ครั้งแรกกับเมืองคอน นครศรีธรรมราช การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เดินทางโดยสายการบิน Thai Lion Air ไป-กลับตรงเวลาค่ะ ไม่ดีเลย์ ใช้เวลาจากกรุงเทพ-ดอนเมือง ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินนครศรีธรรมราช
เริ่มต้นลงเครื่อง ถึงสนามบินประมาณ 9.50 ฝ้ายได้จองรถเพื่อขับเที่ยวกับ Carpluz - Rent a Car หาเจอมาจากในเน็ตค่ะ Add line ไปจอง ก็ง่ายดี 3 วัน ค่ารถ 2,300 บาท มัดจำ 2,000 รถใหม่สะอาดดี รับส่งที่สนามบินได้เลย การเที่ยวที่นครศรีธรรมราชควรจองรถนะคะ เพราะถ้าไม่มีรถน่าจะเที่ยวลำบาก รับรถเสร็จแล้ว ไปกันที่แรก คือ "ร้านโกปี๊ สาขาโอเชี่ยน"
ร้านโกปี๊ เป็นอีกหนึ่งร้านดังที่ขึ้นชื่อของเมืองคอนมาก มีหลายสาขา แต่เรามาสาขาโอเชี่ยน บรรยากาศภายในร้านคือดีมาก
เมนูนํ้าที่สั่งมาก็จะมีนมชาเขียวเย็น กับ ชาเย็น รสชาติเข้มข้นกำลังดีมาก ไม่หวานหรือเข้มจนเกินไป ชอบมาก ส่วนขนมหวาน สั่ง ข้าวเหนียวเบญจรงค์มา อร่อยทุกคำ หวานกำลังดี กินข้าวเสร็จกินของหวานต่อ คือฟินมาก
มาร้านโกปี๊ ก็ต้องสั่งของขึ้นชื่อ นั้นก็คือ บ๊ะกุดแต๊ มีให้เลือกว่าจะเอาเป็นซี่โครงหมู หรือไก่ ฝ้ายสั่งซี่โครงหมูมานะคะ อร่อยมาก กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หมูคือเปื่อยดีมาก นุ่มมาก ซดนํ้าร้อน ๆ อร่อยบรรยายไม่ถูก นอกจากนี้ก็ยังสั่งขนมจีบกุ้ง กับซาลาเปาไส้ชาไทยมาอีกด้วย โดยรวมคือดีมากทุกอย่าง
ส่วนตัวชอบร้านนี้มาก ทั้งบรรยากาศ ทั้งนํ้า อาหาร ทุกอย่างที่สั่งอร่อยหมดเลย นี้ไปกันสองคนแต่สั่งเยอะมาก กินหมดเกลี้ยงไม่เหลือ ราคารวมทั้งหมด 370 บาท ใครมานครศรีธรรมราชควรแวะมาลอง
"ร้านโกปี๊ สาขาโอเชี่ยน" เปิดทุกวัน 6.30-16.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/b5pEw9tzSCKELGEr6
กินเสร็จแล้ว ไปกินกันต่อ ยังกินได้อีก มานครศรีธรรมราช ของดีอีกอย่างก็คือขนมจีนเส้นสดนํ้ายาปูม้า เรามากินกันที่ "ขนมจีนแม่ยายเส้นสด น้ำแกงปูม้า"
ฝ้ายสั่งชุดเล็ก เพิ่มนํ้ายาปูม้าด้วย เพราะในชุดจะไม่มี กินกันได้ 2 คน ชุดเล็ก 80 บาท เพิ่มนํ้ายาปูม้าอีก 80 บาทไม่รวมนํ้าเป็น 160 บาท เส้นขนมจีนคือดีมาก เส้นเล็กอร่อย แต่นํ้ายาคือเผ็ดมาก ส่วนตัวกินเผ็ดไม่ได้มาก เลยกินได้นิดเดียวเสียดาย แต่พี่สาวชอบกินเผ็ด อร่อยกินคนเดียวหมดเลย
"ขนมจีนแม่ยายเส้นสด น้ำแกงปูม้า" เปิด 9.00-16.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/t8myTUCCMhs9L5i5A
ตกเย็นไปเดินหลาดหน้าพระธาตุ Phrathat Night Market อากาศดีมาก (ระหว่างก่อนถึงเย็นแวะพักที่โรงแรม)
