สวัสดีจ้าทริปนี้กลับมาขี่สองล้อกันบ้าง ห่างไปหลายเดือน ทริปนี้มีเวลา 2วัน1คืน ไม่รู้จะไปไหนดี ขอกางเตนท์ไม่ไกลมากละกัน จังหวัดกาญเลยเข้ามาอยู่ในหัว ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยว่าจะไปไหนกันบ้าง ค่าใช้จ่ายหลักร้อยท้ายทริป
ทริปนี้เดินทางวันที่ 18-19/5/2562
ตารางทริปคร่าวๆ
เช้าวันเสาร์ขี่มาชมวิวที่ไร่ย่าแย้ม-ไปต่อเนินสวรรค์ทางลัดหรรษาจากห้วยแม่ขมิ้น-แวะน้ำตกเกริงกาเวียแล้วไปนอนป้อมปี่
เช้าอาทิตย์ ออกไปสังขละบุรี แวะเล่นน้ำตกซองกาเลีย และกลับ กทม.
รูปทั้งหมดถ่ายจาก
Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc และคลิปจาก Gopro4 silver
ดูคลิปกันก่อนได้จ้า
เริ่มออกเดินทางวันนี้มากัน 3 คัน CRF250Rally สองคันและ Z300
ออกจากบางใหญ่นัดรวมบ้านเพื่อนตี 5กว่าๆ ขับไปขัมา 110-120 ก็มาถึงไร่ย่าแย้ม 8โมงพอดีเป๊ะ
วิวสวยงามสมคำร่ำลือ
.
สมาชิกทั้งสามคันวันนนี้
z300 หลงมาด้วยดูสิจะสนุกไหม555
แลลี่เมืองนนท์
มาดูวิวรอบๆไร่ย่าแย้มกันเลย จุดกางเตนท์ขนาดหน้ากระดาน วิวสวยงามครับ แต่พื้นที่หน้ากระดานมีไม่กว้างมากครับ
วิวสวยจริง
ถัดจากวิวลานกางเตนท์แล้ว เดินมาอีกไม่ไกล นิดเดียวก็จะเจออีกวิวนึงพร้อมลำธารน้ำเล็กๆ สามารถเล่นได้ครับ
มุมนี้ก็สวย
เดินลงมาอีกนิดจะเจอน้ำตก แต่ดูเหมือนจะลื่นและอันตรายหน่อยเพราะเป็นหน้าผาลงไป
ถ่ายรูปเฉยๆพอ
มื้อเช้าเากินที่ร้านตรงไร่ย่าแย้มเลยครับ 40 บาท
อิ่มแล้วก็พร้อมเดินทางต่อ
เส้นทางเข้าจากถนนหลักประมาณ 2 กิโล เป็นดินแดง แต่อัดแน่นแล้วครับ
มีแค่ช่วงสุดท้ายก่อนถึงแบบในคลิปที่เป็นโคลนนิดหน่อย รถอะไรก็มาได้ครับ
ส่วนที่ตั้งก็กด google map มาได้เลย ทางเดียวที่จะไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นครับ จะมีป้ายให้เข้าทางขวา
ออกจากไร่ย่าแย้มเราจะไปกันต่อที่เนินสวรรค์ มาถึงเส้นทางสุดหรรษาของเราในทริปนี้
จาก google map จะเห็นได้ว่า เขาแนะนำให้ไปทางสีฟ้า ซึ่งไกลกว่าตั้ง 73 กิโลเมตร แต่ใช้เวลามากกว่าแค่ 16 นาที มันต้องมีอะไรดีสิทางสีเทานี้ ก็เลยไปทางสีเทาตามที่ตั้งใจไว้ครับ
