ผ่านช่วงเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว หาที่พัก ที่เที่ยวกันต่อ
ที่ไหนดี !!
หลังจากต้นปีเที่ยวเขา ใจตอนนี้ก็จะมีแต่ทะเลค่ะ ทะเลที่ว่านี้ไม่ว่าจะเป็นทะเลทางพัทยา
หรือทะเลทางหัวหิน ก็ชิลได้เหมือนกัน สองเส้นทางนี้ขับรถสะดวกทั้งคู่
อยากดูพระอทิตย์ตกริมทะเลให้ไปพัทยา และหากอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรงหน้าที่ทะเลให้มาหัวหินค่ะ
และรีวิวบล็อกนี้ของเราจึงอยากพามาที่หัวหินกันอีกครั้ง
หัวหินที่เราไปได้ทุกๆ ปี วันนี้เลือกที่พักทำเลดีติดทะเลที่เงียบสงบ และเป็นส่วนตัวมากๆ
ที่นี่คือ Wora Bura Huahin Resort & Spa : วรบุระ หัวหิน
โรงแรมนี้ โดดเด่นอย่างไรในสายตาเราบ้าง
* แนวโคโลเนียล สไตล์ ในหัวหินที่มีเพียงแค่ 3 โรงแรมเท่านั้น ที่นี่คือหนึ่งในนั้น
* การตกแต่งห้องพักคือกว้างมากก แนวย้อนยุค มีความคลาสสิคสุดๆ
* ทำเลดีติดทะเล ยามเช้าตื่นมามองพระอาทิตย์ขึ้น โคตรชิล
* มีชุดไทยให้ยืมใส่ถ่ายรูปฟรีๆ มุมถ่ายรูปสวยๆ มีเพียบ
* พนักงานพูดจาน่ารักมากค่ะ ขอรับ เจ้าค่ะ ตลอดเลยเวลาที่ทักทายและแนะนำภายในโรงแรม
* อาหารอร่อยถูกปาก แม้จะมีลูกค้าชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย แต่ทว่าอาหารสไตล์ไทยๆ ก็มีนะจ๊ะ
และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับรีสอร์ทสไตล์สวย อย่างวรบุระ หัวหิน
ไปชมกันต่อเลยค่าาา
กับการเดินทางมาหัวหินครั้งนี้ของเราใช้ Google Map นำทางจิ้มกันไปได้เลยที่ Wora Bura Resort & Spa หัวหิน
จากพิกัดบอกเราจะเดินทางมาถึงใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เอาจริงๆ ใช้เวลามากว่านั้นเยอะเลยค่ะ
เพราะช่วงนี้ถนนพระราม 2 ทำเส้นทางใหม่อีก จะทำให้ช่วงนั้นรถติดค่อนข้างมากพอสมควร
หากใครมาเส้นทางนี้ต้องเผื่อเวลาเดินทางมากเป็นพิเศษหน่อยนะคะ
ก่อนเข้าเช็คอินที่พัก แวะเช็คอินคาเฟ่ และร้านอาหารอร่อยๆ ตามข้างทางได้เลย
คาเฟ่ที่หัวหินสวยๆ มีเยอะเหมือนกัน เรียบร้อยแล้วขับรถเข้าไปเช็คอินที่พักกันดีกว่า
มีที่จอดรถเพียงพอ มีพนักงานต้อนรับมาช่วยยกกระเป๋าให้ด้วย
นี่เป็น Lobby ตกแต่งแบบคลาสสิคมาก !
