หาดใหญ่ ไป ปีนัง .....>>>
สวัสดีครับเพื่อนๆ พบกับเขียดคุงอีกครั้ง วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆนั่งรถลงเรือ ไปเที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซียกันนะครับ ... ผมเชื่อว่าเมืองปีนังคงเป็น Destination หรือจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆคน และแน่นอนหากเรานึกถึงความวินเทจเราก็จะมีสถานที่ ที่สามารถตอบโจทย์เราได้อย่างเต็มที่ก็คือที่นี่เลยครับ ‘’Penang , Malaysia’’
#การเดินทางมาปีนัง (จากหาดใหญ่)
- ทางรถไฟ (สถานีชุมทางหาดใหญ่ / เปลี่ยนขบวนรถKTMที่ปาดังเบซา / ลงสถานีบัตเตอร์เวิต)
- ทางรถตู้ (สถานีขนส่งหาดใหญ่-ลีกาเด้น / ลงใจกลางปีนัง)
- ทางรถตู้2 (สถานีขนส่งหาดใหญ่ ลงด่านปาดังเบซา / ต่อรถไฟKTM / ลงสถานีบัตเตอร์เวิต)
- รถยนต์ส่วนบุคคล / รถบัสอื่นๆ
#การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
- Passport ของผู้เดินทางมีอายุมากกว่า 6 เดือน
- เงินริงกิต(Rm) หาแลกได้ทั่วไปตามร้านแลกเงิน
- แพลนท่องเที่ยวสำหรับตอบคำถาม ตม.
- ตั๋วการเดินทาง / เอกสารอื่นๆ
- หาเพื่อนร่วมทางสักคน หรือไปคนเดียวแบบอินดี้ๆก็ไม่ว่ากัน 5555
#ทำไมถึงเริ่มต้นเดินทางจากหาดใหญ่
จริงๆแล้วการเดินทางมายังปีนัง เราสามารถเดินทางได้จากหลายๆเส้นทาง ไม่ว่าจะจากกรุงเทพฯ จากภูเก็ต หรือหลายๆเส้นทางในประเทศไทยที่มีบินตรงมายังปีนัง ที่ผมเลือกเส้นทางจากหาดใหญ่ เพราะจริงๆแล้วบ้านของผมอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเดินทางโดยรถตู้เพียง 3 ชม.ก็มาถึงหาดใหญ่ และง่ายกับการเดินทางข้ามมายังปีนังมากๆครับ .....
จากหาดใหญ่อย่างที่บอกเราสามารถเลือกแผนการเดินทางตามความสะดวกของเราได้เลย ถ้าไม่อยากเสียเวลาต่อรถ นั่งรอบเดียวจบแต่จ่ายแพงกว่าเราก็สามารถเลือกเป็นรถตู้ได้ครับ ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 400 บาท (เคยนั่งปี57ที่ผ่านมา) , ถูกลงมาหน่อยคือเป็นการเดินทางโดยรถไฟทั้งหมด แต่เราต้องเปลี่ยนขบวน 1 ครั้งที่ปาดังเบซา แต่ด้วยเวลารถไฟที่ออกจากหาดใหญ่ไม่ค่อยสวยนักมีเพียงแค่ 2 รอบ เวลา 07:30 น. และ 14:00 น. เท่านั้น ค่าใช้จ่ายประมาณ 150 บาท รวม 2 ขบวน (ข้อมูลวันที่ 21 สิงหาคม 2562) , แต่ผมเลือกการเดินทางแบบที่สามครับ เดินทางแบบชิวๆ ไม่ต้องจองอะไรล่วงหน้าทั้งนั้น มาถึงตอนไหนขึ้นรถได้ทันที ไม่ต้องกังวลว่าหากมาถึงช้ารถจะรอไหม ค่าใช้จ่ายก็สามารถควบคุมได้เพียง 200 บาท ก็ถึงปีนังแล้วครับ ตามมาดูกันว่ามีขั้นตอนการเดินทางยังไงบ้าง ..... >>>>
#เริ่มต้นการเดินทาง
