สวัสดีเพื่อน ๆ Readme.me ค่ะ จุ๋มมีทริปที่ทำให้ Beauty Memory อีกแล้วค่ะ ขอมาแบ่งปันความทรงจำสวยงามและสนุนสนานกับเพื่อน ๆ นะคะ

ทริปนี้พวกเราไปภูเก็ตกัน 4 วัน 3 คืนค่ะ และเดินทางไปเกาะโดยใช้บริการ One day trip ของ Love Andaman ซึ่งพวกเราติดอกติดใจบริการมาตั้งแต่เกาะตาชัย และเกาะสิมิลันเมื่อ 2 ปีก่อน ต่อด้วยเกาะไม้ท่อน และเกาะสุรินทร์เมื่อปีที่แล้ว

การเดินทางครั้งนี้เกิดจากเราเห็นข้อมูลในเพจของ Love Andaman ว่าเปิดเส้นทาง day trip ใหม่คือ เกาะรอก และเกาะราชา + ไม้ท่อน พวกเราไปจองแพ็คเก็จจากงานไทยเที่ยวไทยเมื่อสิงหาคมหรือกันยายนปีที่แล้วค่ะ รถเช่ายังมี Voucher เหลืออยู่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม จากนั้นก็รอโปรฯ ถูก ๆ ของนกแอร์ จนทุกอย่างถูกจองเรียบร้อย ก็นับวันรอกันละทีนี้....จากปัญหาสารพันของนกแอร์ ก่อนวันเดินทางพวกเราก็มีลุ้นกันตัวโก่งเหมือนกันนะคะว่าพวกเราจะโดนอะไรมั้ย โชคดีที่เราโดนแค่เลื่อนเวลาวันเดินทางออกไปเล็กน้อยแค่ประมาณ 30 นาที ส่วนขากลับนกบินตรงเวลาเป๊ะ....กราบบบบบ

เกริ่นมาซะยืดยาวมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จุ๋มขอเล่าเรื่องแบบ เรียงวัน เรียงเวลา กันเลยนะคะ สลับไปสลับมาแล้ววัยที่เป็นป้าแล้วก็ไม่ไหวค่ะ จะงงเองซะเปล่า ๆ......พร้อมแล้วไปท่องอันดามันกันเถอค่ะ

วันที่ 1 – สวัสดีภูเก็ต

พวกเราถึงสนามบินภูเก็ตช่วงเที่ยงวัน อากาศร้อนจับใจ และเครื่องไม่ได้เข้างวง พวกเราเดินหยีตาลงบันไดเครื่องบินมาต่อรถบัสไปยัง Terminal แดดเปรี้ยงขนาดนี้พวกเลยได้ยินเสียงโคร๊มมมม พร้อมกับนักท่องเที่ยวจีนนางหนึ่งหน้าซีดเผือดลงไปนอนสลบเหมือดบนพื้นรถเป็นที่เรียบร้อย ฟื้นมาก็ขอให้หายดี เที่ยวสนุกนะคะอีหนู

หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อยก็มารับรถเช่าต่อ Budget บอกข่าวดีเล็กน้อยค่ะ เราได้อัพเกรดจาก วีออส เป็น อัลติส....เริด

พอขึ้นประจำทีบนรถเรียบร้อยก็พบว่าเบอร์เกอร์มื้อเช้าโดนย่อยสลายไปหมดแล้ว กินไรล่ะทีนี้ หารือกันอยู่พักนึงได้ข้อเสนอจากเพื่อน ๆ ดีมากคือ อะไรก็ได้....ช่วยได้มาก อยากจับตีปากเท่าอายุจริง ๆ คิดไปคิดมาเคยดูรายการเทยเที่ยวไทย พวกนางเคยพาไปร้านตู้กับข้าว ซ้ำยังเคยเห็นร้านนี้ออกอีกหลายรายการในทีวี เอาร้านนี้ละกัน จากนั้นก็เปิด Google Map นำทางทันที พูดแล้วก็อยากจะกราบอีคนคิดเทคโนโลยีนี้รัว ๆ มันช่วยให้เราไม่หลงทางได้เยอะจริง ๆ เน้อ