จากไร่ย่าแย้มเลี้ยวขวาไปทางน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อีก 30 กว่าโล เป็นทางลาดยางปกติมีโค้งเยอะหนน่อยครับ
พอถึงป้ายนี้ก็คือจะเป็นน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ถ้าใครมาหน้าฝนก็แนะนำให้แวะเที่ยวก่อนเลยนะครับเคยมาหน้าฝนน้ำตกสวยมากๆครับ ค่าเข้า คนละ 100 แอบแพงไปนิด แต่วันที่ไปนี้ ไม่ได้แวะเข้านะครับเดี่ยวเวลาไม่พอเลยไปต่อ ผ่านอย่างเดียวไม่เสียตังครับ
เส้นทางหลังจากนี้แหละครับคือความสนุก ประมาณ 20กว่าโลได้จนถึงเนินสวรรค์
วิ่งเข้ามาไม่เท่าไหร่ก็เจออุโมงค์ไม่ไฝ่สวยงาม ทางเป็นดินลื่นๆ แต่วันนี้ไม่มีฝนก็ไปได้เรื่อยๆครับ
เส้นทางจะเป็นทางดินล้วนมีราดยางปนมานิดเดียว เป็นแนวป่าดิบชื่น ทางดูฉ่ำๆเบาๆตลอด ถ้าฝนตกกอาจจะบันเทิงกว่านี้ครับ
เจอร่องโคลนอยู่สองสามจุด มีจุดนี้ดูจะลึกและลื่นหน่อย
สำหรับรถที่ไม่ใช่วิบาก อย่างทางเรียบเช่น Z300 นี้ก็มีปัดๆเป๋ๆ แต่ก็พอมาได้ครับ
ผ่านไปได้อย่างสวยงาม
มาถึง CRF250RALLY อย่าให้เสียชื่อวิบากเค้าครับเพื่อน
ดูจะผ่านอย่างง่ายได้ไม่น่ากังวล
แต่อะไรๆก็เกิดขึ้นได้
อยู่ดีๆพี่เจ้าก็ขี่ขึ้นเนินตรงกลางตามแล้วลื่นคลิปถ่ายติดพอดี
กล้องในมือก็เลยลั่นชัตเตอร์รัวๆ
เป็นการสาธิตวิธีการล้มแบบถูกวิธีไม่มีเจ็บตัวให้ Z300 ได้ดูครับ 5555
ล้มเปะเบาๆขำขันกันไป
วิ่งมาต่อตามทางเรื่อยๆจนถึงสามแยกครับ เราต้องเลี้ยวซ้าย
ถ้าขวาจะไปแพขนานยนต์
อันนี้ป้ายถ้ามาจากทางฝั่งเนินสวรรค์
เส้นทางต่อจากนนี้จะโล่งๆ ไม่ใช่ป่าทึบแล้ว ทางไม่ชันอะไร ส่วนถนนจะเป็นแนวลูงรังกะหินกรวดลอย เด้งๆ ตลอดเส้นทางบอกเลยว่าทางแบบนี้แหละคือสวรรค์ของ รถวิบาก ทางแบบนี้แหละที่ต้องการขี่ได้เรื่อยๆไม่มีเมื่อยแต่อย่างได แต่สำหรับ Z300 หรือรถสปอต คงจะเมื่อยมือไม่ใช่น้อย z300 ค่อยๆคลานมาเรื่อยๆ บอกเมื่อยแขนพอสมควร
ช่วงนี้ทางตรงยาวๆยังไม่มีแยก ขับมาจอดรอz300 กลางทาง
ระหว่างพักก็เหมือนมีสวรรค์มาโปรดอีกครั้ง รถกระบะเทียบข้างมาจอด นึกว่าจะถามทาง ลุงเปิดกระจกลงแล้วทักว่า ไอติมไหมครับ รถไอติมแถวนี้ ขี่กระบะกันเลยนะจ๊ะ
จัดไปขนมปังไอติมเย็นๆ แก้ร้อนแก้เหนื่อย ชิ้นละ20
