ระยอง ฮิ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวชายทะเลอีกเมืองนึง จะว่าไปเมืองนี้ก็เป็นที่โปรดปรานของคนกรุงเทพพระนครกันพอตัว แต่เมืองนี้ค่อนข้างจะแปลกกว่าเมืองท่องเที่ยวชายทะเลอื่นๆพอสมควร เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อกันว่าถ้าจะไปพักผ่อนที่ระยองควรจะไปเกาะสเม็ดเท่านั้น ส่วนบนฝั่งมันไม่ค่อยมีอะไรสักเท่าไหร่หรอก เป็นเมืองอุสาหกรรมซะมากกว่า อืมมมม อันนี้ก้ไม่อยากจะเถียงนะ เพราะเมื่อก่อนผมก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน 555555 เอาเป็นว่าวันนี้ผมพาเพื่อนๆมาพบกับอีกหนึ่งมุมมองของการพักผ่อนที่จังหวัดระยองกันดีกว่านะครับ
หาดแสงจันทร์ คือหาดที่อยู่ใกล้ตัวเมืองระยองและอยู่ติดกับชลบุรีมากที่สุดครับ จุดเด่นที่สุดของที่นี่คือการปรับแต่งภูมิทัศน์ให้มีลักษณะเป็นเหมือนอ่าวขนาดเล็กเรียงต่อกันยาวขนานไปตลอดแนวหาด
ธรรมดาแล้วหาดแสงจันทร์กับหาดแหลมเจริญถือเป็นหาดเดียวกัน แต่ลักษณะความเป็นอยู่ค่อนข้างจะแตกต่างกันพอควร โดยหาดแสงจันทร์เรียกว่าเป็นหาดที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวซะส่วนใหญ่ ส่วนทางแหลมเจริญจะเป็นหมู่บ้านชาวประมงซะมากกว่า
สำหรับหาดแห่งนี้ ถ้าจะมาพักผ่อนแล้วผมถือว่าผ่านเลยนะครับ ทรายละเอียด (แต่สีไม่สวย) น้ำใส ดูจากภาพที่ผมเอามาฝากกันนะครับ ว่าใช้ได้หรือเปล่าตัดสินกันเอาเอง ส่วนโรงแรมที่ผมจะพาไปสัมผัสในวันนี้คงหนีไม่พ้นโรงแรมบนหาดหาดแสงจันทร์นี่ล่ะครับ ดูไปดูมา บนหาดนี้ก็มีโรงแรมนี้ที่น่าสนใจ Kantary Bay Hotel Rayong
Kantary Bay Hotel Rayong มันน่าสนใจยังไงหว่า ทำมั้ยต้องเป็นที่นี่ Kantary ถือเป็นแบรนด์หนึ่งของโรงแรมในเครือเกษมกิจครับ เครือเกษมกิจนี้มีโรงแรมมากมายทั่วไทย ไที่ดังๆก็จะมี เคปนิทรา หัวหิน เคปพันวาภูเก็ต เแคนทารีเชียงใหม่
โรงแรมแคนทารี่แปลกตรงที่ ที่นี่ไม่เน้นสวยอลังเหมือนโรงแรมอื่นๆครับ แต่จุดขายหลักของโรงแรมนี้คือ ความสบาย ความอบอุ่นแนวครอบครัว อาหารที่อร่อยและไม่แพงเวอร์ มาครับ ตามผมมาเลย ผมพาไปเช็คอินกันก่อนนะครับ เพื่อนๆนั่งรอที่ลอบบี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปเช็คอินให้
ลอบบี้ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายๆ โปร่งๆ ฟีลลิ่งกึ่งบ้านกึ่งโรงแรม นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ
หลังจากเช็คอินมาแล้ว เราได้มีมาด้วยครับ วอยเชอร์เวลคัมดริ้ง สัมหรับผมค่อนข้างปลื้มกับวอยเชอร์ใบนี้มากครับ เพราะ มันไม่ใช่เอาไปแลกน้ำเวลคัมดริ้งปอกแป้กเหมือนโรงแรมอื่น
