สบายดี หลวงพระบางครั้งที่ 2 ของเราเหตุผลที่ทำให้กลับมาเยือนที่นี่อีกคงเป็นเพราะความสงบไม่วุ่นวาย ความเป็นธรรมชาติที่เป็นเสน่ห์ของ “หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ที่สุขสงบ อบอุ่นด้วยรอยยิ้ม”
หลวงพระบาง ตั้งอยู่ทางเหนือของสปป.ลาว อดีตเคยเป็นนครหลวงของอาณาจักรล้านช้าง ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2538 ใช้เงินกีบเป็นหลักในการซื้อขายโดย 1 บาท ประมาณ 230 กีบ แต่สามารถใช้เงินบาทได้ คนไทยสามารถเข้าหลวงพระบางได้โดยไม่ต้องทำวีซ่าด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ว่ามานี้เลยทำให้ “หลวงพระบาง” เป็นเมืองที่ง่ายแก่การไปเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ไม่จำเป็นต้องมีเวลาและงบประมาณมาก ก็ออกเดินทางไปสัมผัสเมืองที่มีมนต์เสน่ห์อย่างหลวงพระบางได้
หลวงพระบางเองก็ยังมีธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาที่สวยงาม พร้อมทั้งยังอนุรักษ์วัฒนธรรมลาวให้คงไว้ได้อย่างน่าอิจฉาเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่หล่อหลอมให้ “หลวงพระบาง” มีเอกลักษณ์แบบยากที่จะหาเมืองไหนเหมือนได้ในปัจจุบัน รีวิวนี้เลยขอพาเพื่อนๆมาสัมผัสเสน่ห์ของหลวงพระบางไปด้วยกันนะคะ
ทริปนี้เราออกเดินทางโดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดที่ครองใจเราทั้งในเรื่องของการบริการและความตรงต่อเวลา
ได้ลองชิม Inspired RED Burger ที่นำเอาเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัวของอาหารพื้นเมืองภาคเหนือของประเทศไทย มาอยู่ในรูปแบบเบอร์เกอร์ขนมปังสีแดงสดประกบกับไส้อั่วไก่โฮมเมดเนื้อนุ่ม
เวลาเดินทางก็ถือว่ากำลังสบายๆ ไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้า Slow Life ตามสไตล์หลวงพระบาง
ขาไป กรุงเทพฯ - ดอนเมือง ถึง หลวงพระบาง 13:55 - 15:20
ขากลับ หลวงพระบาง ถึง กรุงเทพฯ - ดอนเมือง 15:50 - 17:20
จากความคิดที่อยากพาคุณแม่เดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจใกล้ๆ เมืองไทย ที่ที่เราจะสามารถเดินเล่นใช้ชีวิตได้อย่างไม่เร่งรีบ
หลวงพระบางจึงเป็นตัวเลือกแรกๆที่เรานึกถึง ทริปนี้เราได้มีโอกาสเข้าพักโรงแรมสวยๆถึง 2 แห่งด้วยกัน ที่แรกจะขอพามาชมที่พักสุดสวยและคลาสสิค โรงแรมโซฟิเทล หลวงพระบาง (Sofitel Luang Prabang) กันก่อน
สำหรับเตย Sofitel Luang Prabang เป็นโรงแรมที่มีความอบอุ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โรงแรมสะท้อนถึงความสวยงามและเรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองหลวงพระบางหากแต่ยังคงมาตรฐานการบริการแบบ 5 ดาวอย่างแท้จริง ⭐⭐⭐⭐⭐
บรรยากาศบริเวณล็อบบี้เป็นล็อบบี้แบบเปิด โดยใช้ส่วนใต้ถุนของเรือนมาเป็นจุดต้อนรับ พนักงานที่นี่ยิ้มแย้ม น่ารักกันทุกคน รู้สึกถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น