เมื่อก้าวเข้ามายัง Wora Bura Resort & Spa หัวหิน จะรับรู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์การตกแต่งแบบโคโลเนียลแบบชาวตะวันตกมากๆ ค่ะ
รวมทั้งพนักงานตั้งแต่เริ่มจาก หน้าประตู ยันพนักงานที่ Lobby ที่เราเดินผ่าน แต่งตัวแนวไทยทั้งหมดเลย
ทำให้เราอยากใส่ชุดไทยบ้างแล้วสิ อิอิ
เช็คอินด้วยบัตรประชาชนตามชื่อที่จองไว้ พนักงานส่วนต้อนรับจะมาแนะนำสถานที่ต่างๆ ภายในโรงแรม
และพื้นที่ส่วนกลาง รับ Welcome Drink เย็นแล้วค่อยเดินตามเข้าไปยังห้องพักกันนะ
ก่อนจะเข้าพักพักนั้น พนักงานแจ้งว่า ทางโรงแรมมีชุดไทยให้เราแต่งถ่ายรูปสวยๆ ฟรีๆ ภายในโรงแรมด้วยค่ะ
ว๊าวไปเลยแบบนี้ ขอเลือกไซด์ก่อน 555
ระหว่างทางเดินไปยังห้องพักที่ Wora Bura Resort & Spa หัวหิน จะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้เขียวๆ
มีการจัดสวนแบบโดดเด่น พร้อมทั้งหามุมถ่ายรูปไปในตัวด้วยค่ะระหว่างนั้น อิอิ
ห้องพักที่นี่จะมีทั้งหมด 77 ห้อง แบ่งออกเป็น 5 Room Type
และห้องที่เราพักได้อัพเกรดเป็น Grand Deluxe ค่ะ คือเปิดประตูเข้ามา
พบว่าห้องกว้างมากกกก เห็นว่าช่วงนี้มีโปรโมชั่นพร้อมบัตรเข้าสวนน้ำ วานา นาวาอีก 2 ใบ
ราคาห้องนี้ 7000 บาทค่ะ
เตียงนี้คือเราจะได้นอนคนเดียวนะ เยี่ยมไปเล้ยยยย
นานๆ ที่ได้มาพักโรงแรมสไตล์นี้ รู้สึกว่าตัวเองเหมือนขุนนางไปด้วย อิอิ
ภายในห้องพัก เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างคลาสสิคทั้งหมด พื้นขัดมันเงาวับ
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องครบครัน เปิดระเบียงห้องออกไปก็จะเป็นสวนหย่อมเขียวๆ หน้าห้องพักเลยค่า
ภายในห้องน้ำก็จะมีความคลาสสิคไม่แพ้กัน ที่ออกแบบการดีไซน์ให้มีหน้าต่างบานเลื่อน
แบบเลื่อนเปิดปิดให้เห็นภายใน ภายนอกได้ ส่วนเราไม่ชิน
เวลาทำธุระส่วนตัว แม้จะพักคนเดียวก็ตาม ต้องปิดไว้ตลอดแหละ 555
มีอ่างอาบน้ำให้ด้วยทุกห้อง แต่อ่างแบบฝังกับตัวห้องน้ำเลยแบบนี้เราก็ไม่แช่นะ อิอิ
ตรงข้ามกันก็จะมีห้องอาบน้ำกระจกที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกออกจากกัน
สายชำระ มีให้แน่นอนค่ะ ^^
เวลายามเย็นนี้สำหรับเรา ขอแต่งตัวชุดไทยสวยๆ มาเดินนวยนาดชมโรงแรมกันหน่อยค่า
เอาจริง ชุดไทยเนี่ยใส่เองได้แต่เสื้อค่ะ แต่โจงกระเบนเนี่ยไม่ได้เป็นแบบสำเร็จรูปนะคะ
เป็นผ้าผืนยาวๆ แบบพับเรียบร้อยมาให้เลย แล้วเราจะนุ่งยังไงเนี่ย 555
นี่คือต้องใสส่ขาสั้นไว้ข้างในและถือผ้าโจงกระเบนไปให้พนักงานช่วยสอนการนุ่งให้
เอาจริงๆ ไม่ได้ยากเลยนะคะ ง่ายมากๆ เพียงแต่เราไม่รู้เริ่มต้นหลักการใส่เท่านั้นเอง
พอนุ่งโจงกระเบนเองได้แล้ว ภาพสวยๆ ก็ตามมาค่า
มีร่มแดงให้ยืมด้วย ร่มโบราณมีในห้องพักเราด้วยนะคะ แต่ไม่ได้หยิบมา
เอาที่ Lobby ก็ได้ค่า ภาพนี้ปรับแสงเยอะไปหน่อย รายละเอียดตรงช่วงเสื้อผ้าเลยหายไปด้วย 555 เป็นการตั้งกล้องถ่ายภาพด้วยตัวเองล้วนๆ
หลังจากนั้นก็พามาดูพื้นที่ส่วนกลางของ วรบุระ หัวหิน กันบ้าง
มีฟิตเนสด้วย อยู่ตึกเดียวกับ Lobby เลยนะคะ
พร้อมทั้งสปา ชื่อว่า The WARA Spa ที่เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.30 น. - 20.00 น.
