~ Part I ~
กราบสวัสดีท่านสมาชิกที่น่ารักทุกท่าน เวลาแต่ละปีผ่านไวเหมือนกันตั้งแต่ผมหลงไหลการท่องเที่ยว มีแพลนเที่ยวในหัวเต็มไปหมดตลอดทั้งปี ถึงขั้นว่าเที่ยวจนไม่มีอันจะกินเลยดีกว่า ฮ่าๆ ถึงกระนั้นก็ยังไม่หยุด ของมันสนุก หยุดง่ายๆ ได้ไงเน๊าะ ต้องขอเกริ่นก่อนว่ารีวิวนี้ต้องแบ่งออกเป็น Part I และ Part II เพื่อให้อ่านได้ง่าย ไม่เป็นภาระอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจนทุกคนบ่นกันทุกค่าย
~ ทำไมต้องเชียงใหม่ ~
ช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นช่วงปลายหน้าฝนแล้ว เชื่อว่าหลายๆ ท่านเริ่มวางแผนไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว และเทศกาลปีใหม่นี้แน่นอน ออกตัวเลยว่าผมไปมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ (ช่วงปลายๆ ของหน้าหนาวปี 2019) แต่ดองไว้มาเขียนเอาปลายปีเผื่อใครอยากดูภาพ หรือศึกษาเส้นทางล่วงหน้าเผื่อวางแผนเที่ยวปลายปีนี้ เอ้า !!! เขียนเพลิน แล้วทำไมต้องเชียงใหม่หล่ะ ??
เหตุผลง่ายๆ ครับ..,
มัน "สวย"
ผมให้เหตุผลหลักไว้แค่นี้ ส่วนที่เหลือ เรามาดูไปพร้อมๆ กันดีกว่า สำหรับท่านใดยังไม่หนำใจกับรูปที่นำมาอวดกันสามารถรับชมเวอร์ชันวีดีโอแบบความละเอียด 4K !! ได้จากลิงก์นี้เลยครับ
~ Day 1 ~
แม่กำปอง
จริงๆแล้วผมมาถึงเชียงใหม่ตั้งแต่วันก่อนเดินทาง หาโรงแรมในเมืองพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วออกเดินทางเช้าของวันถัดมา ยานพาหนะที่ใช้เป็นรถยนต์ส่วนตัวของเพื่อนที่มีบ้านอยู่ที่เชียงใหม่ ใครอยากไปแบบนี้ลองหาร้านเช่ารถแถวนั้นดูนะครับ ออกเดินทางแบบ ตื่นกี่โมง ออกตอนนั้น (ออกจากโรงแรมประมาณ 8 โมง) ใช้เวลาเดินทางสักประมาณชั่วโมงนึงก็ถึงแล้ว หากใครชอบบรรยากาศเย็นๆ ขับรถ เปิดกระจกสัมผัสความชุ่มฉ่ำ บอกเลยว่าต้องมา !!
จริงๆ หมู่บ้านแม่กำปองเป็นหมู่บ้านที่สวยนะ เป็นบ้านไม้ซ้อนๆ กันบนเชิงเขาสลับกัน แต่ผมอาจบรรยายไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะผมเคยมาแล้วครั้งนึง อารมณ์มันเลยไม่ได้ ฮ่าๆ
พอมาถึงหมู่บ้านแม่กำปอง สิ่งแรกที่ทำคือ หาของกิน !! หิวหนักมาก ตื่นก็สาย >< ที่กินข้าวผมแนะนำเลยครับ ต้องไปที่โครงการหลวงตีนตก เท่านั้น !! ร้านอาหารราคาทั่วไป แต่ราคากับรสชาตรวมถึงบรรยากาศนี่ 5 ดาวไปเลยครับ ผมมาทานรอบสองละ แม้จะผ่านไปกี่ปีก็อร่อยไม่เปลี่ยน
บรรยากาศรอบๆ ข้างร้านอาหาร
อาหารพื้นเมืองครับ น้ำเปล่า !!!