ที่นครศรีธรรมราชจะไม่ค่อยหนาวนะคะ ในขณะที่ตอนไปกรุงเทพหนาว ใต้ฝนตก แต่ตกไม่แรง เบา ๆ พอให้เย็น รูปที่ถ่ายมาท้องฟ้าทั้งทริปนี้ก็เลยมืด ๆ มัว ๆ หน่อย
หลาดหน้าพระธาตุ Phrathat Night Market (เดียวจะรีวิวภายในวัดให้ด้านล่างนะคะ เพราะแวะไปวันกลับเดินแบบเต็ม ๆ )
หลาดหน้าพระธาตุ Phrathat Night Market หรือตลาดหน้าวัดพระธาตุ ชื่อก็บอกอยู่ว่าอยู่หน้าวัดเลย เป็นตลาดทางเดินยาว ๆ จะมีให้เดินเฉพาะวันเสาร์เท่านั้นนะคะ เปิด 16.00 น. มีของพื้นบ้านขาย มีอาหารพื้นเมือง และอาหารทั่วไปเยอะแยะมากมาย แถมยังมีน้อง ๆ เด็ก ๆ มาทำการแสดงให้ดูด้วย
เนื่องจากตอนไปเดิน ของทุกอย่างละลานตามาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย ทุกร้านน่ากินไปหมด ความน่ารักของแต่ละร้านคือมีถังขยะไว้หน้าร้านทุกที่ จะไปซื้อจากร้านไหนมา มีที่ทิ้งให้เลย ชอบมาก หมดปัญหาเวลาซื้อของกินแล้วไม่มีที่ทิ้ง
เดิน ๆ ไป เจอ เซเว่นน่ารักมาก และก็ไปเจอ "ร้านโรตีบังบ่าว" เป็นอีกหนึ่งร้านดัง แน่นอนว่าต้องแวะ แวะปุ๊ปฝนตกปั๊บ ภาคใต้คือฝนแปดแดดสี่มาก
อันนี้ชาชัก แก้วใหญ่มาก และอร่อยมากเช่นกัน ตั้งแต่มาเมืองคอน นครศรีธรรมราช ร้านชาไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
กินชาแล้วก็ต้องกินโรตี อันนี้คือโรตีมะพร้าวอ่อน อร่อยอีกแล้วตั้งแต่มาพูดว่าอร่อยไม่รู้กี่รอบแล้ว มะพร้าวอ่อนมาก โรตีก็คือแป้งดีสุด อยากจะกินทุกวัน
ตอนนั้นก็คือใกล้จะเย็นแล้วก็เลยรวบกินข้าวเย็นที่ร้านโรตีบังบ่าวเลยละกัน เพราะข้าวหมกไก่กับซุปน่ากินมาก อดใจไม่ไหวสั่งมาเลย
ขอพูดคำว่าอร่อยอีกครั้ง ก็มันอร่อยมากจริง ๆ ชอบเมืองคอนแล้วซิ คืออาหารดีไปหมด ซุปเนื้อคือเปื่อยมาก กินพร้อมข้าวหมกไก่คืออร่อย ราคาทั้งหมดจำไม่ได้นะคะ ลืมเพราะร้านนี้ไม่มีบิลให้แต่ไม่แพงเลย หมดนี้ประมาณสองร้อย
สำหรับที่พักตลอดเวลา 3 วัน 2 คืน ฝ้ายนอนที่ "Navakitel Design Hotel" ที่นี่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ ราคาไม่แพง ห้องที่นอนราคา 1,500 บาท หารสองคนละ 750 บาทต่อคืนเอง ถือว่าถูกมากเพราะห้องและตัวโรงแรมสวยมาก
Check in ที่ Navakitel Design Hotel ถ่ายรูปได้ทุกมุมรัว ๆ ไปเลย ที่นี่ไม่มีสระว่ายนํ้านะคะ แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเราไม่เน้นอยู่แล้ว
ที่โรงแรมจะมีชั้น G ที่เป็น Lobby ที่กินข้าวเช้าและก็ลานจอดรถ ที่จอดรถเยอะพอสมควร ส่วนห้องพักก็จะเป็นชั้น 1-6 ซึ่งเราได้ชั้น 6 ห้อง 601
ห้องที่เราอยู่คือห้อง Type Urban มีระเบียงมองเห็นวิว 1,500 บาท แบบเตียงคู่ ใครจะนอนแบบเตี่ยงเดี่ยวก็มีให้เลือกนะคะ
