>> ติดตามเรื่องราวการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจสวัสดีคนแปลกหน้า
https://www.facebook.com/hellostrangerpage/>> IG : hellostrangerth
https://www.instagram.com/hellostrangerth
.
.
เจ็ดพันเอาอยู่ !! เที่ยวคูลๆ ครั้งแรกที่จีน
การเดินทางในทริปนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า เป็นการเที่ยวจีนครั้งแรก ซึ่งก็ทำการบ้านและเตรียมตัวมาพอสมควร พร้อมลุยและรับมือกับความหนาวที่ไม่ค่อยจะชินสักเท่าไหร่ บวกกับเรื่องของภาษาจีน ที่ถึงแม้เราจะหน้าหมวย แต่ก็พูดได้แค่ “หนีห่าว” กับ “เซี่ย เซียะ” แค่นั้น ทำให้ทริปนี้ทั้งสนุก ท้าทาย และเป็นการเปิดโลกมุมมองใหม่ของเมืองจีนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ทริปนี้เราจะพาทุกคนเดินทางไปที่ “ฉางซา” เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม พร้อมดึงดูดให้เรามาสัมผัสกับความมหัศจรรย์และความยิ่งใหญ่ของจางเจียเจี้ย มรดกโลกทางธรรมชาติและอุทยานแห่งแรกของจีน และสถานที่ถ่ายทำหนังฟอร์มยักษ์ เรื่องอวตาร ที่ใครได้เห็นก็ต้องตะลึงและทึ่งจนลืมภาพจีนในอดีตไปอย่างแน่นอน
เที่ยวจีนเที่ยวง่ายและไม่แพงอย่างที่คิด สักครั้งในชีวิต...
เปิดใจออกไปเที่ยวจีน แล้วคุณจะรู้ว่า “เที่ยวจีนครั้งเดียวไม่เคยพอ”
สถานที่ท่องเที่ยว
DAY 1 Bangkok (DMK) - Changsha
DAY 2 Changsha : Meixihu International Culture & art Center / Juzi Island / Mao Zedong Youth Art Sculpture
DAY 3 Zhangjiajie National Forest Park
DAY 4 Yellow Dragon Cave
DAY 5 Tianmen Mountain National Park
DAY 6 Fenghuang - Bangkok (DMK)
>> ข้อมูลการเดินทางแบบละเอียด ค่าใช้จ่าย ค่ารถ โรงแรม อธิบายใต้รูปนะคะ (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
กล้องที่ใช้ในการถ่ายรูป GoPro Hero 7 Black / Nikon D5600
![](/f/28563/5dc925339c85654bcd434abf.jpg)
“ฉางซา” เป็นเมืองหลวงของมณฑลหูหนาน
![](/f/28563/5dc925529c85654bcd434ac0.jpg)
ประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน Tianmen Mountain National Park (天门山)
ที่นี่คือ 1 ใน 4 ของภูเขาที่สวยที่สุดในจีน สาเหตุที่เรียกว่า ประตูสวรรค์ เป็นเพราะว่า มีโพรงถ้ำสูงใหญ่ที่เกิดเอง
การเดินทางมายอดเขาเทียนเหมินซานก็ไม่ธรรม
![](/f/28563/5dc925719c85654bcd434ac2.jpg)
อู่หลิงหยวน Wulingyuan Scenic and Historic Interest Area
ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังฟอร์มยักษ์ เรื่อง “อวตาร” นั่นเอง และยังได้รับฉายาว่าเป็น "The Monarch of the Peak" มีพื้นที่ 4 ส่วนที่อยู่ติดต่อกันกว่า 9,500 ตาราง กิโลเมตร ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยป่าสน พันปี โถงถ้ำ สะพานหิน น้ำตก แต่ไฮไลท์จะอยู่ที่ป่าหินยักษ์เป็นแท่งแหลมสูงเสียดฟ้ากว่า 3,100 ต้น ซ้อนกันสวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ สะพานหนึ่งในใต้หล้า ( 天下第一桥 เทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว ) เป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับคู่รักที่จะมาคล้องกุญแจและผูกผ้าสีแดง
![](/f/28563/5dc925989c85654bcd434ac3.jpg)
เมืองโบราณเฟิ่งหวง (凤凰古城) เมืองโบราณที่สวยที่สุดของจีน อายุกว่า 400 ปี มีมาตั้งแต่สมัยราชวงค์ชิง ตั้งอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำถัวเจียง ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าถู่เจียและชาวม้งที่ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ ยังซักผ้า ล้างผักริมสายน้ำ บ้านริมน้ำ ในเมืองโบราณเฟิ่งหวง จะมีการก่อสร้างแบบยกพื้นสูง เรียกว่า “เตี้ยวเจี่ยวโหลว” ซึ่งทุกวันนี้ถูกดัดแปลงมาเป็นที่พัก ร้านกาแฟริมน้ำ ให้นักท่องเที่ยว ได้นั่งชิลล์ ชมความงามและสีสัน ริมน้ำ ได้อย่างเต็มที่