เริ่มต้นการเดินทางจาก สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (บขส.) ซื้อตั๋วรถตู้ที่ช่องขายตั๋วหมายเลข 43 ไม่มีการโทรจองใดๆทั้งสิ้น รถวิ่งทั้งวันคนเต็มแล้วออกเลย (ออกจริง) รถเริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 06:00 น. - 18:00 น.ตลอดวัน ค่าโดยสารจ่ายเป็นเงินไทย 50 บาทต่อคนครับ
ได้ตั่วมาแล้วครับ เป็นกระดาษใบเล็กๆเหมือนในรูปข้างบน จะบอกหมายเลขที่นั่งและเบอร์ของรถตู้ที่จะพาเรามาส่งยังด่านขาออกปาดังเบซา (หมายเลขที่นั่งในตั๋วเป็นเพียงการเขียนว่าเรามีที่นั่งในรถเที่ยวนี้จริงแต่ไม่มีการเรียงที่นั่งใดๆทั้งสิ้นเอาง่ายๆคือ Open Seat นั่นเอง มาก่อนเจ็บก่อน เอ้ย มาก่อนขึ้นก่อนครับ 5555
รถตู้คันนี้แหละครับที่จะขับพาเราไปส่งที่ด่านปาดังเบซา ใช้เวลาเดินทางจาก บขส.หาดใหญ่ ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ หากเกินนั้นแสดงว่ารถติดครับ 5555 ปกติรถจะขับออกจากบนถนนใหญ่ วิ่งผ่านอำเภอสะเดา หากโชคดีหรือเปล่า เจอคนขับที่มีประสบการณ์หน่อยหรือคนในพื้นที่ เขาก็จะพาเข้าทางลัด คดเคี้ยวหน่อยๆแต่ก็ถึงเร็วกว่ากำหนดแน่นอนครับ (เคยนั่งมาแล้ว) 😆
ลงรถตู้เรียบร้อย รถจะจอดบริเวณทางเข้าจ๊อบ Passport ขาออกจากประเทศไทย ตรงนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานสำหรับวันนี้ อาจเพราะเลยเวลาทำการของเจ้าหน่าที่ ตอนนั้น Imigrations (ตม.) อยู่แค่คนเดียว (เวลา 16:50 น.) ความจริงแล้วเขาอาจทำแค่ถึงเวลา 16:30 น.หรือเปล่า ??? นอกเวลาเป็น OT ผลัดเข้าเวณ ..... ไม่เป็นไร เราผ่านมาได้สบายไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ - อาจเป็นเพราะมีวีซ่าทำงานที่นี่ก็เป็นได้ครับ สำหรับนักท่องเที่ยวควรเตรียมเอกสารในกรณีโดนสุ่มถามนะครับ
ลืมบอกไป ว่าระหว่างจุดที่เราปั้ม passport ขาออก และจะไปปั้ม passport ขาเข้ามาเลเซีย ระยะทางห่างกันเอาเรื่องอยู่นะ เราไม่เคยเดินสักครั้งเพราะคิดว่าไกลและทำเอาเหงื่อแตกได้ง่ายๆ .... ผมขอแนะนำจะมีพี่ๆวินมอไซอยู่ตรงประตูทางเข้าปั้ม passport ฝั่งไทยเลย เขาจะคอยถามเราว่าให้ไปส่งไหม .... ให้เขาไปส่งเถอะครับ ถือว่าประหยัดเวลาได้มากเลยทีเดียว ส่วนค่าใช้จ่ายขึ้นวินมอไซ ตกลงราคากันก่อนขึ้นให้เรียบร่อยนะครับ ... #50 บาทไทยครับ ถ้าคุณได้ถูกกว่านี้ก็คือโชคดี(แต่ไม่เคยเห็นจะมี) แต่ถ้าคุณได้ราคาสูงกว่านี้ (โดนหลอกชัวร์) 5555 เขาจะคอยรับส่งเรา บริการประทับใจครับ .... อ้อมีให้แลกเงิน ไทย-ริงกิตด้วยนะครับ (เรทไม่เคยถามเพราะไม่เคยแลกคาบ)
ปั้ม passport เสร็จสรรพ ทั้งขาออกจากไทยและขาเข้ามาเล พี่วินก็จะพาเรามาส่งที่นี่ เป็นทางเชื่มเพื่อเดินขึ้นไปยังสถานีรถไฟ จอดรถแล้วจ่ายเงินพี่วินตามที่ตกลงไว้นะครับ (50บาทขาดตัว) แล้วก็อย่าลืมคืนหมวกกันน๊อคด้วยนะ 5555 ผมเผลอบ่อย ......