เพราะวอยเชอร์ใบนี้สามารถเอาไปแลก เบียร์ ค๊อกเทล อิตตาเลี่ยนโซดา ซอฟดริ้งได้ถึงสามที่ด้วยกัน คือ ที่นี่โรงแรมนี้ ที่คามิโอคลาสสิคในตัวเมืองระยอง หรือแม้กระทั้งร้านขนมกิ๊บเก๋คาเฟ่แคนทารี่เราก็เอาวอยเชอร์ตัวนี้ไปใช้ได้ด้วยครับ เริ่ดแท้ ( ผมเนะนำให้เก็บเอาไปใช้ที่ คาเฟ่แคนทารี่ จะเริ่ดที่สุดครับ )
อย่างแก้วนี้คือ ค๊อกเทล ประจำเดือนเมษา ของที่แคนทารี่ครับ
ถ้าเก็ยวอยเชอร์เอาไปใช้ที่ คาเฟ่แคนทารี่ แล้ว ฉันมาเหนื่อยๆ ฉันจะกินอะไรล่ะ อันนี้ไม่ต้องห่วงครับ มากับผม หลังจากเช็คอินแล้ว กดลิฟมาชั้นสองเลยครับ เรามาหาเครื่องดื่มร้อนเย็น คุกกี้อร่อยๆ และผลไม้ ฟรีๆ ทานได้ครับ
ที่ชั้นสองนี้ จะมีห้องอ่านหนังสือ Reading Room อยู่ครับ บรยยากาศของห้องจะออก ขาวๆ โอโม่ๆ โคโรเนียลๆ ผมชอบมากเลยครับสำหรับห้องนี้
ขอดีของห้องนี้นอกจากสวย มันมี ขออร่ยฟรีหลายอย่างเลยล่ะครับ แถมฟรีทั้งวันด้วย เด็ดมากกกก
ลูกอม คุกกี้ ผลไม้ กาแฟ ชา น้ำเปล่า น้ำแข็ง มีครบหมดครับ และที่สำคัญ บริการตัวเองแบบไม่มีอั้น ทั้งวันครับ เชื่อว่าถูกใจใครหลายๆคน รวมทั้งผมด้วย อิอิ (ที่นี้เราก็เก็บวอยเชอร์ไปใช้ที่ คาเฟ่แคนทารี่ ได้สบายๆแล้วครับ)
อ้อ ลืมไปเลย ใครอยากอ่านหนังสืออะไรมาเลือกๆดูที่นี่ได้นะครับ
เอาล่ะครับ จัดเซ็ตต้อนรับเบาๆ ที่ห้อง Reading Room กันไปแล้ว เราเอาเป๋าไปเก็บในห้องกันก่อนดีกว่า ใครพักห้องนี้ ครับ
One Bed Room Suite ห้องค่อนข้างใหญ่มากครับ แยกโซนห้องรับแขก ครัว (ครัวมีเครื่องซักผ้าด้วย) โต๊ะทำงาน โต๊ะทานข้าว ห้องนอน ฟีลลิ่งคล้ายๆคอนโดมากครับ วิวตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปโอเคเลยครับ (ภาพห้องนี้ถ่ายที่ชั้นหกครับ) ใครพักห้องหัวมุมด้านหน้าโรงแรมจะได้ซีวิวกันเต็มๆแบบในภาพเลยครับ
ครัวแบบจัดเต็มมากกกกก ถ้วย ชาม จาน ช้อน มีทุกอย่าง
วิวจากระเบียง ห้องพักมุมหน้าตึก ชั้นหกครับ ได้วิวนี้
ชมบรรยากาศกลางคืนบ้างครับ
วิวจากระเบียงห้อง 616 ครับ ผมว่างามแงะทีเดียวเลยนะ
ไปดูห้องนอนกันบ้าง ห้องนอนธรรมดาครับ ทั่วไปๆ
ห้องน้ำครับ ก็ทั่วไปอีกเช่นกัน อ้อ สุขามีสายชำระ เริ่ดอยู่ครับ
อเมนนิตี้ที่นี่ เท่าที่ใช้มาโดยรวมธรรมดานะครับ แต่สบู่ทำบับเบิ้ลบาธได้เยอะมากกกก อันนี้เจ๋ง
ใครพักห้องนี้คร้าบบบบ Two Bed Room Suite ฟีลลิ่งยังคงคล้ายคอนโดเหมือนเดิม ห้องน้ำห้องครัว คล้ายๆ One Bed Room Suite ห้องกว้างมากกกกก เหมาะกับมาเป็นครอบครัว 4-6 คน หรือมาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ
ใครพักห้องนี้คร้าบบบบบบ Studio Suite ห้องเริ่มต้นของที่นี่ ขนาดเล็กลงมาพอประมาณ แต่ยังคงคอนเซ็ปเดิมมีครบทุกอย่าง ครัว โต๊ะกินข้าว โซฟา อ่างอาบน้ำ
เอาล่ะครับเก็บเป๋าแล้ว ผมพาไปเดินชมรอบๆโรงแรมกันดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้างล่ะ อย่างแรกเลย สระว่ายน้ำ ที่นี่มีด้วยกันสองสระ สองอารมณ์ครับ