เจอป้ายหมู่บ้านปากเหมือง ไม่รู้มีอะไรเที่ยวแต่ไม่ได้แวะแค่ถ่ายให้ดู
เจอสามแยกอีกครั้ง มีป้ายอยู่ดูไม่ยากเลี้ยวซ้ายไปโลดด
เจอหน่วยอุทยานอีก แวะเข้าห้องน้ำหน่อย รอ Z300 ที่ค่อยๆขี่มาด้วย
แล้วก็จะเจอสามแยกอีกที
เมื่อเจอสามแยกนี้จะมีถนนราดยาง ให้เราเลี้ยวซ้ายที่เป็นทางดินไปต่อครับ ถ้าตรงไปนี้น่าจะไปออกแถวน้ำตกเกริงกาเวีย ลำคลองงู
เส้นทางสวยงามตลอดสองฝั่งข้างทางวิวสวยๆ
และแล้วเราก็มาถึง จุดชมวิวเนินสวรรค์
วิวสวยงามเด็ดมาก
อากาศก็ดีครับไว้รอบหน้าจะมานอนกางเตนท์สักคืนลมเย็น
ตามแผนเดิมของเรานั้นที่จริงจะไปเที่ยวอุโมงค์ดร.ครับ ติดต่อเจ้าหน้าที่คนนำไว้แล้ว ซึ่งราคาตอนที่ถามนั้นคันละไม่เกิน200 หรือบางคนก็บอกเก็บคนละ100ถ้ามาหลายคัน ยังไงลองเช็คราคากันเอาอีกที
แต่ดันนน CRFคันดำของเพื่อนคันเดิม งานเข้าครับ ยางวิบากแท้ๆ รั่วซะงั้นครับ ไม่รู้เหล็กมาแทงตอนไหนก็วิ่งเส้นเดียวกันแท้ๆ ซวยจริงๆเพื่อนผม
งานนี้เลยต้องขี่บดลงไปหาร้านปะยาง โชคยังดีที่รั่วตรงถึงเนินสวรรค์แล้ว ข้างล่างมีหมู่บ้าน
แบน แตดแต๋ ต้องอัดสามซ้อนแฟนเพื่อนลงมา
ขี่บดลงมาถึงร้านปะยาง ประมาณ 2โล ปรากฎว่าช่างไม่อยู่ ไปงานแต่ง งามไส้
ก็เลยต้องขี่บดไปต่ออีก 3-4โล ในที่สุดก็เจออีกร้าน แต่ช่างก็ไม่อยู่อีก แต่เขาโทรตามช่างไปซื้อของกำลังมาพอดี มีร้านข้าวก็เลยกินมื้อกลางวันรอเลย
เจอแล้วตัวการ แต่น่าจะเพราะบดมาไกลด้วยเลยฉีกหนักมาก ป่ะไมไ่ด้ ต้องเปลีย่นยางใน แต่ร้านมีแต่ของมอไซด์ทั่วไป ขอบ 17 ก็เลยต้องใส่ขอบ17นั้นแหละ แผนก็เลยเปลี่ยนใจคอเพื่อนไม่ค่อยดี ไม่กล้าลุยต่อก็เลยยกเลิกแผนเที่ยวในอุโมงค์ครับ กลัวจะเจออะไรตำอีกแหละยางในเล็กด้วยคงจะรั่วง่าย 555 ไว้รอบหน้ามาใหม่
เรื่องนี้ Z300 เพื่อนขำก๊าก บอกเห็นเราสองคันขี่กันดูสนุกสนานไม่รอเลย เหมือนหลอกZ300 มาเชือด ที่ไหนได้เชือดตัวเอง วิบากเองยังพลาดได้ 555
ออกจากหมู่บ้านอีก10กว่าโลก็ถึงถนนหลัก เลี้ยวขวาไปต่อ ทางผาภูมิ แวะเติมน้ำมันที่ ปคท.ทองผาภูมิอีกรอบ
วิวมันช่างสวยเหลือเกิน
และแวะซื้อวัตถดิบมื้อเย็นนี้ที่ ตลาดสดทองผาภูมิ ตลอดที่วิวสวยที่สุด
