สะพานแห่งใหม่ไฉไลกว่าเดิม สะพานแห่งนี้มีชื่อว่า "สะพานชลมารควิถี 84 พรรษา หรือ คือสะพานเลียบชายทะเลชลบุรี" เป็นสะพานตัดผ่านชายทะเล เลี่ยงตัวเมืองชลบุรี เป็นสะพานยาวประมาณ 20กว่า กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหม่ ที่ดังไม่แพ้ พัทยา สัตหีบ ศรีราชา  

โดยสะพานแห่งนี้เปิดใช้ให้รถยนต์สัญจรได้ตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน 2559 สะพานดังกล่าวตั้งอยู่ในตำบล บางทราย อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี อยู่ในตัวเมืองไม่ไกลจากชายหาดบางแสนและเขาสามมุก

          การเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพียงหนึ่งชั่วโมง โดยใช้เส้นบางนา-ตราดขับยาวจนถึง ถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 เพื่อเข้าตัวเมืองขับมาเรื่อยๆ พอมาถึงวัดเขาบางทราย สังเกตฝั่งขวามือจะมีซอยบางทราย 83 แล้วเลี้ยวเข้าไป ก็จะเริ่มต้นหัวสะพานฯ นั่นเอง

สะพานเลียบชายทะเลฯแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการถนตามผังเมืองรวมของจังหวัดชลบุรี สาย ฉ โดยระยะทางรวมของสะพานเลียบชายทะเลชลบุรี ประมาณ 7 กม. (จากเดิมมีระยะทางรวม 17 กม. ที่ได้ส่งเข้าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณาอนุมัติ) ซึ่งจะสร้างขนานกับถนนสุขุมวิทที่ตัดผ่านตัวเมืองชลบุรีเพื่อลดปัญหาการจราจร โดยมีการแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 ช่วง แต่เสร็จสมบูรณ์เปิดใช้งานได้ เพียง 4 ช่วง คือ

ช่วงที่ 1 จากศาลารวมใจชลไปถึงโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ความยาว 1,880 เมตร

ช่วงที่ 3 งานสะพานเลียบชายทะเล จากเทศบาล ต.บางทราย ถึงบางทรายซอย 83 ความยาว 980 เมตร มีกรมโยธาธิการและผังเมืองก่อสร้าง

ช่วงที่ 4 และ 5 จากศาลารวมใจชล ถึงถนนคลองสังเขป ความยาว 2,400 เมตร

แต่สำหรับช่วงที่ 2 จากโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ถึงถนนหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ความยาว 1,600 เมตร (เริ่มก่อสร้างในเดือน เมษายน 2561 แล้วเสร็จช่วงปี 2563)

ลักษณะของสะพานเลียบชายทะเลฯแห่งนี้ ขณะขับรถจะได้เห็นตัวสะพานที่ทอดยาวโค้งขนานไปกับท้องทะเล สามารถชมวิวทะเลที่สวยงามขนาบข้าง ในยามที่น้ำทะเลแห้งขอดมองเห็นริ้วทรายสลับกับน้ำทะเล นอกจากนี้เรายังได้พบเห็นกระชังปลากลางทะเล เรียงรายกันเหมือนภาพวาด ในยามเย็นชมบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกได้เช่นกัน แถมมีจุดจอดรถสำหรับชมวิวสวยๆ ลมเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งกินของอร่อยๆ และยังถ่ายภาพสวยๆบนสะพานไปในตัว เสริมสร้างความรัก ความห่วงใยให้กับครอบครัว และหนุ่มสาว ที่ตั้งใจพามาชมช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

อย่่าลืมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกที่นี่กันนะ รับรองว่ามาแล้วจะไม่เสียใจค่ะ

Praphai Chanthasujarit

 วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.50 น.