ล่องเรือส่วนตัว 2วัน 1คืน อุทยานแห่งชาติโคโมโด
ติดตาม FB page ของเรา ได้ที่ สองเท้าก้าวเที่ยว
สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความฟิน กับธรรมชาติ และน้ำทะเลงดงาม แนะนำอย่างยิ่งให้ที่เที่ยวที่นี่ อุทยานแห่งชาติโคโมโด (Komodo National Park) ที่ๆ คุณจะพบกับสถานที่เที่ยวสุด Wow!! และ มุมถ่ายภาพสุดฮิต เราขอนำเสนอช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ แบบที่หมดความกังวลว่าจะถ่ายไม่สวยไปได้เลย เสร็จแล้วพร้อมไปแชร์เพื่อนๆแบบตาร้อนกันเลยทีเดียว
ออกเดินทาง (จาก ดอนเมือง - บาหลี - โคโมโด )
เริ่มต้นออกเดินทางจาก กรุงเทพบ้านเฮา ไปที่สนามดอนเมืองช่วงเช้า และแน่นอนว่าเราได้ทำการจอง taxi เอาไว้ล่วงหน้าเพราะไม่คิดจะขับรถแน่นอน เวลาไปเที่ยวที่ไหนเราทำแบบนี้เสมอแหละครับ เราออกเดินทางจากดอนเมืองวันที่ 25 มิ.ย นั่งเครื่องไปลงที่บาหลี ที่สนามบิน DPS แล้วต่อเครื่องบินภายในประเทศไปลงที่สนามบินโคโมโด เมืองลาบวน บาโจ
ถึงสนามบินโคโมโด ประมาณ 5 โมงเย็น แน่นอนว่าสัญลักษณ์ของเมืองนี้คือ ตัวมังกรโคโมโด มันโดดเด่นอยู่ที่หน้าสนามบินเลยจริงๆ ไม่อยากเห็นก็ต้องเห็น เดินมาตรงทางออก เพื่อจะหา taxi เข้าที่พัก ที่เราจองเอาไว้ล่วงหน้า บอกก่อนว่าที่พักที่นี่มีให้เลือกเยอะมากเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะฝรั่งที่มาจาก ออสเตรเรีย เพราะเค้าใช้เวลาเดินทางมาค่อนข้างสั้น เหมือนเราขับรถจากกรุงเทพไปหัวหินยังไงยังงั้นเลยทีเดียว เอาล่ะกลับมาที่การหา taxi พอเราเดินออกมาปุ๊ป เห็นเลยครับว่ามีป้ายชื่อรอรับนักท่องเที่ยวอยู่นับเป็นสิบๆป้าย เรียกว่าไม่อยากจะนับเลย เพราะเยอะมาก เราก็เล็งๆเอาตามดวง เห็นคนขับหน้าตาพอเชื่อใจได้ก็เลยลองเรียกดูครับ เค้าคิดค่ารถอยู่ที่ 50,000 รูปี หรือประมาณ 125 บาท (เอา 400 ไปหาร) ก็ไม่ถูกไม่แพงครับ ราคานี้ถือว่าโอเค
ออกจากสนามบินก็พบว่า เมืองนี้เนินเยอะและชันพอควร ถ้าเดินมาเองคงไม่ไหว นั่งรถมาประมาณ 20 นาทีคนขับก็ชี้ไปทางขวามือ บอกว่า มันคือ Night market เราหาอาหารทานที่นี่ได้ รีบจำไว้เลยครับว่ามันอยู่ตรงไหน นั่งต่อมาอีก 10 นาที ก็ถึงที่พักครับ ตอนนั้นประมาณ 17.30 น. นึกดีใจว่าดีนะที่โรงแรมอยู่ใกล้ๆกับ ตลาด จะได้เดินมาหาของกินได้สะดวก เค้าบอกเราว่า อาหารตรงนี้อร่อย ปลาก็สด
แต่ก่อนจะไปหาอะไรกินตอนเย็นต้องหาทัวร์แบบ Private Boat Trip ก่อนครับ เพราะไม่ได้จองมา ในใจผมเนี่ยแอบกังวลเหมือนกัน เพราะตอนนี้ก็ 6 โมงเย็นแล้ว จะหาได้มั้ย เพราะเราต้องการออกทัวร์พรุ่งนี้เช้าเลย เราตัดสินใจเดินมาเรื่อยๆ แวะถาม 2-3 ราย ก็จะรู้ราคาครับ ปกติทัวร์จะเสนอขายเป็น Package ว่าจะพาเราไปที่นั่นที่นี่ แต่เราแจ้งเค้าเลยครับว่า เราจะไปที่ไหน และที่ไม่ไปแน่ๆคือ เกาะ Rica เพราะ ไม่อยากไปดูตัวมังกรครับ สิ่งที่เราระบุไปมีดังนี้ (เรียงตามลำดับ)
- Kelor Island
- *Sarai beach
- *Padar Island
- Pink beach
- *Taka Makassar
- Manta Point
- Kanawa Island
