รีวิวเส้นทาง Road trip เที่ยวเมืองฮอกไกโด Autumn Hokkaido 2019 ( เส้นทาง Sapporo - Furano - Hakodate -Otaru))

พวกเราได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวก่อนที่พายุฮากิบิสจะเข้าถล่มญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เลยจะแวะเอาที่เที่ยวสวยๆ มาฝากกัน โดยเป็นทริปขับรถเที่ยวที่ญี่ปุ่นครั้งแรก 3 วันเต็ม ก่อนที่จะไปต่อที่ Kiroro Resort อีก 2 คืนตามรอยหนังเรื่อง แฟนเดย์ ซึ่งจะเขียนแยกอีกรีวิวอ่านได้ที่ ทริปใบไม้เปลี่ยนสีที่ คิโรโระ รีสอร์ท Autumn @Kiroro Resort

ทริปขับรถเที่ยวเอง ตะลอนทั่วเมืองฮอกไกโด Hokkaido 2019 สรุปสั้นๆ ดังนี้

Day 1: Furano & Sapporo

Day 2: Hakodate City

Day 3: Hakodate & Otaru City

Day 4&5: Kiroro Resort

wghsidyqkp89

gkb97v19lx5o

qptz5gfwt5sm

nvs2gbplriy8
jg73ojwukxj3
5uet3qrb9x0t
xyb80fj29ml2



เริ่มทริปกันเลย... Don Muang Air Port, Bangkok >>> New Chitose, Sapporo

ก่อนบินต้องเตรียมไปคือ Pocket WiFi ที่จะขาดไม่ได้เพราะเราต้องใช้อินเตอร์ค่อนข้างเยอะ

ริปนี้พวกเราได้เลือก Samuirai Packet WiFi ซึ่งสามารถสั่งออนไลน์ที่เว็บ และไปรอรับที่สนามบินดอนเมืองตั้งอยู่ที่ อาคาร Terminal 1 ชั้น 1 ตรงกับประตู 6 ติดกับร้าน Starbucks Coffee

เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้นแค่ 150บาท/วัน สนใจดูรายละเอียดได้ที่ Samurai WIFI

30w6dkn02ua6


ทริปนี้ พวกเราเลือกไฟลท์บินรอบดึกเพราะต้องการที่จะไปถึงที่โน้นเช้าและออกเที่ยวกันเลย โดยรอบนี้พวกเราบินตรงกับสายการบิน Air Asia รอบ 23.55 น. ถึง สนามบิน New Chitose, Sapporo ก็ประมาณ 09.30 รอบนี้คนเยอะมาก หากใครจะบิน แนะนำว่าไปถึงสนามบินอย่างน้อย 2 ชม. จริงๆ นะคะ เพราะคิวยาวมาก และไฟล์ทของเราก็เต็มทั้งลำจ้า คนไทยเที่ยวเก่ง ^.^

Air Asia บินตรงไป Sapporo ช่วงนี้ราคาตั๋วมีโปรโมชั่นน๊าเริ่มต้น 4, xxx บาท ใครที่กำลังแพลนจะไปเที่ยวเมืองฮอกไกโด แวะไปดูราคาตั๋วเครื่องบินราคาถูกได้ที่ Air Asia บินตรง Sapporo

fum7odt11lco
r7ior0a4bnpm

r1w2azoztc6d

Day 1: New Chitose Airport >> Furano >> Sapporo

เครื่องมาถึงที่ New Chitose Airport พวกเราก็ไปรับรถที่จองไว้ทันที ทริปเราได้ทำการเลือกจองกับ Times Car โดยหลังจากตรวจเอกสารการจองเสร็จจะมีเจ้าที่พาไปรับรถ ต้องนั่งรถบัสของเขาไปห่างประมาณ 5- 10 นาทีจากสนามบิน