สระนี้คือสระหลัก อยู่ด้านหน้าอาคารที่พัก และ ห้องฟิตเนส ผมค่อนข้างชอบสระนี้มากกว่าสระที่สองนะ พื้นสระสดลฟ ลึกไม่เท่ากันนะ
สระจะอยู่ด้านหน้าฟิตเนสเลย ฟิตเนสที่นี่ก็ดีนะครับมีครบเลย สตรีม ซาวน่า
ส่วนสระนี้ จะเล็กลงมานิดหน่อย อยู่ซ่อนหลังอาคารที่พัก
ตอนนี้ที่นี่กำลังเตรียมลานโบลิ่ง ห้องคาราโอเกะ และห้องเกมส์ใหม่ด้วยครับ เรียกว่าครบวงจร ทีเดียว
ป.ล. น่าจะมีมินิเธียร์เตอร์ด้วยจะดีมากกกก
ห้องอาหาร The No.43 Italian Bistro ห้องอาหารหลักหนึ่งเดียวของที่นี่ ผมพาชมบรรยากาศก่อน
จุดขายหลักของห้องอาหารนี้คือ อาหารอร่อย และไม่แพงครับ ผมยอมรับเลยครับ กับห้องอาหารที่นี่ มีความสูขทุกวันที่ลงมาทานอาหารเช้าที่นี่ เพราะนอกจากอร่อยแล้ว ตัวเลือกยังหลากหลาย น่าสนใจและที่สำคัญคือ กินได้แทบทุกอย่างมากกกก
ไปดูภาพโดยรวมของอาหารเช้ากันครับ น่ากินมากขนาดไหน เห็นแล้วหิว บางอย่างนี่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีในอาหารเช้าด้วย ที่ชอบที่สุด ทุกเช้าจะมีสเตชั่นอาหารญี่ปุ่นด้วยครับ แถมสเตชั่นไข่ก็มีไข่กะทะด้วยครับ อร่อยๆๆๆ
ส่วนมื้อกลางวันจะมีบุฟเฟ่ ด้วยครับ อาทิตย์นึงจะมีประมาณ 3-4 วัน จุดขายของบุฟเฟ่มื้อกลางวันที่นี่คือ อาหารอร่อย ราคาต่อหัวไม่แพงอยู่ที่ 380++ มีซูชิ ซาซิมิให้ด้วยครับ แถมไม่ได้มีแบบไก่กา อาราเร่นะ จัดหนักจัดเต็มและเป็นของดีเลยล่ะครับ ราคาเท่านี้ผมเรียกเกินคุ้มนะ
ส่วนอาหารจานเดียว ผมก็ยังให้เป็นอาหารญี่ปุ่นนะครับ ราคาใกล้ ฟูจิครับ บางเมนูถูกกว่าด้วยครับ คุณภาพใกล้ๆฟูจิครับ ผมให้ผ่านเลย เสียดายไม่มีทำเป็นเซ็ตอาหารกลางวัน จะน่าสนใจมากกกกกก
ส่วนอาหารไทยผมลองเทสข้าวกระเพราทะเลมาครับเราจะตกอยู่ที่ 100 กว่าๆ ( ราคาไม่หนีอาหารญี่ปุ่นเลย ) โดยรวมโอเคนะ แต่คาดความจี้ดจ้าดจัดจ้านไปสักหน่อยนะ
จำได้มั้ยครับ ที่ผมให้เก็บวอยเชอร์เวลคัมดริ้งไว้ เอาล่ะครับถึงคราวที่เราจะงัดมันออกมาใช้แล้วล่ะครับ เราไปใช้ที่ Café Kantary กัน ผมพาชมบรรยากาศร้านคราวๆกันก่อน โดยรวมๆร้านCaféก็สวยๆหวานๆ วินเทจๆ แอร์เย็นๆ นั่งสบายๆ ลั้นลา ลั้นลา
ยังไงเครื่อมดื่มก็ฟรีอยู่แล้ว เราข้ามๆกันไปนะครับ ลองไปเลือกๆกันเอง ผมขอแนะนำขนมดีกว่า ขนมที่นี่จะเน้นเบอรี่แบบตู้มๆๆ ใครชอบสารพัดเบอรี่น่าจะปลื้มขนมที่นี่นะ
เมนูที่จะแนะนำช่วงหน้าร้อนของไม่มีอะไรดีไปกว่าไอศครีม ที่นี่เป็นไอศครีมโฮมเมดสไตล์อิตตาเลี่ยนครับ เมนูนี้ พาราไดซ์ฟาเฟ่
แพนเค้กสามชั้นกับซอสคาราเมล หวานมัน ทานกับเบอรี่ตู้มๆ ใครสนใจเมนูนี้บ้างครับ
เมนูไม้ตายของที่นี่ โอ้ ลา ล้า ฮันนี่โทสต์ เชื่อว่าหลายๆคนรู้จักเมนูนี้เป็นอย่างดี รสชาติไม่หนีร้านดังเท่าไหร่ครับ แต่ที่นี่จะออกรสหวานกว่า