>> เกริ่นมาพอสมควร ถ้าพร้อมแล้ว เรามาออกเดินทางไปด้วยกันนะคะ
DAY 1
![](/f/28563/5dc925ae9c85654bcd434ac5.jpg)
การเดินทางไปจีน 6 วัน 5 คืน ในครั้งนี้ เราบินตรงจากกรุงเทพ ดอนเมือง – ฉางซา ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เจ้าเก่าเจ้าเดิม เที่ยวบิน FD540 เราเลือกบินตอนเย็นหลังเลิกงาน นั่งเครื่องเพลินๆ 3 ชั่วโมงกว่า ไปถึงฉางซาค่ำๆ ก็เช็คอินเข้าที่พักพอดี สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวฉางซาแบบไม่ง้อทัวร์ แอร์เอเชียเขาก็ใจดี แจกแพลนเที่ยวที่ทำให้เราสามารถออกแบบการเดินทางง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง เข้าไปดูเล้ยย >> https://1th.me/oUXQc
![](/f/28563/5dc925bb9c85654bcd434ac7.jpg)
เดินทางกับแอร์เอเชีย อุ่นใจและสบายกระเป๋าเป็นที่สุด เราเลือกแพ็กสุดคุ้มพร้อมตั๋วในราคาประหยัด ได้บินสบายๆ แถมโหลดกระเป๋าได้ถึง 20 กก. พร้อมอาหารร้อนบนเครื่อง และมีประกันการเดินทางคุ้มครองความล่าช้าของสัมภาระและเที่ยวบินจาก Tune Protect อีกด้วย รับความคุ้มค่าทั้งหมดนี้เพียงแค่จองที่ AirAsia.com หรือ จองผ่านแอพก็ได้นะคะ
![](/f/28563/5dc925c49c85654bcd434ac8.jpg)
การมาเที่ยวประเทศจีน นอกจากจะต้องทำวีซ่าแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ นั่นก็คือ การเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องของการแลกเงิน (สกุลเงินหยวน CNY) และการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบไม่สะดุด กับ Pocket WiFi จาก Yogofi ซึ่งเหมาะสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์อย่างเรามากๆ จะเข้าแอพแปลภาษา ดูแผนที่ Google Map หรือจะเล่นโซเชียลมีเดีย ก็ทำได้หมด โดยไม่ต้องโหลด VPN ให้วุ่นวาย...เที่ยวจีนแบบไร้กังวลเพราะเราพก Yogofi มาด้วย
![](/f/28563/5dc925cd9c85654bcd434ac9.jpg)
การเดินทาง : หลังจากที่ลงเครื่องที่สนามบินฉางซาหวงฮัว แล้ว (Changsha Huanghua International Airport-长沙黄花国际机场) เราเดินทางเข้าเมืองฉางซากันต่อ ด้วย Airport Bus ติดต่อเคาน์เตอร์รถบัส ประตูทางออกที่ 5 เพื่อซื้อตั๋วไปลงที่ Changsha Railway Station ราคาคนละ 18 CNY ใช้เวลานั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ต่อรถแท็กซี่ไปลงที่โรงแรม Kaiserdom Hotel Changsha West Bus Station Branch ราคารวม 32 CNY ใช้เวลานั่งรถ 30 นาที
Note : แท็กซี่กดมิเตอร์เริ่มต้นที่ 10 CNY
ข้อดีของการพักที่โรงแรมนี้ก็คือ ราคาถูก แค่คืนละ135 CNY (ประมาณ 580 บาท) แถมทางลงรถไฟใต้ดินก็ยังอยู่หน้าโรงแรมอีกด้วย และยังสามารถเดินเท้าไป Changsha West Bus Station ได้ภายใน 5 นาที สะดวกสบายมากๆ
DAY 2 : Changsha
![](/f/28563/5dc925d7b328934bc73bf9f1.jpg)
เริ่มต้นเที่ยวฉางซาชิวๆ กับบรรยากาศโมเดิร์นท่ามกลางสถาปัตยกรรมสุดล้ำของพิพิธภัณฑ์ Meixihu International Culture & Art Center การเดินทาง : จากที่พักของเราเมื่อคืนที่ Kaiserdom Hotel Changsha West Bus Station Branch ด้านหน้าโรงแรมมีทางลงไปรถไฟใต้ดิน Line 2 จากสถานี Wangchengpo ให้ไปลงที่สถานี Culture & art Center Station ทางออกที่ 2 ราคา 2 CNY (ประมาณ 9 บาท)
![](/f/28563/5dc925f89c85654bcd434aca.jpg)
พิพิธภัณฑ์ Meixihu International Culture & art Center เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและศิลปะนานาชาติเมืองฉางชา ภายในเป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานและนิทรรศการต่างๆ น่าเสียดายที่ตอนเราไป เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่เปิด เราจึงเดินถ่ายรูปเล่นอยู่แค่ด้านนอกเท่านั้น
![](/f/28563/5dc926059c85654bcd434acb.jpg)
ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์มากนัก เราไปเที่ยวกันต่อที่เกาะส้ม Juzi Island / Mao Zedong Youth Art Sculpture (橘子洲地铁站) ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เราสามารถเดินเล่นเที่ยวชมวิวติดทะเลสาบได้ แต่ไฮไลท์ของการมาเที่ยวฉางซา นั่นก็คือการมาชมรูปปั้นท่านประธานเหมา เจ๋อ ตุง เนื่องจากฉางซาเป็นบ้านเกิดของท่านนั่นเอง
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Line 2 จากสถานี Culture & Art Center มาลงที่สถานีJuzizhou ทางออกที่ 1 ราคา 3 CNY (ประมาณ 13 บาท)
![](/f/28563/5dc926109c85654bcd434acc.jpg)
เนื่องจากเกาะส้มนั้นกว้างมาก การเที่ยวชมเกาะส้มให้ทั่วทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วจึงนิยมนั่งรถรางกัน โดยซื้อตั๋วขึ้นรถรางในราคา 20 CNY (ประมาณ 86 บาท) นั่งเข้าไปเที่ยวในสวนสาธารณะ และแวะลงเป็นจุดๆ ตามสถานที่สำคัญๆ โดยรถจะวิ่งพาเราเที่ยวเป็นวงกลมจนสุดทางแล้วต้องเดินต่อไปอีก ก็จะเจอ รูปปั้นเหมา เจ๋อ ตุง
![](/f/28563/5dc9261b9c85654bcd434acd.jpg)
หลังจากที่เที่ยวเกาะส้มเสร็จ เราก็กลับไปที่โรงแรมอีกครั้งเพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ในการเดินทางครั้งนี้สะดวกสบายมากๆ ด้วยกระเป๋าเดินทาง Legend Walker น้ำหนักเบา ทนทาน แข็งแรง พร้อมลุยและเดินทางต่อไปที่อู่หลิงหยวน เป้าหมายที่เราจะไปตามรอยหุบเขาอวตาร
ที่อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย นั่นเอง
การเดินทาง : จากฉางซาไปอู่หลิงหยวน เราเดินทางด้วยรถบัสจาก Changsha West Bus Station (长沙西汽车站) ไปลง Wulingyuan Bus Station (武陵源汽车站) ตั๋วราคา 103 CNY ค่าประกัน 5 CNY (รวมแล้วประมาณ 465 บาท) ใช้เวลา 4 ชั่วโมง มาถึงท่ารถอู่หลิงหยวนค่ำๆ เช็คอินเข้าที่พัก Zhangjiajie Destination Youth Hostel (ราคา 785 บาท / 2 คืน)
DAY 3 : Zhangjiajie National Forest Park
![](/f/28563/5dc926279c85654bcd434ace.jpg)
วันนี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้า เพื่อมารอคิวขึ้นเคเบิลคาร์ ตอน 7.30 น. ที่พักของเราเมื่อคืน Zhangjiajie Destination Youth Hostel อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าอุทยานมากๆ เดินมาแค่ 10 นาทีเท่านั้น เราให้เจ้าของโรงแรมช่วยจองตั๋วเข้าอุทยานให้ในราคา 228 CNY ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปต่อแถวซื้อบัตรเข้าในตอนเช้า
![](/f/28563/5dc9263b9c85654bcd434ad0.jpg)
ต้องยอมรับเลยว่า ระบบการตรวจสอบและการรักษาความปลอดภัยด้านหน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยของจีน เขาเข้มงวดและมีระบบระเบียบมากๆ เริ่มตั้งแต่การสแกนกระเป๋า ตรวจบัตร ไปจนถึงการสแกนลายนิ้วมือกันเลยทีเดียว หลังจากผ่านจุดตรวจบัตรเข้ามาแล้ว เราก็ไปหารถบัส โดยให้เข้าช่องที่ไป Tianzi Mountain ซึ่งจะไปส่งเราเพื่อขึ้นเคเบิลคาร์ ใช้เวลานั่งรถประมาณ 30 นาที
![](/f/28563/5dc92654b328934bc73bf9f3.jpg)
![](/f/28563/5dc9265bb328934bc73bf9f4.jpg)
ขึ้นเคเบิลคาร์หรือกระเช้าลอยฟ้าในราคา 72 CNY(ประมาณ 310 บาท) กับวิวสุดอลังการ ช่วงเดือนตุลาคม ใบไม้เริ่มที่จะเปลี่ยนสีแล้ว ยิ่งช่วยให้วิวธรรมชาติระหว่างทางของยอดเขาเทียนจื่อซาน มีสีสันมากขึ้น
![](/f/28563/5dc92663b328934bc73bf9f5.jpg)
และแล้ว...เราก็ได้ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแบบสบายใจ ทั้งเคเบิลคาร์มีแค่เรากับน้องสาวเท่านั้น วีไอพีสุดๆ ไปเลย
![](/f/28563/5dc926729c85654bcd434ad3.jpg)