หลังจากอิ่มหนำสำราญยังมีสวนให้เราเดินชมกันด้วยนะ มันจะมีสะพานไม้ กับถ้ำน้ำลอดที่เขาชอบมาถ่ายรูปแชร์ลง Facebook กันเยอะ
ภาพนิ่งผมไม่ค่อยได้ถ่ายมา อยากเห็นรับชมในวีดีโอนะครับ สวยดี
เอารูปใบไม้แห้งไปก่อนนะครับ ฮ่าๆ
หลังเดินชมโครงการหลวงเสร็จแล้ว สถานที่ต่อไปที่เราจะมุ่งไปคือร้านกาแฟที่อยู่สูงๆ จะได้เห็นวิวหมู่บ้านแม่กำปองแบบเต็มอิ่ม
และนี่คือภาพมุมสูงจากร้านกาแฟชื่อดังร้านหนึ่ง
จิบกาแฟไป ชมวิวไป
เรื่องบรรยากาศความชุ่มฉ่ำก็ประมาณว่าเรานั่งในห้องแอร์แต่ไม่ได้อยู่ในห้องหล่ะครับ เย็นสบาย วิวสวย คือแบบให้นั่งทั้งวันยังได้ เหมือนเราได้รีเฟรชความเฉาตัวเองนะ บางที่เราเหนื่อยๆ มาจากการเรียน เหนื่อยๆ มาจากงาน ถ้าเรายังอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ เรื่องเดิมๆ มันจะทำให้เราเครียด แต่ถ้าเราได้ออกมาเปิดหูเปิดตาภายนอก เสพบรรยากาศสวยๆ รับรองว่าได้แรงบันดาลใจกลับไปใช้ชีวิตต่อไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ
ละชื่อร้านนี่โชวร์หราเลย ไม่ได้ตังค์ซักบาท ฮ่าๆ
มันกันหลายๆ คนนั่งเม้าท์มอยสนุกหล่ะครับ ถ่ายรูปกันเพลินแน่นอน
เอ้อ อีกอย่างๆ ผมเพิ่งเคยเห็นว่ามีต้นไม้นี้ด้วย มันจึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านแม่กำปอง (มั้ง)
เอาหล่ะ ถือว่าผ่อนคลายพอตัวละ เดี๋ยวเราไปเดินเล่นชมหมู่บ้านกันครับ หมู่บ้านย่านนี่ส่วนมากจะเป็นร้านกาแฟและที่พัก ซึ่งๆๆๆๆ บางคนอาจคิดว่าความเป็นธรรมชาติหายไปแล้ว จริงๆ ไม่ใช่ครับ ร้านแต่ละร้านทำให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมือนเดิม สไตล์บ้านไม้ อากาศถ่ายเทสะดวกพร้อมวิวสวยๆ มุมถ่ายรูปเพียบครับ เดินถ่ายชิวๆ ได้ทั้งวัน
ร้านนี้ตอนผมไปดันปิด แต่ร้านสวย น่าเสียดาย ถ้ามีนางแบบน่าจะได้ภาพสวยๆ ไปเยอะเลย >0<
ถ้าเดินย้อนลงมาที่ตัวหมู่บ้านจะมีวัดแม่กำปองอยู่ ไฮไลท์อยู่ที่อุโบสถโบราณกลางน้ำ (ตอนผมไปไม่ค่อยมีน้ำ) ซึ่งตัวอุโบสถสร้างมากจากไม้สัก
บรรยากาศรอบข้างรายล้อมด้วยธรรมชาติ และตะไคร่น้ำ เนื่องจากมีความชื้นตลอดทั้งปี
เดินชมวัดไหว้พระได้สักพักนึง มองดูเวลา เอ้า !! จะบ่ายสองแล้ว ~ เวลาของความสุขนี่ผ่านไปไวจริงๆ ท้องก็เริ่มหิวแล้ว ได้เวลา Street food แถวนั้นละครับ
ไส้อั่ว
อันนี้น่าจะเป็นไส้อั่วเล็ก
อันนี้อะไรไม่รู้ มีไข่ อร่อยครับ
หลายๆ ท่านคงสงสัยว่าไม่คิดจะหาข้อมูลมาให้คนอ่านเลยใช่มั้ย ??? จริงๆ ใช่ เอ้ย !!! ไม่ใช่ครับ ผมอยากให้คนอื่นมาสัมผัสด้วยตัวเองมากกว่า เหมือนที่ผมไปเจอด้วยตัวเอง ตอนเดินหาซื้อของกินไม่รู้เลยอันไหนอร่อยไม่อร่อย แต่เอาเข้าจริงนะ อร่อยหมดครับ ..,
ม่อนแจ่ม
จะกินเพลินไม่ได้เพราะระยะทางระหว่างแม่กำปองไปม่อนแจ่มก็ไกลเอาเรื่อง (ประมาณ 2 ชั่วโมง) แต่ถึงกระนั้น "พี่บูม" คนขับรถของเราก็ฟิตปึ๋งปั๋ง เหยีบมิดจนถึงก่อนค่ำ (อยากรู้ว่า "พี่บูม" คือใครต้องไปส่องในวีดีโอครับ) ไอ่เราก็หลับตลอดทางจ้าาาาาา
พอไปถึงปั๊บ กะจะเก็บภาพตะวันตกดินสวยๆ แถวนั้นแต่ก็.., ฟ้าปิดครับ T_T
