ครั้งนี้เป็นการนั่งรถไฟไปเที่ยวอยุธยาคนเดียว ครั้งแรก!!
เริ่มแรกเลยดูซีรีย์ศรีอโยธยา และก็หาข้อมูลเที่ยว นั่งรถจากกรุงเทพฯ มาอยุธยายังไงดี???
นั่งอ่าน นั่งดู นั่งอ่านหาข้อมูลไปเรื่อยๆ สุดท้ายมาจบที่ "นั่งรถไฟ" จากนั้นจึงจัดการวางแผนการเดินทาง หาวันหยุด ดูว่าจะปั่นจักรยานไปเที่ยวที่ไหนบ้าง หาวันที่จะไปได้แล้ว จึงจัดการขอวันหยุด^__^
เมื่อถึงวันนั้นก็ไปนั่งรอ นอนรอขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงตั้งแต่ประตูยังไม่เปิด >__< (ชาวบ้านว่าไปตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน =__=)
สถานีรถไฟหัวลำโพง เปิดตั้งแต่เวลา 04.00น. ถึง ประมาณ 21.30 น.
ก่อนประตูเปิดก็จะมีคนที่จะเดินทางมายืนรอกันแน่น บางคนตื่นมานั่งรอตั้งแต่ตี 3 ก็มี
>>> ประตูสถานีเปิดตรงเวลาแป๊ะ 04.00น.
เพื่อให้การเที่ยวได้มากขึ้น เลยซื้อตั๋วรถไฟไปอยุธยา เที่ยวแรกออกเวลา 04.20น.
แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไปอยุธยา พร้อมกับชำระเงินค่าตั๋ว 15 บาท เจ้าหน้าที่บอกซื้อตั๋วเสร็จขึ้นรถที่ชานชาลา 10 ได้เลย บนรถไฟคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เนื่องจากไปวันธรรมดา
Tips : โหลดแอพ thai railway ไว้เช็คได้เลยว่า มีรถไฟไปอยุธยา หรือจังหวัดอื่นๆ เที่ยวกี่โมง
04.20น. ได้เวลารถไฟออกเดินทาง ซึ่งผ่านสถานีต่างๆ ก็จะมีผู้โดยสารเดินทางโดยรถไฟขึ้นมาตลอดทาง
เมื่อรถไฟออกก็เป็นเวลาของการพักสายตา (zzzZZZZ) เนื่องจากออกเช้ามืด เลยไม่ได้ถ่ายบรรยายกาศตอนเดินทาง หรืออยู่บนรถ
ปู๊น ปู๊น ปู๊น ฉึกฉัก ฉึกฉัก ฉึกฉัก .....
รถไฟมาถึงอยุธยาประมาณ 6 โมงเช้า ด้านหลังสถานีรถไฟมีตลาดเช้า มีของกินอร่อยๆ รองท้อง ให้ชิม แก้หิวได้อย่างดี ก่อนจะไปหาของกิน เดินมาถ่ายรูปกับป้าย "อยุธยา" พร้อมกับหน้าสด สภาพคือพึ่งตื่นนอน +__+
ถ่ายรูปเสร็จแล้วได้เวลาไปเดินหาของกิน ด้านหลังสถานีรถไฟ บรรยายกาศยามเช้าก็จะเห็นชาวบ้านแถวๆนั้นใส่บาตรบ้าง ซื้อหาอาหารบ้าง เตรียมตัวเดินทางไปทำงานบ้าง ตลาดที่เดินช่วงเช้าไม่ใหญ่ เดินปประมาณ 2 นาทีก็เดินทั่วล่ะ
ร้านขนมครกโบราณ เห็นเฮียแกแคะขนมครกอยู่ เลยแชะภาพไว้
และร้านขนมครกอีกร้าน ซื้อชิมทั้ง 2 ร้าน กระจายรายได้ให้ทั่วถึง >__<
กินโจ๊กต่อ อร่อยมาก กินเกลี้ยงชาม ภาคเช้ายังเป็นเดินหาของกิน เติมพลังก่อน
โจ๊ก ใส่ไข่ ใส่หมู อร่อยๆๆ 20 บาทจ้า
หลังจากเติมพลังเสร็จแล้ว เดินซื้อพวงมาลัย แล้วเดินไปวัดพิชัยสงครามไหว้พระทำบุญ ไหว้ศาลพระเจ้าตากสินในวัด เดินไปประมาณ 3 นาทีจากตลาด ช่วงเช้าวัดเงียบ สงบมาก ยังไม่ค่อยมีคนมาทำบุญมากนัก
ไหว้เสร็จแล้ว เดินวนกลับมาที่ตลาด เดินไปท้ายตลาดจะมีท่าเรือข้ามฟาก 5 บาทต่อคน รอบๆท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งก็จะมีร้านให้เช่าจักรยานและมอเตอร์ไซ