เราออกจากเคเบิลคาร์ และต่อรถบัสไปลงที่ He long Park แล้วก็พบกับ สวนสาธารณะนายพลเห้อหลง(贺龙公园 เห้อหลงกงหยวน) ซึ่งท่านเป็น 1 ใน 10 จอมทัพ แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีฝีมือในสมัยท่านประธานเหมา ด้านหลังเป็นวิวภูเขาเทียนจื่อซาน ถือว่าเป็นจุดชมวิวอีกจุดที่สามารถมองเห็นแท่งหินยักษ์หลายๆ แท่งแบบอลังการ ที่เที่ยวบริเวณนี้ยังมี Yubi Feng Peak ซึ่งถ้าออกจากโซนนี้มาก็จะเจอ Mc Donald’s เดินเลยไปจะเป็น Imperial Writing Brush Peaks อยู่ตรงข้ามกับ Fairy Dispersing Flowers และ Tiazi Pavillion
![](/f/28563/5dc9267e9c85654bcd434ad5.jpg)
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (张家界国家森林公园) เป็นอุทยานที่ขึ้นชื่อลำดับต้นๆ ของประเทศจีน เรื่องการมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงต้นเดือนตุลาคม – กลางพฤศจิกายน แต่ไม่ว่าจะมาช่วงฤดูไหน ที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน...และแล้วการมาจีนครั้งแรกของเราในครั้งนี้ ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะเราได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีบนวิวภูเขาเทียนจื่อซาน ที่ความสูงถึง 1,250 เมตร ท่ามกลางป่าและภูเขาหินสูงเฉียดฟ้าทั่วทั้งหุบเขา เนี่ยแหละที่เขาเรียกว่า วิวหลักล้าน ระดับ 5Aของจริง!! (สถานที่ท่องเที่ยวจีนแบ่งเป็น 5 ระดับ ได้แก่ 1-5A โดย 5A หมายถึงสวยงามที่สุด)
![](/f/28563/5dc9268c9c85654bcd434ad6.jpg)
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) หรืออุทยานแห่งชาติอู่หลิงหยวน ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1992 อีกทั้งยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีนอีกด้วย
![](/f/28563/5dc9269b9c85654bcd434ad7.jpg)
ความรู้สึกตอนดูรูปภาพ กับการได้มาสัมผัสด้วยตัวเองในสถานที่จริง มันช่างแตกต่างกันซะเหลือเกิน บรรยากาศตอนนี้ พูดได้คำเดียวเลยว่า เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ หรือดินแดนเทพนิยาย เลยล่ะ
![](/f/28563/5dc926a5b328934bc73bf9f6.jpg)
อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือ สะพานหนึ่งเดียวใต้หล้า First Bridge under Heaven (天下第一桥 เทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว) เป็นสะพานหินที่เชื่อมระหว่างเขา 2 ลูก ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเป็นจุดชมวิวที่สวยมากอีกที่หนึ่งอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย
![](/f/28563/5dc926be9c85654bcd434ad8.jpg)
ภาพมุมสูงของสะพานหนึ่งเดียวใต้หล้า สะพานหินที่เชื่อมระหว่างเขา 2 ลูก ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้สูงใหญ่จนแทบจะกลืนเป็นภูเขาลูกเดียว
![](/f/28563/5dc926c8b328934bc73bf9f7.jpg)
บนสะพานหนึ่งเดียวใต้หล้า จะมีลูกกุญแจอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเป็นความเชื่อของคนหนุ่มคนสาวที่ว่า หากคู่ไหนเอากุญแจไปคล้องไว้ที่สูง ๆ จะได้ไม่มีใครสามารถพรากคู่รักให้จากกันได้ หรือเราจะไม่พรากจากกันตราบชั่วนิรันดร์ สำหรับใครที่มาคนเดียวและไม่รู้จะคล้องกุญแจกับใคร ก็สามารถซื้อผ้าแดง ราคา 5 CNY มาเขียนคำอธิษฐานขอพร และผูกไว้ที่สะพานได้เช่นกัน
![](/f/28563/5dc926d29c85654bcd434ad9.jpg)
จริงๆ แล้วภายในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย แบ่งออกเป็น 6 โซน ซึ่งกว้างมาก เที่ยววันเดียวไม่หมดแน่ๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเลือกเที่ยวโซนที่เป็นไฮไลท์เด่นๆ นั่นก็คือ Yuanjiajie Scenic Area ('Yuan Family Territory' 袁家界) มีสถานที่ที่น่าสนใจคือ หุบเขาอวตาร และสะพานหนึ่งเดียวใต้หล้า แนะนำว่าให้หาเวลาเที่ยวที่นี่สัก 2 วัน กำลังดี จะได้ไม่รีบเที่ยวจนเกินไป และเดินเที่ยวรอบๆ ได้มากขึ้น
![](/f/28563/5dc926db9c85654bcd434ada.jpg)
