ทริปนี้เกิดจากความอยากกลับมาเชียงคานอีกครั้ง หลังจากที่เคยมาเมื่อ 12 ปีก่อน และทริปนี้ไม่ได้เดินทางคนเดียว ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถ vip ของซันบัส รถเป็น 3 แถว มีที่ชาร์จแบบ usb จอทีวี ขนมและน้ำ (ไม่มีอาหารและไม่แวะให้กิน) และผ้าห่มผืนน้อย 1 ผืน ห้องน้ำแยกชาย-หญิง แอร์บนรถหนาวมาก แถมผ้าห่มยังผืนน้อยอีก
พนักงานประจำรถแจ้งตั้งแต่ตอนขึ้นรถว่ารถมีปัญหาที่ระบบไฟ ต้องเปลี่ยนรถที่ชัยภูมิ ก็ถือว่าได้ลงมาเข้าห้องน้ำแล้วกัน ได้รถมาตรฐานเดิมแต่เป็น 2 ชั้น มาถึงเชียงคาน 4:40 ก็เลยตัดสินใจขึ้นภูทอกก่อนเลย ราคามาตรฐานแบบนี้ทุกคัน (ถ่ายตอนรถวิ่งจะสั่นๆ มากหน่อย)
ระหว่างทางนั่ง skylab ลมตีหนาวเอาเรื่องเลย มาถึงจุดเปลี่ยนรถ จะเสียค่ารถขึ้นภูทอกคนละ 25 บาท (ขึ้นและลง) ขึ้นมาถึงดวงจันทร์ยังสว่างไสวอยู่เลย
เดินรอบๆ เก็บภาพไปเรื่อยๆ แสงก็มาเรื่อยๆ ลมเย็นพัดมาตลอดเวลา
วันที่เราขึ้นแต้มบุญไม่มากพอหมอกก็เลยไม่มี ขาลงแวะจิบกาแฟและไข่กระทะที่ร้านกาแฟบ้านดอยช้าง ด้านล่างตรงจุดเปลี่ยนรถขึ้น-ลงภูทอก หลังแวะซื้อผ้าขาวม้าไป 2 ผืน
อิ่มแล้วก็โทรตามน้องบอส คนขับ skylab เราตกลงให้น้องพาเที่ยวต่ออีก 2 จุด น้องพามาที่วัดพระบาทภูควายเงิน พอมาถึงก็โทรตามรถบริการรับ-ส่ง ค่ารถคนละ 25 บาท (ขึ้น-ลง)
ที่นี่มีคอกกระต่าย และคอกเต่าสามารถเลี้ยงอาหารได้ น้องกระต่ายชอบอาหารเม็ด ส่วนพี่เต่าชอบผักบุ้ง
ที่วัดมีจุดชมวิว เห็นหมู่บ้านและนาข้าวสวยๆ ด้วย
ลงจากวัดก็ไปที่แก่งคุดคู้ ช่วงที่ไป 16 ตุลาคม 2562 น้ำน้อยมาก เดินสนุกมากกว่าจะได้เอามือจุ่มน้ำเย็นๆ
มื้อเที่ยงแวะกินที่ร้านอาหารกลุ่มสตรีอาหารพื้นบ้านแก่งคุดคู้ ร้านนี้อร่อย ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณอาหาร มื้อนี้กินกุ้งไปหลายพันตัว
ระหว่างทางจากแก่งคุดคู้เข้ามาที่ถนนคนเดินเชียงคานจะผ่านจุดผลิตและจำหน่ายมะพร้าวแก้ว น้องบอสพาไปซื้อร้านที่ทำสดทุกวัน ก็ได้มะพร้าวแก้วเกรดเอ 1 ลูกทำได้ 4 ชิ้น นุ่มอร่อยมาก แถมได้น้ำมะพร้าวกลับมากินอีกคนละขวดแบบฟรีๆ ได้ของตั้งแต่เริ่มทริปก็ดีจะได้จัดกระเป๋าได้ถูกเวลากลับ เราจองที่พัก "ตาหน่วมโฮมสเตย์" คุณลุงไสวใจดีมาก มีโทรมายืนยันก่อนเข้าพัก 1 วันด้วย เราได้ที่พักห้อง 1 เห็นวิวแม่น้ำโขงสมใจ โซนนี้สงบ เงียบดี
พี่ที่มาด้วยขอนอนพัก ส่วนเราก็ออกเดินชิลล์สำรวจความเปลี่ยนแปลงของเชียงคานหลังจากที่มารอบก่อนเมื่อ 12 ปีก่อน เดินมาเข้าวัดศรีคุนเมือง วัดนี้มีอายุมากกว่า 200 ปี สงบ
