สวัสดีค่ะ ทุกคน
📝ปีใหม่ที่ผ่านมาเรากับเพื่อนไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันครั้งแรก แบบงงๆ ฮาๆ เพราะเป็นทริปที่ปุบปับมาก ส่วนประเทศที่เราไปคราวนี้ก็คือ วังเวียง, ประเทศลาว บ้านพี่เมืองน้องของเรานั่นเอง
ชื่อทริป “ไผตั๋วกูมาวะ” นี้ก็ได้มาจากคำพูดที่เรากับเพื่อนบ่นกันบ่อยๆ เพราะ โดนหลอกบ้าง เจออะไรมากมายสารพัด เลยตัดสินใจเอาวะ ใช้ชื่อนี้แหล่ะตั้งชื่อทริป สำหรับเราโดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า ทริปนี้สนุกและมันส์มาก บ้านเขาสวยจริงอะไรจริง อยากรู้ต้องไปลอง อย่าให้ไผตั๋วได้เด้อ....
แต่ยังไงก็แล้วแต่ ขอออกตัวก่อนเลยว่า สำหรับใครที่ไม่ชอบความลำบาก ไม่แนะนำให้มานะจ้ะ เดี๋ยวจะไม่สนุกเอา
****ส่วนสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับทริปนี้เลยก็คือ
- Passport ใครไม่มีก็ไปทำเด้อ (ห้ามลืมเด็ดขาด)
- ผ้าปิดปากก็ต้องพกไปนะ เพราะฝุ่นเยอะมาก
- หมอนรองคอ นั่งนานก็ต้องหลับเป็นธรรมดา พกมาด้วยนะคะ
- ผ้าอนามัยแบบสอด ถ้าใครเป็นวันนั้นของเดือนแนะนำพกติดตัวไปด้วย รับรองไม่ว่าจะเล่นน้ำ พายคายัค สบายบรื๋อออ~
📝ค่าใช้จ่ายต่อคน (ไม่รวมของฝาก)
- ค่ารถ (ขาไป)
รถบัส : ขอนแก่น - นครหลวงเวียงจันทน์ 180 บาท
รถตู้ : เวียงจันทร์ - วังเวียง 300 บาท
- ค่ารถ (ขากลับ)
รถบัส : วังเวียง - อุดร 100,000 กีบ = 400 บาท
รถบัส : อุดร - มหาสารคาม 130 บาท
- ค่าที่พัก 2 คืน คืนละ 580*2 = 1160 บาท
- ค่าเช่ารถ 50,000กีบ (ตกคนละ 25,000 กีบ) / ค่าน้ำมัน 10,000 กีบ (ตกคนละ 5,000 กีบ
- ค่าเข้าชมสถานที่ + กิจกรรม
ผาอะไรก็ไม่รู้โดนเขาหลอกไป 10,000 กีบ
ผาเงิน 10,000 กีบ
ค่าข้ามสะพานแม่น้ำซอง รถมอไซค์ 10,000 กีบ (ตกคนละ 5,000กีบ)
ค่าเข้าบลูลากูน 1 10,000 กีบ
ค่าเสื้อชูชีพ 10,000 กีบ
ค่าเข้าชมสะพานส้ม 10,000 กีบ
ค่าพายเรือคายัค 100,000 กีบ
- ค่าอาหาร + เครื่องดื่ม
เฝอร้าน Friendship restaurant 15,000 กีบ
เฝอร้าน น้ำฝน 20,000 กีบ
แซนวิช 10,000 กีบ/ 25,000 กีบ แล้วแต่ไส้ที่สั่ง
มันนึ่ง 10,000 กีบ
น้ำขวดใหญ่ 5,000 กีบ (ตกคนละ 2,500 กีบ)
เบียร์ลาวกระป๋อง 15,000 กีบ
- ค่าผ่านด่าน 50 บาท (ตอนไปไม่ได้จ่ายแต่ขากลับได้จ่าย งงเหมือนกัน) 😂😂
*** แนะนำพกน้ำ ขนม มาม่ากระป๋องไปด้วย ประหยัดขึ้นเยอะเลย ****
—> งบไม่เกิน 3500 บาท/คน
• เราแลกเงินคนละ 2,000 บาท ไปใช้ที่วังเวียงแต่ไม่หมด เหลือกลับมาแลกคืนด้วย
ปล. Rate ที่เราแลกอยู่ด่านลาว 1 บาท = 267.13 กีบ
แต่‼️ พอมาที่วังเวียง 1 บาท = 250 กีบ ท่องไว้ 1,000 กีบ = 4 บาท
ปล. รูปที่มีวันที่ถ่ายจาก action cam ลืมเปลี่ยนวันที่ ไม่ต้องไปสนใจมันนะคะ 😂
มาเริ่มกันเล้ยยย....