เสาหินแห่งฟ้าแดนใต้ Avatar Hallelujah Mountain ( 南天一柱 หนานเทียนอี๋จู้) ที่นี่เป็น 1 ใน 4 ขุนเขาที่สวยงามที่สุดในจีน จนกลายเป็นแรงบันดาลใจของภูเขาลอยฟ้าแห่งดาวแพนดอร่า หรือหุบเขาอวตาร ฉากเด่นในภาพยนตร์เรื่องอวตาร โดย เจมส์ แคมารอน นั่นเอง จากนั้นให้เดินเลยไปอีกนิด ก็จะเจอกับรูปปั้นนกจากนครแพนดอร่า
![](/f/28563/5dc926eb9c85654bcd434adb.jpg)
เที่ยวจีนไม่ต้องใช้ VPN ก็เล่นโซเชียล อัพรูปลงไอจีได้ ทริปนี้เราใช้ Pocket WiFi ของ Yogofi ไม่ว่าจะอยู่สูงแค่ไหน บนภูเขาลูกไหน ก็เล่น Facebook, Line, Instagram, Google ได้ สามารถเชื่อมต่อและใช้งานโซเชียลมีเดียที่จีนไม่อนุญาตได้ โดยไม่ต้องดาวน์โหลด VPN หรือตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก ใช้งานงานง่าย และสะดวกสบายสุดๆ
![](/f/28563/5dc926f69c85654bcd434adc.jpg)
เดินมาตั้งแต่เช้า พักขาหาอะไรกินเอาแรงกันก่อน อาหารและของกินส่วนใหญ่จะเป็นแบบของทานง่ายๆ แบบซื้อแล้วเดินกินได้ ก่อนซื้อแนะนำนิดนึงว่า ให้เดินดูทุกร้านพร้อมถามราคาแล้วค่อยซื้อ ราคาบางร้านจะแตกต่างกันนิดหน่อย สำหรับเรา จะเลือกร้านที่มีคนรุมซื้อเยอะๆ สรุปเราได้เต้าหู้ผัดซอสมากิน 1 ถ้วย ในราคา 15 CNY (ประมาณ 65 บาท)
ปล.นอกจากร้านอาหารแล้ว ด้านบนยังมีร้าน Mc'Donald ถ้าใครหิวก็แวะฝากท้องที่นี่ได้นะคะ
![](/f/28563/5dc92704b328934bc73bf9fa.jpg)
มีอาหารที่ไหน มีลิงที่นั่น ไม่เว้นแม้แต่ลิงที่จีน โซนขายอาหารให้นักท่องเที่ยวลิงจะเยอะมากเป็นพิเศษ
![](/f/28563/5dc9270d9c85654bcd434ade.jpg)
ลิฟต์แก้วไป่หลงหรือลิฟต์แก้วร้อยมังกร Hundred Dragon Elevator, Bailong Elevator (白龙天梯)ค่าลิฟต์ราคาคนละ 65 CNY(ประมาณ 280 บาท) นี่คือลิฟต์แก้วแห่งแรกของเอเชียที่สูงถึง 326 เมตร เป็นลิฟต์แก้วแบบ outdoor ที่สูงที่สุดในโลกและเร็วที่สุดในโลก ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที เจ้าหน้าที่จะจำกัดจำนวนคนเข้าลิฟต์ต่อหนึ่งครั้งที่ 20 คน ใครได้เข้าไปอยู่ด้านในสุดชิดริมกระจก ก็ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะจะได้เห็นวิวภูเขาแท่งหินสูงเป็นร้อยๆ แท่ง
![](/f/28563/5dc927239c85654bcd434adf.jpg)
พอออกจากลิฟต์มา ก็จะเจอลานกว้างๆ เป็นจุดให้ถ่ายรูปกัน สามารถมองเห็นลิฟต์อยู่ข้างนอก กำลังเลื่อนขึ้นลง จากนั้นเราก็เดินตามทางออกมาจะเจอจุดขึ้นรถบัส เราไปเที่ยวกันต่อที่ภาพวาดสิบลี้ Ten-Mile Gallery และ ลำธารจินเปียนซีหรือลำธารแส้ทอง Gold Whip Stream
ฟ้าครื้มๆ วันนี้คงไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินแน่ๆ เราจึงตัดสินใจ นั่งรถบัสกลับออกมาที่ประทางเข้าอุทยานทางเดิม และเดินกลับที่พักตอน 6 โมงเย็น
DAY 4 : Yellow Dragon Cave
![](/f/28563/5dc9272f9c85654bcd434ae0.jpg)
ถ้ำมังกรเหลือง หรือ Yellow Dragon Cave (黄龙洞) เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงในบริเวณจุดชมวิวอู่หลิงหยวน เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกว่าเป็น ''สิ่งมหัศจรรย์ของถ้ำบนโลก'' และเป็นถ้ำที่สวยที่สุดในประเทศจีนอีกด้วย
![](/f/28563/5dc927389c85654bcd434ae1.jpg)
ฝนตกตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้า วันนี้เราเลยตัดสินใจตื่นกันสายหน่อย เดินเล่นหาอะไรกินแถวๆ โรงแรม และให้เวลาทั้งวันกับการเที่ยวถ้ำมังกรเหลือง
![](/f/28563/5dc927479c85654bcd434ae2.jpg)
การเดินทาง : ถ้านั่งแท็กซี่จะราคาประมาณ 30 CNY แต่เรานั่งรถเมล์สาย 1 ไปขึ้นที่ถนนเส้นหลัก ถนนที่ตรงกับทางเข้าอุทยานจางเจียเจี้ย ราคาคนละ 1 CNY นั่งรถเมล์ประมาณ 20 นาที ให้ลงที่ทางเข้าซึ่งมีจุดสังเกตคือ แท่งหินหน้าทางเข้าที่มีสลักตัวอักษรจีนแผ่นใหญ่มาก วางอยู่หน้าทางเข้า ฝั่งตรงข้ามที่เป็นจุดสังเกตอีกจุดหนึ่งคือ ร้าน Many ลงและข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เพื่อไปซื้อตั๋วที่ทางเข้า ราคาคนละ 96 CNY เวลาเปิดปิด 07:00-17:00 น.