ร้านตู้กับข้าว ตั้งอยู่บน ถนนพังงา ในอำเภอเมือง สามารถจอดรถได้ริมถนนเลย เข้าไปในร้านแล้วบรรยากาศสวยงาม มีทั้งที่นั่งในห้องแอร์ และด้านนอกซึ่งไม่มีใครนั่งเลย คงต้องรอช่วงใกล้ค่ำเพราะร้อนมาก ๆ จุ๋มแทบจะไม่มีรูปภาพในร้านมาฝากเลยนะคะ เพราะว่าแขกค่อนข้างเยอะ ไม่กล้ายกกล้องขึ้นมาเล็งเกรงจะเป็นการรบกวนลูกค้าท่านอื่น

มาดูหน้าตาอาหารกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง…..อ้อ!!! บอกนิดนึงนะคะ อาหารที่จะรีวิวทั้งทริปนี้ค่อนข้างซ้ำซากเล็กน้อย เพราะพวกเรามีเงื่อนไขในการกินเยอะมาก คนนึงกินเผ็ดไม่ได้ คนนึงไม่กินหมู คนนึงไม่กินผัก คนนึงไม่ชอบปลา และตัวจุ๋มเองแพ้กุ้ง ปู และกั้งค่ะ กรรม!!!

เริ่มกันที่ใบเหมียงผัดไข่ อาหารใต้ง่าย ๆ แสนอร่อยที่ขาดไม่ได้เลยจริง

ปลามงราดพริก เพื่อนที่ไม่กินเผ็ด นางอยากกินปลา เลยขอให้ทางร้านจัดน้ำที่ราดปลามาข้าง ๆ ค่ะ – พริกเผิดมาก และเค็มมาก

แกงคั่วหอยแครงใบชะพลู – จุ๋มไม่ชอบแกงกะทิเลยไม่ได้ชิม แต่เห็นพี่ที่สั่งบอกว่าเค็มเล็กน้อย

ไก่สะเต๊ะ – แนะนำให้ราดอาจาดเยอะ ๆ เพื่อลดรสเค็ม

ผัดฉ่าหอยแมลงภู่ – อันนี้อร่อยนะคะ แต่หอยตัวเล็กมากกกกก มากจนคิดว่าหอยเหล่านั้นรู้ว่าตัวเองเป็นหอยรึยังก่อนตายน่ะ

พล่าปลาสลิดกรอบ – อันนี้อร่อย

ปีกไก่ทอดน้ำปลา – ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็ได้ รสชาติกำลังดีแล้ว

พานาคอตต้าราสเบอรี่ – จานนี้ได้ฟรีค่ะ ทานครบ 1,000 บาท ก็กด * ตามด้วยเลขมากมายไปที่ Dtac ก็ได้โคดมาเพื่อรับเมนูนี้ฟรี 1 ทีค่ะ