ทางสะพานลอยที่เราเดินข้ามไปจะเป็นทางลอดของรถไฟที่มาจอดที่สถานีต้นทางที่นี่ คือสถานีปาดังเบซา นั่นเองครับ เดินยาวๆไปเลยครับประมาณ 500-700 เมตร เดินไปสุดทางจะเจอทางเข้าชั้น 2 เดินตรงไปยังช่องขายตั๋ว เพื่อซื้อขึ้นไปยังสถานีบัตเตอร์เวิด ที่เราจะเดินทางกันในวันนี้ครับ
มาถึงหน้าช่องขายตั๋ว (Ticket Counter) บอกพนักงานไปเลยครับว่าไปลงบัตเตอร์เวิด (Butterworth) สำหรับรอบรถไฟ KTM คือวิ่งบ่อยมาก เท่าที่เดินทางมามีทุกครึ่งชั่วโมงครับ
และรถไฟก็มาจริงๆครับ รอประมาณ 10 นาที รถออกตามเวลาในตั๋วเป๊ะๆ ครับ อย่ามาสายแม้เพียงนาทีเดียว เพราะรถไฟไม่รอจ้า ..... คนเคยตกรถไฟมาแล้วไม่ถูกใจสิ่งนี้ 555
ใช้เวลาเดินทางจากสถานี ปาดังเบซา ไปยังสถานี บัตเตอร์เวิด ใช้เวลาประมาณ 2.10 ชั่วโมงโดยประมาณ (หากนานกว่านี้คือรถเสีย) เพราะที่นี่จะเป็นรางคู่เจอรถวิ่งสวนตลอดไม่มีจอดค้างครับหากใครไม่เคยนั่งแนะนำครับเร็วกว่าสปินเตอร์บขวนบ้านเรา จอดพักประมาณ 10 สถานี แปปเดียวก็ถึงแล้วจ้า
เมื่อถึงปลายทางสถานี บัตเตอร์เวิด ก็ลงจากบขวนรถ เดินตามๆกันไปครับ ทางออกมีทางเดียว จากจุดนี้ย้ำเลยนะครับว่า #ห้ามทิ้งตั๋ว เด็ดขาด เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะเก็บตั๋วเราไปบริเวณทางออก หากใครทำหายหรือยังไม่ได้ซื้อตอนขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ก็จะขายตั๋วให้เราใหม่และต้องจ่ายเงินอีกครั้งจ้า
เรายังไม่ถึงปลายทางครับ เมืองปีนั่งอยู่อีกไม่กี่ก้าวข้างหน้าแล้ว จากทางออกสถานีรถไฟ ให้เราสังเกตป้ายที่ติดอยู่ตามเสา (มีเยอะมากไม่ต้องกลัวหลง) ตามในรูปในกระดาษจะเขียนไว้ว่า ไปห้าง ไปแท๊กซี่ ไปเฟอรี่ เราก็เดินตามทางไปเลยครับ หากไม่แน่ใจก็ถามคนข้างๆได้เลย คนมาเลใจดีบอกไปเฟอรี่ เขาก็จะชี้มาเลย 5555
เราจะใช้การโดยสารข้ามจากฝั่งบัตเตอร์เวิดเพื่อข้ามไปยังฝั่งปีนัง จริงๆจะมีรถบัสวิ่งข้ามสะพานยาวๆไปด้วย แต่เราใช้บริการเฟอรี่ก็สะดวกเหมือนกัน ได้ฟิวส์คนละแบบและที่สำคัญถูกด้วย
เดินมาถึงบริเวณชั้น2 Penang Senctral ที่นี่จะเป็นศูนย์รวมของท่ารถบัส และรถเม ไปยังจุดต่างๆของปีนังและระแวกต่างๆของมาเลเซียครับ เราจะใช้บริการเฟอรี่ก็ต้องเดินมาซ์้อต๋วตรงจุดขายตั๋วบริเวณทางลงเรือครับ
