ถ้าพูดถึงเกาะในชลบุรี ต้องนึกถึงที่นี่อยู่ในลิสต์
เกาะสีชัง
สีชังเป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดชลบุรี การเดินทางจากกรุงเทพไม่ไกล ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มุ่งตรงไปที่ท่าเรือเกาะลอยได้เลย เราจะไปขึ้นเรือกันที่นั่น บริเวณรอบเกาะลอย มีพื้นที่ให้จอดรถค้างคืนทิ้งไว้ได้อย่างกว้างขวาง ส่วนเรือจะเป็นเรือใหญ่ เที่ยวไป-กลับเกาะสีชัง จะออกทุก 1 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางลอยอยู่ในทะเลประมาณ 40 นาที ก็จะถึงท่าเรือฝั่งเกาะสีชังราคา 50 บาท/ เที่ยว
แต่ถ้าสำหรับใครที่อยากจะรวดเร็ว ทำเวลาเค้าก็มีบริการ สปีดโบ้ทด้วย เป็นการใช้เงินแก้ปัญหา ค่าใช้จ่ายก็จะแพงกว่าหน่อย (จริงๆ ก็ไม่หน่อย ตกคนละประมาณ 300-350 บาทขึ้นอยู่กับทักษะในการต่อรอง) และแน่นอนค่ะ ทริปนี้เราใช้เงินแก้ปัญหา 555555 เหตุเกิดจากความเหงา แฮร่ !
เหตุจากเราลืมดูเวลาไปถึงท่าเรือ และไม่ได้มีการวางแผนคำนวนเวลา ที่ควรจะไปถึงเพื่อให้ทันขึ้นเรือรอบนี้นั้นก็เลยไม่ทันรอบเรือที่ควรจะไป และเราก็กลัวจะไม่ทันได้เสพช่วงเวลาที่มีแสงสว่างบนเกาะ (มันไม่น่าทันอยู่แล้วคุณ เพราะทีมเราไปถึงท่าเรือเกาะลอยเวลา 15.10 น. !!! ใช่ค่ะ เรือใหญ่เพิ่งออกไป และถ้ารออีกทีคือ 4 โมง และกว่าเราจะถึง OMG ค่ะ เพราะฉะนั้นก็จ่ายแพงตามระเบียบ นั่งสปีดโบ้ทใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้นเราก็ถึงเกาะสีชังแล้ว สวยหรูดูแพงไปเลยจ้า
ป.ล. คุณลุงที่ขับเรือน่ารักมาก ต่อราคาก็ให้ บริการน่ารัก แถมคุณลุงเค้าก็มีร้านอาหารและที่พักบนเกาะแนะนำด้วยนะ มีส่วนลด 10 % แต่ลืมถามชื่อคุณลุงอ่ะ แง ! แต่คิดว่าถ้าใครได้ไป น่าจะได้เจอคุณลุงสแตนบายอยู่แถวๆ ท่าเรือนั่นแหละ ที่สำคัญ สปีดโบ้ทคุณลุงลำใหญ่ ใหม่เอี่ยม ถ่ายรูปสวยเลยจ้า
ทริปนี้ เรามีเวลา 1 คืนในการพักผ่อน (จริงๆ นับๆ แล้วคือ 24 ชั่วโมงค่ะ) เพราะฉะนั้นไฮไลท์ของเราก็คือที่พัก พอถึงที่เกาะ ที่พักเค้าจะมีรถมารับ บริการดี ยกระดับประทับใจมาก และที่พักของเราก็คือ De' Anchor ที่นี่พนักงานต้อนรับดีมาก น่ารักมาก ดูแลดีตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าภายในบริเวณที่พัก ที่สำคัญที่พักที่นี่สวยมาก เหมือนในรีวิว เป๊ะๆ ตามมาดูกันว่า เป็นอย่างไร