เบอร์รี่ เบอร์รี่ เครป เครปนุ่มๆกับวิปครีมอร่อยๆสอดไส้ด้วนไอศครีมแสนอร่อย ทานกับเบอรี่แบบตู้มๆ ใครชอบเมนูนี้บ้างครับ
ส่วนใครไม่ถนัดแนวด้านบน ขออะไรแบบแซ่บลืม ผมขอแนะนำอาหารแนวพื้นบ้านรสจัดที่นี่ครับ ครัวไทยชายน้ำ ใครจะไปลองตามแผนที่กันไปนะคร้าบบบบ ใครไปไม่ถูก กดโทรศัพท์ไปตาม เบอร์โทรครับตามในแผนที่เลย
บรรยากาศรอบๆของร้านอาหารเอาง่ายๆ มันคือฟีลลิ่งของสวนอาหาร นั้นแหละครับ
ปลาทับทิมลงธัญ ปลาทับทิมทอดตัวใหญ่ๆ ราดซอสเปรี้ยวหวานพร้อมกับธัญพืช ราคา320
แกงคั่วหอยขม อันนี้อร่อยมากครับ เข้มข้น เข้มข้น 130 บาท
ต้มยำกระดูกอ่อน รสจัด จี้ดจ้าดดดด 150 บาท
หอยนิวซีแลนด์ จานนี้คือที่สุดแล้วครับ ไม่สั่งไม่ได้ 250 บาท
ปิดท้ายทริปนี้แวะทำธุระที่ศรีราชาก่อนกลับกทม ได้มีโอกสาสแวะชิมอาหารที่เคปราชา ที่นี่มีห้องอาหาร Le Marin Mediterranean Restaurant ถึงจะเป็นอาหาร เมดิเตอร์เรเนียนก็มีอาหารอิตตาเลี่ยนด้วยครับ บรรยากาศห้องอาหาร ก็ทั่วไป โอโท่งดี
มีโอกาสได้ลองชิมพิซซ่า อร่อยมากครับ ถาดล่ะ 300 กว่าบาท ผมแนะนำเลยครับมีโอกาสแวะมาทานดู กับพิซซ่า ผักขมอบชีสกับกุ้ง เมนูนี้ที่แคนทารี่ระยองก็มีนะครับ ใครพักที่แคนทารี่ระยองก็สั่งได้ครับรสเดียวกัน
ใครไม่ชอบผัก แนะนำพิซซ่าแซลม่อนรมควัน อร่อยแบบเนื้อๆเน้นๆ
ส่วนสปาเก็ตตี้สองจานนี้ จานซ้ายผัดพริกแห้งหอยลาย ใครชอบสปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งเบค่อน ผมว่าคุณชอบเมนูนี้แน่นอน ส่วนด้านขวา เป็นครีมซอสเห็ดและเบค่อน ใครชอบรสครีมมี่มันๆเข้นข้นๆ และชอบทานเห็ด เมนูนี้ไม่น่าพลาดครับ
ส่วน ขนมหวานไม่พลาดที่จะมาลองชิม คาเฟ่ แคนทารี่ สาขาศรีราชา สาขานี้ คนเยอะมากกกกก ที่นั่งเต็มหมดเบย งั้นผมลองขนมเค้กจากในตู้ กับเครื่องดื่มนิดๆหน่อยๆปิดท้ายมื้อนี้ล่ะกัน
สรุปปิดท้ายกันสักนิด
Kantary Bay Hotel Rayong คำจำกัดความของที่นี่ คือ ห้องใหญ่ อยู่สบาย คล้ายบ้าน อาหารอร่อย และวิวทะเล ในราคาที่คุณจับต้องได้ ( กับราคาเริ่มต้นที่ปรมาณ 2000 บาท ในวันเสาร์อาทิตย์) ถ้าชอบอะไรหรูหรา ที่นี่อาจไม่ใช่ครับ
ป.ล."วันธรรมดา ที่ไม่....ธรรมดา" ซึ่ง ททท.จะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2557 นี้ห้อง suite 1 bedroom จะเปิดโปรที่ 2000
Café Kantary ร้านกิ๊บเก๋ บรรยากาศดี ขนมอร่อย หลากหลาย ราคาพอคบหาได้ และเบอรี่ตู้มๆ
ครัวไทยชายน้ำ อาหารไทยรสแซ่บสไตล์พื้นบ้านแท้ ราคาไม่ถูกไม่แพง ลองดูได้ครับ
Le Marin Mediterranean Restaurant พิซซ่าอร่อย ทำเลดี และ ราคาไม่โหดร้ายจนเกินเหตุ
Chakhrit Paksabuy Chart
วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.20 น.