ค่าโดยสารเที่ยวละ 1.20 Rm ต่อคน เคยอ่านมาว่าขากลับจากฝั่งปีนัง นั่งมายังฝั่งบัตเตอร์เวิต (ฟรีจ้าาาาา) ซื้อตั๋วเสร็จแล้วนั่งรอครับ เรือมาตรงตามเวลาไม่ล่าช้า (แต่ถ้ามีพายุไม่แน่ใจนะ) อิอิ
สายชิวคงถูกใจสิ่งนี้ เมื่อเดินขึ้นเฟอรี่มาแล้วก็ต้องรีบจับจองมุมต่างๆของเฟอรี่ เพราะได้ชมวิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ ผมชอบเดินทางเวลาเย็นก็ชิวไปอีกแบบครับ
เฟอรี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที แค่นั้นเอง และเราก็ถึงท่าเรือฝั่งปีนั่งแล้วครับ
จากนั้นเราก็เดินๆตามคนข้างหน้ามายังทางออกได้เลยครับ (มีทางออกเดียวไม่ต้องกลัวหลง) ฮ่าาาาาและบริเวณทางออก ก็จะพบกับท่ารถบัสไปยังจุดต่างๆของเกาะปีนังเช่นเดียวกันครับ
เลือกเอาได้เลยครับว่าปลายทางเราจะไปไหน นั่งรถเมสายไหนใกล้โรงแรมที่พัก หรือถ้าใครจะไปสนามบินก้จะมีสาย 401E ไว้ค่อยให้บริการ , หากจะไปตึกคอมต้า ใจกลางเมืองปีนังก็จะมีบริการรถเมฟรี เขียนข้างรถว่า CAT Bus
สายนี้คนขึ้นกันเยอะครับ และไม่ต้องกลัวว่าจะหลงไหม คนขับรถจอดปลายทางพอดีครับ และเขาจะเรียกเองว่าถึงแล้ว คอมต้า คอมต้า ลงได้เลยครับ ..... :smile:
...................................................................................................................
เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับการเดินทางแบบชิวๆ หรือแบบเหนื่อยกายแต่สบายใจ ( สำหรับผมนะ) 555 ไม่ต้องเสียเงินเยอะแต่ซื้อเวลาสำหรับคนชอบความเร็วไม่ได้ ........ ผมคิดว่าถ้าเรามีเวลามากพอ เราไม่จำเป็นต้องจ่ายอะไรแพงๆและเลือกเส้นทางที่เราชอบแบบนี้ได้
#สรุปค่าใช้จ่าย หาดใหญ่-ปีนัง (ไม่รวมค่ากิน) ต่อเที่ยว
1. ค่ารถตู้ หาดใหญ่-ปาดังเบซา 50 บาท
2. ค่าวินมอไซ ด่าน-ถานีรถไฟปาดังเบซา 50 บาท
3. ค่ารถไฟKTM ปาดังเบซา-บัตเตอร์เวิด 90 บาท
4. ค่าเรือเฟอรี่ บัตเตอร์เวิด-เกาะปีนัง 10 บาท
5.ค่ารถเม CAT (ฟรี)
รวมแล้ว 200 บาท เท่านั้น คุณก็สามารถไปเที่่้ยวต่างประเทศได้แล้ว
-------------------------------------------------------------
ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับพื้นที่แบ่งปันบันทึกการเดินทางของผม
แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้านะครับ จะไปที่ไหน ตามมาเที่ยวกับเขียดคุงเยอะๆนะครับ บ๊ายๆๆๆๆๆๆ
เซน เท่านั้น
วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 20.57 น.