เรือนไม้ที่อยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม มีทั้งหมดสามหลัง หลังแรกคือล็อบบี้ ส่วนหลังที่สองเป็นห้องประชุมขนาดเล็กและด้านล่างมีครัวสำหรับสอนทำอาหารค่ะ
ส่วนหลังที่สามคือส่วนของ Le SPA ค่ะ ทั้งสามหลังอยู่ล้อมรอบสนามหญ้าที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นอยู่
พามาชมบรรยากาศรอบๆกันก่อนนะคะ จุดเด่นคือความเงียบสงบและความร่มรื่น บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ 🌹🌿
ตัวอาคารมีความคลาสสิค ผสานกลิ่นอายโคโลเนียลสไตล์ฝรั่งเศส ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวมากเพราะทั้งโรงแรมมีเพียง 25 ห้องพักและเป็นห้องสวีททั้งหมดเลยค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นอีกมุมที่สวยและเตยชอบมาก
บรรยากาศริมสระดูมีสีสันยิ่งขึ้นด้วยหมอนอิงสีสันสดใส
เปลนี้ถ้าได้ลองนอนอาจจะหลับได้เลยค่ะ ลมพัดเย็นๆ
เจ้าบ้านสุดน่ารักที่วิ่งเล่นอยู่รอบๆโรงแรม ถ้าโชคดีจะได้เจอค่ะ น้องมี 2 ตัว ชื่อ Mano กับ Mino 🐇
ก่อนเข้าห้องจะมีพนักงานมาล้างเท้า สครับและนวดผ่อนคลายให้ รู้สึกดีมากจริงๆค่ะ สบาย
มาชมห้องที่เราเข้าพักกันบ้าง Garden Suite ขนาด 55 m² เปิดเข้ามาเจอเตียงนอนสี่เสาแบบนี้ สวยมั้ยคะ?
มุมนั่งเล่นกว้างขวาง
ทางโรงแรมจัดเตรียม Welcome Amenity พร้อมการ์ดต้อนรับไว้ให้ สร้างความประทับใจและรอยยิ้มได้ตั้งแต่เข้ามาในห้องเลยค่ะ
มาชมในส่วนของห้องน้ำกันบ้างนะคะ
สิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมไว้ครบครันทั้งเตารีด รองเท้าแตะ bathrobe
ในส่วนของห้องอาบน้ำมีทั้ง rain shower และอ่างอาบน้ำ
ที่พิเศษไปกว่านั้น เปิดประตูออกมาจะเจออ่างอาบน้ำแบบ Outdoor ด้านนอกที่มาพร้อมวิวสวน เขียวสดชื่นสบายตา น่าแช่มากๆค่า 🛁
ทางเดินเล่นแสงเงาสวยงาม จะเห็นว่าที่นี่ตกแต่งค่อนข้างเรียบง่ายแต่ลงตัว
ห้องอาหาร GOVERNOR’S GRILL ห้องอาหารรูปแบบเต้นท์ เปิดโล่ง รับบรรยากาศธรรมชาติที่อยู่รายล้อม
มื้อค่ำวันนี้มีโอกาสได้ลองทานอาหารภายในโรงแรม แต่ละจานตกแต่งมาสวยงามน่าทานแล้วยังรสชาติดีด้วยค่ะ
ไส้อั่วที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา เตยชอบแบบนี้มากกว่าเพราะไม่มัน เหมือนทานไส้กรอก
ที่หลวงพระบางอาหารส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้จาก Local เค้าจึงนิยมทานเนื้อควายมากกว่า ไม่มีเนื้อวัว เปิดใจลองชิมดูแล้วจะพบว่าอร่อยนะคะ ต้องลองจริงๆ
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้าไปตักบาตรกันจ้า วันนี้เลยมาเตรียมชุดสวยๆไว้ใส่ไปตักบาตร
ใครไม่ได้เตรียมผ้าซิ่นไปไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ที่หลวงพระบางเค้าก็มีร้านให้เช่าชุดสวยๆด้วยนะคะ จะใส่มาตักบาตรหรือถ่ายรูปเดินเล่นในเมืองก็เข้ากับบรรยากาศมากๆเลยจ้า ไปเกาหลีเรายังเช่าชุดฮันบกใส่กันแล้วทำไมมาหลวงพระบางจะไม่ลองนุ่งซิ่นดูล่ะ
.