ห้องสปาที่นี่เราไม่ได้ใช้บริการนะคะ มาชมความงาม และการตกแต่งของสปา
ได้เห็นความหรูหราอย่างมีสไตล์จริงๆ
ดึ้งกับ อางจากุชชี่ในห้องสปาที่ใหญ่ และกว้างมากๆ เห็นขนาดนี้เชื่อว่าระบบอ่างเค้าดีจริงๆ
หากได้ลงไปแช่คงผ่อนคลายสุดๆ อิอิ
เดินลงไปชั้นล่างบันไดจะอยู่หน้าห้องสปาเลยค่า
จะเป็นคิดส์คลับ และห้องอ่านหนังสือ ตึกเดียวกับ Lobby เช่นกัน
บรรยากาศโรงแรมนี้ที่สัมผัสได้ก็คือค่อนข้างเงียบ และมีความเป็นส่วนตัวอย่างมากจริงๆ ลูกค้าชาวต่างชาติที่จองเข้าพัก
คงจะพักกันหลายๆ คืนอย่างแน่นอน ส่วนเราพักที่นี่คืนเดียวค่า
และมีโอกาสก็ขอพาเพื่อนๆ ชมห้อง type อื่นๆ ของ วรบุระ หัวหิน ด้วยนะคะ
บอกเลยว่าสวยไม่แพ้กัน
ตึกฝรั่ง แบบที่เรียกของสไตล์โคโลเนียลนี่แหละค่า เห็นว่าเพิ่งนำสไตล์นี้เข้ามาในสมัยราชการที่ 5
มีเพียงสองชั้นเท่านั้น ไม่ต้องเดินขึ้นชั้นสูงๆ แค่นี้ก็สบายล่ะเนอะ
ห้องนี้จะเป็นแบบห้อง SUITE ค่ะ ที่มีสัดส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอนแยกจากกัน
การตกแต่งสไตล์เดียวกัน ยังคงความรู้สึกโดดเด่นคือ ห้องพักกว้างมากๆ
พื้นที่ใช้สอยเยอะ พร้อมสิ่งของอำนวยความสะดวกภายในห้องครบครัน
ภายในห้องน้ำค่ะ ห้องพักกว้างแล้ว ห้องน้ำก็กว้างไม่แพ้กัน
สไตล์ห้องน้ำที่นี่จะคล้ายแบบที่เราได้พักนะคะ
และห้องพักอีกแบบหนึ่งที่เราได้เก็บภาพมาฝากกัน คือ Villa 1 Bedroom
วิลล่าหลังนี้เหมาะสำหรับคู่รัก คู่ฮันนีมูนก็ว่าได้นะคะ คือได้บ้านเป็นหลังเลย
และหลังนี้คืออยู่ติดทะเลด้วย เหมาะกับการใช้เวลาอยู่ด้วยกันในบ้านอย่างคุ้มค่าที่สุด
ภายในบ้านมีห้องนั่งเล่นแหละห้องนอนแยกจากกัน
และในส่วนของห้องนอนนั้น สามารถเปิดประตูออกไปจะเห็นทะเลได้ทันทีค่า
ก่อนจะเห็นทะเลนั้น ก็จะเห็นอ่างจากุชชี่ก่อนนะ เป็นอ่างฝังพื้นขนาดใหญ่อยู่่ตรงหน้า
โอ้ววว มุมนี้เจ๋งไปเลย
กลับเข้ามาภายในห้องพัก ก็จะมีพื้นที่ส่วนของห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำอีกแบบอยู่ในนี้ด้วย
และไม่ได้เป็นแค่ห้องน้ำธรรมดานะคะ มีจุดอาบน้ในสวน แบบ Open Air
อิงธรรมชาติให้อีกด้วยค่ะ สำหรับ Villa 1 Bedroom หลังนี้
เวลานี้ แดดร่มลมตกแล้วค่ะ ได้เวลาอาหารเย็น 555
เดินมาริมทะเลเลยค่าา เจอจังหวะแสงสวยๆ หวานๆ พอดี เลือกที่นั่งริมทะเลตรงไหนก็ได้