อีกอย่างฝุ่นควัน PM 2.5 รุนแรงมาก วิวที่ควรเห็นนี่ไม่เห็นเลย ระยะการมองเห็นน้อยมาก แต่ยังพอเก็บภาพธรรมชาติแถวนั้นมาได้บ้าง
ที่นั่นจะจัดสวนดอกไม้ไว้ให้ถ่ายรูป ค่าเข้าคนละ 20 บาท และช่วงนั้นเองฟ้าก็เริ่มเปิด มีแสงเย็นส่องนิดหน่อยให้ได้เก็บภาพสวยๆ มาให้ดูกัน (แสงนิดหน่อยจริงๆ ฮ่าๆ)
ตรงจุดชมวิวที่เขาไปถ่ายรูปกันเยอะจะมีกระท่อมอยู่หลังนึง ตั้งอยู่กลางสวนที่ถูกเก็บผลผลิตไปแล้ว คือถ้าได้แสงสาดเข้ามาจะสวยมาก น่าเสียดาย..,
ถึงเวลาต้องเข้าที่พักละครับ ไม่งั้นมันจะค่ำไป เดี่ยวหาไม่เจอ ฮ่าๆที่พักแถวนั้นก็เยอะเลยหล่ะ เอาเป็นว่าอยู่ติดๆ กันเลย แต่ต้องจองก่อนไปนะครับ เต็มก่อนแน่นอน
ที่ผมไปนอนก็เป็นแบบเต๊น กระโจมใหญ่ ข้างในน่ารัก มีห้องน้ำส่วนตัวแต่นอกเต๊นท์ เหมือนกางเต๊นท์ปลอมๆ หล่ะครับ ฮ่าๆ แต่ถ้าแนะนำคือเอาเป็นบ้านดีกว่าครับ ลมแรงเสียงดังตลอดทั้งคืน แต่ผมเห็นเขากางเต๊นท์กันจริงๆ ที่นั่นก็มีนะ น่าจะมีห้องน้ำรวมให้ คงหนาวน่าดู บรรยากาศหน้าเต๊นท์ก็ประมาณนี้
งานดีเลยหล่ะครับ เอ้ย !! วิวดี..,
ตกดึกความเงียบสงัดไม่ได้ครอบงำอย่างที่คิดไว้ กลับกลายเป็นความหนาวเหน็บจากลมพี่พัดกระทบกับผิวกาย หนาวจับใจเลยแหล่ะครับ
อาหารเย็นของพวกผมคือ หมูกระทะ !! โครตฟินนนนน เตาร้อนๆ ย่างหมูนุ่มๆ ฉ่ำเกินคำบรรยาย นั่งย่างหมูท่ามกลางลมหนาวเมืองเหนือ โอ้ยยยยย ฟินจนลืมถ่ายรูป !!! ฮ่าๆๆ ใครอยากสัมผสบรรยากาศกลับไปดูวีดีโออีกรอบนะครับ
บ้านและที่พักหลังอื่นๆ ก็เหมือนกันครับ นั่งย่างหมูกันสนุกๆ สนาน
บรรยากาศดีๆ แบบนี้ ได้จิบเบียร์กับเพื่อนๆ ได้อยู่กับคนรัก ได้อยู่กับครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่กับใครก็ทำให้เรามีความสุขได้เสมอ ผมเคยคิดไว้ว่า ผมไม่อยากทำงานประจำแล้ว ผมอยากมีความสุขอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ค้นหาความหมายของชีวิต ออกไปเผชิญโลกกว้าง มันคงมีอีกหลายๆ ที่แหล่ะ ที่รอให้เราไปค้นหา แต่พอกลับมาคิดดีๆ แล้ว... ถ้าลาออกไปจะเอาอะไรกิน !!! รีบเข้านอนครับ.., Good night
Day 2
หลายๆ คนตั้งใจตื่นเช้าาาา มาชมแสงอาทิตย์ยามเช้า สัก 6 โมงกำลังดี จิบกาแฟ ชมวิว แต่กับผมถือว่ายังเช้าไม่พอ !! ผมตั้งปลุกไว้ประมาณตี 4 เพื่อมารอเก็บภาพๆ นี้ ภาพเดียว
ทาง ช้าง เผือก ณ ม่อนแจ่ม
เป็นทางช้างเผือก VS แสงไฟ VS ฝุ่น PM 2.5
จริงๆ รูปนี้ผมใช้เวลาถ่ายค่อนข้างนาน แล้วยังไงหน่ะหรอ ?? มันก็เช้าแล้วไง นอนต่อคงตื่นสัก 10 โมงนู่นแหล่ะครับ
แสงเช้าที่สาดส่องเข้ามา เช้าวันใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ผมชอบเวลาช่วงนี้นะ เป็นช่วงหนึ่งของวันที่สวยมากๆ แต่แสงเงา ความสว่างๆ ของภาพที่เห็นมันเปลี่ยนไปไวมาก ราวกับเราได้อยู่บนสวรรค์เลยครับ
อันนี้มุมเดิมเลย แต่ถ่ายเวลาต่างกันนิดหน่อย สวยไปอีกแบบนะ
แสงตะวันเพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้า มีเวลาให้พวกเราอีกมากมาย ~ (ขออนุญาตเอาเพลงน้าแอ๊ดมาบรรยาย)
คราวนี้หล่ะครับ ได้เวลาผมรัวชัตเตอร์ ช่วง Golden hour ถือเป็นช่วงโปรดผมเลย แสงมันก็จะทองๆ สมชื่อ
เปลวเมฆก็จะทองๆ ด้วยเหมือนกัน อร่าม !!!