ออกจากทองผาภูมิไปต่อจุดหมายของเราคืนนี้กางเตนท์ที่ ป้อมปี่ ระยะทางอีกประมาณ 30กิโลได้ทางเดียวกับไปสังขละบุรี
ก่อนจะถึงแวะดูน้ำตกเกริงกระเวีย อยู่ริมถนนเลยคัรบ เดินนิดเดียวก็เจอน้ำตกแล้ว
น้ำตกเล็กๆ ลดหลั่นกันสวยงามระหว่างทางที่ควรแวะครับ
จากนั้นก็ขับมาต่ออีกแปบเดียวก้มาถึง จ่ายเงินกันก่อน ค่ารถ ค่าคนบวกค่าข้างคืน ตกคนละ 160 บาท ต่อสองคน ถ้าจำไม่ผิด รถ20 คน40 นอนอีก30
ลานกางเตนท์ที่นี้มีหลายจุดเลย รองรับนักท่องเที่ยวได้เยอะมาก โดยแบ่งเป็นโซนที่จอดรถได้ด้วย หรือกางเตนท์อย่างเดียว
ขี่ไปดูทำเลโซนที่จอดรถได้ด้วยกับเตนท์ และมีโซนให้ รถบ้านด้วย
โซนนี้จะเปิดโล่งไม่มีต้นไม้เป็นลานกว้างๆ เลยรับแดดเต็มๆ
วิวสวยงาม น่ากางมาก แต่ว่าเรามาถึงไว ประมาณ 3โมงกว่ามันร้อนเกินไป ก็เลยขี่ไปดูอีกโซนที่กางเตนท์ได้อย่างเดียว
โซนฝั่งนนี้ร่มรื่นมากมีต้นไม้เยอะเลย
วิวก็สวยงามเช่นกัน
เสียงส่วนใหญ่ก็เลยเลือกฝั่งนี้ ก็เลยเอาตามเสียงครับ
เดือนเลือกทำเลได้ตามใจ วันที่ไปคนน้อยมากๆ น่าจะยังไม่ถึง 30เปอร์เซน์ของพื้นที่กางเตนท์ทั้งหมด ทั้งที่เป็นวันหยุด 3 วัน
เมื่อเลือกได้แล้วก็ไปขนของเขามีรถเฟอราร่ไว้คอยบริการ เข็นไปแล้วก็เข็นมาเก็บที่เดิมด้วย
ผมเลือกชั้นล่างสุด ใกล้ห้องน้ำ และเดินลงไปเล่นน้ำข้างล่างได้ด้วยไม่ไกล
กางเตนท์ไปมาเย็นพอดี
หรือใครจะนอนเปลก็ฟินดีนะ อากาศเย็นๆกำลังดี มีหนาวๆบ้างกลางดึก
แสงสุดท้ายกำลังจะลับขอบฟ้า พวกผู้ชายอย่างผมวันนี้ได้ห้องอาบน้ำที่ใหญ่สุดๆ เราเดินลงไปเล่นน้ำแล้วก็อาบน้ำกันเลย น้ำเย็นสดชื่น
ส่วนมื้อเย็นของเราวันนี้เป็นชาบูหมู่นุ่ม จากตลาดทองผาภูมิ โดยใช้หม้อพกพาขนาด 2 คน แต่กินกัน 6 คน ต้องลวกกินกันอย่างไว เพราะใส่ได้นิดเดียวก็เต็ม พอชิ้นไหนสุกก็หนีบขึ้นเอาอีกชิ้นลงต่อทันที 555 ก็สนุกไปอีกแบบ
คืนนี้ผิดหวังนิดหน่อยทริปนี้ตั้งใจมาถ่ายทางช้างเผือก เล็งไว้แล้วช่วงนี้ฟ้ามืด ช้างต้องสวยแน่ๆ แต่เจ้ากรรมเมฆเยอะมากๆ บดบังดาวไปหมดเลย
เลยถ่ายแสงไฟส่องฟ้าเล่นๆไปนิดหน่อย แล้วก็เข้านอนกัน 3-4ทุ่ม
อรุณสวัสดิ์เช้าที่สดใส
เช้านี้มีหมอกลอยเบาๆด้วย อากาศกำลังดีเมื่อคืน มีหนาวๆกลางดึก รอดจากฝนไม่ตกเลยทั้งวันที่มาทริปนี้