*จริงๆ แล้วเราว่ารถแต่ละเจ้าไม่ค่อยต่างกัน เลือกเอาตามโปรได้เลย และสถานที่คืนรถ เอาที่สะดวกที่สุด ลองเปรียบเทียบราคาดูค่ะ

rvvq0zfty99b
xjhk3qd48pkt

ราคาค่าเช่ารถของเราทั้ง 4 วัน 3 คืน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 7xxx พร้อมซื้อค่าทางด่วนแบบเหมาจ่าย 6300 yen หรือประมาณ 2,xxx บาท ถือว่าค่าทาวด่วนแพงมาก แต่เนื่องจากเมืองฮอกไกโดมันใหญ่ กระเป๋าเราก็เยอะ แถมสถานที่เที่ยวแต่ละเที่ยวค่อนข้างห่างกัน และบางจุดไม่สามารถนั่งรถไฟ JR ไปได้ พวกเราเลยเลือกที่จะขับรถเที่ยวกันเองดีกว่า

s7ouj8avdhe2

เมื่อตรวจรับรถเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลยจ้า

ระหว่างทางจะเห็นว่าใบไม้ข้างทางเริ่มเปลี่ยนสีกันแล้ว หากมาช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ใบไม้น่าจะเปลี่ยนสีกันหมดแล้ว

8k6mnhrjgswk
mxp07wvd6hd6


จุดเที่ยวแรก ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) Furano

ออกจากสนามบินก็ประมาณ 11 โมง จากสนามบินขับตรงมาที่ Farm Tomita , Furano ใช้เวลาประมาณ 2 ชม นิดๆ ค่ะ

เมืองฟูราโน่ (Furano) ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องทุ่งดอกไม้ สีสันสวยงาม โดยเฉพาะทุ่งดอกลาเวนเดอร์ แต่เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมที่เรามานั้นไม่ใช่ช่วงดอกลาเวนเดอร์ แต่ก็มีดอกไม้อื่นๆ เช่น ดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และคอสมอส ให้ชื่นชมได้ตลอดฤดูกาลค่ะ ดังนั้นหากใครจะมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็สามารถมาชมทุ่งดอกไม้ได้เช่นกัน

ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) เปิดให้เข้าชมฟรีไม่มีค่าเข้า เดินชมได้อย่างอิสระนะคะ

9yt5dfa1crq7

5w8glik9phon

o82dovo2j6j5
lm428tgeh0jz
kac0qs2jqekd
aecv21my96sm
bf1wim9ghkee
vha3p5i6sm3i

ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากดอกไม้ต่างๆ อีกด้วย

hntf9eaz09us


o29s7otiw5be

ใครแวะมาอย่าลืม ลองทาน Melon Soft Cream นะคะ หอมอร่อยมาก

vsgxvz9xpl93

c5wc3dhqoxvt

ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) Furano

เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน ประมาณ 09.00-17.00 ตามฤดูกาล

ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่มีค่าบริการในการเข้าชม

พิกัด: https://goo.gl/maps/4dSjiCtwtxo3XEmAA

รายละเอียด: https://www.farm-tomita.co.jp/en/


จุดที่2: Nakafurano Municipal Lavender Garden

ตรงนี้อยู่ไม่ไกลจากฟาร์มโทมิตะเลยค่ะ จริงๆ ขับรถมาประมาณ 3 นาทีก็ถึง อยู่ติดถนนเลย ที่สวน Nakafurano Municipal Lavender Garden สามารถมองเห็นสวนดอกไม้หลากสีเป็นขั้นบันได สวยงามมากค่ะ หากใครที่จะนั่งรถไฟ JR มาก็จะห่างจากNakafurano Station ประมาณ700 เมตร หรือ เดินประมาณ 10 นาทีค่ะ

ตรงนี้มีบริการ Sightseeing lift ขึ้นไปชมวิวสวนดอกไม้บน ที่ Mt. Hokusei ราคาประมาณ 400 yen สำหรับผู้ใหญ่ และ 200 yen สำหรับเด็ก แต่เราไม่ได้ขึ้นไปค่ะ เพราะไปถึงเขาปิดให้บริการแล้ว เลยแค่ได้ไปถ่ายรูปวิวสวนดอกไม้ พวกดอกไม้ยังบานไม่หมดเท่าไรแต่ก็สวยไม่แพ้สวยโทมิตะฟาร์มนะคะ

ij68e7mu4uce
4wkha7p80edv
vmja26k1n1we
8l77ufue5ihw

เนื่องจากช่วงนี้ไม่ใช่หน้าดอกลาเวนเดอร์ ดอกไม้ส่วนใหญ่ก็จะเป็น Salvia และดอกไม้อื่นๆ ตามฤดูกาล แต่รับรองสวยไม่แพ้กันจริงๆ ค่ะ

zwdoaez6s8ls
bofxplsaky8w
lf3rbsuchs64


Nakafurano Municipal Lavender Garden

เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน ประมาณ 09.00-18.00

ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่มีค่าบริการในการเข้าชม ยกเว้นค่าขึ้น Sightseeing lift ขึ้นไปชมวิวสวนดอกไม้บน ที่ Mt. Hokusei