เราเลือกที่โดมเดียวริมทะเลนะ นั่งทานอาหารมุมนี้ มองทะเลยามเย็นไปด้วย ชิลไปอีกแบบ
เนื่องจากมาพักคนเีดยวค่ะ อาหารเย็นนี้ก็จะเพียงพอสำหรับคนทานคนเดียวแบบเรานะสิ
ไม่สั่งไรมาก นอกจากยำทะเลของโปรด และน่องไก่ทอด ตอนแรกสั่งปีกไก่ทอดนะ แต่ได้น่องไก่ทอดมา อิอิ
กับน้ำมะพร้าวปั่นอีกลูกหนึ่ง ถามว่าเหงาไหมมาคนเดียว ตอบเลยว่าไม่เหงาค่ะ
เรามีโซเชียลเป็นเพื่อน ปกติเราก็ทานข้าวคนเดียวเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแค่วันนี้มาเปลี่ยนสถานที่ทานข้าวเท่านั้นเอง ^^
วรบุระ หัวหิน กับแสงเย็นนี้เช่นกันที่ห้ามพลาด
สระว่ายน้ำที่อยู่ส่วนหน้าใกล้ทะเล ตรงนี้จะปิดตอน 6 โมงเย็นนะคะ เวลานี้คือลูกค้าขึ้นมาหมดแล้ว
เราจึงถ่ายภาพได้ พร้อมกับแสงเย็นที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ระหวางที่เราเดินกลับห้องพัก
เดินผ่านมุมมหาชนมุมนี้ยามค่ำคืน ก็อดที่จะเก็บภาพไว้ไม่ได้
ขึ้นอยู่กับแสงสีในแต่ละช่วงเวลานะ ฟ้าช่วงทไวไลท์มุมนี้ก็สวยไปอีกแบบ
ช่วงหลังๆ ที่เรามาพักตามรีสอร์ท ดามโรงแรมอะไรเนี่ย เราจะไม่เอาโน๊ตบุ๊คมาเปิดกางเพื่อทำงานแล้วนะคะ
กะจะนอนอย่างเดียว 555 ไม่งั้นตื่นมาก็เหนื่อยอีก นี่ก็เช่นกันเรานอนตั้งแต่ไม่ถึง 5 ทุ่มด้วยซ้ำ
ทำให้เช้านี้เราตื่นมาสดชื่นทันเวลาได้มองเห็นแสงพระทิตย์ขึ้น อย่างสมใจ ^^
เราเดินมาริมทะเล เช้าวันนี้ น้ำทะเลก็ขึ้นสูงพอสมควร
ช่วงนี้พนักงานบอกเป็นช่วงหน้ามรสุมค่ะ จะไม่เห็นหาดทราย น้ำทะเลจะขึ้นสูงกระทบฝั่งตลอด
นี่เป็นรางวัลสำหรับคนตื่นเช้าที่ได้มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นของเช้าวันใหม่
และน้อยครั้งที่เราจะตื่นเช้าแบบนี้หากไม่พิเศษจริงๆ เพราะเป็นคนชอบนอนดึก 555
ได้มองแสงพระอาทิตย์ช่วงเช้าๆ สมใจก่อนที่แสงสีจะเปลียนไปเรื่อยๆ
ก็หันหลังกลับมาเดินเข้าโรงแรมผ่านบรรยากาศยามเช้าอีกอีกครั้งที่ยังเงียบๆ ตามรายทางเดิน
บรรยากาศสระว่ายน้ำยามเช้า เมื่อสว่างมากแล้ว จะมีพนักงานเข้ามากางร่ม
และทำความสะอาดสระว่ายน้ำก่อนเปิดบริการในทุกๆ เช้า
ห้องอาหารเช้า Chulamongkut restaurant ห้องอาหารเช้าที่อยู่ภายในตัวตึก
ของ วรบุระ หัวหิน ที่เปิดบริการตั้งแต่เวลา 06.30 น. - 10.30 น.