ค่าเสียหาย

สำหรับพวกเราคิดว่าไม่ถูกเกือบจะค่อนไปทางแพง เพราะว่าอาหารจัดมาแบบกระจุ๋มกระจิ๋มจานละเล็กจานละน้อย พวกเราอิ่มเพราะกับข้าวเค็มเลยกินข้าวเยอะ 55555 มันก็อิ่ม แต่อิ่มแบบโหวง ๆ อ่ะคะ บรรยายไม่ถูกค่ะมาเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้พวกเราพักกันที่ Kalima Resort & Spa ซึ่งอยู่ใกล้หาดป่าตองมาก ๆ ไม่แน่ใจว่าตรงจุดที่โรงแรมอยู่เรียกว่าหาดกะหริมหรือไม่นะคะ พวกเราเดินทาง 5 คน จองห้อง Grand Deluxe Sea View 2 ห้อง คือเสริมเตียงห้องนึง แต่พอไปถึงโรงแรมได้รับแจ้งว่าห้องที่เสริมเตียงได้อัพเกรดเป็นห้อง Family Sea View จำชื่อแน่นอนไม่ได้นะคะ แต่เค้าบอกว่าห้องใหญ่กว่าสะดวกสบายกว่าและไม่ต้องเสริมเตียง เหมือนจะดีงามนะคะ แต่ไม่ค่ะ ต้องรอเจ้าหน้าที่ทำห้องเป็นชั่วโมงโดยต้องไปกองกันอยู่ที่ห้องจุ๋มจนเกือบ 5 โมงเย็นหลังโทรโวยวายไป 2 รอบ เพื่อน ๆ ถึงได้เข้าห้อง และเมื่อเข้าพักต้องเรียกช่างมาซ่อมแอร์ 2 คืนติดกันเลย แต่ช่างเถอะนะ บ่นมากเดี๋ยว Memory จะไม่ beauty ซะเปล่า ๆ มาดูหน้าตาห้องละกันค่ะ ถ่ายมานิดหน่อยค่ะ


Grand Deluxe Sea View – รูปจากกล้องโทรศัพท์เพื่อนนะคะ เพราะตอนกรูกันเข้าห้องไปที่เดียว 5 คน จุ๋มลืมถ่ายรูปเลยจร้า

Family Sea View – ห้องกว้างกว่าห้องจุ๋มเล็กน้อย แต่ห้องน้ำกว้างกว่ามากกกกก มีเตียง 2 ชั้นด้วย

หลังจากได้เข้าห้องเก็บข้าวเก็บของกันเรียบร้อย ก็หิวกันขึ้นมาทันที มื้อนี้เรามีความเห็นตรงกันคือ ร้านบ้านชมวิว ซึ่งเราไปกินกันเมื่อปีที่และติดใจในรสชาติและบรรยากาศเป็นอย่างมาก


ร้านบ้านชมวิว อยู่บนถนนกะตะ – ไสยวน มองเห็นวิวหาดกะตะ อยู่ใกล้ ๆ โฟโต้ โฮเทล เลยโฟโต้ไปเล็กน้อยจะเจอร้านอยู่ฝั่งขวามือ จอดรถริมถนนหน้าร้านได้เลย อาหารที่นี่อร่อย พนักงานดูแลดีมาก วิวช่วงพระอาทิตย์ตกดินคือดีมากกกก

บรรยากาศร้าน

ปลาหมึกชุบแป้งทอด – แป้งกรอบ ปลาหมึกนุ่มมาก

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง – อันนี้เหมือนพวกไก่ผัดน้ำมันหอยไปนิดนึง

แกงจืดวุ้นเส้น

ผัดฉ่าปลามง – จัดจ้าน ปลาชิ้นโตไร้ก้าง อร่อยมาก

พล่าปลาหมึก

ใบเหมียงผัดไข่ – ขาดไม่ได้จริง ๆ เมนูนี้

กุ้งทอดซอสมะขาม

ค่าเสียหายอาหารไม่แพงเลยเพราะจานใหญ่โตโอฬารมาก จะดูสูงอยู่สักหน่อยก็คงจะเป็นค่าเครื่องดื่ม ซึ่งก็คงเป็นธรรมดาของเมืองท่องเที่ยวอ่ะเน้อ

อิ่มเต็มคราบแล้ว กลับโรงแรม อาบน้ำ นอนเอาแรงสำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ Love Andaman แจ้งรถจะมารับที่โรงแรมเวลา 07.15 น. จะเช้าไปหนายยยยยยย


วันที่ 2 – เกาะรอก ลั้ลลา

ห้องอาหารโรงแรมเปิดเวลา 06.30 น. พวกเราต้องรีบกระเดือกเพื่อให้ทันรถที่มารับตอน 07.15 น. และ คนขับรถมารับเราตรงเวลาแบบเป๊ะเว่อร์

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขาม พอถึงท่าเรือก็ลงทะเบียนกับ Love Andaman และรับของว่างตามอัทยาศัย