แล้วเวลาผมจะถ่ายวิวเนี่ย ชอบมีคนมาบังตลอดเลยครับ กล้องก็โฟกัสไม่เข้าวิวเลยทีนี้ ฮ่าๆ
ถือว่าสายพอที่เพื่อนๆ ผมจะเริ่มตื่นกันละ ระหว่างรอคนอื่นเข้าห้องน้ำ ก็เก็บบรรยากาศรอบข้างสักหน่อย
อันนี้ดอกอะไรก็ไม่รู้ เขาปลูกไว้ระหว่างทางเดิน
นี่ก็ดอกอะไรก็ไม่รู้ ฮ่าๆ
สวัสดี อาหารเช้า นั่งโง่ๆ ตากลมเย็นๆ จิบกาแฟพร้อมข้าวต้มร้อนๆ โอ้ยยยยยย ฟินนนน~ ใครไม่ได้มาเจอกับตัวไม่รู้จริงๆ นะ ต้องลองๆ
ระหว่างนั้นผมก็นั่งถ่ายวิวไป
ถ่ายไปถ่ายมา เอ๊ะ !! ทำไมรูปฉากหลังมันดูจางๆ มันมีหมอกหรอ ? ก็ไม่ใช่นะ พอละสายตาจากกล้องมาดูวิวจริงๆ นี่ถึงขั้นพูดไม่ออกเลยครับ เขาเผาซากใบไม้เพื่อเตรียมพื้นที่ในการเพาะปลูก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่จังหวัดเชียงใหม่ และประเทศไทยมีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินกว่ามารตรฐาน
ด้วยความหงุดหงิดนิดหน่อยก็หันไปถามบูมว่า ทำไมเขาต้องเผา ทำไมไม่เอาไปทำปุ๋ยต่อยอดเป็นรายได้
บูมให้คำตอบว่า เขาไม่ได้ต้องการประโยชน์จากมัน เพราะเขาต้องการทำไร่ อันไหนไม่จำเป็นก็แค่เผาๆ ให้มันหายไป จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากันมัน มันไม่มีใครมาดูแลจริงจัง มันเป็นวิถีชาวบ้าน
ผมไม่แปลกใจเลยครับ ที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น ในเมื่อไม่มีใครให้ความสำคัญ ให้ความรู้ ให้แนวทางอย่างจริงจัง เขาก็จะเผาแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ว่าแล้วก็เดินกลับกันด้วยความปลง เราก็แค่คนตัวเล็กๆ ทำอะไรต่อไม่ได้
เอาเป็นว่ากระทู้ของผมกระทู้นี้ก็เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะหวังว่าผู้มีอำนาจ ผู้มีอำนาจเข้ามาเห็นแล้วฉุกคิดได้ว่าควรจริงจังกับเรื่องนี้ได้แล้ว
ระหว่างทางกลับขอเก็บบรรยากาศนิดหน่อย เรายังมีที่ๆ ต้องไปต่อกันอีก
สตอเบอรี่หวานฉ่ำ ราคาถูกมาก ซื้อทุกที่ๆ ที่เห็น กินตลอดทริป ~
ถึงเวลาต้องบอกลาม่อนแจ่มแล้ว กลับที่พักไปเก็บข้าวของ เตรียมเดินทางไปที่.....อ๊ะๆ ช้าก่อนนน ติดตามชมต่อใน Part II ที่ลิงก์นี้เลยครับ
Link : https://th.readme.me/p/27375
ก่อนจากกันไป ใครชื่นชอบผลงานของผม สามารถติดตามความเคลื่อนไวและอ่านรีวิวเก่าได้จากลิงก์ด้านล่างเลยครับ
Youtube
https://www.youtube.com/user/engineerbuu
Facebook
https://www.facebook.com/AYFOTOGRAPHY/
Instagram
https://www.instagram.com/arnuphap_y/?hl=th
แล้วพบกันใหม่ใน Part II เร็วๆ นี้ครับ
Arnuphap Yaiphimai
วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.52 น.