การตกแต่งเรียบ ๆ แต่ดีมาก สวยเตียงนุ่มนอนสบาย ภายในห้องอุปกรณ์ครบ ทีวี ตู้เย็น กานํ้าร้อนกาแฟ ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์อาบนํ้าครบ สำหรับผู้หญิงถ้าแต่งหน้าอาจจะแต่งยากนิดนึงด้วยแสงไฟ ต้องแต่งในห้องนํ้า
สำหรับฝ้ายถือว่าคุ้มมากนะ ราคานี้แต่ว่าห้องดี โรงแรมสวย ทุกอย่างยังใหม่อยู่ และตัวโรงแรมอยู่ใจกลางเมืองไปเที่ยวง่ายด้วย ประทับใจเลย โดยเฉพาะอาหารเช้า ที่ Navakitel Design Hotel จะไม่ใข่อาหารเช้าแบบ breakfast ตามโรงแรมทั่วไปนะ แต่ที่นี่มีข้าวเหนียวหมูห่อใบบัว และตัวข้าวเหนียวคือเป็นอัญชัญ ดีงามมาก
อร่อยจนวันที่สองกินสองห่ออ่ะ ทั้ง ๆ ที่ห่อนึงคือเยอะมากแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีข้าวมันแกงกุ้ง ข้าวมันแกงไก่ อาหารพื้นเมืองของคนที่นี่ อร่อยดีมัน ๆ คล้ายแกงกระทิ และก็มีปาท่องโก๋สังขยา สังขยาอร่อยมาก มีข้าวเหนียวสังขยาด้วย ชากาแฟมีเครื่องทำให้อัตโนมัติ ทั้งอร่อยทั้งอิ่มแน่นอนเช้านี้
ก็ถือว่าเป็นโรงแรมที่คุ้มค่ากับการมาพักนะคะ แนะนำเลย สวยราคาไม่แพง พนักงานยิ้มแย้ม แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าที่นี่ไม่ใช่โรงแรมห้าดาวที่จะมีคนยกกระเป๋าให้หรือมีคนพาไปส่งที่ห้อง พนักงานที่นี่ก็จะมีแค่คนสองคน เป็นโรงแรมเล็ก ๆ แบบน่ารัก
ตอนไปก็จะมีคนมาพักหลายแบบทั้งครอบครัว มากับแฟน มากับเพื่อน ก็คิดว่าน่าจะตอบโจทย์ทุกกลุ่มยังไงใครมานครศรีธรรมราชก็แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ ถือว่าคุ้ม โดยเฉพาะอาหารเช้า ติดใจมาก : )
Navakitel Design Hotel
พิกัด : https://goo.gl/maps/gmnPMFuJLzh4vrJ98
FB : https://www.facebook.com/Navakitel/?epa=SEARCH_BOX
Tel : 080-3939339, 075-450959 , 075-450969
เช้าวันที่ 2 หลังจากกินข้าวเหนียมหมูห่อใบบัวอย่างอร่อย ก็เดินทางต่อ วันนี้เราออกกันแต่เช้าเพราะจะไป "หมู่บ้านคีรีวง" ที่หมู่บ้านคีรีวงเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าอากาศดีที่สุดในประเทศไทย ได้ยินชื่อมานานแล้ววันนี้มีโอกาสได้มาซักที
การเดินทางจากโรงแรมใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง การเดินทางถือว่าถนนหนทางค่อนข้างดีเลยค่ะ ไม่น่ากลัวไม่ลำบาก แนะนำว่าให้มาเช้า ๆ คนน้อย อากาศดี วันไปมีฝนตก แต่ตกเบา ๆ ตกบ้างหยุดบ้าง ถ่ายรูปออกมาฟ้าเลยจะครึ้ม
ขับรถตามทางไปเรื่อย ๆ ก็จะมีแต่ละจุดที่ให้ถ่ายรูป หมู่บ้านคีรีวงเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ธรรมชาติมาก มีทั้งภูเขา นํ้าตก แต่ถ้าใครจะเล่นนํ้าแนะนำให้เล่นตรง หนานหินท่าหา ที่มีลักษณะเป็นลำคลอง นํ้าเย็นสดชื่นมาก