เดินมาเรื่อยๆจนจบที่เจ้านี้ครับ ทริปเป็นแบบ 2 วัน 1 คืน ได้ราคาที่ 5 ล้านรูปี (ประมาณ 12,500 บาท) ถ้ามา 4-6 คน ผมว่าคุ้มมาก ราคานี้รวมอาหารและน้ำดื่มบนเรือทั้งหมด แต่หากอยากดื่มอย่างอื่น Coke Pepsi ก็ซื้อไปเผื่อด้วยนะครับ สิ่งสำคัญสุดก่อนจะสรุปราคาจ่ายค่ามัดจำคือ ขอดู ภาพเรือที่ เค้า เสนอราคามานะครับ บางเจ้าราคาถูกเพราะเป็นเรือเล็ก เราเห็นบางกรุ๊ปที่ไปเจอเรือเล็ก ดังนั้นเอาให้ชัวร์ครับ ขอดูเรือก่อนเลย
จัดแจงจ่ายค่ามัดจำประมาณ 1 ล้านรูปี พร้อมนัดหมายเจอกันที่ร้านเวลา 8 โมงเช้าพรุ่งนี้
เอาล่ะจัดการเรื่องทัวร์เรียบร้อย เราเดินต่อไปที่ Night Market เดินแค่ 10นาทีก็ถึงครับ จะบอกว่าอาหารทะเลที่นี่น่าทานมากกกก ยิ่งถ้าเป็นปลาด้วยแล้ว น่าทานจิงๆ แน่นอนมาถึงแล้วต้องลองทานปลาย่างครับ สีสันสวยสดใส จนบางตัวไม่กล้ากิน ราคาอาหารก็ไม่ได้แพงมากครับ แม้ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวก็ตาม ลองคำนวณค่าอาหารก็ตกคนล่ะประมาณ 200 น่าจะได้
หลัจากอิ่มหนำสำราญ เราเดินกลับที่พัก เห็นว่าด้านขวามือ ติดกับตลาด กำลังก่อสร้างโรงแรมใหม่ น่าจะเป็นพันห้องแน่นอน ใครสนใจลองเข้าไป search ดูได้ครับ
เริ่มออกเดินทาง
หลังอาหารเช้าที่โรงแรมเดินมาอีก 500 เมตรถึงท่าเรือพร้อมออกเดินทางทางทัวร์ ให้เด็กคนนึงมาดูแลเราระหว่างการเดินทางเอามาช่วย service นั่นแหละไม่ว่าจะเป็นชงกาแฟแบกของอะไรทำนองนั้น
วันที่ 1 (Kelor Island-Sarai-Padar Isalnd)
Kelor Island
จากท่าเรือมุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกคือ Kelor Island ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เราสังเกตุว่าหลังออกจากท่าเรือมา น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส สวยงามมาก ทำให้รู้สึกว่าอยากกระโดดออกจากเรือ แล้วว่ายน้ำจริงๆเลย นอกจากนี้ทะเลยังแวดล้อมไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ ปกคลุมด้วยหญ้าสีทองทำให้เรารู้สึกว่า ทะเลนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสีทองตัดกับท้องฟ้าสีสดใส แค่ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่นิดเดียว เผลอแป๊ปเดียวก็ 2 ชั่วโมง เราก็ถึง Kelor Island
พอเรือเทียบเกาะ เราต้องเดินขึ้นเขาอีกประมาณ 20-30 นาที เพื่อไปดูจุดชมวิวที่ด้านบน เวลาตอนที่เรามาถึงก็ประมาณ 11 โมงครับ คนยังไม่เยอะ แต่จุดที่สวยที่สุดกลับไม่ใช่จุดชมวิวครับ แต่เป็นจุดที่ถึงก่อน ตรงนี้เราสามารถเห็นเรือที่เรานั่งมาตัดด้วยหาดสีขาวด้านล่าง โดยมี Background เป็นภูเขาสีทองด้านหลัง
Sarai beach
พอเราขึ้นเรือมาไม่นานทางลูกเรือก็เตรียมอาการมื้อแรกให้เรา แบบอลังการมากกิน 4 คนก็ไม่หมดโคดคุ้มเราตกใจว่าเค้าเตรียมอาการสำหรับ 2 คนเยอะขนาดนี้เลยหรือแถมอร่อยด้วย นั่งย่อยไม่นานก็ถึง จุดหมายที่สองของวันคือ Sarai Beach ที่ทางทัวร์เค้าแนะนำบอกว่าที่นี่สวยกว่า Pink beach เพราะทรายสีชมพูกว่าและสวยกว่า