อากาศดีๆแบบนี้นั้งเล่นนอนเล่นไม่ต้องรีบ
รอให้แดดมาไล่แล้วจะค่อยไป
พอสายๆอาบน้ำก็มากินมือเช้าง่ายๆเช่นเคย มาม่าคัฟแสนรู้ใจ พร้อมกับหมูที่เหลือจากเมื่อคืน
ก่อนกลับถ่ายยรูปเล่นอีกหน่อย
และมุมนี้เป็นมุมที่สวยมาก สวยแบบนี้ทำไมคนถึงผ่านเลยไป
ส่วนใหญ่ไม่เข้าปิล็อคก็เลยไปสังขละกันเลย ที่นี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับแนะนำ
ขี่ออกวนมาถ่ายที่ฝั่งเมื่อวานอีกรอบ ขอถ่ายคู่กะรถหน่อย
และสะพานไม้
กว่าจะได้ออก 9โมงกว่า แต่ก็ขี่มาอีกไม่นานเราก็มาถึง สะพาญมอญสังขละบุรี
มาถึงที่ต้องมีแป้ง
มาแล้วก้มาอีกได้เพื่อนคนอื่นยังไม่เคยมา วิวก็สวยงามคนน้อยด้วยวันนี้
จากนั้นก็ไปปิดท้ายกันที่น้ำตกซองกาเลีย
ในวันที่เปลี่ยนไปวันนี้ไม่มีนั้งร้านยาวๆแล้ว สอบถามเขาบอกว่าน้ำป่าพัดมาร้านพังหมดเลย ขี่เข้าไปได้เกือบสุด
อ้อ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเราเลยหางเสื่อนั้งเล่นน้ำ แล้วสั่งอหารมากิน ยังมีร้านอาหารขายอยู่แต่ไม่มีที่นั้งต้องหาเสื้อมาปูเอง แบบนี้ดีครับชอบๆ
น้ำเย็นสดชื่นมากๆ
เล่นน้ำแล้วก็เติมพลังกันต่อก่อนกลับบ
จากนั้นก็เดินทางกลับออกจาก ซองกาเลีย ประมาณ บ่ายโมงกว่า มาแวะร้านคาเฟ่แถวทองผาภูมิ
จากนั้นก็ขี่กลับเจอฝนถล่มแถวไทรโยคแบบไม่ลืมหูลืมตาตกแรงมากๆ มองทางแทบไม่เห็นต้องจอดพัก เหมือนเอาคืนบอกให้แดดตอนขี่เที่ยวมาทั้ง 2 วันแล้ว ขอจัดหนักเลยละกันวันกลับ พอใส่เสื้อกันฝนลุยสักพักหยุด พอถอด เอ้าตกอีก เปียกกันยันไขสักสบอมกันทุกคน เลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บกล้องกันน้ำมิดชิด แต่พอมาถึง ตัวเมืองกาญ ฝนหยุดแล้ว ก็เลยขี่กลับต่อสบายๆ มาถึงบ้าน แห้งพอดี จบทริป 2วัน1คืนอย่างง่ายดาย
ค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน
หมดน้ำมันไปประมาณเกือบๆ 800 บาท วิ่งไป 770 กิโลได้ ทุกคันหมดพอๆกัน ตกโลละ บาทนิดๆ
ค่าข้าวไร่ย่าแย้ม คนละ 40
ค่าข้าวกลางวัน คนละ 40
ค่ากางเตนท์คาเข้าป้อมปี่ค่ารถ 2คน 160 บาท
ค่าอาหารมื้อเย็น+เครื่องดื่มและ มาม่าเช้า คนละประมาณ 150