เริ่มออกเดินทาง
4 มกราคม 2562
ขอนแก่น - นครหลวงเวียงจันทน์ ค่ารถ คนละ 180 บาท เป็นตั๋วแบบวันต่อวัน มีรอบเดียวเท่านั้น คือ 08.15 น. เกือบ 8 โมง เขาถึงจะเปิดขายตั๋วนะจ๊ะ
ปล. ใช้พาสปอร์ตซื้อเด้อ...
รถคันที่ขึ้นไปเป็นแบบนี้เด้อ
เนื่องจาก ภาพที่ด่านไม่มี เพราะมันวุ่นวายมาก เลยขอต่อในนี้เลยแล้วกัน
พอไปถึงด่านหนองคาย เขาจอดจะให้เราลงไปต่อคิว ปั๊มพาสปอร์ตขาออกจากประเทศไทย (พนักงานไม่ได้แจ้งเลยว่าต้องทำยังไงบ้าง) พอเข้ามา เขาจะมีพนักงานตรวจพาสปอร์ตและปั๊มให้ แต่เราเลือกเดินไปทางเครื่องสแกนแทน เพราะเห็นคำว่า “หนังสือเดินทางไทย” ด้วยความที่ออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก และ อ่านรีวิวมาน้อยเลยทำให้ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง เลยตัดสินใจดูคนก่อนหน้าเขาว่าเขาทำยังไงแล้วก็เลยทำตาม วิธีทำก็ไม่ยาก แค่เปิดหน้าแรกของพาสปอร์ตที่มีรูปเรา เราวางทาบที่เครื่องสแกน รอจนเครื่องบอกให้เอาออก แล้วประตูก็จะเปิดให้เราเข้ายืนตรงจุดสีเหลืองเพื่อรอถ่ายรูป จากนั้นก็สแกนนิ้วมือ เสร็จแล้ว ก็เดินไปให้เขาปั๊มให้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเดินไปขึ้นรถได้เลย (ถ้าไม่เข้าใจไม่ต้องห่วง สังเกตป้ายแนะนำ หรือ ไม่ก็ทำตามคนข้างหน้าเอาก็ได้ นอกจากนี้ก็มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอยู่ด้วย)
และพอไปถึงด่านลาวเขาก็จะให้ลงไปปั๊มพาสปอร์ตเข้าเมืองอีกครั้ง เดินไปเลี้ยวขวาจะมีคนต่อคิว รอปั๊มพาสปอร์ต พอเสร็จแล้ว เรากับเพื่อนก็ไปแลกเงินคนละ 2000 บาท ได้เป็นเงินลาวคนละ 5 แสนกว่ากีบ (ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยจับเงินแสนสักที ได้จับก็วันนี้แหล่ะ) เศรษฐีเงินแสนเลยมั้ยหล่ะ 😂😂
Rate : 1 บาท = 267.13 กีบ
(เพราะรีบอีกแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายรูป ดีที่หยิบใบนี้มาด้วย)
จากนั้นเราก็ไปซื้อซิมลาว ของค่าย Unitel
ไปที่ร้านบอกเขาเลยจะซื้อซิมลาว แพคเกตแบบไหน เขาก็จะเอาโทรศัพท์เราไปใส่ซิม สมัครเน็ตให้เรียบร้อยเลย พวกเราเลือก ซื้อซิมเดียว เป็นแพคเกต แบบ 3 วัน เอา มาแชร์กัน
ค่าซิม 10,000 กีบ ค่าเน็ต 10,000 รวมเป็น 20,000 กีบ หารกันได้คนละ 10,000 กับ
พอซื้อเสร็จกำลังจะไปขึ้นรถ รถก็ขี่ออกไปเฉยเลย เรา 2 คน ได้แต่มองหน้ากันแล้วรีบวิ่งตามรถไป โชคดีมากที่รถออกไปไม่ไกลมาก และคนขับเห็น เราเลยขึ้นทัน เอาหล่ะสิแค่เข้าด่านลาวก็โดนทิ้งซะแล้ว ต่อไปสิเป็นจั่งได๋น้อ 😂
บอกแล้ววว #ไผตั๋วกูมาาา
จากนั้นก็นั่งยาวมาจนถึงเวียงจันทน์ ตอนลงคนจะรุมมากต้องตั้งสติดีๆเด้อ
พอลงรถ เราก็ไปซื้อตั๋วรถตู้ไปต่อวังเวียง ราคาคนละ 300 บาท รถออกตอน 14.30 น. ตอนแรกก็นึกในใจ ทำไมมันแพงอะไรขนาดนั้น แต่พอได้ขึ้นรถไปวังเวียงเท่านั้นแหละรู้เลย 😂
ขอคั่นด้วยภาพนี้ เพราะตลอดทางมามันน่าตื่นเต้นมาก อยากให้ไปลองเอง นี่เป็นเงินบางส่วนที่แลกมา
ปล. ใช้ไปแล้วถึงนึกได้ว่าต้องถ่ายรูป
ถึงแล้ว “วังเวียง” อยู่ๆ จะวาร์ปมา วังเวียงเลยก็ได้หรอ 😂😂 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงได้ ถึงวังเวียงประมาณ 19.00 น.