ก่อนลงเรือไกด์และผู้ช่วยจะมาแนะนำตัวและแนะนำข้อควรทราบแก่นักท่องเที่ยว และข้อมูลที่ทำให้พวกเราตาเหลือกคือ เราจะใช่เวลานั่งเรือไปเกาะรอกประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที จ๊ากกกกกกกกกกกกส์ นานไปม๊ายยยยยย…ก็เกาะรอก ยังอยู่ในจังหวัดกระบี่ค่ะ จะให้แป๊บนึงจะเป็นไปได้ไงเน้อ

ที่เห็นนี่คือ น้องนีโอ น้องไกด์ที่พวกเราประทับใจมาก ๆ น้องผู้หญิงเสื้อน้ำตาลข้างหลังก็น่ารักมากเช่นกัน จุ๋มลืมถามชื่อน้องค่ะ แต่น้องดูแลจุ๋มดีมากช่วยทำแผลที่เท้าให้หลังจุ๋มทะเล่อทะล่าเตะรากไม้เข้าไปจนนิ้วแหก

คลื่นค่อนข้างแรง เรานั่งหัวสั่นหัวคลอน สัปหงกกันมาแบบปวดเมื่อยคอ มีคุณป้าท่านนึงเมาหนักถึงขั้นอาเจียนเลยค่ะ แต่พอถึงเกาะรอกเท่านั้นแหละ หน้าชื่นตาบานขึ้นมาทันที…. ตามโปรแกรมของ Love Andaman จะพาลูกค้าไปดำน้ำจุด 1 ที่แต่ลูกค้าท่านใดไม่อยากดำน้ำ ก็สามารถลงผ่อนผันที่เกาะได้เลย ซึ่งพวกเราเลือกลงพักผ่อนเลยค่ะ


บนเกาะรอกมีที่พักของอุทยานด้วยนะคะ

มีที่นั่งที่หลบแดดเยอะเลย

จากนั้นกิจกรรมสุดฮิตของอิสตรีเยี่ยงเราก็คงไม่พ้น ถ่ายรูป ถ่ายรูป และกินของว่าง 5555555....งั้นมาดูของว่างกันซะหน่อยนะคะ

หลังจากถ่ายรูปสักพัก และกลุ่มที่ไปดำน้ำกลับมาแล้ว เราก็ลงมือทานอาหารกลางวันค่ะ กับข้าวมี 3 อย่าง และผลไม้เลริฟแบบบุฟเฟต์

หลังจากอิ่มแล้ว น้องไกด์มาแจ้งว่าฝั่งเกาะรอกที่เราพักผ่อนกันอยู่น้ำจะลงทำให้เรืออาจจะเข้าออกยาก จึงให้พวกเราเตรียมตัวย้ายไปฝั่งเกาะรอกใน ซึ่งสวยงามไม่แพ้กัน แต่ร่มไม้สำหรับหลบแดดหายากเอาการ....มาดูรูปฝั่งเกาะรอกน้อยกันค่ะ

ทรายขาวจั๊ว

ขอภาพหมู่มวลซะหน่อย

น้องไกด์นีโอบอกว่าท่าพวกเราธรรมดาเกิ๊นนนน นางมาสอนโพสท่าจร้าาา

เราอยู่ที่เกาะรอกน้อยประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถูกเรียกขึ่นเรือเพื่อไปดำน้ำจุดที่ 2 นั่นคือเกาะ 5 นั่นเอง...ที่เกาะ 5 จะคลาคล่ำไปด้วยครอบครัวปลาดาว ซึ่งจุ๋มว่าปลาดาวที่นี่ดูหยุ่น ๆ น่าหยะแหยง ปะการังอ่อนและปลาการ์ตูนก็มีให้เห็น ปลาก็มีหลากหลายและเยอะพอประมาณ แต่ที่เลิฟมาก ๆ เห็นจะเป็นกัลปังหา สวยงามเชียวค่ะ