พิกัด: https://goo.gl/maps/4dSjiCtwtxo3XEmAA

รายละเอียด: http://bit.ly/33QIzHm


จุดที่ 3: สวนดอกไม้วิว Panoramic View ที่ Shikisai no Oka

Shikisai no Oka เป็น สวนดอกไม้วิวมองเห็นวิวได้แบบ Panoramic View โดย Shikisai no Okaนั้นจะอยู่ที่ Biei ห่าวจาก Furano ประมาณ 20 นาทีค่ะ

ที่ Shikisai no Oka เข้าเปิดให้เข้าชมฟรีค่ะ ตั้งแต่ 09.00- 17.00 น. สามารถเดินชมเอง หรือจะนั่งรถชม cart สวนดอกไม้ก็ได้ประมาณ 15 นาทีรอบฟาร์มและขึ้นบน Mt. Daisetsu จะมีราคาค่าบริการต่อคนอยู่ที่ 500 yen สำหรับผู้ใหญ่ค่ะ

59jzds4xyxbl
l3kjebl3xrm9

จะมองเห็นวิวดอกไม้ได้สวยงามมากค่ะ ที่นี่ค่อนข้างใหญ่และดังของที่ Biei

4q963s1izk3l
btxl597lb1vm
zrxr2alf05lh
q3d1cij67o10
f7elpl5wikmi
579rw7hgbdm1


Shikisai no Oka

เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน ประมาณ 09.00-17.00

ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่มีค่าบริการในการเข้าชม ยกเว้นหากจะขึ้นรถชมวิว

พิกัด: https://goo.gl/maps/giQ3fP9N1pxdHNdy6

รายละเอียด: https://www.shikisainooka.jp/en/


จุดที่ 4 : สระอะโออิเคะ Aoiike Blue Pond หรือ Shirogane Blue Pond

สระอะโออิเคะ Aoiike Blue Pond ของเมืองBeie เป็นสระน้ำธรรมชาติที่มีสีฟ้าสวยงาม เกิดจากแร่ธาตุต่างๆ ของ hot spring ของ Shirogane Onsen ถือเป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ แนะนำว่าให้มาก่อน 5 โมงเย็นนะคะ ไม่งั้นจะเหมือนพวกเราที่มาถึงก็เริ่มมืดเลยค่ะ ที่นี่เขามือดเร็ว 5 โมงก็ไม่มีแสงแล้ว

Aoiike Blue Pond เปิด 24 ชม ค่ะ มีที่จอดรถให้จอดฟรี ต้องเดินจากที่จอดรถเข้ามาชมด้านในสระ

abuvp5lxw7ea

ขอขอบคุณรูปจาก www.japan-guide.com

ตอนที่เราไปถึงประมาณ 17.30 มืดแล้ว ถ่ายไม่ได้เลย เสียใจมาก T.T หากมาตอนกลางวันน่าจะได้รูปสวยๆ

5ohkesqcf9pt

chazqp66ywa7

yawx2igf2bmz

Aoiike Blue Pond / Shirogane Blue Pond

เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน 24 ชม

ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่มีค่าบริการในการเข้าชม

พิกัด: https://goo.gl/maps/Wese1Si7ENjbp4Cc6

รายละเอียด: https://www.talonjapan.com/aoiike-blue-pond/


จุดที่ 5: Sapporo TV Tower

พวกเราขับรถกลับมาพักที่ Sapporo กันค่ะ เพราะจะได้เป็นมาช็อปปิ้งและตอนเช้าจะได้เดินทางไปที่เมือง Hakodate กันแต่เช้า ขับจากสระ Blue Pond มาถึงที่พักประมาณ 2.30 ชม ได้ค่ะ