นี่คือ V - Town walking Street อารมณ์ก็จะคล้ายๆไนท์ แต่ส่วนมากจะเป็น เสื้อผ้า ของฝาก มาขายซะส่วนใหญ่
ตอนมาถึงก็เดินหลงอยู่นี่ ตั้งนานสองนาน เพราะดูแผนที่ไม่เป็น เลยเดินไปถามทางไปที่พักกับคนแถวนั้น บอกไม่ตรงกันสักคน....
📍ที่พัก : Sout Jai Guest House & Restaurant
ในที่สุดก็มาถึงที่พัก เช็คอินอะไรเรียบร้อย เจ้าของใจดีมากกก ลูกเขาก็งานดีเด้อ
ที่พักของเราจองจาก Agoda เลือกจ่ายที่โรงแรมเอา ราคาคืนละ 580 บาท พัก 2 คืน จ่ายเป็นเงินไทยได้นะจ๊ะ
เตียงนุ่มมากกกกก (ห้องแอร์เด้อ แต่ตอนกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็นเลยไม่ได้เปิด)
เยื้องๆ ที่พักเราก็จะมี K- Mart
ของกิน เครื่องดื่ม ซื้อได้ที่นี่ แต่ก็จะแพงหน่อย
แนะนำพกมาด้วยดีกว่า
****สำหรับใคร ที่เป็นวันนั้นของเดือน แล้วอยากเล่นน้ำแต่ไม่ได้พกผ้าอนามัยแบบสอดมา ก็ซื้อที่นี่ได้นะ ราคาประมาณ 50,000 กีบ
ในคืนนั้นเลย เราก็ไปหาซื้อตั๋วกลับบ้าน สามารถเดินหาได้เลยตามร้าน One day trip
พวกเราเลือกกับบริษัทTCK อยู่ถนนเส้นเดียวกับโรงแรม Amari 300 เมตรได้
รถวังเวียง - อุดร มีวันละรอบเด้อ รถออก9.30 น. ดีตรงที่มี รถตุ๊กๆมารับเราที่หน้าโรงแรมประมาณ 9.00น. ราคา 100,000กีบ/400 บาท
ปล. สำหรับ ใครที่ชอบไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ก็แนะนำ ซื้อ One day trip เลยสะดวก (บริษัทนี้ มีข้าวเที่ยงให้ด้วยเด้อ รวมอยู่ในค่าทริปนั่นแหละ ไม่ได้รับการสปอนเซอร์แต่อย่างใด😂😂😂) แต่ถ้าใครสายแว้นซ์ก็แนะนำขี่มอไซค์เองนะจ๊ะ ราคาก็ไม่ต่างกันมาก ส่วนพวกเราเลือกเที่ยวเองจ้า
📍Friendship restaurant ซอยเดียวกันกับซากุระบาร์
จากนั้นก็เดินไปหาข้าวกินกัน จนมาเจอร้านนึงคล้ายๆกับร้านที่พี่บาส Go went Go มา เราเลยรีบเช็คใน YouTube แล้วก็ใช่จริงๆ
เลยตัดสินใจกินที่ร้านนี้ละกัน 😂😂 ตามไอดอลมากินข้าวที่แท้ทรู
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กของลาว และ เฝอ ราคาชามละ 15,000 กีบ
รสชาติของเฝอ เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวกับก๋วยจั๊บ กินเสร็จเราก็ไปเดินถนนคนเดินแล้วก็เข้านอนเลย เพราะเหนื่อยมากกก
Day 2 เช้าแรกที่วังเวียง
5 มกราคม 2562
บรรยากาศยามเช้าจากที่พัก
สายๆ ก็ออกมาเดิน หาเช่ามอไซต์ คุยกันไว้ว่า ร้านไหนเปิด ร้านนั้นก็ได้เงิน 5555
บรรยากาศดีมากจริงๆ เห็นภูเขาแล้วชื่นใจ
📍 Chicken Travel
ในที่สุด... ก็มาเจอร้านนี้
ตอนแรกจะเอารถคลิ้ก แต่เจ้าของร้านแนะนำว่าสกู๊ปปี้ จะขับง่ายกว่าเพราะมันไม่สูงมาก