พอเรามาถึงก็พบว่าหาดนั้นเป็นสีชมพูของจริงและสวยมาก แถมนักท่องเที่ยวก็ยังไม่มีอีกต่างหาก กิจกรรมหลักของที่นี่คือ เล่นน้ำและ snorkling ก็เพราะว่าที่นี่สวยมากแถมเป็นส่วนตัวสุดๆ เราจึงใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควรคือ 2 ชั่วโมงแบบไม่ต้องเกรงใจใคร พวกอุปกรณ์การดำน้ำก็มีคนจัดแจงเตรียมพร้อมไว้ให้แบบสบายขีดสุดครับ ถ้าใครชอบถ่ายรูปเหมือนเรา แนะนำที่นี่ว่าถ่ายทะเลสวยมาก ได้หลากสีตั้งแต่ ขาว ชมพู และ ฟ้าเลย ส่วนความยาวหาดนั้นไม่ได้ไกลนะครับ เดินได้สบายมาก ถือว่าเป็นหาดส่วนตัวแบบขั้นสุด แนะนำให้มาที่นี่กันเลย
Padar Island
นั่งเรื่ออกจาก Sarai beach ประมาณบ่าย 2 กว่าๆ เนื่องจากเราใช้เวลาในการดำน้ำและถ่ายรูปกลางแดด ค่อนข้างนาน ก็เลยมีอาการเพลียแดด พอขึ้นเรือมาก็ออกอาการง่วงครับ ตื่นมาอีกทีเกือบ 4 โมงเย็น ก็เลยถาม กัปตันว่า อีกไกลไหมจะถึงที่หมายที่สามของวัน คือ Padar Island ซึ่งถือว่าเป็น highlight ขั้นสุดของทริปนี้ก็ว่าได้เลย
รวมเวลาเดินทางจาก Sarai มาที่ Padar ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆเองครับ เรามาถึวตอน 4โมงเย็น ก็เริ่มต้นกิจกิจกรรมปีนเขาเล็กๆ ใช้เวลาเดินขึ้นไปจุดสูงสุดเพื่อรอพระอาทิตย์ตกประมาณ 30 นาที บอกเลยว่าช่วงเวลา 4-5 โมงเย็น ถ่ายภาพไม่สวยเพราะแดดจัดมาก แถมยังย้อนแสง ช่วงเวลานี้เราจึงถ่ายภาพเงาเป็นหลัก เราต้องรอให้เย็นกว่านี้ถึงจะถ่ายภาพได้ รอจนถึง5โมวครึ่งก็จะได้ภาพประมาณนี้
ตอนเย็นแทบไม่มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเลย หากใครอยากเก็บภาพผมแนะนำให้มาทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ได้คนล่ะบรรยากาศ จริงๆเราค่อนข้างแน่ใจว่า คนส่วนใหญ่มักจะมาที่ Padar ช่วงเช้า เพราะทางทัวร์จะนำเสนอทริปแบบนั้น แต่สำหรับคนที่ต้องการถ่ายรูป มาช่วงเย็นน่าจะดีที่สุด เพราะคนน้อยมากกก รับรองว่าถ่ายยังไงก็ไม่ติดคนแน่นอน เราเริ่มเดินลงจากยอดประมาณ 6 โมงเย็นครับ และต้องจ่ายค่าเข้าอุทยานด้วย (komodo national park) ราคา 232,500 รูปีต่อคน
เรากลับขึ้นเรือพร้อมทานอาหารเย็นที่จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อย ส่วนเรือก็จอดใกล้ๆทางขึ้นเกาะครับแน่นอนว่า เรืออีกจำนวนมากก็จอดใกล้ๆกัน ดังนั้นพรุ่งนี้เช้านักท่องเที่ยวน่าจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้าเหมือนกัน
วันที่ 2 (Padar Island- Pink beach-Taka Makassar - Manta Point-Kanawa island)
Padar Island ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น
เราตื่นตอนตี 5 ออกเริ่มเดินขึ้นจุดชมวิวตอนตี 5 ครึ่ง นักท่องเที่ย ใช้เวทยอยขึ้นไปตามคาด และเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที เราก็พร้อมสำหรับการถ่ายรูป เพราะเมื่อวานได้ทำการสำรวจจุดถ่ายแล้วมาแล้ว ไม่ต้องตระเวณหา ถ่ายรูปเรียกว่า เป็นร้อยเลยใบเลย ไม่ว่าจะมองทางซ้ายหรือขวา หรือจุดไหนก็สวยจิง คำแนะนำคือ ต้องรีบถ่ายไม่งั้นจะติดคน หรือก็ต้องรอจนคนเริ่มทยอยกลับนั่นแหละ ส่วนมากจะเริ่มทยอยกลับตอน 8-9 โมงเช้า เรากลับขึ้นเรือตอน 8 โมงครึ่ง เพื่อเดินทางไปจุดที่สองของวันนี้ และเป็น bucket list ของหลายๆคน Pink Beach