จะเช่าร้านไหน ฝั่งไหนก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ส่วนตัวคือข้ามไปอีกฝั่งแล้วเช่าจักรยาน 50 บาทต่อวัน สอบถาม หรือขอเบอร์เจ้าของร้านไว้ก็ดี เผื่อหลงกลับมาที่เดิมไม่ถูก เผื่อสอบถามร้านปิดกี่โมงเช่าจักรยานเสร็จแล้ว จะได้แผนที่เที่ยวรอบเกาะอยุธยา
แผนที่เที่ยวเกาะอยุธยา
เจ้าของร้านแนะนำว่าถ้าไปวัดนี้ ปั่นตามเส้นนี้นะ ก็ฟังแต่จำไม่ได้ทั้งหมด ลงสนามจริงก็ปั่นไปมั่วๆ และก็ไปถูก ปั่นไปดูแผนที่ไปสภาพแผนที่เลยยับๆย่นๆหน่อย
Tips : เตรียมหมวก, ผ้าปิดจมูก, แว่นตาหากกลัวผิวเปลี่ยนสี (เนื่องจากแดดร้อนมาก),ขวดน้ำด้วยเผื่อหิวระหว่างทางปั่น ปั่นจักรยานระวังรถด้วย
วัดแรก ที่ไปคือวัดมงคลบพิตร ปั่นจักรยานไปดูแผนที่ไปตามเคย และก็หลงปั่นอ้อม อยู่แถวนั้น ถือซะว่าเป็นการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละแห่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ถ้านั่งรถยนต์มาเที่ยวขึ้นรถเปิดแอร์ แอร์ไม่ทันเย็น 5 นาทีถึงวัดที่จะเที่ยวแล้ว ไปหลงอยู่แถวๆนั้น ก็มาถึงวัดมงคลบพิตร แวะไหว้พระ ทำบุญ ตอนที่ไปถึงช่วงเวลา 9 โมงเช้าบรรยากาศก็ยังเงียบๆอยู่นั่งท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ ร้านค้าต่างๆก็ยังเปิดน้อย
หลังจากไหว้พระ ทำบุญเสร็จ ก็มาซื้อตั๋วเขาชม วัดพระศรีสรรเพชญ์ และพระราชวังโบราณ
ค่าเขาชมสำหรับคนไทย สิบ บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติ 50 บาท สังเกตป้ายจะเขียนไว้แบบนี้ แจ้งเจ้าหน้าที่ก็ได้ว่าซื้อตั๋วค่ะ กี่คนก็ว่าไป
วัดพระศรีสรรเพชญ์
บรรยายกาศรอบๆ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ร่มรื่นมาก
เดินไป ถ่ายรูปไป และค่อยหลบสปริงเกอร์น้ำ (เดินไปตรงที่เขารดน้ำพอดี) เลยต้องคอยหลบ เจอกระรอก หรือเปล่าไม่แน่ใจ กำลังวิ่งเปลี่ยนต้นไม้อยู่ และก็จะมีนั่งท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยบ้าง เดินมาเป็นกลุ่ม ถ่ายรูปบ้าง
เดินๆ วนๆ อยู่ที่นี่เกือบๆ 30 นาที และก็ดูแผนที่วางแผน ไปวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งอยู่อีกฝั่งต้องปั่นจักรยานข้ามสะพานไป ปั่นจักรยานไปดูแผนที่ไป แล้วก็ปั่นข้ามสะพาน จนมาถึงวัดไชยวัฒนาราม ฝั่งตรงข้ามวัด จะมีร้านให้เช่าชุดไทย ใส่มาถ่ายรูป ตอนที่ไปนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก ข้ามฝั่งไปเช่าชุดไทยใส่มาถ่ายรูปกัน ถ้าไม่ได้ยินเสียงคุยกัน คิดว่าเป็นคนไทยแล้วนะ เดินไป ถ่ายรูปไป ชมบรรยากาศในวัด
วัดไชยวัฒนาราม ถ่ายข้างนอกก่อนเดินเข้าไป
บรรยากาศรอบๆ วัดไชยวัฒนาราม
เดิมชมบรรยากาศไ ถ่ายรูปไป วัดนี้จะเห็นนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทย มาถ่ายรูปในวัดนี้เยอะมาก เดินชมวัด เดินถ่ายรูปแล้วก็ปั่นจักรยานข้ามสะพานกลับไปเที่ยวอีก คราวนี้ไปวัดหน้าพระเมรุ ปั่นตามถนนเลียบไปเรื่อยๆ ชมนก ชมไม้ไป ระวัง!! รถที่วิ่งด้วยนะ ปั่นไปเรื่อยๆ ก็จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ฝั่งขวามือเรา เจดีย์ศรีสุริโยทัย ฝั่งซ้ายมือดูจากแผนที่นะเราไม่ต้องอธิบายนะ เป็นแม่น้ำ คิดว่าเป็นแม่น้ำเจ้าพระยานะ ช่วงที่ไปเดือนตุลาน้ำลดลงเยอะมาก