ฝ้ายอาจจะไม่ได้ไปถ่ายรูปที่หมู่บ้านครบทุกจุดนะคะ เพราะวันมาฝนตกนิด ๆ แต่โดยรวมก็คือชอบ ยิ่งฝนตก ยิ่งทำให้อากาศดี เย็นสดชื่นมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งที่ ที่ใครมานครศรีธรรมราชแล้ว อยากให้แวะมา ที่หมู่บ้านคีรีวง จะไปกลับหรือจะมานอนก็ได้ แต่ส่วนตัวไปกลับก็พอแล้ว นอกจากธรรมชาติที่หมู่บ้านก็จะมีร้านกาแฟเล็ก ๆ น่ารักหลายร้านเหมือนกัน
เราเลือกไป “ร้านบ้านนายทั่ง ณ คีรีวง” เป็นร้านที่ตกแต่งด้วยของเก่า ๆ วินเทจ ร้านทำออกมาได้น่ารักมาก ของเก่าที่เอามาตกแต่งทำให้เราตื่นเต้นนึกถึงวัยเด็กเลย
นํ้าอร่อยมาก ชากุหลาบนํ้าผึ้งมะนาว สดชื่นมาก ที่ร้านมีทั้งนํ้าและขนมนะคะ ใครมาเที่ยวคีรีวง และอยากนั่งพักชิว ๆ ก็แวะมาได้
หมู่บ้านคีรีวง - ร้านบ้านนายทั่ง ณ คีรีวง
พิกัด : https://goo.gl/maps/kPRSRNBT7K4RcDp66
เสร็จจากหมู่บ้านคีรีวง เราก็ไปกันต่อ ที่ต่อไปคือ "วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่)" ซึ่งการเดินทางห่างจากคีรีวงประมาณชั่วโมงได้ ตอนแรกลังเลว่าจะไปดีมั้ย แต่เพื่อนที่อยู่ที่นี่ทักมาบอกว่าให้ไป ที่วัดเจดีย์ หรือ วัดไอ้ไข่ นี้ดังมาก คนนิยมมา
จริง ๆ ฝ้ายไม่เคยได้ยินชื่อ หรือรู้จักมาก่อน แต่จากที่เข้าวัดมาแล้วก็น่าจะดังจริง ๆ เพราะคนเยอะแบบมาก ขนาดฝนตก ชาวบ้านหรือคนมาเที่ยวต่อคิวยาวมาก แค่จุดดอกไม้ธูปเทียนยังต้องต่อแถว ความเชื่อของคนที่มาก็คือหากได้มาไหว้พระขอพรที่นี่ รวมถึงไหว้รูปปั้นแกะสลักเด็ก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าไอ้ไข่ ก็จะสมหวัง ในแต่ละวันก็จะมีคนทั้งมาขอพร ทั้งมาแก้บน เสียงประทัดดังมากตลอดเวลา รวมถึงมีรูปปั้นไก่ที่คนมาแก้บนเยอะมาก
ฝ้ายไม่ค่อยได้ถ่ายรูปบริเวณวัดนะคะ เพราะถ่ายไปตรงไหนก็ติดแต่คน เพราะอย่างที่บอกว่าคนเยอะมากจริง ๆ เลยถ่ายมาให้ดูได้แค่บางส่วน
นี้คือไอ้ไข่ มีรูปปั้นอยู่หลายแบบ ถ้าแบบดั้งเดิมเลยจะใส่ชุดทหารอยู่ในศาลา ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่า ไอ้ไข่นั้นเป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ 9 – 10 ขวบเป็นลูกศิษย์ซึ่งติดตามหลวงปู่ทวดที่เป็นเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้ได้มาปักกลด เมื่อหลวงปู่ทวดเห็นว่าที่ตรงนี้มีทรัพย์สมบัติ และ ศาสนสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมาก เลยให้ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติไว้
วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/g2h9TorCMBqnqnbV6
จากวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ก็จะบ่ายสองแล้ว หิวข้าวมาก ก็เลยหาที่กินข้าวและก็ทะเลใกล้ ๆ ก็เห็นว่าจากวัดเจดีย์ ไปหาดสิชลใกล้สุดครึ่งชั่วโมง พอไปถึงก็ไม่รู้ว่าหาดต้องลงตรงไหนยังไง งง กับ map มาก เลยไปเจอร้านข้าวโดยบังเอิญ คือ "ร้าน แล เล Lae Lay" เป็นร้านเล็ก ๆ แต่คนเยอะมาก เลยตัดสินใจว่าร้านนี้แหละ
ฝ้ายสั่งมาทั้งหมด 3 อย่าง ราคา 535 บาท รวมนํ้าเปล่า ส่วนตัวให้คะแนนร้านนี้ที่อาหารจานใหญ่ รสชาติพอกินได้ เพราะหิวด้วย แต่ว่าก็ยังไม่ได้ประทับใจมากค่ะ แม้กุ้งกับปลาหมึกจะตัวใหญ่ แต่มันไม่สดและกินเข้าไปก็รู้สึกถึงความคาวหน่อย ส่วนบรรยากาศถือว่าโอเคเห็นวิวทะเล แต่ว่าร้านไม่ค่อยสะอาด ห้องนํ้าก็ไม่น่าเข้าเลย ถ้าเอาความชอบส่วนตัวก็ไม่แนะนำให้มาร้านนี้เท่าไหร่ T^T
จากร้านเราก็ขับรถชมวิวไปเรื่อย ๆ ฝนก็จะตก สุดท้ายถ่ายรูปทะเลมาก็ไม่สวยเพราะคลื่นแรง ลมแรง ก็เลยไม่มีรูปทะเลเลย ขับกลับก็จะมืดแล้ว ก็หาอะไรกินแถวโรงแรม เพราะแถวโรงแรมมีตลาดมีของกิน ก็เป็นอันจบวันที่สอง
เช้าวันที่ 3 วันสุดท้าย ตื่นมากินข้าวเหนียวหมูทอดอัญชัญ กับสังขยาเหมือนเดิม อิ่มแน่น ๆ จุก ๆ ไปเลย ฝ้ายกลับไฟท์เย็นหน่อย เลยพอจะมีเวลาแวะเที่ยวอีกนิด วันนี้ตั้งใจว่าจะไปไหว้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช และก็จะแวะเข้าไปไหว้วัดพระธาตุอีกสักรอบ
ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ที่นี่เปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องรักษาบ้านเมืองให้พ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ ทางเราก็ขอให้ปกป้องคุ้มครองเราด้วย และขอให้ได้มาเที่ยวที่นี่อีก
ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/gCe7QTc8ELPXrErv8
จากศาลหลักเมือง ก็ไปกันต่อที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช จริง ๆ วันแรกไปมาแล้ว แต่ยังเดินไม่ทั่วเพราะคนเยอะ วันนี้ก็เลยตื่นเช้าไปเดินอีก แต่หลัก ๆ เหตุผลที่มาอีกคือ อยากกินมังคุดคัดอีก วันแรกได้กินแค่นิดเดียว แถมเจอร้านเดียวและแพงด้วย 3 ไม้ 100 เพื่อนบอกปกติไม้ละ 20 เสียใจมาก T^T มาวันนี้หลังจากไหว้พระเสร็จเดินหาอีก ไม่มีให้กินเลย
วันนี้เป็นวันแรกเลย ที่มีแดด หลังจากสองวันที่ผ่านมา ฟ้าครึ้มมาโดยตลอด ฝนตกนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าเที่ยวสบาย เย็น ๆ ไม่ร้อน
ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช ก็เป็นอีกหนึ่งวัดที่ต้องมาให้ได้ ถ้าไม่มาก็อาจจะเรียกว่ามาไม่ถึง เพราะถือว่าเป็นวัดที่สำคัญของคนเมืองคอนเลย
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช เปิด 10.00-17.00 น.