จัดไป 1 คัน ค่าเช่า 50,000 กีบ คืนรถตอน 1 ทุ่ม
ปล.ใช้พาสปอร์ตเช่าเด้อ ทางร้านจะเก็บพาสปอร์ตแเราไว้ พอเราเอารถมาคืน เขาก็จะคืนให้
ร้านนี้หาไม่ยาก อยู่ตรงข้ามกับ Labieng Vang Vieng Restaurant เลยงับ
🛵🛵ตอนเช่ารถ เขาจะให้หมวกกันน็อก และ แผนที่มา 1 แผ่นตามนี้ ดูไม่เป็นเท่าไหร่ ถามทางคนแถวนั้นเอา
เห็นรถเรามั้ย สกู๊ปปี้ไอคันนั้น
พอเช่ารถเสร็จก็พากันขี่รถไปเติมน้ำมัน 10,000 กีบ (หารคนละ 5,000 กีบ) หมื่นเดียวขี่ทั้งวันเอาอยู่
เติมน้ำมันเสร็จแล้วก็ขี่ไปหาอะไรกินจนมาเจอร้านนี้
📍 NamFhon Delicious Meat, Hot Pot
ร้านนี้ อยู่เยื้องจากร้านเช่ารถไม่ไกลมาก
ของที่สั่งก็คือ....
เฝอ~ อีกแล้วครับท่าน
ชามละ 20,000 กีบ เด้อ
**คำเตือน** พริกร้านนี้ค่อนข้างเผ็ด อย่าใส่เยอะนะ
กินเสร็จเรามีแพลนไปปีนผาเงินกัน แต่....ก็มีเรื่องเกิดขึ้น จนต้องร้องว่า #ไผตั๋วกูมาาา
เรื่องมันมีอยู่ว่า....
ขณะที่พวกเรากำลังเดินทางไปผาเงินกัน ด้วยความที่ดูแผนที่ไม่เข้าใจ เลยถามทางเขาไปเรื่อยๆ จนไปเจอน้อง 2 คนกำลังปั่นจักรยานอยู่ เลยขี่เข้าไปถามว่า ผาเงินไปทางไหน น้องก็ตอบมาเป็นภาษาลาวว่า “กำลังจะไปทางนี้พอดี ตามมาๆ” พวกเราก็เชื่อ ขี่ตามน้องมา ก็ไม่ได้เอะใจว่า ทำไมไม่ค่อยมีคน จนมาถึง ป้ายบอกว่า ค่าเข้า 10,000 กีบ น้องทั้ง 2 จอดรถ บอกว่า “พี่ต้องจ่ายค่าเข้าก่อนนะ” แล้วน้องก็เอาไฟฉายมาวาง และเขียนตั๋วใบที่เห็นให้... สรุปน้องมาขายของจ้า
เราก็ถามนะเว้ย ว่ามาเดินเล่นหรอ น้องก็บอก “อื้ม” ได้หรออว้าาา โดนไปเลยจ้าคนละ 10,000 กีบ
#ไผตั๋วกูมาาาา
ค่าเสียหายโดนไปคนละ 10,000 กีบ
แต่เพราะได้เสียเงินไปแล้วพวกเราเลยเดินไปดู แต่ก็ไม่มีวี่แววของนักท่องเที่ยวเลยสักคน
ทางเดินไปทางนั้น มันดูน่ากลัวแปลกๆ เราเลยตัดสินใจถ่ายรูป แล้วเดินออกมา
จนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่า ผานี้มันมีจริงมั้ย
น้องเขาก็ชี้ให้ดูนะว่า มันมีกระท่อมให้ขึ้นไป แต่ด้วยความที่ไม่มีคนเราเลย ไม่พากันขึ้นไป
แอบเฟลนิดนึงเพราะ ตั้งใจจะไปผาเงิน แต่โดนหลอกมาผาอะไรไม่รู้แทน ก่อนจะขับรถออกไปก็ถามน้องนะว่า ปกติมีคนมามั้ยเนี่ย น้องก็บอกเยอะ เราสองคนมองหน้ากันแล้วออกไปเลย
****คำเตือน****
ถ้าจะถามทาง แนะนำให้ถามคนที่นั่งอยู่ในร้านหรือบ้าน ไม่ควรถามคนที่กำลังจะไปทางเดียวกับเรา อาจโดนแบบนี้ก็ได้นะ****
มาเที่ยวกันต่อดีกว่า~
คราวนี้มาถึงผาเงินจริงๆแล้ว 😂😂 เอาจริงๆ ขี่เลยจากแยกที่โดนหลอกเข้าไปนิดเดียวเองนะ มันจะมีป้ายบอกเลย...