เราเช่าชุดเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเย็นจากร้าน Sao Sinh ค่ะ
ตัวร้านอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม 3 Nagas Luang Prabang
มีผ้างามๆให้เลือกเยอะมาก ไปจนถึงอุปกรณ์ทำผม เครื่องประดับ กระเป๋า
พร็อพต่างๆ มีครบ จบที่ร้านนี้ร้านเดียวเลย
ใครเคยดูคลิปของแกงค์หิ้วหวี ที่มาเที่ยวหลวงพระบางก็มาเช่าชุดจากร้านนี้เหมือนกันน้า >> https://www.facebook.com/SaoSinhLP
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการไป ‘ตักบาตรข้าวเหนียว’ หากไม่ได้ร่วมตักบาตรข้าวเหนียว มันก็เหมือนกับว่าทริปหลวงพระบางยังไม่สมบูรณ์ นั่นจึงทำให้พวกเราตื่นกันแต่รุ่งสางของวันรุ่งขึ้น เพื่อมารอตักบาตรข้าวเหนียวกันแต่เช้าตรู่เลยค่ะ
ทุกๆ เช้าราวตีห้าครึ่ง พระสงฆ์และสามเณรจากทุกวัดในตัวเมืองราว 300-400 รูป จะออกมาบิณฑบาตตามท้องถนน ชาวหลวงพระบางใส่บาตรด้วยข้าวเหนียวเพียงอย่างเดียว เมื่อพระกลับวัดแล้ว พอถึงเวลาฉัน แต่ละวัดจะเคาะเกราะไม้ไผ่เป็นสัญญาณให้ชาวบ้านรับรู้ ชาวบ้านก็จะยกพาข้าวหรือสำรับกับข้าวที่เตรียมไว้แต่เช้าไปถวายพระที่วัด
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม คนที่นี่จะนุ่งผ้าซิ่นและพาดสไบเวลามาตักบาตร เราก็ไม่พลาดที่จะแต่งกายตามประเพณีเช่นกันค่ะ
จุดที่เรามาตักบาตรกันอยู่ด้านหน้าโรงแรม 3 Nagas Luang Prabang โรงแรมพี่น้องกับ Sofitel Luang Prabang ถ้าใครมาพักแล้วอยากมาตักบาตรตอนเช้าสามารถแจ้งกับพนักงาน Guest service ได้เลยนะคะ ทางโรงแรมจะเตรียมข้าวเหนียวให้ ตักบาตรเสร็จแล้วเลยขอถ่ายภาพกับรถแดงที่เป็น Signature ของ 3 Nagas คันนี้สักหน่อย
พี่ปุ๊กกี้และคุณฝ้ายผู้น่ารักผู้คอยดูแล และสร้างสีสันตลอดทริปหลวงพระบางนี้เลยค่ะ
เดินมาถ่ายรูปด้านหน้าพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง
อิ่มบุญอิ่มใจจากการตักบาตรข้าวเหนียวแล้ว “ตลาดเช้า” ในซอยข้างๆวัดโพนชัย ดูจะเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวหลายคนๆที่จะมาเดินจับจ่ายซื้อของหรือมาสัมผัสวิถีชีวิตยามเช้าในหลวงพระบาง
เพราะไม่มีแหล่งช้อปปิ้งสมัยใหม่อย่างห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เกต ฉะนั้น ทุกๆเช้าชาวเมืองหลวงพระบางจึงต้องออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของจากตลาดเพื่อนำกลับไปปรุงเป็นอาหารที่บ้าน โดยเฉพาะที่ตลาดเช้าแห่งนี้ สำหรับสินค้าที่วางขายอยู่ทั่วไปก็มีตั้งแต่ ผัก ผลไม้ อาหารปรุงสำเร็จ ขนมพื้นบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เนื้อสัตว์ทั่วไป รวมถึงปลาแม่น้ำโขงและสัตว์ป่านานาชนิด ที่คนลาวนิยมนำมาปรุงอาหาร
มีขนมครกเหมือนบ้านเราด้วย 😄
เดินตลาดเช้าเสร็จแล้วเราขอมาเติมท้องให้อิ่มกันที่ ร้านกาแฟประชานิยม กันค่ะ ทุกๆเช้าในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทั้งชาวเมืองหลวงพระบางและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มานั่งจิบกาแฟยามเช้าที่ร้านกาแฟประชานิยม
ได้บรรยากาศริมฝั่งโขง ยิ่งเช้านี้อากาศเย็นสบายด้วย บรรยากาศเป็นใจเสียจริง
เมนูของที่ร้านก็จะเป็นโจ๊ก ปาท่องโก๋ ชา กาแฟต่างๆ เช้าๆได้อะไรแบบนี้คือดี