พิกัด : https://g.page/Detkaphon?share
เสร็จจากวัดก็ไปกิน "ร้านโกหนูหมูสะเต๊ะ" เป็นร้านเล็ก ๆ ธรรมดา แต่ว่าเป็นร้านดังของที่นครศรีธรรมราช ชุดที่สั่งมาคือชุดเล็ก 50 บาท ได้ 10 ไม้ + ขนมปังปิ้ง 10 บาท รสชาตินํ้าจิ้มคือดีมาก มีเอกลักษณ์ออกเปรี้ยว ๆ นิด ๆ โดยรวมคือดี แต่เพิ่งมาอ่านรีวิวว่าถ้ากินแบบคนเมืองคอนต้องราด เราก็กินแยกมาตลอดเลยสั่งแยก
"ร้านโกหนูหมูสะเต๊ะ" (ไม่มีที่จอดรถ ต้องหาที่จอดตามทางนะคะ)
พิกัด : https://goo.gl/maps/BNFVeFEfUrBh8Db99
ร้านสุดท้าย ก่อนไปสนามบิน ไปที่ร้านคาเฟ่ "O2 CAFE nst." เป็นร้านคาเฟ่ร้านดังของนครศรีธรรมราชเหมือนกัน รู้เพราะว่าดูรีวิวมา : ) ในร้านก็น่ารักมีมุมให้ถ่ายรูป ร้านนี้อยู่ติดกับร้านขนมจีนที่เรากินวันแรกเลย
ไปช่วงสิ้นปี ร้านก็จะตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศ ปีใหม่ คริสมาสต์ น่ารัก แต่ไม่ใช่แค่ร้านสวย นํ้ากับขนมก็อร่อยด้วย
เมนูที่สั่งก็จะมี ชาเขียวเย็น 60 บาท มิกซ์เบอร์รี่มิลค์สมูทตี้ 69 บาท และขนมวาฟเฟิล 89 บาท อร่อยทุกเมนู แนะนำให้สั่งเลยค่ะ โดยเฉพาะ มิกซ์เบอร์รี่มิลค์สมูทตี้ นอกจากหน้าตาจะดูดีแล้ว รสชาติคืออร่อยมาก สดชื่น
"O2 CAFE nst." เปิดทุกวัน 08.00-20.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/R6CKKQDTcmc5aBvq6
และนี้ก็คือทั้งหมดของ 3 วัน 2 คืน ที่เมืองคอน นครศรีธรรมราช ทั้งหมดที่อยู่ที่นี้คือชอบมาก ตั้งแต่อาหารการกินมีแต่อร่อย ๆ ที่พักก็ดีนอนหลับสบายฟิน ได้กินของอร่อยทุกเช้า ส่วนผู้คนก็น่ารักมาก อย่างไปร้านบังบ่าว พี่ผู้ชายยกโต๊ะหลบฝนและทำของเราตก ยกมือไหว้ใหญ่เลย คือแบบเค้าสุภาพมาก ๆ เวลาไปเดินตลาดทุกคนก็น่ารัก เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่ได้ใหญ่แต่น่าประทับใจ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาอีกแน่นอน : ))
ยังไงก็หวังว่าทุกคนจะชอบรีวิวนะคะ
ติดตามเพจรีวิวเล็ก ๆ ของฝ้ายได้ที่ : https://www.facebook.com/puifaikamonblog/
Puifaikamon
วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.06 น.