้านในอยู่ตลอดเวลา ลอยเข้าไปชมหินงอกหินย้อยและน้ำตกเล็กๆ ในถ้ำระยะทางประมาณ 500 เมตร บอกเลยว่าเป็นอะไรที่สนุกสนานสุดๆ และไม่ต้องกลัวอันตราย เขามีชูชีพให้อย่างดี รวมทั้งไกด์ท้องถิ่นซึ่งมีความชำนาญพื้นที่ อย่างไรก็ตามการไปเที่ยวควรติดต่อล่วงหน้าสักนิด เพื่อไกด์จะได้เตรียมพร้อม ให้คำแนะนำ รวมถึงดูเรื่องสภาพอากาศและระดับน้ำในถ้ำด้วยนะ
นอกจากมาเที่ยวยังสามารถกางเต็นท์ค้างแรมบริเวณลานหน้าถ้ำ มาเป็นกลุ่มก๊วนเฮฮาดูดาวยามค่ำก็มีความสุขไปอีกแบบ
ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด สระแก้ว
ติดต่อท่องเที่ยว อบต.คลองไก่เถื่อน โทร. 037543031
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ค่าพักแรมไม่มีกำหนด ให้บำรุงสถานที่ตามสะดวก
ค่าไกด์ไม่มีกำหนด ให้สินน้ำใจตามเหมาะสม
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
เฟซบุ๊ก นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller
http://www.facebook.com/alifeatraveller
นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller
วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 11.45 น.