เดินเก็บภาพถนนคนเดินช่วงบ่ายๆ วันธรรมดาแบบนี้คนน้อยมาก เชียงคานสงบมาก ฟ้าใสถ่ายรูปง่ายด้วย
เดินมาถึงวัดท่าคก วัดนี้สร้างเมื่อปี 2395 เราจะจำเสมอว่าวัดนี้เป็นต้นถนนคนเดิน
ลานชมวิวบริเวณนี้ก็จะมีทางเดินและเลยจักรยานแยกกันชัดเจน
เดินมาเจออุโมงค์บริเวณสถานีเรือ นรข.เชียงคาน
เดินมาถึงวัดเชียงคาน โบสถ์ไม่เปิดก็เก็บภาพรอบนอกแทน
จุดหมายปลายทางของการเดินชิลล์ท่ามกลางแดดดีๆ ยามบ่ายมาจบที่วัดท่าแขก เดินสบายเพราะลมดีมาก
ขากลับแดดก็ยังดีอยู่ คนชอบแดดแบบเราฟินมาก
เดินย้อนมาที่ถนนคนเดินแล้วกลับมาที่ห้องพัก มารับพี่ที่มาด้วยออกมาสำรวจถนนคนเดิน พอแดดล่มลมตกคนมาจากไหนเยอะแยะ ปั่นจักรยานกันให้ขวักไขว่ เดินมาที่ลานชมวิวบริเวณวัดท่าคก อาทิตย์กำลังจะตกแล้ว
เดินย้อนมาที่ถนนคนเดิน ถึงเวลากิน ชม ช้อป ชิลล์
ปิดท้ายคืนนั้นด้วยวิวริมโขงจากระเบียงห้อง ไกลๆ นั่นดวงจันทร์สว่างสวยมาก
เช้ารุ่งขึ้นฝนตกปรอยๆ แผนในการใส่บาตรข้าวเหนียวก็พับเก็บนอนต่อดีกว่า ตื่นมาอีกทีได้เห็นวิวแบบนี้ที่ระเบียง
ลงจากห้องมาเดินชมทางเดินริมโขงยามเช้า อากาศดีงามมาก
เดินต่อมาที่วัดโพนชัย เช้าๆ แบบนี้โบสถ์ยังไม่เปิด
กลับมาเดินริมโขงอีกครั้ง ชอบอากาศ หมอกหนาทิศภูทอก ถ้าขึ้นวันนี้คงสวยมาก แต่แต้มบุญเราไม่มี
มื้อเช้าง่ายๆ ที่คุณลุงไสวเตรียมไว้ให้ เราก็นั่งจิบกาแฟร้อนกับอากาศเย็นสบายกำลังดี
เก็บของฝากกระเป๋าและพาพี่ที่มาด้วยสำรวจเมืองกัน
เดินไปตลาด แต่วายแล้ว ก็เลยเดินย้อนมากินร้านจุ่มนัวยายพัด จุ่มนัวอร่อยดี คล้ายสุกี้แต่นัวมาก
เดินมาจิบกาแฟที่ร้าน Sit & Slowlife Cafe' ร้านเก๋ไก๋มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย กาแฟโอเค มาร้านนี้ก็เหมือนชื่อร้านเลยนั่งทิ้งเวลาให้ไหลผ่านจริงๆ
ออกจากร้านก็ไปต่อที่วัดมหาธาตุ
มื้อเที่ยงฝากท้องกับร้านศรีพรรณ รอบก่อนเรานอนโฮมสเตย์ที่นี่ ด้านล่างเปลี่ยนไปเยอะเลย ส่วนด้านบนที่เรามองจากริมโขงด้านนอกไม่เปลี่ยนมากนัก
เดินมาเจอน้องนั่งขายซอฟท์เสิร์ฟอยู่ก็กินคลายร้อนกัน
กลับมาที่ตาหน่วมโฮมสเตย์ ลุงไสวให้เราอาบน้ำก่อนขึ้นรถกลับ ระหว่างรอเวลาขึ้นรถกลับก็ได้เก็บภาพอาทิตย์ตกที่หน้าที่พัก
ก่อนขึ้นรถแวะกินขนมและน้ำที่ร้านจำเลยรัก
ขากลับรถก็ยังแอร์หนาวเหมือนเดิม ทริปนี้ก็สนุกไปอีกแบบ โชดีที่แดดดี ที่พักดี รถทัวร์ดี ของกินก็ดี
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 05.26 น.