📍ผาเงิน
ในที่สุดก็มาถึงผาเงินของจริง!!!
เสียค่าเข้าคนละ 10,000 กีบ ตอนเดินมาถึงทางเข้าจะมีน้องๆ มาถามว่า เอาไกด์มั้ย แบบเดินมารุมเลยจ้าา เราไม่เอา เพราะดูรีวิวมาเขาก็ขึ้นไปกันเองได้
บรรยากาศรอบๆ
พักเหนื่อย ถ่ายรูปให้คุณเพื่อนแป๊บ
พักเหนื่อยแป๊บ~
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงใส่ยีนส์ไปปีนเขา 😂😂 คิดแต่ว่าเดี๋ยว ไม่มีรูปสวยๆ เพราะเราต้องปฏิบัติต่อผาเงินอย่างยำเกรง
**แนะนำ** ใส่ขาสั้นไปปีนเขาเถอะ
คนอื่นอาจจะคิดได้ แต่เราคิดไม่ได้ไง เลยเป็นแบบนี้
คุณเพื่อนถึงกับต้องดมยาดมเลยทีเดิม แต่เห็นแบบนี้ เดินเร็วกว่าเราอีกนะจะบอกให้ 😂😂😂
ฮอดไป่ เมื่อยแล้วเด้~
เดินมาตั้งนานก็เหนื่อย ชวนกันแต่ว่า ป่ะกลับเถอะ แต่ขาก็ก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ
ตรงนี้เป็นจุดพัก ตอนที่เราไป มีลมเย็นๆ พัดออกมาด้วย
ต่อด้วยขึ้นสะพานไม้ ไม่ต้องห่วงแข็งแรงอยู่ ขึ้นมาแล
ยิ่งสูงยิ่งสวยนะยูววว~
ตรงนี้จะมีทางแยก 2 ทางให้เลือกระหว่าง 50 m กับ 400 m ทายสิเราเลือกทางไหน??
แน่นอนก็ต้อง 50 m อยู่แล้ว เขาบอกมาว่าทางมันชันนะ
แต่ก็ไม่คิดว่าจะชัน ขนาดนี้~~ ลื่นมากต้องเดินระวังๆ
เดินต่อ อีกอึดใจเดียว
ถึงแล้วววว
Finally, we made it . Yayyy!!