แต่อาหารเช้าที่โรงแรมเราก็ดีงามไม่แพ้กันน้า เค้าจะจัดเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ย่อมๆ ส่วน Main dish สั่งจากเมนูเอาค่ะ
“วัดเชียงทอง” สุดยอดวัดงาม แห่ง“หลวงพระบาง”
เมืองหลวงพระบางมีวัดวาอารามอยู่มากมาย โดยในบรรดาวัดมากมายเหล่านั้น “วัดเชียงทอง” ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในหลวงพระบาง และเป็นสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้างที่ใครไปเยือนหลวงพระบางแล้ว(ต้อง)ไม่ ควรพลาดการชมวัดเชียงทองด้วยประการทั้งปวง
วัดเชียงทอง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของแขวงหลวงพระบาง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2102-2103 ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนา ก่อนที่พระองค์จะทรงย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ นับเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ และนับเป็นวัดสำคัญวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428 ซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีของวัดเชียงทองเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เช่นนั้นปัจจุบันเราอาจจะไม่ได้ชมความงดงามของวัดที่ได้ชื่อว่าเป็น สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้างก็เป็นได้
ความโดดเด่นของวัดเชียงทอง
คือ พระอุโบสถ (ชาวลาวเรียกว่า “สิม”)
ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามอลังการมากจนได้รับการกล่าวขานมากที่สุด
หอพระพุทธไสยาสน์ ลักษณะเป็นวิหารขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ด้านข้างพระอุโบสถ ผนังด้านนอกประดับด้วยกระจกสีตัดเป็นชิ้นเล็กๆและนำมาต่อเป็นรูปต่างๆ บนพื้นสีชมพูสวยงามมากค่ะ
มุมที่คนมาวัดเชียงทอง ต้องไม่พลาดถ่ายรูปกับหน้าต่างบานนี้
ร้านเบเกอร์รี่สไตล์ฝรั่งเศสในหลวงพระบาง ร้านนี้เป็นคาเฟ่ชิลๆที่สามารถมานั่งใช้ชีวิตวิถี Slow life จิบกาแฟ มองดูผู้คน ☕
อันนี้เป็น Cheese burger (Buffalo burger) 👍ถ้าใครทานเนื้อก็อยากให้ลองค่ะ
มาหลวงพระบางคราวนี้ตั้งใจว่าจะต้องไม่พลาด ส้มตำป้าติ๋ม ทั้งร้านมีเมนูส้มตำอยู่แค่เมนูเดียวคือตำหลวงพระบาง ที่เหลือจะเป็นซี่โครงหมูทอด ไก่ทอด ไส้อั่ว แหนม แต่ลูกค้าแน่นร้าน แบบถ้ามาช้าคือหมด ! ก็แปลว่าต้องเด็ดจริงแหละ
อันนี้คือไคแผ่น (สาหร่ายทอด)
ที่เที่ยวสุดท้ายของวันนี้เราแวะมาที่ Ock Pop Tok (ออกพบตก) ศูนย์ทอผ้าและหัตถกรรมลาวแบบดั้งเดิม
เราสามารถแวะมาชมขั้นตอนการย้อมสีผ้า ทอผ้า ปักผ้า และพิมพ์ลายจากศูนย์เรียนรู้นี้ได้ด้วย
ที่นี่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดีเชียว มีส่วนที่เป็นรีสอร์ทและร้านอาหารด้วยนะคะ
ถ้าไม่ทานอิ่มมาแล้วก็คงจะได้ลองชิมอาหารที่นี่
เราขอจบรีวิวทริปหลวงพระบาง Part แรกไว้ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวตอนหน้าเตยจะพาไปชมบรรยากาศของ Pullman Luang Prabang ขอบอกว่าสวยไม่แพ้กันเลย จะเป็นอีกบรรยากาศนึงเลยค่ะ แล้วจะพาไปล่องเรือแม่น้ำโขง ชมวิวตอนพระอาทิตย์ตกกันด้วย
ฝากรอติดตามด้วยนะคะ 😘
พากันเที่ยว
วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 19.57 น.