สวัสดีค่ะ คราวที่แล้วได้รีวิวทริปภูเก็ตไว้ ภาค 1 แล้วก็หายไปนาน 3 เดือน
เนื่องจากคุณแม่เด็กจิ๋วติดภารกิจหลายอย่าง วันนี้จะต่อภาค 2 นะคะ ซึ่งคราวนี้ เด็กจิ๋วจะพาไปนอนเล่นสบายๆที่ศาลาภูเก็ตกันค่ะ
หลังจากเรากลับมาจากทัวร์เกาะไข่กันแล้ว จากนี้ไปเราจะไปนอนเล่นเย็นๆใจที่ศาลาภูเก็ตกันค่ะ
ความเดิมตอนที่แล้ว
[CR]เด็กจิ๋ว Chill Out @ ภูเก็ต ฟ้าใสปลายมรสุม ภาคตะลุยหมู่เกาะไข่มุกอันดามัน
http://pantip.com/topic/31270471
(ป.ล.รีวิวนี้เป็นการเดินทางเมื่อตุลาคม 2555 นะคะ ดองไว้เกินปีแล้ว ข้อมูลหรือประสบการณ์ที่เราเจอมา อาจจะไม่เป็นปัจจุบันนะคะ)กลับจากทัวร์เกาะไข่ครึ่งวัน เราก็รีบกลับมาที่ Blu Monkey ถึงกันเที่ยงกว่าๆ นัดรถมารับไปส่งที่ ศาลา ภูเก็ต หาดไม้ขาว
นั่งรถพักใหญ่ก็มาถึงแล้วค่ะ
ตอนมาถึง Lobby ที่ศาลาภูเก็ต คนเยอะมากๆ เพราะมีฝรั่งมารวมตัวกัน เพื่อขึ้นรถตู้ไปงานแต่งงานที่ศรีพันวา
เราต้องนั่งรอ Check in ประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นพนักงานก็มาพาไปห้องค่ะ
เนื่องจากห้องเราหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ทำให้โดนแดดบ่ายเต็มๆ ร้อนมากมายเลย
เราพยายามขอเปลี่ยนห้องเป็นห้องที่หันเหนือ หรือใต้เพื่อหลบแดด แต่ไม่สำเร็จค่ะ วันนี้ห้องพักเต็มทุกห้องเลย
เด็กจิ๋วไม่รอช้า รีบลงน้ำทันที จะได้หายร้อน
เด็กจิ๋วแรงดีไม่มีตก ขนาดตื่นแต่เช้าไปทัวร์เกาะไข่มาครึ่งวัน ตอนนั่งรถจาก Blu Monkey มาที่ศาลาก็ไม่ยอมหลับ ห่วงแต่จะเล่น มาถึงที่ ศาลาก็ยังมีแรงเล่นน้ำต่ออีก
ศาลาภูเก็ตนั้นตั้งอยู่บนหาดไม้ขาว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือๆของเกาะภูเก็ต
หาดไม้ขาว ทรายไม่ค่อยขาว แต่หาดยาวมาก และเทลง ค่อนข้างน่ากลัวกับการลงเล่นน้ำ และช่วงที่เราไป คลื่นค่อนข้างแรงทีเดียว
รีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนหาดไม้ขาว มีไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรีสอร์ท 5 ดาวแทบทั้งนั้น เช่น Renaissance ที่อยู่ติดกับศาลา หรือห่างออกไปหน่อย พวก JW Marriott, Anantara เป็นต้น
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว มาดูบรรยากาศยามเย็นริมหาดไม้ขาวกันค่ะ
ต่อจากนี้จะพาเที่ยวส่วนต่างๆของรีสอร์ทนะคะ
เริ่มจาก Lobby ตอนนี้ไม่มีคนเลย ไม่เหมือนเมื่อกลางวัน ฝรั่งแน่นจนไม่มีที่ยืนเลยค่ะ
แต่งแบบเก๋ๆด้วยสระน้ำล้อมรอบ
สระน้ำนี้ตอนกลางคืนน่ากลัวเหมือนกันค่ะ เราเห็นฝรั่งเดินตกน้ำลงไป ไม่รู้ว่าเมาหรือว่ามันมืดๆมองไม่เห็น ดีนะที่น้ำตื้นมาก