และกิจกรรมประจำของจุ๋มก็คงไม่พ้นโดดค่ะ มันต้องโดด แต่รอบนี้แตกต่างจากเดิมตรงที่ ไกด์บอกว่าอย่าใส่เสื้อชูชีพเลย มันโดดพลิ้วกว่าเยอะ รูปสวยกว่าเยอะ เอาเด้!!! อยากได้รูปสวยเว้ยยยย ไม่ชูก็ไม่ชู แต่มีข้อแม้กันเล็กน้อยค่ะ คือกลัวโดดลงไปแล้วมันไม่ลอยขึ้นมาอาจจะซวยได้ เลยขอให้น้องเจ้าหน้าที่ไปลอยคอรออยู่ข้างล่าง เผื่อมันจมลงไปเลยจะได้จิกขึ้นมาทัน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ก็เลยโดดไปเบา ๆ 3 รอบ เพราะจังหวะภาพไม่ได้ซะที…เฮ้อออออออ เหนื่อยโฮก

จากเกาะ 5 เราก็นั่งโขยกเขยกกลับมาถึงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเกือบ 17.30 น. หิวแทบสยบ ทุกอย่างของทริปคือดี ถูกใจพวกเราทุกอย่าง ทั้งอาหาร น้องไกด์ และเจ้าหน้าที่บนเรือทุกคน จะติดก็แต่ระยะเวลาในการนั่งเรือนานไปนิดดดดดดดนึงจากความหิวโหยของพวกเราหลังอาบน้ำเสร็จก็ไม่มีแรงกำลังจะไปหาอาหารค่ำที่ไหนแล้ว เลยเดินข้ามถนนไปที่ร้านบ้านริมผาซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย.....บรรยากาศร้านบ้านริมผาคือ ฝรั่งเห็นต้องชอบ สวยงามเป็นสไตล์ไทย ๆ ดูดีมีราคา และแพงโฮกกกกกก จากราคาที่เราเห็นในเมนูอาหารจึงตัดสินใจสั่งแค่ของว่าง และข้าวเหนียวมะม่วงมากลบน้ำย่อยก่อนแล้วค่อยออกไปหาอย่างอื่นกินต่อ เราสั่งปลาดุกฟู กระทงทอง และไก่ห่อใบเตยที่ชิ้นใหญ่มากกกกก ตามรูป

แต่ข้าวเหนียวมะม่วงตามแผนเป็นอันต้องยกเลิกเพราะเกิดเรื่องเล็กน้อย พนักงานเสริฟชนแก้วหกให้เพื่อนของจุ๋มจนเปียกทะลุทะลวงไปถึงไหน ๆ แต่ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากหันมายิ้มหวานให้ ประหนึ่งน้ำเย็นดีมั้ยครับ และให้พวกเราช่วยกันเช็ดกระโปรงเช็ดโต๊ะ ยกเก้าอี้หนีกันเอง ไร้ซึ่งคำขอโทษใด ๆ ทั้งสิ้น...เท่านั้นค่ะ ระเบิดก็เกิดในร้าน เราคิดว่าถ้าพนักงานไม่สตรองพอก็ไม่ควรใช้แก้วมีขานะคะ มันล้ม มันแตกหักง่ายจะตายไป...บทสรุปคือเค้าจะให้กินฟรีค่ะ แต่เราไม่ยินดีค่ะ จึงจบลงด้วยรับส่วนลด 50% จ่ายไป 690 กว่าบาทค่ะ...ไม่ได้ถ่ายใบเสร็จมานะคะ เพราะหงุดหงิดกันถึงขีดสุด

จากนั้นก็ขับรถเซ็ง ๆ ไปกับกระโปรงเปียก ๆ ของเพื่อนไปจอดงง ๆ ที่ห้างจังซีลอน ลองเดินวน ๆ ดูเลยตัดสินใจข้ามถนนไปกิน The Pizza Company จุดนี้อร่อยฟิน 55555555