โดยคืนนี้แรกเราจะนอนกันที่โรงแรม Ascent Inn Sapporo เป็นโรงแรม ในเมือง Sapporo แถมติดกับไฟฟ้าใต้ดิน สถานี Higashi-Sapporo subway station เดินแค่ 1 นาทีถึงที่พักค่ะ

พอถึงที่พักเก็บของเสร็จประมาณ 21.20 ทุ่ม ก็ออกมาถ่ายรูป Sapporo TV Tower กันเป็นหอสูงที่ตั้งอยู่ติดกับสวนโอโดริที่อยู่กลางเมือง Sapporo และเป็นอีกจุดสำคัญของการท่องเที่ยวฮอกไกโดค่ะ

Sapporo TV Tower เขาจะเปิดให้ขึ้นไปชมวิวเมืองได้ที่ชั้นชมวิว (Observation deck) สูงประมาณ 90 เมตร ซึ่งด้านบนมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของสวนสาธารณะแห่งนี้และเมืองโดยรอบแบบ 360 องศงเลยนะคะ และอีกชั้นจเป็นโซนร้านอาหารลอยฟ้า อยู่ที่ความสูงประมาณ 23 เมตรค่ะ

4o4vgz665nmq

ขอบคุณรูปภาพจาก tv-tower.co.jp

dbn5qlox56m9
li5aicclzqaj


Sapporo TV Tower

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 720 เยน เด็ก 3-5 ปีเริ่มที่ 100 เยน

เวลาเปิด-ปิด: 9.00 - 22.00 น. (ปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนตุลาคม)

รายละเอียด: https://www.tv-tower.co.jp/en/


จุดที่ 6: ตลาดถนน ทานุกิโคจิ (tanukikoji) แหล่งช้อปปิ้งของฝาก

ตลาดถนน ทานุกิโคจิ (tanukikoji) เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่และมีหลังคาปกคลุมยาวถึง 1 กิโลเมตร มีอายุเก่าแก่ถึง 100 ปีเลยนะ แต่ยังสะอาดและดูดีมาก ซึ่งมีร้านค้ามากมาย ทั้งของกิน ของฝาก และร้าน Don Quijote ที่สาวๆ ต้องแวะไปโดนค่ะ แน่นอนว่าไม่ต่ำกว่า 200 ร้านแน่นอน และถูกแบ่งออกเป็น 7 บล็อคเลย

ขาช้อปทั้งหลายต้องห้ามพลาดจ้า ช็อปให้กระเป๋าแบนไปเลย ^.^

5xb97tgrhvub

9oleukkq6o33

utw8eiju5g98

ร้านโปรดของเราก็คือ Don Quijote แน่นอน อยู่ถึง 23.30 ก็ต้องรีบกลับก่อนรถไฟฟ้าใต้ดินหมดจ้า

ตลาดถนน ทานุกิโคจิ (tanukikoji)

เปิดบริการ: ทุกวัน

เดินทาง:

    • รถไฟใต้ดินสายนัมโบะคุ, สายโทโฮ,สายโทไซ ลงรถที่ "โอโดริ" เดิน 5 นาที
    • รถไฟใต้ดินสายนัมโบะคุ ลงรถที่ "ซุซุกิโนะ" เดิน 3 นาที

รายละเอียด: http://bit.ly/2Pe15po


Day 2: Hakodate City

Check out ออก 9 โมงเช้า และพวกเราขับรถออกจาก Sapporo เพื่อจะได้เดินทางไปที่เมือง Hakodate เพราะค่อนข้างไกลใช้เวลาประมาณ 3.30 ชมค่ะ ข้าวเช้าก็ได้ 7-11 นี้แหละอาหารอร่อยด้วยนะ ราคาไม่แพงด้วย .....

hpm20bt8y98e

ระว่างก็มีจุดพักรถให้จอดพัก (Usuzan) แถมวิวโคตรสวยค่ะ

pr3jr9lnhz6b
zbp3jzc95ynb
8ftoof82gpoj
0ly2peax6p33

ด้วยวันนั้นฝนตกช่วงน้ำนิดหน่อย โชคดีเห็นหมอกบนเขาด้วย ระหว่างทางวิวสวยจริงๆ

gkvl3w2sml0y


วิวระหว่างทางไป Hakodate บอกเลยว่าขับเพลินมาก : ) กว่าจะถึงเจอทุกสภาพอากาศ ทั้งฟ้าใส ฝนปรอยๆ และหมอก .... ฟังเพลงขับรถไปแบบเพลินๆ

otpiib6k5yer
yihwc3htzzbg
2k8bl7fn83tq
ep9eux2bp552

ไปถึง Hakodate ประมาณ15.30 น่าจะได้ พอถึงก็ไปที่เที่ยวเลย ที่แรกคือ Fort Goryokaku


