One day trip กาญจนบุรี เดินทางหลังจากทริปบางปะอิน 3 วัน ขึ้นรถมินิบัสของวินแฮปปี้ ลงที่กาญจนบุรี ค่ารถ 100 บาท รถนั่งสบายมากเลย ชอบแบบนี้

มาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาญจนบุรี 8:05 รถรอบ 8 โมงออกไปแล้ว รอบต่อไป 8:55 ตามตารางเวลาที่เขียนไว้ตรงจุดจอดรถ

มีเวลา 50 นาที เดินหามื้อเช้ากับสำรวจเมืองนิดหน่อย เดินมาที่แยกจะข้ามไปศาลหลักเมือง เจอตลาดเช้าที่ขายบนถนนเลย นั่งกินไปมองรถผ่านไปมา กินเสร็จก็เก็บร้านเปิดให้รถวิ่งได้ปกติ

พออิ่มแล้วก็ข้ามถนนมาไหว้ศาลหลักเมืองกาญจนบุรี

เดินต่อมาที่ประตูเมืองและกำแพงเมืองเก่า

เดินผ่านชุมชนไปชมจุดบรรจบของแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย

เดินมาเจอสะพานสองแคว เขาว่ากันว่าเป็นสะพานที่สั้นที่สุดในประเทศไทย ยาวเพียง 2 เมตร

หมดเวลาซนต้องเดินกลับมาที่คิวรถเอราวัณแล้ว ขากลับบ้านเรือนและร้านค้าเปิดคึกคักกันแล้ว วันหลังจะมาสำรวจจุดนี้อีก กลับมาถึงเปิดขายตั๋วแล้ว ค่ารถ 50 บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเต็มคันแล้วด้วย คิวรถนี้ออกตรงเวลามาก ไม่รอใครทั้งนั้น

รถหวานเย็นไปเรื่อยๆ จากอำเภอเมืองไปที่อำเภอศรีสวัสดิ์ และเข้าไปที่จุดจอดบริเวณหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ 100 บาท เจ้าหน้าที่จะขึ้นมาเก็บบนรถเลย ส่วนใครจะประทับตรา Passport อุทยานแห่งชาติ ประทับตราที่ร้านสวัสดิการตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ร้านสวัสดิการมีขาย Passport อุทยานฯ แบบใหม่ด้วย ในราคา 100 บาทเท่าเดิม

ก่อนเริ่มเดินก็หยิบ brochure รายละเอียดของอุทยานแห่งชาติเอราวัณกันก่อน

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติได้ โดยมีพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนที่ดินหวงห้ามดังกล่าวลงประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที 19 มิถุนายน 2518 และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสลอบ ในท้องที่ตำบลไทรโยค ตำบลท่าเสา ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2518 และให้ใช้ชื่อว่า "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ" ตามความนิยมและคุ้นเคยของประชาชนที่รู้จักน้ำตกเอราวัณเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อที่ประมาณ 549.9 ตารางกิโลเมตร หรือ 343,735 ไร่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ

น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกหนึ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกที่สวยงามบนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ เดิมมีชื่อว่า "น้ำตกสะด่องม่องลาย" ตามชื่อลำห้วยม่องลายซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำตก แต่ด้วยลักษณะน้ำตกชั้นที่ 7 ของที่นี่มีลักษณะคล้ายหัวช้างเอราวัณสามเศียร จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ น้ำตกเอราวัณ

เริ่มเดินกันเลย ใครไม่อยากเดินมีรถกอล์ฟบริการด้วยนะ แต่เดินจะสนุกมาก ระยะการเดินเท้าโดยประมาณ 2 กิโลเมตร

น้ำตกชั้นที่ 1 "ไหลคืนรัง" เป็นน้ำตกชั้นเล็ก ๆ มีคนนั่งพักผ่อนและปิคนิคกันหลายกลุ่ม

น้ำตกชั้นที่ 2 "วังมัจฉา" มีชั้นน้ำตกเล็กๆ น้ำสีสวย และมีฝูง "ปลาพลวง" ในน้ำเยอะมากสมชื่อวังมัจฉา

น้ำตกชั้นที่ 3 "ผาน้ำตก" ลงเล่นน้ำได้ วันที่ไปมีคนไปถ่ายพรีเวดดิงด้วย เราเลยอยู่ชั้นนี้แป๊บเดียว และได้รูปแค่ 2 รูป

น้ำตกชั้นที่ 4 "อกผีเสื้อ" ชั้นนี้มีจุดกระโดดน้ำ หรือใครจะเล่นเป็นสไลเดอร์ก็ได้ จุดนี้มีป้ายเตือนน้ำลึก คนว่ายน้ำไม่เป็นและลืมเช่าชูชีพที่ชั้น 2 ก็อดเล่นไป

น้ำตกชั้นที่ 5 "เบื่อไม่ลง" เป็นชั้นที่กินพื้นที่กว้างสามารถเล่นน้ำได้

น้ำตกชั้นที่ 6 "ดงพฤกษา" น้ำตกไหลผ่านดงไม้ลงมา บริเวณนี้มีต้นไม้หลากหลายพันธุ์

น้ำตกชั้นที่ 7 "ภูผาเอราวัณ" เป็นน้ำตกชั้นบนสุด งดงามที่สุด ให้เป็นสวรรค์ชั้น 7 ได้เลย มาถึงก็ตกลงเล่นน้ำสักหน่อย

ขาลงก็เผื่อให้ทันรถรอบ 3 โมง ขาลงก็เก็บตกถ่ายรูปไปด้วย

เดินลงมาถึงด้านล่างก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมตัวขึ้นรถหวานเย็นกลับตัวเมือง ต่างชาติลงที่สุสานทหารพันธมิตรเยอะมาก แต่เรากลับมาเดินตลาดเย็นใกล้ๆ กับสถานีขนส่ง ของกินอร่อย ราคาไม่แพงด้วย

เดินกินจนเพลินขากลับเลยต้องนั่งรถตู้ มินิบัสหมดแล้ว แถมขากลับก็ 120 บาท วินไหนอย่าไปรู้เลยเนอะ จบทริปสั้นๆ ที่สนุก และอิ่มอร่อยมาก

ติดตามทริปเดินทางอื่นๆได้ที่:

เพจ: ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG : prapat