ท่องเที่ยวในแบบชิลล์ๆ หนีความวุ่ยวายเมืองกรุง ไปเยือนชุมชนเล็กๆ ที่ยังคงความเป็นชนบท ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อันนี้ ขอแนะนำ คนที่ชื่นชอบ ความเป็นไทย เดินทางไม่ไกล ได้สัมผัสกับวิถีธรรมชาติ ที่ดำเนินไปคู่กับสายน้ำ แม่น้ำหลักๆ อย่าง แม่น้ำเจ้าพระยา และ แม่น้ำป่าสัก..... กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว มักหล้ายยย...หลาย กับการท่องเเที่ยวแนวนี้ แล้วดันไปสืบเสาะ พบมาว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดย พัฒนาเส้นทาง “River Legacy” เพื่อชูคุณค่าวิถีชีวิตและอารยธรรม 7 ลุ่มแม่น้ำ และ พระนครศรีอยุธยา ณ ชุมชนบ้านเกาะเกิด คือ อีกแห่งหนึ่ง ที่มีความน่าสนใจมากๆ
ชมุชนบ้านเกาะเกิด เป็นชุมชนที่มีเสน่ห์ ชาวบ้านที่นี่ ทำขนมไทยๆ เป็นทุกบ้าน ทำเก่งและอร่อยมาก การมาเยือนครั้งนี้ กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว ได้ร่วมกิจกรรม ทำขนมไทยจากต้นตำรับ คือ ทำขนมต้ม ทำขนมกง และ ทำหมี่กรอบสูตรโบราณ ลงมือทำอย่างสนุกสนาน ซึ่งพอได้ลงมือทำ ก็รู้ว่า ขนมไทย นั้นทำไม่ยากอย่างที่คิด หากแต่จะให้อร่อยและออกมาดี ต้องสั่งสมความชำนาญกันพอสมควร
ขนมที่ชาวบ้าน จัดให้ทำกิจกรรมนั้น เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น จริงๆ มีขนมไทยอีกหลายอย่าง ใครไปเที่ยวที่นี่ ได้กินขนมอร่อยๆ เพียบเลย ขนมที่กินแก้มตุ่ยฯ ชอบมากที่สุด ก็คือ ขนมกง เป็นขนมไทยโบราณ ทำจากข้าวตอก ผสมถั่วเขียว ปั้นเป็นวงกลม แล้วนำไปทอด อร่อยมากๆ โดยขนมกง นับเป็นขนมมงคล ใช้ในงานพิธีต่างๆ อาทิ งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น ที่นี่ ทำขาย อันละ 6 บาท เท่านั้น สดใหม่ อร่อยมากๆ
นอกจากลงมือทำขนมไทยแล้ว ยังได้ลิ้มลอง น้ำข้าวยาคู กับ ขนมเปียกปูน เป็นอาหารว่าง ที่ชาวบ้านนำมาต้อนรับ อร่อยมาก น้ำข้าวยาคู ทำจากต้นข้าวตั้งท้องอ่อนๆ น้ำมาต้มกับ ใบเตย แล้วคั้นจนได้น้ำ นำมาต้ม ได้รสหวานอ่อนๆ และมีกลิ่นหอม ส่วนขนมเปียกปูน เนื้อสัมผัสนุ่ม มีความเด้ง มีความละม้ายกาละแมร์ แต่ไม่เหนียวขนาดนั้น เป็นสูตรของ ชุมชนบ้านเกาะเกิด กินแล้วติดใจ
หลังจาก ได้ทำขนมแล้ว ก็ยังได้ แวะมาเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการผลิตยาสมุนไพร โดยมี คุณป้าลำพูล พรรไวย ผู้ดูแลกลุ่มสตรีสหกรณ์สมุนไพรอายุวัฒนะ มาสาธิต การบริหารร่างกายด้วยอุปกรณ์ ที่เกิดจากภูมิปัญญา รวมถึงสมุนไพรลูกกลอน ที่ทำให้ คุณป้า ลำพูล มีร่างกายแข็งแรง และยินดีถ่ายทอดให้กับผู้ที่สนใจ ที่นี่ มีสมุนไพรจำหน่าย และอุปกรณ์บริหารร่างกายจำหน่าย ใครไม่สะดวกมาซื้อด้วยตัวเอง ก็สามารถสั่งซื้อให้จัดส่งทางไปรษณีย์
ชุมชนบ้านเกาะเกิด ยังเปิดบริการที่พักแบบ โฮมสเตย์ บรรยากาศสบายๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักความสงบปลอดภัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย อัตราค่าที่พักก็ถูกแสนถูก นอนรับลมริมน้ำชิลชิลด้วยราคา ห้องแอร์ 200 บาท/คน/คืน ห้องพัดลม 150 บาท/คน/คืน หรือถ้าต้องการให้บริการอาหารด้วยก็คิด ค่าอาหาร เช้า 80 บาท /คน,กลางวัน 100 บาท /คน,เย็น 150 บาท /คน ติดต่อกันได้ที่ โทร 081 423 0708
ช่วงบ่ายแก่ๆ หลังจากเที่ยวชม บ้านเกาะเกิด แล้วก็ยังได้แวะไปแถว บางปะอิน เพื่อเที่ยวชม วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ การไปเข้าชมสถานที่แห่งนี้ ต้องข้ามฝากแม่น้ำ ด้วยการนั่งกระเช้า ที่เกิดจากภูมิปัญญา ใช้งานมานานหลายๆ ตอนนี้ มีกระเช้าไฟฟ้า ให้บริการ จำนวน 2 กระเช้าด้วยกัน นักท่องเที่ยว น่าจะชอบ ระหว่างที่กระเช้ากำลังข้ามแม่น้ำ จะได้ชมวิวทิวทัศน์ ของแม่น้ำไปในตัว