ทางเดินในรีสอร์ท ผ่านวิลล่าต่างๆ ซึ่งแต่ละหลัง กำแพงสูงมิดชิด ส่วนตัวมากๆ
ตรงนี้เป็นร้านของที่ระลึก
สปา
ส่วนของ Beachfront Bar น่านั่งมากๆ จิบเครื่องดื่มอร่อยๆ ดูพระอาทิตย์ตกตรงนี้ โรแมนติกสุดๆค่ะ
บริเวณห้องอาหารก็อยู่ต่อเนื่องกับบาร์ ซึ่งก็อยู่ริมสระน้ำใหญ่เหมือนกันค่ะ
บรรยากาศดีมากๆ ลมพัดเย็น กินข้าวไป ชมพระอาทิตย์ตกไป
เด็กจิ๋วก็มานั่งตรงนี้ตอนพระอาทิตย์ตก แต่ไม่ค่อยได้ชื่นชมเลยค่ะ มัวแต่ยุ่งกับการกินข้าวง่ะ
มีส่วนของห้องอาหารที่เป็น indoor ด้วยค่ะ เป็นระบบปิดและติดแอร์
ตอนเช้าเราก็มาทานอาหารเช้ากันในนี้ สาเหตุที่เสิร์ฟอาหารเช้าในนี้ ไม่เสิร์ฟส่วน outdoor เพราะหนีแมลงวันค่ะ (น้องพนักงานบอกมา)
สระว่ายน้ำอีกสระ อยู่ข้างๆสระใหญ่
กลับเข้ามาดูห้องพักกันบ้างนะคะ
ห้องของเราเป็น one bedroom pool villa suite เปิดประตู villa มาก็จะเจอกับภาพนี้ค่ะ
ตัวอาคารจะมีแค่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ส่วนห้องอาบน้ำ ห้องสุขา อยู่ outdoor ทั้งหมดค่ะ
ห้องนอน เตียงใหญ่นุ่ม นอนสบายค่ะ
บานประตูที่จะเข้าตัวบ้านมันเป็นบานแบบพับๆ มีข้อสียที่ทำให้หงุดหงิด ช่วงแรกๆเหมือนกันค่ะ
คือมันจะฝืดๆ ติดๆ เปิดปิดอยากพอสมควร แต่ตอนหลังเริ่มรู้จังหวะเริ่มง่ายขึ้นหน่อย
หัวเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่โตค่ะ
โต๊ะเขียนหนังสือข้างเตียง
พาออกมาเดินดูรอบๆบ้านนะคะ
มุมนี้ไม่ได้มานอนเล่นเลย เอาไว้ตากผ้าค่ะ หุหุ กลางวันแดดเปรี้ยงๆ เอาผ้ามาตากตรงนี้ แป๊บเดียวแห้งค่ะ
ชอบมุมนี้มาก มีโซฟาให้นั่ง เปิดพัดลมเพดาน ชิลๆหลับไปเลย
โคมไฟสวยๆ และโน่นนี่นั่น ในห้อง ให้หยิบจับเอามาเป็น prop ถ่ายรูปเก๋ๆ ได้
อ่างน้ำหินรูปไข่ใบใหญ่ อยู่ตรงนี้สะดวกมากๆ ขึ้นจากสระ ก็แช่อ่างต่อได้เลย สบาย
สระน้ำยาวดี ว่ายไปมาเหนื่อยเลย แต่สระที่นี่จะลึกเท่ากันหมด ไม่มีส่วนตื้นค่ะ
ห้องนั่งเล่นที่อยู่ต่อจากห้องนอน
มาดูอาหารเช้ากันบ้างค่ะ
เช่นเคยปะป๊ามาถ่ายรูปบรรยากาศห้องอาหารเช้าตั้งแต่ยังไม่สว่าง
เสร็จจากภาระกิจเก็บภาพตอนเช้าตรู่ ปะป๊าก็พาเด็กจิ๋วเล่นทะเล ต่อด้วยเล่นสระน้ำ แล้วก็มากินข้าวเช้ากัน
ห้องอาหารแน่นพอสมควร เพราะแขกเข้าพักเต็ม 100% เราต้องรอคิวโต๊ะพักนึงเลย
มีไลน์ Buffet เล็กๆ ค่ะ มีสลัด ผลไม้ น้ำผลไม้ นม ซีเรียล แล้วก็พวก cold cut ต่างๆ
อาหารเช้าที่นี่จะเป็นแบบให้สั่งและทำสดค่ะ จะไม่ได้วางในไลน์
ซึ่งบ้านเราชอบแบบนี้กันมากกว่าทำมาวาง เพราะอาหารจะใหม่ มาร้อนๆ อร่อยกว่าค่ะ
