อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ตั้งอยู่ในพื้นที่ร่วมกันระหว่าง 2 จังหวัด คือ ลำปาง กับ ลำพูน ยอดดอยมีระดับความสูงที่ 1,373 เมตร ในอดีตดอยขุนตาลเคยเป็นจุดยุทศาสตร์ที่สำคัญสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกจุดยุทธศาสตร์เหล่านั้นสั้นๆ ว่า “ย.”

บันทึกการเดินทาง

เดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟตู้นอน ชั้น 2 ปรับอากาศ ขบวนพิเศษอุตราวิถี กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ (เบาะแดง) หรือใครสะดวกมารอบไหนก็แล้วแต่เลย ราคาเตียงบน 918 บาท เตียงล่าง 1,018 บาท ขึ้นที่หัวลำโพง รถออกตรงเวลา 18:10 น. เป๊ะ 12 ชั่วโมงยาวๆ ไป ถึงสถานีรถไฟขุนตานก็ประมาณ 6 โมงเช้าพอดี ลงจากรถไฟ ก็ล้างหน้าแปรงฟัน หาข้าวเช้ากินแต่มาถึงเร็วเกินร้านข้าวยังไม่เปิด ก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปกันซักพัก รอร้านข้าวเปิดเรียบร้อยก็สั่งข้าวเช้ามากินเติมพลังกันก่อนเริ่มเดิน ตรงสถานีรถไฟจะมีร้านข้าวที่ขายของชำด้วยอยู่ 2 ร้าน

จากสถานีรถไฟ เดินไป ที่ทำการอุทยานฯ 1.3 km. โดยมี ”ไอ้แดง” เป็นหมานำทางให้พวกเรา ถึงที่ทำการชำระค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท ค่ากางเต็นท์ หลังละ 30 บาท มัดจำขยะอีก 100 บาท ฟังเจ้าหน้าที่อธิบายเรื่องกฏระเบียบ ซื้อเสบียง น้ำดื่มไว้สำหรับมื้อเที่ยงที่ร้านค้าสวัสดิการก่อนเริ่มเดินต่ออีกที อย่าลืมแวะถ่ายรูปกับจุดแลนด์มาร์คด้วยล่ะ

จากที่ทำการฯ เดินต่อไปถึงหน้าด่าน 1.5 km. เส้นทางเดินตั้งแต่ สถานีรถไฟจนถึงหน้าด่าน จะเป็นทางเดินเข้าป่าตัดออกมาถนนสลับไปมาอยู่หลายๆช่วง

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ย.1 - ย.4 ระยะทางน่าจะประมาณ 6- 7 km. ทางเดินเป็นพื้นดิน พื้นไม้ช่วงแรกๆ สลับกับทางปูน มีทั้งแบบบันไดกับทางเรียบ รู้สึกไม่ค่อยชอบ เหนื่อย เพราะมันใช้แรงมากกว่าทางเดินป่าแบบธรรมชาติดั้งเดิม

เราเริ่มเดินจากที่ทำการฯ ประมาณ 10 โมง โดยทีมเลือกไปกางเต็นท์นอนกันที่ ลานสน ย.2 ที่นี่มีห้องน้ำ 4 ห้อง อาบน้ำได้ 2 ห้อง ไปถึงเกือบเที่ยง ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง ยิ่ง 50 m. สุดท้ายก่อนถึงลานสน เป็นอะไรที่ชันมากกกก นั่งพักเหนื่อยแปบนึง จากนั้นก็ช่วยกันกางเต็นท์ ล้อมวงกินข้าวเที่ยง นั่งเล่น นอนเล่น พักผ่อนกันตามสะดวก ก่อนจะชวนกันไปเล่นน้ำตก



น้ำตกตาดเหมย เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 10 m. ระหว่างทางเดินจาก ย.2 ไป ย.3 จะมีทางแยกให้เดินลงไปน้ำตก ระยะทางน่าจะประมาณเกือบๆ 2 km. ทางเดินมีชันบ้างเป็นช่วงๆ ตอนลงไม่เท่าไหร่ ตอนขึ้นนี่สิเล่นเอาเหงื่อตกเลย วันที่ไปน้ำเยอะในระดับนึง เล่นได้ แช่ได้ เย็นสบายสะใจดี