![](/f/28563/5dc927539c85654bcd434ae3.jpg)
จุดไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่
Dragon Dance Palace (Wulong Ting 舞龙厅) โถงที่เล็กที่สุดในจำนวนโถงทั้งหมด 13 โถง อยู่ลำดับแรก
Dragon Palace (Long Gong 龙宫) โถงที่ใหญ่ที่สุดและเก่าที่สุด มีความสูงถึง 40 เมตร มีหินงอกหินย้อยกว่าสองพันแท่ง มีหินขนาดใหญ่อยู่ชั้น 4 เรียกว่า King’s Throne
Fairy Palace (Tianxian Gong 天仙宫) มี stone waterfalls ที่สูง 40 เมตร ถือเป็นกลุ่มหินที่อยู่ในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในจีน และมีน้ำตก Tianxian ที่เป็นน้ำตกในถ้ำสูงถึง 27 เมตร
Xiangshui River แม่น้ำใต้ดินในถ้ำที่มีความยาวกว่า 2,800 เมตร ลึก 6 เมตร อยู่ที่ชั้น 2 จุดนี้เราจะได้ประสบการณ์นั่งเรือ ล่องแม่น้ำในถ้ำ ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 10 นาที
![](/f/28563/5dc92771b328934bc73bf9fb.jpg)
การเดินทางภายในถ้ำต้องมีการขึ้นบันไดและเดินระยะทางค่อนข้างไกล เดินผ่านตามทางเดินและขึ้นสะพาน นั่งเรือล่องน้ำใต้บาดาลระยะทางประมาณ 800 เมตร ควรเผื่อเวลาในการเที่ยวถ้ำประมาณ 4 ชม.
DAY 5 : Tianmen Mountain National Park
![](/f/28563/5dc9277f9c85654bcd434ae4.jpg)
ประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน Tianmen Mountain National Park (天门山)
ที่นี่คือ 1 ใน 4 ของภูเขาที่สวยที่สุดในจีน สาเหตุที่เรียกว่า ประตูสวรรค์ เป็นเพราะว่า มีโพรงถ้ำสูงใหญ่ที่เกิดเองตามธรรมชาติ สูงถึง 131.5 เมตร กว้าง 57 เมตร ลึก 60 เมตร เมื่อมองจากพื้นราบขึ้นไปจึงเปรียบเหมือนประตูสวรรค์จากฟากฟ้า เชื่อกันว่าที่นี่เป็นจุดบรรจบของ “โลกมนุษย์กับสวรรค์” ถ้าไปยืนรับพลังดี ๆ ก็จะนำโชคดีกลับไป
![](/f/28563/5dc92790b328934bc73bf9fc.jpg)
เราจะต้องซื้อตั๋วเข้าชม ในราคาคนละ 245 CNY (รวมค่ากระเช้า+ค่าบันไดเลื่อน+ค่ารถมินิบัสภายในอุทยาน) ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ
LINE A : ขาขึ้นนั่งกระเช้า / ขาลง ลงบันไดเลื่อน / เดินลงบันได 999 ขั้น / นั่งรถบัสผ่าน 99 โค้ง
LINE B : ขาขึ้นนั่งรถบัสผ่าน 99 โค้ง /ขึ้นบันไดเลื่อน / เดินขึ้นบันได 999 ขั้น ถ้าขึ้นลิฟต์เสีย 32 CNY / ขาลงนั่งกระเช้า
LINE C : ขาขึ้นนั่งรถบัสผ่าน 99 โค้ง / ขึ้นบันไดเลื่อน / เดินขึ้นบันได 999 ขั้น ถ้าขึ้นลิฟต์เสีย 32 CNY / ขาลงนั่งรถบัส
คุณ Rocky เจ้าของโรงแรมแนะนำเราให้เลือกแบบ LINE A เพราะวิวจะสวยกว่าและไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นบันได พร้อมกับจองตั๋วให้และพาเรามาส่งที่ทางเข้าอุทยาน
![](/f/28563/5dc927ac9c85654bcd434ae5.jpg)
วิวมุมสูงจากกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก ความยาวถึง 7.5 กิโลเมตร ชมวิวตลอดทางจากกลางเมืองจางเจียเจี้ยสู่ยอดเขาเทียนเหมินซาน ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
![](/f/28563/5dc927b7b328934bc73bf9fd.jpg)
ทริคเล็กๆ ที่อยากจะแนะนำสำหรับคนที่เลือกเดินทางด้วยการขึ้นเคเบิลคาร์ก่อน (LINE A) เพื่อให้ได้เห็นวิวถนน 99 โค้ง ในมุมที่สวยและไม่โดนบังวิว เมื่อเข้ากระเช้าไปแล้ว ให้นั่งติดริมประตูทางเข้า-ออก เราจะได้เห็นวิวสวยๆ อลังการแบบวีไอพีกันเลยทีเดียว แต่สามารถเห็นมุมนี้ได้แค่ประมาณ 7 วินาที เท่านั้น ดังนั้น เตรียมกล้องให้พร้อมนะคะ