จุดที่ 1: Fort Goryokaku

ป้อมโงเรียวกาคุ Fort Goryokaku หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ป้อมดาว 5 แฉก” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเมือง Hakodate ที่ทุกคนต้องแวะมาเยี่ยมชม มีอายุเก่าแก่ถึง 150 ปี

หอคอยโงเรียวกาคุ (Goryokaku Tower) จะอยู่ติดกับป้อม จุดฮิตที่มาเที่ยวป้อมโงเรียวกาคุแล้วจะต้องขึ้นไปชมวิวที่หอคอยแห่งนี้นั้นมีความสูง 107 เมตรถ้ารวมสายล่อฟ้า แต่ถ้าไม่รวมจะสูงอยู่ราวๆ 90 เมตร ตรงที่สามารถขึ้นไปชมวิวป้อมดาวห้าแฉกได้อย่างชัดเจนแบบ 360 องศา เห็นภูเขาฮาโกดาเตะ ช่องแคบทสึการุ และเทือกเขาโยโคทสึอีกด้วย

ค่าเข้าชมตกคนละ 900 เยน (ค่าโดยสารลิฟต์) ในการขึ้นไปชมวิว

yar7w7vm49mr
te81jjj8gkfl
c8hyiua5b6qo

mykqq10c89qw


dmfaj47pziil

hugy33uxemfv


59ssyoiy070x

vg7t6spfwxe7


Fort Goryokaku

เปิดบริการ: ทุกวัน

  • 8:00 to 19:00 (April to late October)
  • 9:00 to 18:00 (late October to late April)

ราคาค่าเข้าชม: 900 yen / คน

พิกัด: https://goo.gl/maps/T8YF6taqd85DcKDd6

รายละเอียด: https://www.hakodate.travel/en/top7/goryokaku


จุดที่ 2 : จุดชมวิว Mt. Hakodate Observatory

จุดชมวิว Mt.Hakodate เป็นอีกไฮไลท์ของเมือง Hakodate เลย เพราะที่นี่เขาได้รับคะแนน 3 ดาวจาก Michelin Green Guide Japon ว่าเป็นวิวที่สวยที่ติด top 10 ของประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะวิวตอนกลางคืน หากใครไม่ได้มาชมวิวเมืองตอนกลางคืนที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงค่ะ

โดยจะต้องขึ้น Mt. Hakodate Ropeway เป็นเคเบิลขึ้นไปยอดเขาประมาณ 3-5 นาที ค่าตั๋วไปกลับสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 1,500 yen/ คน ค่ะ แนะนำว่าให้ไปก่อน 6 โมงเย็นนะคะ เพราะคนเยอะมากหากไปก่อนจะได้เลือกจุดถ่ายรูปได้เต็มๆ สวยมาก แต่หากไปแล้วเจอหมอกหนา อย่าพึ่งท้อนะ รอสักพักหมอกจะค่อยๆ ไป

rfrim0x1j1hd

09nlnmtjxz2u

vju0xh8ng775

ขึ้นไปถึงหมอกหนามาก... แต่เราก็รอนะ รอด้วยความหวัง... รอเกือบ 20 นาทีนะ

xxldfuy3lwue

และหมอกก็พัดผ่านไป... ความสวยงามเริ่มเข้ามาเยือน ว้าววววมันสวยจริงๆ 

okl46fmygw2s

1kishw6r46mx

Mt. Hakodate Observatory

เปิดทำการ: ทุกวัน

  • April 25 - October 15; 10:00 am - 9:45 pm
  • October 16 - April 24; 10:00 am - 8:45 pm