อาหารเช้าที่นี่รสชาติอร่อยทุกอย่างนะคะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราประทับใจที่นี่มากๆ
ความจริงเคยอ่านรีวิวไป มีสเต๊กหมูที่เราหมายมั่นจะไปชิมให้ได้
แต่ตอนที่เราไป เค้าตัดเมนูนี้ออกจากอาหารเช้าไปแล้ว ปะป๊าอดเลย
ขนมจีนแกงอันนี้อร่อยมาก
อิ่มหนำแล้ว ก็เดินย่อยชมสระน้ำกันก่อนค่ะ
สระว่ายน้ำที่นี่มี 3 สระเลยค่ะ สระแรกเป็นสระใหญ่อยู่หน้าห้องอาหาร สระนี้เป็นสี่เหลี่ยมธรรมดา ไม่มีลูกเล่นอะไร เด็กเลยไม่มาเล่นค่ะ
อีกสระก็ใหญ่ไม่แพ้กัน จะอยู่ถัดมา บ้านเราเล่นกันแต่สระนี้ เพราะมีส่วนตื้น ส่วนลึก
มี bubble jet มีจากุซซี่ มีบันไดให้เดินขึ้นลง เด็กจิ๋วชอบบันไดอันนี้มาก เดินขึ้นลงไม่รู้กี่รอบ
พอเรามาจับจองที่นั่งริมสระ พนักงานจะเอาผ้าเย็น และน้ำเย็นมาเสิร์ฟทันทีเลย ชอบ..น่ารักมากค่ะ
อยู่ที่นี่เด็กเล่นน้ำกันแทบทั้งวัน เล่นสระรวม แล้วไปต่อสระในห้องอีก
สระที่สามเป็นสระเด็ก ขนาดเล็กที่สุด มีน้ำพุด้วย
ทางเข้าห้องน้ำตรงสระว่ายน้ำ แต่งได้สวยเก๋มาก
ตอนกลางวันที่ชายหาดแดดร้อนมากทีเดียว
เด็กจิ๋วไปนั่งเล่นทรายใต้ต้นไม้อยู่แป๊บนึง ก็ไม่ไหว ต้องลี้ภัยกับห้องไปนอนดูการ์ตูนดีกว่า
หาดไม้ขาว ถึงแม้ทรายไม่ค่อยขาว แต่น้ำทะเลก็สีสวยใช้ได้
มาที่นี่ไม่ได้ออกไปไหนเลย 3 วัน 2 คืน กินอยู่ในรีสอร์ททุกมื้อ สะดวกกับเด็กๆ และเราไม่มีรถด้วย
หน้าตาอาหารที่เราหม่ำที่รีสอร์ท
เล่นน้ำ ขึ้นมากินข้าว แล้วกลับมาว่ายน้ำอีก เด็กจิ๋วสนุกสนาน มีความสุขมาก
อยู่กันเพลินๆ เผลอแว้บเดียวถึงคืนสุดท้ายแล้ว รุ่งขึ้นต้องกลับละ
เย็นวันที่สอง พระอาทิตย์ตกน้ำสวยงามมากๆ
บรรยากาศแบบนี้มีฝรั่งมานั่งดูพระอาทิตย์ตกกันเป็นคู่ๆ น่ารัก
เช้าวันที่สอง ยังคง enjoy กับอาหารเช้ากันอย่างมาก เมนูที่สั่งก็เหมือนๆเดิมกับเมื่อวาน
กินข้าวเสร็จเด็กจิ๋วก็ยังขอลงน้ำที่ห้องกันอีกรอบก่อนกลับเวลาไปเที่ยวนอนนอกบ้าน บ่อยครั้งจะอยากกลับบ้าน และดีใจเมื่อได้กลับบ้าน
มีไม่กี่ที่ที่เราไม่อยากกลับเลย ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น เด็กๆยังอยากเล่นน้ำกันอยู่เลย ได้เวลากลับซะละ
อาลัยอาวรณ์มาก ต้องจากไปแล้วศาลาภูเก็ต
เด็กจิ๋วบ้าย บายไปก่อนนะคะ และจะพยายามมีรีวิวอื่นๆ มาให้ชมกันอีกนะคะ
อย่าเพิ่งลืมเด็กจิ๋วกันนะคะ หายไปบ้างไรบ้าง แต่ก็ยังอยากมารีวิวให้เพื่อนๆชมนะคะ
(ช่วงนี้พลังในการรีวิวของแม่หดหาย เลยทำให้เด็กจิ๋วเงียบหายไปจากบอร์ดซึงเป็นความผิดของแม่คนเดียวค่า )
แล้วเจอกันรีวิวหน้านะคะ
Dek Jew Chill Out
วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.42 น.