ไม่แน่ใจว่าราคาที่นี่แพงกว่ากรุงเทพมั้ย เพราะเห็นว่าถ้าแมคโดนัลด์จะแพงกว่ากรุงเทพมาก มื้อนี้หมดไปประมาณ 1,100 บาท ราคาน่าใกล้เคียงกรุงเทพเน้อ.....อิ่มแล้วรีบกลับที่พัก เพราะพรุ่งนี้คนขับรถตู้มารับ 07.15 น. อีกแล้ว


วันที่ 3 – ความสุขปลิวว่อนที่เกาะราชา เกาะไม้ท่อน

วันนี้ก่อนไปเกาะราชา / ไม้ท่อน น้องไกด์เกรส (น้องยาย่า / น้องหัวโหนก ไม่รู้ชื่อไหน แนะนำกันหลายชื่อเกิ๊น) และน้องไกด์กรก็มาแนะนำตัวและข้อควรทราบต่าง ๆ อีกเช่นเดิม จากคำบอกกล่าวของน้องไกด์วันนี้เรานั่งเรือไปเกาะราชาก่อนใช้เวลาเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมง..... แค่ครึ่งชั่วโมง เย้ๆๆๆ ไม่ต้องนั่งรากงอกเหมือนไปเกาะรอก แต่แม่เจ้าเอ้ยยยยย!!! คลื่นจะแรงไปหนายยยย คองี้เคล็ดขัดยอกไปโม๊ดดดดด

เมื่อเดินทางมาถึงเกาะราชาไกด์จะพาขึ้นไปจุดชมวิวด้านบน ซึ่งพวกเราผู้ซึ่งกระดูกเริ่มจะดังก๊อปแก๊ปแล้วเลยไม่เดินขึ้นไป แค่วิ่งถ่ายรูปกระโดดไปมาข้อเข่าก็เสื่อมไปเยอะแล้ว.... หลังจากลงจากจุดชมวิว น้องไกด์มีทางเลือกให้ลูกค้าคือ จะไปดำน้ำหรือจะนั่งเล่นอยู่ที่เกาะก็ได้ ซึ่งพวกเราและลูกค้าอีก 2 กลุ่มเลือกนั่งเล่นที่เกาะและรอเรือกลับมารับตอน 11.40 น.

จากเกาะราชาไปเกาะไม้ท่อนใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง คลื่นแรงกว่าตอนเช้าอิ๊ก ทันทีที่ก้าวขึ้นเกาะเราก็เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจากปีที่แล้ว นั่นก็คือ บนเกาะมีพร็อบให้ถ่ายรูปเยอะขึ้นเลย....เริดมากกก

อาหาร เครื่องดื่ม เป็นแบบบุฟเฟต์ มีกุ้งและปลาหมึกย่างสด ๆ ด้วย น้ำผลไม้ปั่น ชา กาแฟ ครบ อิ่มกันสุด ๆ

อิ่มกันสักพักน้องไกด์ก็เตรียมพาไปดำน้ำที่จุดต่อไป ซึ่งใครใคร่ไปก็ไป ใครใคร่อยู่บนเกาะก็อยู่ ใครอยู่บนเกาะจะมีไกด์อีกคนพาขึ้นไปจุดชมวิว ซึ่งพวกเรากองอยู่กะที่เช่นเดิม ถ่ายรูปกันไปเรื่อย ๆ แหะ แหะ


วันนี้เราเจอน้องไกด์นีโอที่เป็นไกด์พาเราไปเกาะไม้รอกเมื่อวาน ดูแลลูกค้าอยู่บนเกาะไม้ท่อน เราเลยคุ้นเคยกันประหนึ่งน้องพี่กันอย่างรวดเร็ว น้องนีโอพาเราไปรู้จักกับที่มาของชื่อเกาะไม้ท่อน แถมช่วยเป็นตากล้องให้พวกเราด้วย ขาตั้งกล้องไม่ต้องใช่กันเลย