อาหารเช้าที่นี่ก็ถือว่าไม่น้อยหน้าใคร สมกับโรงแรม 5 ดาวเขาแล้วค่ะ อาหารเช้าหลากหลาย
และครบทุกความต้องการแน่อน เราถ่ายภาพมาให้ชมเพียงบางส่วนนะคะ ชองจริงจะมีเยอะมากหลายชาติ
ติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้มก็มีด้วยเช่นกัน จนไม่รู้สึกว่าขาดเหลืออะไรเลย เป็นแบบบุฟเฟต์ให้เราเลือกตักเอง
การจัดวางไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของ วรบุระ หัวหิน เลือกจัดวางเป็นหมวดหมู่ดีค่ะ
ไม่แออัดและสามารถเลือกตักได้สะดวกอีกด้วย มีพนักงานคอยบริการและช่วยอำนวยความสะดวกประจำจุดต่างๆ
จึงมั่นใจได้ว่า วัตถุดิบอาหารมีคุณภาพดีด้วย
ที่นั่งภายในห้องอาหารจะมีแบบภายในและภายนอก นักท่องเทียวส่วนมากที่มาพักช่วงที่เราไปนั้น
ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติค่ะ เลือกที่จะไปนั่งด้านนอก รับแดดอ่อนกันหมด ยกเว้นเราแหละที่เลือกนั่งภายในห้องอาหาร
เพราะสะดวกลุกตักได้ง่าย ใกล้ไลน์อาหารนั่นเอง ไม่มีเหตุผลอื่นใดเลยจริงๆ นะ อิอิ
นี่เป็นภาพบนโต๊ะอาหารของเราสำหรับทานคนเดียวค่ะ มื้อเช้าเรากินแค่นี้เองงง
ขอให้มีข้าวต้ม นมสด น้ำส้ม ผลไม้ตามฤดูกาล ก็เพียงพอแล้ว หาาา อะไรนะ มีเอาซ่อนไม่เอาลงเฟรมอีกเยอะเลยเหรอ 555
กับการมาพักที่ วรบุระ หัวหิน ในครั้งนี้คือ นอกจากสงบ เงียบ และมีความสะดวกสบายใจแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราต้องมีคือ
การมีภาพถ่ายตัวเองในสถานที่นั้นๆ เป็นที่ระลึกด้วยค่ะ นี่เป็นเรื่องปกติของสาวๆ
ด้วยใช่ไหมคะเราคิดว่านะ อิอิ
ภายในโรงแรมรีสอร์ท ที่มีความร่มรื่น บรรยากาศดี มีมุมถ่ายรูป และนั่งเล่นแบบชิลๆ เยอะเหมือนกันนะ
ตรงกลางรีสอร์ทจะมีร่มไม้ และเดินออกไปชายหาดก็จะเป็นทะเล ในเวลานี้เราชอบความร่มรื่น
ของต้นไม้ใหญ่กลางรีสอร์ท คือต้นไม้จะร่มเงามาก เหมาะกับการนั่งเล่น และถ่ายรูปเป็นที่สุด
เราได้ภาพพรอทเทรคมาพอสมควรเลยค่ะสำหรับที่นี่ ด้วยการกดรีโมทตั้งค่ากล้องถ่ายด้วยตัวเอง เจ๋งไหมค้า สำคัญที่สุดคืออย่าลืมเอาขาตั้งกล้องมาก็พอ ไม่งั้นจบ อิอิ
เราเช็คเอาท์ออกจากที่นี่เกือบๆ เทียงวันค่ะ กับฉากภาพสุดท้ายประทับใจตอนเราขับรถออกจากรีสอร์ทแห่งนี้ เราหันกลับมาองตรงที่พนักงานหรือ รปภ. ส่วนหน้ารีสอร์ทจะโค้งคำนับให้เราอย่่างนอบน้อมมากๆ
เหมือนเป็นคำพูดที่จะอธิบายออกมาว่า คราาวหน้ามาพักที่ วรบุระ หัวหิน อีกนะขอรับ ^^
วรบุระ หัวหิน
FB Page : Wora Bura Hua Hin Resort & Spa
☎: 032-655333
📧 : [email protected] / [email protected]
ID LINE: @woraburahuahin
Website: www.worabura.com
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
Rinsa Yoyolive
RinSa YoyoLive
วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.57 น.