ที่วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ เมื่อข้ามไปแล้ว ก็จะได้ชื่มชมความงดงาม ของสถาปัตยกรรม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของศิลปะไทยและตะวันตก ที่บรรจบพบกันอย่างลงตัว ทำให้ อาคารและสถาปัตยกรรม ของที่วัดแห่งนี้ ใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิคและเลียนแบบโบสถ์คริสต์ ในการก่อสร้างวัด จึงมีความงดงามโดดเด่น และยังสามารถมองเห็น พระราชวังบางปะอิน ในอีกมุมมอง ซึ่งสวยมากเช่นกัน
แนะนำจุดถ่ายภาพที่ ต้องไปแวะ อีกแห่งหนึ่ง นั้นก็คือ สถานีรถไฟบางปะอิน โดยสถานีรถไฟแห่งนี้ เปิดใช้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงในยุคปัจจุบัน ภาพรวมแล้ว ที่นี่ ยังคงเอกลักษณ์ความเก่าแก่ไว้คงเดิม จุดเด่นของสถานีบางปะอินอยู่ที่การมีพลับพลารับเสด็จในการพระราชดำเนินของพระสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์
ทริปนี้ อยากแนะนำ จุดเช็คอิน อีกแห่ง เป็นทั้ง คาเฟ่ และ ที่พัก ที่น่าสนใจ อย่างมาก นั้นก็คือ Ayutthaya Retreat Resort - อยุธยา รีทรีต รีสอร์ท สถานที่ตกแห่งได้กิ๊บเก๋ ด้วยการตกแต่งแบบไทยๆ มีของเก่า ของโบราณ มาประดับเป็นจุดๆ ด้านใน มีสระบัวขนาดใหญ่ บรรยากาศมีความสงบ ทำให้มีมุมถ่ายรูปสวย ให้เลือกถ่ายมากมาย ถูกใจคนชอบถ่ายภาพแน่นอน ห้องมีความสวยงาม เป็นสไตล์ไทยๆ ที่ประยุกต์ และออกแบบให้เข้ากับคนสมัยใหม่ ได้อย่างลงตัว ราคาห้องพัก อยู่ที่ประมาณ 3500 บาท ขึ้นไป มีโอกาสก็อยากจะพักสักคืน
ทริปนี้ ได้เรียกว่า ทริปท่องเที่ยวย้อนรอยวิถีธรรมชาติผ่านสายน้ำ นอกจาก จะได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและ สถานที่ต่างๆ แล้วกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ก็คือ การทำบุญตักบาตร คณะที่เดินทางไปครั้งนี้ ได้ร่วมกันแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุค ตื่นกันแต่เช้าตรู่ เพื่อไปใส่บาตรที่วัดมเหยงคณ์ ซึ่งในทุกๆ วัน จะมีพระสงฆ์ จำนวนมาก ออกบิณฑบาต จากชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะมีผู้ปฏิบัติธรรม ออกมาคอยใส่บาตร ด้วยการตั้งเป็นแถวแนวยาวตรงทางที่พระสงฆ์เดินกลับเข้าวัด บริเวณรอบๆ จะมีสหกรณ์ของวัด จำหน่ายอาหาร ขนม เครื่องดื่ม เพื่ออำนวยความสะดวกในการใส่บาตร อีกด้วย
พระนครศรีอยุธยา มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม โดยมีแม่น้ำ 3 สายใหญ่ ไหลผ่าน คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ซึ่งไหลมาบรรจบกันโอบล้อมรอบพื้นที่ตัวเมือง พระนครศรีอยุธยา จึงมีลักษณะเป็นเกาะ สิ่งที่น่าสนใจมากคือ สามารถท่องเที่ยวผ่านทางเรือได้อีกด้วย กินแก้มตุ่ยฯ ชอบมากๆ ได้สัมผัสกับ ทริปท่องเที่ยวย้อนรอยวิถีธรรมชาติผ่านสายน้ำ อย่างแท้จริง
การล่องเรือชมบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เห็นบ้านเรือนรินน้ำ ได้เห็นวัดวาอาราม สำคัญๆ มากมาย โดยได้แวะชม วัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานฮอตฮิตจากละคร บุพเพสันนิวาส โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมการ ก่อสร้างที่ไม่เหมือนวัดอื่นๆ แล้ว ยังได้แวะถ่ายรูป วัดพุทไธศวรรย์ ได้รับความอิ่มเอิบใจตลอดทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ประทับใจมากๆ ไม่คิดว่า เดินทางไปไม่ไกล ไปที่ พระนครศรีอยุธยา ก็ได้สัมผัสกับ บรรยากาศย้อนยุค เติมเต็มพลังชีวิต ได้อย่างบริบูรณ์ ใครที่ กำลังหาสถานที่พักผ่อนแนวธรรมชาติ แนะนำ ให้ไปที่นี่
สำหรับผู้สนใจเส้นทางท่องเที่ยว “River Legacy” สามารถรับส่วนลดได้ที่ร้านพันธมิตรต่าง ๆ ที่ร่วมโครงการ หรือติดตามข่าวสารผ่านทาง Facebook : Creative District Thailand และ เว็บไซต์ www.riverlegacy.co
กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว
วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.48 น.