นี่คือ ท่อนไม้ อันเป็นที่มาชองชื่อเกาะไม้ท่อน

ถ่ายรูปกับน้องนีโอเป็นที่ระลึก

Love Andaman ไม่ทำให้เราผิดหวังเช่นเดิม อาหารอร่อย พนักงานเริด แอบคิดถึงน้องไกด์มิวสิค แล้วเราจะกลับมาเที่ยวกับเลิฟอันดามันอีกนะ แต่ถ้ามีเกาะใหม่ ๆ จะเจิดมากกก อิอิ......เราออกจากเกาะไม้ท่อนประมาณ 16.00 น ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็กลับถึงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต วันนี้จุ๋มโทรหาน้องที่รู้จักให้แนะนำร้านอาหาร ให้ โจทย์ง่าย ๆ คือ อร่อย วิวดี และใกล้โรงแรมจากคำแนะนำมื้อเย็นวันนี้ของพวกเรา คือร้าน Paradise View Point ซึ่งจากโรงแรมเลี้ยวขวาไปเพียง 450 เมตรก็ถึงร้านแล้ว ร้านอยู่คล้าย ๆ ริมผา เราจอดรถริมถนนหน้าร้านได้เลย น่าเสียดายเล็กน้อยคือ เราไปถึงตอนพระอาทิตย์ตกดินไปเรียบร้อยแล้วเลยไม่เห็นอะไร นอกจากแสงไฟของหาดป่าตอง


มาดูบรรยากาศร้านซักเล็กน้อยค่ะ

ปลาหมึกชุบแป้งทอด – เมนูนี้มีหอมหัวใหญ่ปลอมตัวมาเป็นปลาหมึกซะครึ่งต่อครึ่ง เดชะบุญ!!! จุ๋มชอบหอมหัวใหญ่มากกว่าปลาหมึก ไม่งั้นมีเคืองจริง ๆ นะเนี้ย

แกงเผ็ดเป็ดย่าง – รสชาติเบา ๆ เอาใจฝรั่ง

ปลากะพงทอดน้ำปลา – กรอบอร่อย ปลาสดดี

ปลาหมึกผัดฉ่า – จานนี้จุ๋มว่าหน้าตาและรสชาติเหมือนปลาหมึกผัดน้ำมันหอยใส่พริกไทยดำ ก็กินได้ ไม่อร่อยเท่าไร แต่หมด 555

กุ้งทอดซอสมะขาม – เพื่อน ๆ บอกว่าอร่อย

ใบเหลียงผัดไข่ – กินอีกแล้ว 55555

ตบท้ายด้วยของหวานเล็กน้อยเพื่อการนอนหลับอย่างมีความสุข

ค่าเสียหาย


วันที่ 4 – งานเลี้ยงต้องมีวันเลือกลา น้าตาแทบนอง

วันนี้เราได้นอนตื่นสายหน่อยนึง ได้ค่อย ๆ ละเลียดอาหารเช้าซะที กินกันตั้งแต่ 8 โมงเช้ายัน 9 โมงกว่า ๆ ขอเอารูปอาหารเช้ามาฝากหน่อยละกันค่ะ อาหารทุกเข้าที่โรงแรมเป็นบุฟเฟต์เหมือนกันทุกวัน จะเปลี่ยนก็แต่ก๊วยเตี๋ยวไก่ เป็นก๊วยเตี๋ยวเนื้อใน 2 วันหลังค่ะ

หลังจากอิ่มมื้อเช้าก็ได้มีเวลาเดินดูโรงแรมซะที มีบรรยากาศภายในโรงแรมเล็กน้อยนะคะ

หลังจากถึงเวลาอำลาที่พักแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าสู้ร้านระย้า ซึ่งค้นเจอในกูเกิ้ลว่าอร่อยและคู่ควร ว่าแล้วก็เปิด google map ทันที