![](/f/28563/5dc927c39c85654bcd434ae6.jpg)
เมื่อนั่งเคเบิลคาร์มาแล้วให้ลงที่ Upper Station ตรงจุดนี้จะเจอทางแยก เราเลือก West line เพราะเป็นเส้นทางที่จะเดินไปวัดเทียนเหมินซานใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม. เดินมาสักพักจะเจอสะพานแขวน แล้วเดินต่อไปก็จะเจอวัด ด้านในจะมีพระมากมาย (จุดก่อนเดินไปถึงวัดจะเจอจุดนั่งกระเช้าห้อยขาชมวิว ราคาคนละ 25 CNY แต่เราไม่ได้นั่ง เพราะลมแรงและมองไม่เห็นอะไรเลย)
Note : ออกจากสถานีเคเบิลคาร์ไปตามป้ายบอกทาง เลี้ยวขวาจะเป็น East line เลี้ยวซ้ายจะเป็น West line
![](/f/28563/5dc927cf9c85654bcd434ae7.jpg)
เราเดินไปเรื่อยๆ ชมวิวข้างทางที่มีแต่หมอก สักพักจะเป็นจุดไฮไลท์ทางเดินกระจก หรือระเบียงแก้วกระจก มีทั้งหมด 3 แห่ง ระยะทางประมาณ 60 เมตร ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,433 เมตร ล้อมรอบผาสูงชัน จุดนี้จะต้องเสียค่าถุงเท้าคนละ 5 CNY แต่เราไม่ได้เดินเพราะฟ้าปิด มองไม่เห็นอะไรเลย
![](/f/28563/5dc927dbb328934bc73bf9fe.jpg)
เราเดินไปจนถึงสุดด้านบนที่วัดเทียนเหมินซาน แต่ฟ้าก็ปิดตลอดทาง หมอกเยอะมาก และฝนเริ่มตกลงมา เราเลยตัดสินใจ เดินทางกลับ เราเดินย้อนกลับไปที่จุดเดิม แล้วไปลงบันไดเลื่อนยาวๆ เพื่อลงไปที่ประตูสวรรค์ แล้วนั่งรถบัสผ่าน 99 โค้ง กลับไปที่ทางออก
![](/f/28563/5dc927e69c85654bcd434ae8.jpg)
เราจองตั๋วรถบัสไปเมืองเฟิ่งหวงต่อตอนบ่ายสองโมงครึ่ง จากZhangjiajie Central Bus Station (张家界中心汽车站) ไปลงที่ Fenghuang Bus Station (凤凰汽车客运站) ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงกว่า มาถึงเมืองเฟิ่งหวงตอนหัวค่ำพอดี บรรยากาศตอนกลางคืนที่นี่เต็มไปด้วย แสง สี เสียง ร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ เรียงรายอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ
![](/f/28563/5dc927f1b328934bc73bf9ff.jpg)
เราเช็คอินเข้าที่พัก Fenghuang Encounter Inn ในราคาคืนละ 89 CNY (ประมาณ 380 บาท) จากนั้นก็เดินออกมาหาอะไรกิน มื้อเย็นที่เมืองเฟิ่งหวงตอนสามทุ่ม เราเลือกอาหารที่ง่ายๆ กินแก้หนาว คลายหิว อย่างซาลาเปาไส้หมูสับ และข้าวผัดหมู สองอย่างนี้ราคา 25 CNY (ประมาณ 100 บาท)
![](/f/28563/5dc92800b328934bc73bfa00.jpg)
คนแปลกหน้าชาวจีนอัธยาศัยดี ถึงแม้เราจะสื่อสารกันด้วยภาษามือ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเลยว่า เราจะคุยกันรู้เรื่อง เราจบการเดินทางวันที่ 5 ที่ร้านอาหารร้านนี้ ก่อนเดินกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน
DAY 6 : Fenghuang
![](/f/28563/5dc928169c85654bcd434ae9.jpg)
วันสุดท้ายของทริปจีนในครั้งนี้ เรายังคงอยู่กันที่เมืองโบราณเฟิ่งหวง บรรยากาศยามเช้าของเมืองโบราณที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของจีน ช่างแตกต่างจากตอนกลางคืนโดยสิ้นเชิง ความเงียบสงบถูกเข้ามาแทนที่แสง สี เสียงจากร้านค้าริมน้ำ ทำให้เรารู้สึกกลับชอบบรรยากาศตอนนี้มากกว่าเมื่อคืนเสียอีก