บริเวณ ฟร้อน นอกจากจะเป็นจุดเช็คอินแล้ว เค้ายังมีร้านกาแฟ มีมุมถ่ายรูปเกร๋ๆ ได้ด้วย ส่วนกาแฟรสชาติปานกลาง หลังจากได้รูปในจุดนี้มาเซ็ทใหญ่ (ยังไม่ได้ไปไหนเลย) เราก็เดินเข้าห้องพักที่เราได้จองไว้ ที่นี่จะมีห้อง หลาย type เลือกตามกำลังทรัพย์ วิวหลักล้านที่เป็นจุดขายของที่นี่ ก็คือ Seaside View (ห้องพักติดทะเล) เรียกได้ว่าเปิดประตูออกมาข้างหน้าเป็นทะเลเลยจ้า ซึ่งราคาหลายคนอาจจะคิดว่าวิวขนาดนี้ ราคาครึ่งหมื่นแน่ๆ แต่คุณคะ ไม่ใช่ค่ะ ราคาคืนละ 3,500 บาทเท่านั้น แต่ช่วงที่เราจอง ห้องไม่ว่าง เราก็เลยต้องขยับลงมาเป็น Seaview (ห้องพักวิวทะเล) เห็นทะเลรำไร แทน แต่ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เราจองที่พักผ่าน Booking ในราคา 5,300 บาท ( 2 ห้อง 1 คืน)
ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ที่สำคัญเตียงนอนนิ่มสบายกำลังดี เหมาะกับการพักผ่อนนอนนิ่งๆ มาก ชื่นชมกับห้องนอนเสร็จ เราก็ออกมาถ่ายรูปรอบๆ บริเวณที่พักกันบ้าง
ที่นี่ไม่ใหญ่มาก ทุกจุดถูกออกแบบมาอย่างดี มีดีไซน์ชัดเจนเดินไปตรงไหนก็ต้องแวะถ่ายรูปกันซักหน่อย บริเวณโซนอาหาร จุดนี้ก็ได้ฟิลห้องกระจกริมทะเล ลงตัวเหมาะเจาะ เราเลือกฝากท้องมือเย็นที่ห้องอาหารที่นี่เลยตอนพระอาทิตย์ตก แล้วก็ได้ฟีลโรแมนติกไปอีกแบบ ที่สำคัญในตอนเช้าที่ได้ออกมากิน เบรคฟาส ก็ได้ฟีลอุ่นๆ สบายๆ นั่งจิบกาแฟได้เป็นชั่วโมง
อีกจุดที่ต้องบอกว่าเป็นไฮไลท์ มากๆ ก็คือสระว่ายน้ำ ที่ขนานกับทะเล บอกเลยว่าบิกินี่ห้ามพลาด ถ่ายยังไงก็สวยหรูดูแพงไปหมด เทควิวได้แบบสุดๆ ไปเลย คิดว่าอยู่มัลดีฟส์ หรือถ้าใครไม่อยากว่ายน้ำ แค่มานั่งถ่ายรูปตรงนี้ก็เกร๋แล้วอ่ะ
เนื่องจากเวลาเรามีจำกัด ที่ De' Anchor ก็เลยเป็นคำตอบเดียวและคำตอบสุดท้ายของเรา จริงๆ แล้วบนเกาะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่หลายที่ ใครที่อยากเที่ยวบนเกาะด้วย ก็สามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ค่าเช่าวันละ 300 บาท หรือ จะเหมารถที่หน้าตาคล้ายตุ๊กๆ แต่คันใหญ่เที่ยวได้ ราคาคิดเป็นต่อหัวประมาณ 150 บาท สะดวกแบบไหนก็จัดแบบนั้นไปเลย แต่ถ้าใครเน้นพักผ่อนแบบเรา การนอนเล่นถ่ายรูปอยู่ในที่พัก โดยเฉพาะที่นี่ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว มีกาแฟ วิวทะเล และเพื่อนที่รัก อะไรๆ ก็ดีไปหมด สงสัยว่ารอบหน้าคงต้องกลับไปใหม่ จะไปขอเทควิว ติดทะเล ไปเลย
ที่นี่จะเป็นกลุ่มเพื่อน ครอบครัว ก็ได้ แต่ถ้าจะให้ตอบโจทย์ เราว่าคู่รัก เหมาะสุด รับรองว่ากระชับความสัมพันธ์ได้แน่นแฟ้นเลยทีเดียว ที่สำคัญถ้ามีเวลาไม่มากอย่างเช่นคืนเดียวเหมือนเรา ก็ควรจะเผื่อเวลาเยอะหน่อย ให้ทันรอบเรือไม่เกินช่วงบ่าย จะได้มีเวลาสำรวจบนเกาะ
รายละเอียดอื่นๆ สามาถเข้าไปดูได้ที่นี่ De' Anchor
Lovesea
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 22.05 น.