ค่าเข้าชม: 1500 yen/คน

ค่าที่จอดรถ ฟรี

พิกัด: https://goo.gl/maps/w9ncE8fQPhrNoiH89

รายละเอียด: https://www.hakodate.travel/en/top7/night-view


จุดที่ 3: Kanemori Red Brick Warehouse

พอชมวิวกันเสร็จพวกเราก็แวะไปทานข้าวเย็นที่โกดังอิฐแดง (Kanemori Red Brick Warehouse) กันค่ะ ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ ในเมืองฮาโกดาเตะ(Hakodate) ถูกสร้างเมื่อปี 1909

โกดังอิฐแดงของที่นี่นั้นเรียกได้ว่าศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะมาทานข้าวและช้อปปิ้งกัน โดยจะมีร้านอาหารประมาณ 50 ร้าน โกดัง 7 โกดัง และพวกร้านขายของที่ระลึกเปิดตั้งแต่ 9:30 am - 7:00 pm แต่พวกร้านอาหารจะเปิดดึกหน่อยค่ะ

jyueyq2tygpv

80crksjys06d

mqoxvcq5s21b

s0i6pyf6ers1

gbkd5nel8ctc


ราคาอาหารไม่แพง รสชาติดีและพนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย ^.^

22ofzc8g8301
b056qg9ofaa9
85v74ewei0w7

Kanemori Red Brick Warehouse

เปิดทำการ: ทุกวัน 9:30 am - 7:00 pm

พิกัด: https://goo.gl/maps/dFnDsrgk8V2qXCbt6

รายละเอียด: https://www.hakodate.travel/en/sightseeing_spots/historic-building/kanemori-red-brick-warehouse


ทานเสร็จก็กลับที่พักกัน ซึ่งคืนนี้เราจะพักที่ Smile Hotel ใกล้สถานีรถไฟ เลยมีที่จอดรถและสามารถเดินไปทานอาหารเช้าที่ตลาดสด Hakodate ได้ ระยะการเดินประมาณ 500 เมตร (เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่เลือกเพราะใกล้ตลาดเช้า แบบเดินมาได้สะดวก และมีที่จอดรถ)

f1yz0uc2cg01
bv5cj01rnowb

Day 3: Hakodate ไป Otaru City

จุดที่1: Hakodate Morning Market (Hakodate-Asaichi)

เริ่มต้นมื้อเช้า ด้วยการไปเดินตลาดสดที่มีการขายอาหารทะเลสดๆ และทานอาหารเช้ากันที่นี่ โดยที่ Hakodate Morning Market เปิดตั้งแต่ตี 5 ถึงบ่าย2 ทุกวัน และอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ JR Hakodate เดินประมาณ 2 นาทีถึง

xya5l901ejje

Hakodate Morning Market เป็นแหล่งช้อปปิ้งและซื้ออาหารทะเลสดกัน และเมนูแนะนำที่ต้องมาลองคือ Seafood Rice Bowl หรือ ข้าวหน้าอาหารทะเล ที่แบบว่าสดและอร่อยมาก ราคาไม่แพงด้วย ตกคนละประมาณ 2200 yen ประมาณ700 กว่าบาทเอง ถูกกว่านี้ก็มี แล้วแต่ว่าชอบทานหน้าไหน

673lezg24p6v
sfezzs9n38vj

ทั้งร้านข้าว และอาหารทะเลสดๆ มีให้เลือกเพียบ! ชอบร้านไหนลองเข้าได้เลย ราคาไม่ต่างกันมากเท่าไร อยู่ที่ว่าชอบร้านไหน

5wnopytwtfjw
rffirnjycjl9
2ak214bydzcn
om6h4zte6gnc
3833fwm8rlh6

ส่วนนี่คือร้านที่เรากินจ้า Kikuyo Shokudou

jenpdpkz3skh

Hakodate Morning Market (Hakodate-Asaichi

เปิดทำการ: ทุกวัน

    • Jan. -Apr. / 6:00a.m.-2:00p.m.
    • May-Dec. / 5:00a.m.-2:00p.m.