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการขึ้นมาจุดชมวิวที่ 1 นี้ ที่จริงอยากไปต่อ แต่ไม่ไหวแล้ววว~
ไม่คิดว่าตัวเองจะขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ ประสบการณ์ปีนเขาครั้งแรก วิวมันสวยมาก ทำเอาหายเหนื่อยเลย
ถ้ามาเช้าๆ จะสวยกว่านี้อีก จะเห็นหมอกยามเช้า แต่พวกเรามาถึงนี่ ประมาณ เที่ยงวัน 5555 โชคดีที่วันนี้เมฆเยอะ เลยไม่ร้อนเท่าไหร่
แชะกับบรรยากาศสวยๆ ขออนุญาตคุณเพื่อน
หิน + ภูเขา + ต้นไม้ = ธรรมชาติที่สวยงาม
ที่จริงตรงจุดชมวิวนี้ จะมีกระท่อมให้นั่งพักด้วย แถมยังมีร้านส้มตำอยู่บนเขาที่สูงขนาดนี้ 🤤 คิดแล้วน้ำลายสอ
ถามว่า เหนื่อยมั้ย ให้ภาพมันเล่าเรื่อง หมดสภาพจริงๆ
โขดหินบนผา ดีงามมม จากนั้นเราก็ลงเขากัน ใช้เวลาแป๊บเดียวเอง แค่ 30 นาที ก็ถึงข้างล่างแล้ว แต่ทางค่อนข้างชันและลื่น ระวังด้วยนะคะ 🤗
พอลงจากผาเงิน เราก็เปลี่ยนชุด เดินทางไปบลูลากูน กันต่อ
ขอเปิดวาร์ปเลยละกัน
ถึงแล้ว~
📍บลูลากูน 1
ถามพี่ชาวลาวเขาบอกว่า บลูลากูน 1 เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ส่วน 2 และ 3 เขาสร้างขึ้น
เสียค่าเข้าคนละ 10,000 กีบ
คุ้มมมม เข้ามาแล้วปริ่มมาก มันดีจย์
พอเอารถมอไซต์ไปจอด เขาจะให้บัตรแบบนี้มา 2 ใบ อันนึงติดตัวไว้ อีกอันแขวนไว้รถเรา ฝากฟรีเด้ออ
เอ้าโดด ~
ปล. บลูลากูนขาวมากกก อปป้าค่อนข้างเยอะ ฝรั่งมีนิดหน่อย สายฝอไปอาจจะผิดหวัง 555
น้ำใสและเย็นจริงงง คอนเฟิร์มม~
น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา
เราลงเล่นน้ำยุเด้อออ ถ่ายแต่วิดีโอเอาลงบ่ได้
ใครว่ายน้ำไม่เป็นมีชูชีพให้เช่า ตัวละ 10,000 กีบ
ปล. แนะนำพกกระเป๋ากันน้ำไปด้วย เราซื้อจาก Shopee 130 เอง ขนาด 10L
ถ้าไม่ใส่กล้องแนะนำ 5L พอเด้อ
รูปไม่เยอะ มัวเล่นแต่น้ำ กล้องแบตก็หมด 555
จากนั้นก็เดินทางต่อไปถ้ำจัง ตอนแรกจะไป บลูลากูน 2 กับ 3 ด้วย แต่กลัวไม่ทันเลยตัดออก
เดินทางไปถ้ำจังกัน~
ระวังขี่ผิดเลนส์นะ เราขี่ผิด ตั้ง 3-4 รอบ 5555
โรเบโต้~ เราต้องปฏิบัติต่อน้องอย่างยำเกรง
ถึงแล้ว~
📍ทางเข้าถ้ำจัง
เสียค่าเข้าคนละ 5,000 กีบ
สะพานส้ม แลนด์มาร์คสำคัญของวังเวียง
สวยจริงง บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ
ที่เห็นนี้คือแม่น้ำซอง มองลงจากบนสะพานคือสวยมาก บางทีก็จะมีนักท่องเที่ยว ขี่เรือหางยาวชมเมืองผ่านมา
สวยจริง ต้องรีบถ่ายเดี๋ยวคนมา
หิวมากจน ต้องซื้อมันนึ่งแถวสะพานส้มกิน จัดไป 10,000 กีบ
ปล. เกือบทุกอย่าง 10,000 กีบ อย่างต่ำ 5555
เดินไปเดินมาสักพัก ก็ขี้เกียจเดินเข้าถ้ำ เลยถ่ายรูปข้างนอกสักพักแล้วก็ขี่มอไซค์เข้าหมู่บ้านเลย