ร้านระย้า อยู่บนถนน ดีบุกตัดใหม่ ในอำเภอเมือง มีที่จอดรถให้เรียบร้อย ถือว่าสะดวกสบายใช้ได้ เราไปถึงร้านประมาณบ่ายโมง ลูกค้ายังเต็มร้านอยู่เลย เราเลยได้โต๊ะที่ชั้น 2 ค่ะ ก็ดีไปอย่างเพราะชั้นบนค่อนข้างโปร่ง ได้พัดลมตัวเดียวก็เอาอยู่อากาศไม่ร้อนเท่าไร

บรรยากาศร้านสักเล็กน้อยนะคะ

หมูฮ้อง – เห็นว่าเป็นอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ต้องขอลองซักหน่อย อร่อยคล้าย ๆ หมูพะโล้ที่ผ่านการเคี้ยวมาอย่างยาวนาน กลิ่นเครื่องปรุงหอมเข้าเนื้อหมูมาก ๆ

ใบเหลียงผัดไข่ – จากข้อมูลในกูเกิ้ลเห็นบอกว่าที่ร้านระย้าจะใส่กุ้งแห้งตัวโต ๆ ด้วย จุ๋มเลยขอไม่เอากุ้งแห้งนะคะ กลัวตายค่ะ

ยำปลาหมึกวง – จานนี้เราพลาดค่ะ คือคิดว่าเป็นปลาหมึกสดค่ะ.... ออกมาเหมือนกับแกล้มเชียวนะ

เป็ดย่างผัดกระเพราะ – อร่อยเชียวค่ะ

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง – สีซีด ๆ แต่อร่อยอีกเช่นกัน

ปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไท – ให้ทางร้านแยกกระเทียมให้นะคะ เพราะเพื่อนจุ๋มที่ไม่กินเผ็ด นางบอกว่ากระเทียมก็เผ็ดนะคะ

ผัดฉ่าปลามง – มันอร่อยมากกกกกกก หอมกระชาย เผ็ด จัดจ้านกำลังดี

ปอเปี้ยทอด – ไส้ไก่ กินเล่น อร่อยอีกเช่นเดิม

ค่าเสียหาย ถือว่าสมราคาค่ะ เพราะปริมาณแต่ละจานไม่น้อยเลย และอร่อยถูกปากมาก ๆ

ยังค่ะ ท้องเรายังไม่ปริแตก ก่อนจะอำลาภูเก็ตขออีกนิดละกันค่ะ ตอนขับรถมาที่ร้านระย้าผ่านร้านกาแฟแว๊บ ๆ ขออีกสักหน่อยละกัน เราขับรถวน ๆ กลับไปที่ถนนดีบุก เพื่อจิบกาแฟ และของหวานที่ร้าน Café Del Sol

บรรยากาศร้านน่ารักดีค่ะ แต่แอร์คงสู้แดดข้างนอกไม่ไหว เลยรู้สึกร้อนเล็กน้อย ในร้านมีเบเกอรี่ให้เลือกหลายอย่าง และมีไอติม ete ด้วย พวกเราสั่ง Chocolate Fudge มา 1 ที ไอติม และกาแฟอีก 3 แก้วค่ะ ค่าเสียหายอยู่ที่ 650 หรือ 670 บาทนี่แหละ จำยอดเป๊ะ ๆ ไม่ได้แล้วค่ะ

หลังจากอิ่มได้ที่แล้ว ก็บึ่งรถไปสนามบิน คืนรถ และ check in ทันเวลาแบบฉิวเฉียด ในที่สุดก็ถึงเวลาอำลาภูเก็ตอย่างแท้จริงแล้ว ความสุข ความสนุกสนานช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริง ๆ พวกเรากลับกรุงเทพกันแบบตัวดำสุด ๆ พุงป่องสุด ๆ เช่นกัน ท้งดำทั้งกลมเป็นเพนเกวินเลยที่เดียว แต่เราไม่เข็ดนะ.......... แล้วเราจะกลับมาเยือนอีกนะจ๊ะ Love Andanan นะจ๊ะ ภูเก็ต I love you มากจ้ะ

ความคิดเห็น