![](/f/28563/5dc92826b328934bc73bfa01.jpg)
ถึงแม้จะเป็นเช้าที่ฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่อาจทำให้เสน่ห์ของเมืองโบราณแห่งนี้ลดน้อยลง
![](/f/28563/5dc92830b328934bc73bfa02.jpg)
![](/f/28563/5dc9283a9c85654bcd434aea.jpg)
เราได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำถัวเจียง พายเรือ ขายของ ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ได้ชมบรรยากาศความสวยงามของบ้านเรือนเก่าแก่ ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นภูเขาสูงใหญ่ นี่แหละ คือเอกลักษณ์ของเมืองโบราณเฟิ่งหวง ที่ใครๆ ก็ต่างอยากมาสัมผัสและเห็นด้วยตาตัวเอง
![](/f/28563/5dc9284db328934bc73bfa03.jpg)
การขายผลไม้แบบหาบเร่ ผลไม้หน้าตารูปร่างแปลกๆ มีให้เห็นได้ทั่วไปในเมืองโบราณเฟิ่งหวง
![](/f/28563/5dc92859b328934bc73bfa04.jpg)
เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้บ้านเรือนเก่าแก่ของเฟิ่งหวง ถูกใช้เป็นสถานที่หรือบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว มีทั้งบาร์เบียร์ และร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ต่างๆ มีการตกแต่งที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ เหมาะแก่การไปนั่งอ่านหนังสือ จิบชา จิบเบียร์ พักผ่อนชิวๆ และใช้ชีวิตช้าๆ
![](/f/28563/5dc92861b328934bc73bfa05.jpg)
ตรงจุดนี้ ตามตรอกซอกซอย ช่วงกลางคืนคนจะเยอะมาก นักท่องเที่ยว ร้านค้า พ่อค้าแม่ค้า คึกคักมากและมีของกินให้เราได้เลือกเต็มสองข้างทาง
![](/f/28563/5dc92880b328934bc73bfa06.jpg)
น้องหมาตาชั้นเดียว ตี๋น้อย
![](/f/28563/5dc92889b328934bc73bfa07.jpg)
ถึงแม้จะเป็นการเดินทางวันสุดท้ายแล้วก็ตาม แต่สัญญาณเน็ตของ Pocket wifi Yogofi ยังคงแรงดี ไม่มีตก ทำให้เราไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร
![](/f/28563/5dc92892b328934bc73bfa08.jpg)
การเดินทางกลับ : จากเมืองเฟิ่งหวง เรานั่งแท็กซี่ไปลงที่ Fenghuang Bus Station (凤凰汽车客运站) ในราคา 15 CNY จากนั้นซื้อตั๋วรถบัสรอบบ่ายสองโมง ในราคาคนละ 140 CNY ไปลงที่ Changsha West Bus Station และนั่งรถไฟใต้ดิน Line 2 ไปลงสถานี South Railway Station ในราคา 5 CNY เพื่อไปต่อรถไฟเร็ว Maglev ไปสนามบิน ในราคา 20 CNY ถึงสนามบิน เดินไปTerminal 2 ถึงเคาน์เตอร์เช็คอินแอร์เอเชีย ตอน 4 ทุ่ม เที่ยวบิน FD 541 ขึ้นเครื่องกลับไทยโดยสวัสดิภาพ
![](/f/28563/5dc928bd9c85654bcd434aec.jpg)
โบกมือบ้าย บายทริปเที่ยวคูลๆ ครั้งแรกที่จีน ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากคนแปลกหน้าชาวจีน ที่ให้การต้อนรับและช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีจนวินาทีสุดท้ายที่อยู่ที่นี่ ...เที่ยวจีนเที่ยวง่ายและไม่แพงอย่างที่คิด สักครั้งในชีวิต...เปิดใจออกไปเที่ยวจีน แล้วคุณจะรู้ว่า “เที่ยวจีนครั้งเดียวไม่เคยพอ”
#AirAsiaTravels #ไปฉางซาไปกับแอร์เอเชีย
#รู้จีนรู้ใจไปกับแอร์เอเชี
#yogofithailand #yogofiTH #jptravelstore
#สวัสดีคนแปลกหน้า #HelloStranger
สวัสดีคนแปลกหน้า
วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 10.07 น.