ไปไหนหน่ะหรอ ก็ไปซื้อทริปพายคายัคไงง~
Private เวอร์ เสียไปคนละ 100,000 กีบ พายอยู่ 2 คน
ปล. ถ้ามีคนเยอะจะถูกลงอีกนะ
📍Vang Vieng Organized Tour
นี่เป็นร้านที่เราไปซื้อทริป อย่างที่บอก one day trip สามารถเดินหาเองได้เลย ร้านนี้ก็ขายเหมือนกัน รายละเอียดด้านบนเลยงับ
เดินทางไปพายคายัคกันนน~
บรรยากาศมันดีจย์จริงนะคะทุกคน
วิวมันดีมาก เพลินเลย
แม่น้ำที่เห็นนี้ก็คือ แม่น้ำซองนะคะ พายเรือยาวๆไป 10 km
เนื่องจากว่า พวกเราทั้ง 2 คน พายเรือไม่เป็นเลย พี่เขาเลยให้ลงเรือลำเดียวกันทั้ง 3 คน เพื่อนเรานั่งหน้า ถือไม่พาย(ก็พายด้วยแหล่ะ555) พี่ไกด์ก็คุมหลัง ส่วนเราหน่ะหรอ นัางตรงกลางสบายๆ กินแรงเขาจ้า 555 แต่ก็ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอยุเด้อ บรรยากาศมันดีจริงๆ
ปล. ตรงนี้ไม่ค่อยมีรูปถ่ายมากนะคะ เพราะว่า กดถ่ายแต่วิดีโอ เดี๋ยวจะเอาลิ้งค์รีวิว ใน Facebook ลงให้นะคะ 👇🏼👇🏼
https://www.facebook.com/100002330808181/posts/2011713428916331/
ลิ้งค์ที่เอาให้เป็นรีวิว part 3 ตอนไปบลูลากูน1-สะพานส้ม-แล้วก็พายคายัค นะคะ มันมีวิดีโอด้วย ใครอยากเห็นก็กดเข้าไปได้น้าา
หลังจากเที่ยวมาทั้งวัน สนุกจนลืมกินข้าวเที่ยง
พวกเราเลยมาจัดแซนด์วิชไปกินที่ห้องพักกัน
น่าอร่อย ~ กลิ่นหอมมากเด้อ
ได้แล้วแซนด์วิชที่สั่ง จำไม่ได้แล้วว่าสั่งอะไรไป
จองเราอันซ้าย ราคา 25,000 กีบ ส่วนอันขวาของเพื่อน 10,000 กีบ
ตอนแรกนึกว่า จะเหมือนขนมปังฝรั่งเศสที่แข็งๆ แต่เปล่าเลย มันนุ่มมาก อร่อยด้วย จนกินเกือบไม่หมด
📍 V-Town Vang Vieng walking street
กินเสร็จก็พากันอาบน้ำแต่งตัวมาเดินถนนคนเดินซื้อของฝากกัน
ส่วนมากจะเป็นเสื้อผ้า และของฝากเล็กๆน้อยๆ
****อย่าลืม‼️
ต่อราคาเด้อ นี่พากันต่อแล้วต่ออีก ถ้าไม่ลดก็เดินหนีจนเขายอม 555
เรทก็อย่างที่เคยบอกไป 1 บาท = 250 กีบ
1,000 กีบ = 4 บาท จะได้ไม่สับสน
เจออันนี้ข้างทางมันสวยดี เลยถ่ายไว้ จำร้านไม่ได้แล้ว
ซื้อเสร็จก็เอาของไปเก็บแล้วก็ไป....
📍Sakura bar
สายแดนซ์ สายปาร์ตี้ต้องมา
เข้าไปก็จะมี welcome drink ให้ ด้วยความที่ไม่เคยกิน เลยจิบๆ แล้วกระดกอีกเดียวหมดเลย 5555
บรรยากาศข้างในก็จะประมาณนี้
ปล. บาร์เทนเดอร์งานดีมากกกก เป็น ฝอ 2 คน 😍
ลืมบอกไปว่า ที่ ซากุระบาร์ จะมี 3 โซน
โซนแรก ก็ตรงที่เราไปเอา welcome drink
โซนสอง จะเป็นเวทีให้ไปเต้นกัน
และโซนสาม เป็นที่นั่งชิว หลังร้าน
เหมือนเขาจะให้สูบบุหรี่ในร้านได้เลย คนส่วนมากก็เดินมาหลังร้านนี่แหล่ะ เราเกือบตาย 555
มีวิดีโออีกแล้ว เป็นบรรยากาศในร้าน แต่เอาในนี้ไม่ได้ เดี๋ยวท้ายๆจะลงลิ้งค์ให้นะคะ
เขยลาว??