พิกัด: https://goo.gl/maps/Z5NEdiezgUcn33Nq9

รายละเอียด: https://www.japan-guide.com/e/e5353.html


จุดที่2: Hachiman-Zaka Slope

ก่อนออกจาก Hakodate ไป Otaru พวกเราจะแวะไปถ่ายรูปที่เนินชมวิวฮาจิมันซากะ Hachiman-Zaka Slope เป็นเนินเขาที่ลาดตัวลงไปจนถึงทะเลที่ด้านล่าง สามารถมองเห็นวิวทะเล เป็นวิวของท่าเรือฮาโกดาเตะ จะอยู่ไม่ไกลห่างจากสถานี Jujigai Station ประมาณ 600 เมตร

ที่นี่จะสวยงามในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะจะทำให้วิวถนนมีสีสันต์ แอบเสียดายไปเร็วไปหน่อย ใบไม้พึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสี ยังไม่เต็มที่เท่าไร ตอนไปถ่ายรูปต้องระวังรถกันด้วยนะคะเพราะเป็นถนนที่มีรถวิ่งตลอดเวลา

9ae14p5fqyar
npnz8mgotrnx
jc07yr75nu0r
m71ri6akpwoy

บ้านตรงถนนนี้น่ารักทุกหลังเลย : )

zk6chjrp9ibf
h7s7ljhvg0u4

จากนั้นก็ออกเดินทางไปที่เมือง Otaru กันต่อเลยจ้า

Hachiman-Zaka Slope

เปิดทำการ: ทุกวัน 24 ชม.

พิกัด: https://goo.gl/maps/rf9KxqWPLxvvRjZE8


จุดที่ 3: ริมคลองโอตารุ Otaru Canal

พวกเราขับรถจาก Hakodate มาถึง Otaru ใช้เวลาประมาณ เกือบ 4 ชม. ไกลหน่อยแต่เพราะพวกเราต้องการไปพักต่อที่ Kiroro Resort ในวันพรุ่งนี้และคืนรถได้ตอนเช้า จากนั้นจะนั่ง Suttle Bus ของโรงแรมไปที่ Kiroro Resort

ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal) ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองโอตารุเลยนะคะ โดยริมคลองแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอตารุเลย เปิดให้ชมฟรีตลอด 24 ชม เดินทางมาไม่ยากค่ะ เดินจากสถานีรถไฟโอตารุ (Otaru Station) ประมาณ 10 นาที ส่วนใครที่ขับรถมา มีที่จอดรถใกล้ๆ แต่มีค่าที่จอดรถค่ะ แต่พวกเราไปจอดตรงร้านอาหารฝั่งตรงข้ามคลอง เพราะทานข้าวที่นี่ ไม่ต้องเสียค่าที่จอดค่ะ

ในช่วงเย็นจะมีคนแวะมาเดินเล่นและถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้บริเวณริมคลองยังมีร้านค้าและร้านอาหารมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองอาหารทะเลและอาหารพื้นเมืองอีกด้วย

9ayjdv4n2cmn

mg1w3im49mo9
fhw3eqvtwmcf
srm51rwbjxkc
h0pntmssl425
e62lxvcotnbs
f4g5ad0j85w8
1tk8xxswnmg3
2r2i4dlwohy1
69a5lszzx809

พอทานข้าวเสร็จก็กลับไปที่พัก คืนนี้เรานอนกับ homestay เล็ก ไม่ไกลจากคลองมาก

ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal)

เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด: https://goo.gl/maps/K8CNczk5bvRdeuJK6

เดินทาง: จากสถานีรถไฟโอตารุ (Otaru Station) เดินประมาณ 10 นาที


จบแล้วจ้า ทริปขับรถตะลอนเที่ยวทั่วเมืองฮอกไกโด 3 วัน Autuum in Hokkaido 2019 ซึ่งเดี๋ยวมีภาคต่อ เพราะอีก 2 คืนเราจะไปพักกันต่อที่ Kiroro Resort ไปขึ้นกอนโดล่าไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันจ้า

อ่านต่อได้ที่ >> ทริปใบไม้เปลี่ยนสีที่ คิโรโระ รีสอร์ท Autumm @Kiroro Resort


แล้วไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า ... หาที่ไปก่อน ใครมีอะไรเด็ดๆ แวะมาแนะนำกันบ้างน๊า

บ ะ บ า ย ^ ^

ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ https://th.readme.me/id/ReviewPapai

ฝากเพจด้วยนะคะ หากมีคำถาม สงสัยตรงไหน inbox เข้ามาทักกันได้ที่ https://www.facebook.com/ReviewPapai/ แล้วพบกันใหม่ : )

ความคิดเห็น