หลังจากเล่นน้ำกันพอประมาณ ก็เดินขึ้นกลับมาที่ ลานสน ย.2 อาบน้ำเปลี่ยนชุด ช่วยกันเตรียมมื้อเย็น ด้วยวัตถุดิบที่ช่วยกันแบกมาจาก กทม. มื้อเย็นของเรา จัดเต็มทั้ง สุกี้ กับ ปิ้งย่าง อิ่มมาก ไม่เสียแรงที่ช่วยแบกกันมา หลังจากนั้นก็นั่งเล่นนั่งคุย ดึกๆเริ่มง่วงก็ได้เวลาแยกย้ายเข้านอนเต็นท์ใครเต็นท์มัน เจอกันอีกทีตี4


ภาพตัดมาตี 4 พร้อมเสียงนาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้ในมือถือ ลุกออกจากเต็นท์ไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมพร้อมก่อนจะเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ย.4 ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของดอยขุนตาล ระยะทางประมาณ 4 km. เส้นทางก็สบายๆ เป็นทางดินสลับกับทางปูนเหมือนๆกับที่ผ่านๆมา มีชันนิดหน่อยตอนใกล้ๆจะถึงยอด เสียใจที่ไม่เจอทะเลหมอก ข้างบน ย.4 มีแท่นเสาธงให้ขึ้นไปถ่ายรูปได้ ให้รู้ว่าคุณพิชิตยอดดอยขุนตาลสำเร็จแล้วนะ เก็บไปอีกหนึ่งดอย



หลังจากกินลมชมวิว เก็บภาพเป็นที่ระทึกเรียบร้อย ก็ค่อยๆเดินลงกลับไปที่ ลาน ย.2 โดยมีเซฟกระทะเหล็กรีบลงนำหน้ามาก่อนแล้ว บอกว่าจะทำอาหารเช้าเซอร์ไพร์ส ก็เซอร์ไพร์สตามคาดเพราะเซฟเค้าทำสเต็กให้กินเชียวนะ เดินป่ายังไงให้ได้กินสเต็ก ก็มาเดินป่ากับแก็งเราสิ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ

อิ่มหนำสำราญกับสเต็กขุนตาลของเซฟเรียบร้อยแล้ว ก็ช่วยกันเก็บข้าวของ เก็บเต็นท์ จัดกระเป๋าให้เข้าที่ เตรียมพร้อม แล้วเดินลงไปที่ทำการฯ อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุด แล้วก็เดินลงต่อไปอีกทีที่สถานีรถไฟ นั่งรถต่อไปเชียงใหม่ หาอะไรกิน ก่อนจะนั่งรถทัวร์รอบหัวค่ำกลับ กทม. เป็นอันว่าจบทริป


สรุปค่าใช้จ่าย

รถไฟตู้นอนชั้น 2 ขาไป ลงที่สถานีขุนตาน 918 บาท สำหรับเตียงบน และ 1,018 บาท สำหรับเตียงล่าง
ค่าเข้าอุทยาน คนละ 20 บาท
ค่ากางเต็นท์ หลังละ 30 บาท
ค่ามัดขยะ คนละ 100 บาท
ค่ากิน ค่ากองกลาง ประมาณ 300 บาท มั้ง
ค่ารถไฟไป เชียงใหม่ 15 บาท
ค่ารถทัวร์กลับ กทม ขึ้นที่ เชียงใหม่ คนละ 659 บาท

ใครสนใจที่จะไปเดินป่าแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ยาก ก็ลองดูครับ เดินทางก็ง่าย ธรรมชาติก็สวยงาม มีครบทั้งภูเขาน้ำตก เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองได้ซักนิดก็ยังดี ลองดูครับ


สุดท้ายนี้ขอแอบฝากเพจท่องเที่ยวเล็กๆ ของผมหน่อยแล้วกันครับ ติดตามการเดินทางครั้งต่อๆไปของผมที่เพจนี้เลย >>> get a way ฝากกดไลค์กดแชร์ให้หน่อยน้าาา ขอบคุณครับ


ความคิดเห็น