พระตำหนักสิริยาลัยฝั่งตรงข้ามวัดไชยวัฒนาราม
แม่น้ำที่วัดไชยวัฒนาราม
ปั่นเลียบมากเรื่อยๆ ก็มาถึงทางเข้าวัดหน้าพระเมรุ วึ่งเป็นวัดสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผา หรือไม่โดนลูกกระสูนในสมัยนั้นเอง ส่วนประวัติวัดก็อ่านได้จากป้ายที่วัด ลองเดินวนๆหาดูนะ ^__^ ไหว้พระทำบุญเสร็จก็ ปั่นจักรยานต่อ ไปตลาดเจ้าพรหมอยู่ตรงข้ามจักรยานามกับห้างอัมพร
จักรยานคู่ชีพที่ปั่นเที่ยวรอบอยุธยา
ไปมาเรื่อยๆ ก็จะผ่านวัดธรรมมิกราชจะผ่านร้านกาแฟ ร้านต้มเลือดหมู/ก๋วยเตี๋ยวหน้าวัดราชบูรณะ ปั่นไปตามถนนเส้นนี้ จะเจอรถติดบ้าง รถจอดข้างทางบ้าง ปั่นผ่านตลาดหัวรอ ซึ่งร้านแถวนี้จะมีของกินเยอะมาก สามารถแวะเติมพลังแถวนี้ได้เลย จุดหมายเราคือห้างอัมพร อิอิ จะไปเดินตากแอร์เล่นซะหน่อย อากาศร้อน ^__^
ปั่นมาเจอแยกไฟแดง หาทางเลี้ยวขวาไป เจอร้าน KFC ซึ่งอยู่ด้านหน้าห้างอัมพร ตรงข้ามห้างนี้ก็เป็นตลาดเจ้าพรหม แถวนี้ก็จะมีท่ารถเข้ากรุงเทพฯ รถวิ่งแถวรอบนอกบ้าง เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาก็อยู่เส้นนี้ ซึ่งไม่มีบอกในแผนที่ ตรงไปปั่นจักรยาน เดินเล่นสถานที่จริง >__< จอดจักรยานไว้แถวๆ ที่จอดรถมอเตอร์ ใกล้ร้าน KFC ก็เดินข้าม มากินน้ำปั่นผลไม้ให้เย็นสดชื่น
น้ำปั่นผลไม้
แก้วล่ะ 25 บาท แก้วใหญ่ เย็นชื่นใจ เดินเล่นแถวนั้นไปเรื่อยๆ ตลอดทาง ดูว่ามีขายอะไรบ้าง พอดื่นเล่นไปเรื่อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปหาของฝากกกกกกกกกกกกกก
มาถึงอยุธยาต้องคนทุกคนนึกถึงและ ซื้อฝากเป็นของฝากประจำ นั้นคือ โรตีสายไหมมมมมมมมม
เมื่อคิดได้แล้วนั่น จึงหยิบแผนที่ขึ้นมาดู แล้วปั่นจักรยานคู่ชีพไป ตามแผนที่ ที่เจ้าของร้านเช่าจักรยานแนะนำ แต่!! ปั่นไปไม่ถึงหลงทางซะก่อน เลยเปลี่ยนแผนว่าเจอร้านไหนก็ซื้อร้านนั้น และก็ได้ขนมมาตามรูปนี้เลย
ขนมที่ซื้อมา
ซื้อขนมเสร็จปั่นจักรยานกลับไปที่ร้านเช่าจักรยาน นั่งเรือข้ามฝั่งกลับไปฝั่งสถานีรถไฟ บรรยากาศตอนเย็นกับตอนเช้าต่างกัน ตอนเช้ามาจะมีตลาด ตอนเย็นกลับบรรยากาศก็จะเงียบหน่อย สองฝั่งก็จะมีร้านให้เช่าจักรยานปั่นไปเที่ยวรอบๆ อยุธยา เดินมาถึงสถานี้รถไฟ ซื้อตั๋วเตรียมเดินทางกลับ บรรยากาศรอบๆสถานีรถไฟก็จะคึกคัก
มาอยุธยา ขากลับมีหิ้วโรตีกลับด้วย
บางคนเดินทางไปต่างจังหวัดบ้าง บางคนกำลังเตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ได้ตั๋วแล้วก็มานั่งพัก และก็นั่งหลับรอรถไฟขาเข้ากรุงเทพฯ ซื้อตั๋วตอน 5 โมงเย็น ได้ขึ้นรถไฟตอนเกือบ 19.00น. พอขึ้นรถไฟปั๊ปก็ถึงเวลาพักสายตา (zzzZZZZ) จนถึงกรุงเทพฯ ^__^ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าน๊าาาาาาาา
วันหยุดไปเที่ยวกันเถอะ
วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00.56 น.