แล้วก็ถึงวันที่รอคอยหลังจากวางแผนกันมานานร่วม 2 เดือน

จากทริปเล็กๆ 6 คน ก็กลายเป็นทริปใหญ่ 26 คน

เที่ยวหน้าฝนก็ต้องคอยอัพเดตสภาพเส้นทาง อากาศกันเรื่อยๆ

หมอกก็มีบ้างไม่มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะมีให้เห็น เรื่องฝนนั้นก็ตกซะส่วนใหญ่ ลมนี่ไม่ก็ต้องพูดถึง

ถนนหนทางก่อนที่เราจะไปก็มีข่าวว่าถนนทางเส้นหล่มสักทรุดตัวเพิ่มเล็กน้อย

เมื่อวันเดินทางมา The show must go on

ไปดูกันดีกว่าว่าทริปนี้พวกเราจะไปเจออะไรกันบ้าง ........


FOLLOW ME

Facebook page : Once-a-month
Instagram:
onceamonth.travel
YouTube : Once-a-month


ถึงเวลาหน้าฝน พวกเราก็นึกถึงหมอกภูทับเบิกขึ้นมา ก็เลยชวนเพื่อนๆในกลุ่มไลน์ใครจะไปบ้าง ก็โอเคได้มา 6 คน พอละไม่เหงา ได้ทริปเล็กๆทริปนึง คุยกันไปๆมาๆเพื่อนก็ชวนเพื่อนของเพื่อน ได้เพื่อนของเพื่อนมาเพิ่มอีก เพิ่มไปเพิ่มมา เกือบ 30 คน ทริปนี้ไม่เล็กแล้ว

สรุปสมาชิกในทริปนี้จากตอนแรกไปกันแค่ในกลุ่มประมาณ 6-7 คัน แต่พอชวนเพื่อน เพื่อนชวนเพื่อนไปอีก ปรากฎว่ารวมแล้วเป็นมอเตอร์ไซค์ 15 คันกับ รถยนต์ 3 คัน นอกนั้นส่วนคนทั้งหมด 26 คน เยอะมาก 555

เช้าวันเดินทางเรานัดเจอกันที่ปั๊ม ปตท. ม.กรุงเทพ ตอน 04.30 น. เราจัดของลงกระเป๋า เอาของขึ้นรถกันตั้งแต่ตอนกลางคืน

05.00 น. ออกจากปั๊มไปเจอเพื่อนอีกกลุ่มนึง ถ่ายของลงรถเซอร์วิส(รถยนต์) เรียบร้อยก็ออกเดินทางกันต่อ แพลนการเดินทางของเราคือ

ปั๊ม ปตท.วังน้อย > ปั๊ม ปตท.ชัยบาดาล > ทานข้าวกลางวันที่ไร่จันทร์แรมรีสอร์ต > เข้า routh 12 > ไร่ริมผา ภูทับเบิก

แล้วเราก็ไปแวะพักที่ชัยบาดาลจุดพักแรกของเรา ทานข้าวเช้า เซอร์วิสรถกันนิดหน่อย แทงหนอน หยอดน้ำมันโซ่ ซ่อมสปอร์ตไลท์หลุด นิดหน่อยๆ แล้วเราก็วาร์ปขึ้นเขาค้อมาที่รีสอร์ทไร่จันทร์แรมกันเลย เที่ยงกว่าแล้วได้เวลาข้าวกลางวันแล้ว สั่งมาเต็มโต๊ะแต่รูปไม่ได้ถ่ายเลย หิวจัดสนใจแต่อาหารข้างหน้า แต่อาหารอร่อยนะ

กินข้าวเสร็จแล้วก็วิ่งเข้าโค้ง route 12 พอหอมปากหอมคอ เลี้ยวเข้าทับเบิก เราขี่ขึ้นทางหล่มสักช่วงกลางๆ จะมีถนนที่พังอยู่ ถนนขรุขระ มีหินลอยตรงโค้งบ้าง ยังไงก็ขับขี่กันด้วยความระมัดระวังนะ

พอมาถึงข้างบนก็ถูกต้อนรับด้วยหมอกเลย พวกเรากางเต็นท์กันที่ไร่ริมผา จอดรถเสร็จ เอาของลงแล้วก็กางเต็นท์กันก่อนเลย สภาพอากาศถือว่าดีเลย ลมแรงเป็นพักๆ อากาศเย็นสบาย (บางคนถึงขนาดเอาเสื้อกันหนาวมาใส่เลย) เราก็เดินถ่ายรูปเล่น พักผ่อน รอเวลาอาหารเย็นของเรา