Pink beach
จาก Padar ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มาถึง Pink beach ประมาณ 10 โมงเช้า ไม่ค่อยมีคนครับถือว่าโชคดีและกิจกรรมที่ต้องทำคือ Snorkling แต่เราขอถ่ายรูปก่อน หาดที่นี่สีชมพูน้อยกว่า Sarai ตามที่ทางทัวร์บอกเลย เราก็เลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับ Pink beach มากซักเท่าไหร่ อันนี้เรารีวิวตามความรู้สึกจริง
Taka Makassar
ถือเป็น highlight ของคนที่ชื่นชอบทะเลครับ เพราะจะเห็นน้ำทะเลแตกต่างสีสันกันไปในแต่ล่ะระดับ สวยงามอย่างยิ่ง น้ำทะเล ณ จุดนี้ก็ใสมากครับ ปลาก็เยอะด้วย กิจกรรมที่สามารถทำได้ตรงนี้คือถ่ายภาพความสวยงามของ sand bank และ ดำน้ำตื้น เรามาถึงจุดตรงนี้ประมาณบ่ายโมงครึ่ง เนื่องจากที่นี่มีประการังน้ำตื้นค่อนข้างมาก เรือที่เราเอามาเข้าไปใกล้ไม่ได้ จึงต้องจ้างเรือเล็กทั้งขาไป-กลับครับ เหมือน taxi นั่นแหละ ซึ่งเค้าคิดค่าบริการอยู่ที่ 50,000รูปี นะครับ
ต้องบอกว่าที่นี่ห้ามพลาด ต้องมา !! sand bank ที่ Taka Makassar สวยเข้าขั้นเทพ สำหรับคนที่จะมา Private Boat trip ต้องให้ทางทัวร์เค้าพามาให้ได้นะครับ ตอนที่เรามาถึงประมาณบ่าย 2 สำกรับคนที่ชอบดำน้ำก็สามารถทำได้ ถ่ายรูปที่นี่ก็สวยมากครับ สีของน้ำทะเลไล่ shade สวยงาม
Manta Point - Kanawa Island
นั่งเรือต่อมาอีกเกือบชั่วโมงถึงจุดดำน้ำดู ปลากระเบน ซึ่งกว่าจะเห็นก็ต้องรอครับ เพราะเรือ 3-4 ลำ มาพร้อมกัน ปลามันก็หนีสิครับ แต่สุดท้ายเห็นครับ ผมยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือก็เห็น แต่ใครอยากเห็นระยะประชิดก็ต้องว่ายน้ำให้ทันปลาด้วยนะครับ นั่งเรือต่อมาอีกไม่นานถึง Kawana Island ครับ เป็น resort เล็กๆบนเกาะครับ เหมาะกับการพักผ่อนแต่โดยรวมแล้วไม่มีอะไรมาก กิจกรรมที่ทำได้ก็เหมือนทุกที่ครับคือ snorkling แต่เราพอแล้ว ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 45 นาทีก็เหลือเฟือครับ แต่ที่นี่มีเก็บค่าจอดเรือด้วยนะครับ 100,000 รูปีเราต้องจ่ายต่างหากนะครับ
นั่งเรือกลับใช้เวลาอีกประมาณ 2ชั่วโมงครับ เราถึงท่าเรือตอน 6 โมงเย็น
อาหารและบรรยากาศบนเรือ
เรียกว่าอร่อยและจัดเต็มกันทุกมื้อ เรามาแค่ 2 คนก็เลยกินไม่หมดซักมื้อเลย ไม่น่าเชื่อว่าเด็กเรือ และกัปตัน จะทำอาหารอร่อยนะเนี่ย แต่ด้วยว่าเมืองนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว คนขับเรือหาปลา อาจเปลี่ยนเป็นกุ๊กไปแล้วมั้งครับ 555
บทสรุปและข้อแนะนำ
เป็นการออกทริป 2 วัน 1 คืนที่คุ้มค่ามาก สถานที่ที่ไปก็สวยระดับโลก ต้องไปเองจริงๆ ค่าใช้จ่ายหลักๆก็ค่าทัวร์ที่ 5ล้านรูปี ผมแนะนำให้ไปหลายๆคนจะได้ช่วยกันแชร์ค่าใช้จ่าย อาหารบนเรืออร่อยทุกมื้อครับ สำหรับคนสนใจ เวลาจองทัวร์ อย่าลืมขอดูเรือด้วยนะเดี่ยวเค้าจะเอาเรือเล็กมาให้แล้วคิดราคาเรือใหญ่
สองเท้าก้าวเที่ยว
วันพฤหัสที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.58 น.