ค่าข้าวกลางวันซองกาเลีย คนละ 120
ค่าน้ำคาเฟ่ คนละ 60
และก็มียิบย้อยอีกนิดหน่อยจิปาถะระหว่างทาง โดยรวมๆแล้ว ทริปนี้หมดไปคนละประมาณ 900 บาทครับ
มีจะพูดเรื่องรถนิดหน่อย เรื่องไมล์เพี้ยน
รถผมใส่เสตอหลังใหม่เพิ่มมา 2 ฟัน เป็นหน้า 14 หลัง 42
ส่วน Rally ของเพื่อนอีกคันเดิมๆ หน้า14หลัง 40 ยางหน้าหลังผมกะเพื่อนตัวเดียวกันพึ่งเปลี่ยนใส่รุ่นเดียวกัน
และ Z300 เสตอเดิมติดรถ
ก็จะบอกไว้เป็นข้อมูลนิดหน่อยเผื่อคนที่ยังไม่ทราบ รถที่เปลี่ยนเสตอแล้วไมล์มันจะเพี้ยนเพราะรถมอไซด์เราใหม่ๆเนี้ยน่าจะเกือบทั้งหมด พวกรถใหญ่นะครับ ไมล์จะจับที่เสตอหน้า พอเราเปลี่ยนเสตอไม่น่าจะหน้าหรือหลังให้มีขนาดผิดไป มันจะทำให้รอบการหมุนของเสตอหน้าไม่เท่าเดิมไมล์เลยเพี้ยน ทั้งความเร็วและ ระยะทาง
โดยการทดสอบครั้งนี้ลองจับจากปั้มที่ 2 กด0 ทุกคัน วิ่งเส้นทางเดียวกันจนกลับมาถึงบ้านเพื่อนบางบัวทอง
สรุปได้ว่า รถผมที่ใส่เสตอหลัง42 วิ่งได้ 661 กิโล
ในขณะที่แลลี่สีดำของเพื่อนเดิมๆวิ่งได้ 624 กิโล
และ Z300 เดิมๆของเพื่อนวิ่งได่ 627 กิโล ซึ่งใกล้เคียงกะรถเดิมๆของเพื่อน
แปละว่ารถผมมันเพี้ยนไป37กิโล ในระยย 600กว่าโล
ส่วนไมล์ความเร็วไม่ได้จับ GPS แต่ขี่เทียบข้างกัน รถผมไมล์แก่กว่าแลลี่ของเพื่อน ไป 5-7 เลยเช่นไมล์เพื่อน 120รถผมจะขึ้น 125-127 ประมาณนี้ครับ
ไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่ยังไม่รู้หรือสงสัยนะครับว่าทำไมพอเปลี่ยนเสตอหลังใหญ่แล้วรถแรงขึ้นได้ความเร็วปลายมาด้วย ซึ่งจริงแล้วมันต้องไม่ใช่ การเปลี่ยนสเตอหลังใหญ่ มันต้องได้ต้นกับกลางมาแน่นอน แต่ปลายมันต้องหาย ไม่ใช่ได้เพิ่มนะครับ ที่เพิ่มมาเพราะไมล์รถเราเพี้ยนครับ นี่ผมแค่ 2 ฟันนะยังขนาดนี้ ยิ่งเพิ่มเยอะหายเยอะแน่ๆครับ ผิดถูกประการได้ในการทดสอบนี้ลองเม้นแจ้งกันได้ไว้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆพี่น้องครับ
แล้วพบกันใหม่ทริปนี้หน้าลาไปก่อน จะไป4ล่อหรือ2ล้อ เดี่ยวว่ากัน สวัสดีจ้า
คู่รักตะลอนทัวร์ เที่ยวทั่วไทยไปกับCRF250RALLY
เหลี่ยมพาเที่ยว
วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.49 น.