แล้วก็ได้เวลามื้อเย็นของเราแล้ว วันนี้มีอภินันทนาการจากพี่ร้าน จุ่มโจร สาขาสาย 1 อยุธยา แปะลิ้งค์เลยตามไปฟาดกันได้ กินกันจนจุกระหว่างกินก็มีวิวดีๆ บรรยากาศดีๆ นั่งกินกันไป คุยเม้ามอยกันไป เสร็จก็แยกย้ายกันเข้าเต็นท์ใครเต็นท์มัน

ยิ่งดึก ลมยิ่งแรง จากตอนแรกเราปักแค่สมอ 4 มุม ลมแรงมากจนเต็นท์จะพับเอาเลยลุกขึ้นมาเอาเชือกดึงอีก เป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้เต็นท์มาที่ปักสมอและใช้เชือกเต็มอัตรา จริงๆ ลมไม่ได้มีตลอดนะ แต่พอมาทีนึงก็มาแรงเลย อากาศก็หนาว หมอกก็เริ่มลงจัด พอช่วยเต็นท์ตัวเองและเพิ่อนๆ เสร็จก็นอนได้ สบายใจขึ้นเยอะ



เช้านี้ที่ภูทับเบิก เปิดเต็นท์ออกมาก็เจอหมอกหนาพร้อมฝนลงเม็ดพร่ำๆ เช้ามาพื้นก็จะเปียกๆ หน่อย หมอกก็เลยหนาหน่อย ชอบจังบรรยากาศแบบนี้ อยากตื่นนอนเปิดประตูออกไปเจอแบบนี้ทุกวันเลย

เริ่มสายขึ้นหมอกหนาๆ ก็เริ่มจาก เผยให้เห็นวิวด้านล่าง รอบนี้ถึจะไม่ได้เจอเป็นทะเลหมอกแบบที่ใครๆ เค้าเจอ แต่แค่นี้ก็ฟินแล้ว แล้วก็เดินเก็บบรรยากาศรอบๆ

เดินเล่นกันเสร็จก็กลับมากินมื้อเช้าที่สำคัญ เช้านี้มีเมนูขนมปังชุบไข่ กาแฟดริป แล้วก็โจ๊กที่ไปซื้อมา 555

อิ่มแล้วก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัว เก็บเต็นท์ แพคของขึ้นรถ แล้วก็ออกจากภูทับเบิก หลังจากออกจากภูทับเบิกแล้ว จุดหมายต่อไปของเราคือแวะไปกินกาแฟที่ร้านตั๊กม้อ คอฟฟี่ ที่อยู่หลังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

หลังจากนั้นเราก็เดินทางออกจากร้านกาแฟ จุดหมายถัดไปคือกินมื้อกลางวันที่ร้านเตี๋ยวตั้งโต๊ะ เดี๋ยวเราทำรีวิวร้านแยกให้ต่างหากเลย ร้านนี้แนะนำให้ไปกินกันนะ อร่อย

เที่ยวเพชรบูรณ์ แวะกิน " เตี๋ยว ตั้ง โต๊ะ cafe " | เพชรบูรณ์ อย่าลืมตามไปฟาดกันนะ

ทานเสร็จก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่ก็เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม เลยแบ่งให้เพื่อนที่มาจากชลบุรีกลับไปก่อน ส่วนกลุ่มหลังอยู่กรุงเทพก็รอทำธุระเสร็จแล้วค่อยขี่รถกลับ แล้วก็เดินทางกลับบ้านกันโดยสวัสดิภาพ


ฝากเพื่อนๆ ที่ขี่รถเที่ยวแบบเรา เรื่องเครื่องแต่งกาย หรืออุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ควรใส่ให้พร้อมเสมอเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดกับเราตอนไหนบ้าง อย่างน้อยถ้าเราเกิดอุบัติเหตุอุปกรณ์เหล่านั้นจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

สรุปค่าใช้จ่าย

สำหรับกางเต็นท์ที่ไร่ริมผา : คนละ 50 บาท

ค่าน้ำมัน : ประมาณ 1,200 บาท (เฉพาะคันของเรา เติม แก๊สโซฮอล 95)

ค่าอาหาร : ประมาณคนละ 1000 บาท

ความคิดเห็น