ไม่ใช่ เบียร์ลาว ตอนแรกเข้าใจว่สเป็นชื่อยี่ห้อเขา แต่ไม่ใช่ มันคือเบียร์ลาวเด้อ
เบียร์กระป๋องละ 15,000 กีบ
ถ้าเป็นขวดเล็ก 20,000 กีบ ไม่ได้กินเยอะกลัววันกลับ ไม่ตื่น 5555 อยู่ถึง 5 ทุ่ม (รึเปล่าจำไม่ได้) ก็พากันกลับที่พักนอนแล้ว
Day 3 วันสุดท้ายแล้ว
6 มกราคม 2562
Bye bye 👋🏻วังเวียง
ตื่นมาเก็บของ รอรถมารับ ตอน 9.00 น.
ห้องเราก็วิวบอลลูนเด้อ (แต่ไกลหน่อย)
มองตาเปล่าสวยกว่านี้อีก กล้องเราทำได้แค่นี้ 😂
รถมารับแล้ววว รถอาจจะเลทหน่อยนะคะ ไม่ต้องกังวล เพราะเขาไปรับหลายที่
เขาจะไปส่งเราที่ บขส วังเวียง
กลับแล้วววว~
ที่นี่มันสวยมากจริงๆ ที่จริงอยากอยู่ต่อด้วยซ้ำ แต่การศึกษารออยู่ 😂 มีเรียนเช้าวันจันทร์~
📍 บขส วังเวียง
ถึงแล้ววว~ ตลอดทางที่มา อย่างที่บอกฝุ่นค่อนข้างเยอะ อย่าลืมผ้าปิดปากนะคะ
เขาจะให้เราไปกรอกรายละเอียด เซ็นต์ชื่อแหล่ะ เพื่อเปลี่ยนบัตรที่ซื้อมาจากร้าน
กลับรถคันนี้เด้อ วังเวียง - อุดร รถออก 9:30 น.
คือมันดีจย์มาก แอร์เย็น พนักงานบนรถก็ดี บอกด้วยว่าเราต้องทำอะไรยังไง ถึงไหนแล้ว
(ถ้าตอนมาเขาบอกเราบ้างก็ดีนะ 555)
กลับแล้วนะ ~
พอไปถึงจุดพักรถ ที่วังเวียง
เราสามารถแลกเงินได้ที่มินิมาร์ทตรงนั้นได้เลยนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาที่ด่าน
หมดแล้วเด้อรูป เพราะหลับตลอดทาง 555
ไปถึงอุดรประมาณ 16.20 น. แล้วต้องเดินออกจากบขส ไปซื้อตั๋วกลับสารคาม ที่หน้า central อุดร ราคา 130 บาท
เลยถามคนขายว่า รถรอบสุดท้ายหมดกี่โมงหรอคะ เขาบอกว่า 4 โมงครึ่งลูก
แต่เรารอประมาณ ครึ่ง ชั่วโมงถึงได้ขึ้น 555
#ไผตั๋วกูมาาา
📍บขส ขอนแก่น
นั่งมาตั้งนานยังไม่ถึงบ้านเลย
กว่าจะถึง ก็ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆ เพราะรถเติมแก็ส ใครขึ้น Pink bus เส้นเชียงยืนจะเข้าใจดี 😂😂
แล้วก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพประมาณ 3 ทุ่มเกือบ 4 ทุ่มได้ สูบแรงไปเยอะเหมือนกัน
นี่คือลิ้งค์ที่ว่านะคะ
https://www.facebook.com/100002330808181/posts/2013168008770873/
ก็จะมีบรรยากาศซากุระบาร์นิดหน่อย ใครอยากดูจิ้มเลย~
จบลงไปแล้วนะคะ สำหรับ รีวิววังเวียงไม่วังเวียง : ทริปไผตั๋วกูมา ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันจนมาถึงตอนจบ
คิดเห็นกันอย่างไร สนุกหรือไม่ คอมเม้นท์บอกได้เลยนะคะ
มารอดูกันว่า “ไผสิตั๋วเฮาไปเที่ยวไสอีก”
(ใครจะโกหกเราไปเที่ยวที่ไหนอีก) ฝากติดตามด้วยเด้อ
FYI : เผื่อใครไม่รู้ว่า ไผ กับ ตั๋วแปลว่าอะไร
ไผ = ใคร และ ตั๋ว = โกหก (ภาษาอีสานวันละคำสองคำ) 😂😂😂
ยังไงก็ฝากติดตาม IG : Itsjnfoxer ด้วยนะคะ 😂😂
ฝากทุกคนติดตามเพจด้วย
J. Journey - จ. เจอนี่
https://www.facebook.com/JorJourney
J. Journey - จ. เจอนี่
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.17 น.