เชียงราย ไปแล้วต้องไปอีก…
เหนือสุดประเทศไทย ไปกี่รอบก็ไม่มีเบื่อ มีที่เที่ยวเยอะมากกกกก มีหลายแนวทางให้เลือกด้วย สายธรรมชาติ สายดอกไม้ สายเพลินเพลิน หรือว่าจะสายบุญ เข้าวัดไหว้พระ แถมวัดก็สวยสุดๆอีกต่างหาก คราวนี้เราจะพาไป 8 สถานที่ที่เราไปมา จริงๆไปมามากกว่านั้น แต่ขอเลือกมา แค่นี้ก่อน ไว้วันหลังมาเพิ่มให้นะ เพราะเชียงราย ไปแล้วต้องไปอีก…หลายรอบด้วยสิ
ภูชี้ฟ้า…
ยอดหน้าผาที่ปลายสุดชี้ไปบนท้องฟ้า ถ้าในช่วงปลายฝนไปจนสุดสิ้นฤดูหนาว จะถูกห่อหุ้มไปด้วยทะเลหมอกด้านล่าง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวส่วนมากจะนิยมไปช่วงหน้าหนาว อากาศจะเย็นถึงเย็นมากมาก มีทะเลหมอกให้ดู ไปเป็นคู่ก็ไปกอดกันดูพระอาทิตย์ขึ้น ไปเดี่ยวๆก็ไปยืนสั่นคนเดียวก็สวยเหมือนกันนะภูชี้ฟ้า
จริงๆแล้วก็สามารถไปเที่ยวได้ทั้งปี ไม่เฉพาะช่วงหน้าหนาวนะ เพราะแต่ละช่วงเวลาภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าย่อมจะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป
เส้นทางสู่ ยอดภูชี้ฟ้า ก่อนอื่นต้องไปให้ถึงจังหวัดเชียงรายก่อน จากนั้นก็ไปต่อยัง อำเภอเทิง จากเชียงรายไปเทิง ประมาณ 60 กว่ากิโล จากนั้นมุ่งหน้าสู่ภูชี้ฟ้าระยะทางอีกประมาณ 50 กิโล ถึงตีนภู เดินขึ้นอีกกิโลกว่าๆ ก็จะเจอกับ ยอดภูชี้ฟ้า จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ถ้ามีรถไปเองสะดวกมากมาย แต่ถ้าไม่มีก็หารถเหมาจากเชียงรายไปถึงภูชี้ฟ้าเลยก็มี ถ้าประหยัดหน่อยก็นั่งรถประจำทางไปเรื่อยเปื่อย ถึงช้าหน่อยแต่ก็ถึงเหมือนกันจ๊ะที่พักที่นี่มีให้เลือกมากมายเลย จะนอนบ้านพักก็มีบริการเพียบ หรือจะนอนเต็นท์ก็ติดต่อกับทางอุทยานแห่งชาติได้เลยจ้า…
วัดร่องขุ่น…
วัดพุทธ ที่ถูกออกแบบให้สวยงาม สวยงามมากมาก อาคาร อุโบสถ รูปปั้นคำสอนตามหลักพุทธศาสนา วัดสีขาวสุกสกาวราวสรวงสวรรค์ ภายในอุโบสถยังมีงานจิตรกรรมฝาฝนังโดยฝีมือ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ การันตีเรื่องความสวยงามในระดับโลกตัวอาคารและอุโบสถใช้โทนสีขาวประดับด้วยกระจกเป็นหลัก ชาวต่างชาติจะรู้จักในนาม "White Temple" โดดเด่นด้วยความละเอียดในการออกแบบและก่อสร้างทุกขั้นตอนจริงๆ
วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่ออกแบบและสร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินของจังหวัดเชียงราย เป็นงานพุทธศิลป์ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2540 ไม่มีกำหนดจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ในตัวอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ไปง่ายมากใครที่เคยไปจังหวัดเชียงราย ต้องเข้าไปชมความงาม ไปไหว้พระ ไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
วัดร่องเสือเต้น…
วัดสีฟ้า-ทอง ผ่องอำพัน สวยงามโดดเด่นด้วยศิลปะไทยประยุกต์ อีกหนึ่งสุดยอดวัดสวยงามมากมาก ผู้ออกแบบและก่อสร้างวัดนี้คือ นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ฟังชื่อ อาจจะไม่คุ้นเคย แต่ถ้าบอกว่าเป็นลูกศิษย์ ลูกมือ ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในการสร้างวัดร่องขุ่นอันเลื่องลั่น สนั่นเมืองเชียงราย ก็คงไม่แปลกใจ ในความสวยงาม วิจิตตระการตา ของศิลปะที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมา
นอกจากความงามวิจิตร ด้านนอกอุโบสถ แล้วภายในอุโบสถ ก็ยังมีภาพวาดพุทธประวัติ คำสอนทางศาสนา ซึ่งใช้โทนสีฟ้า ดูนุ่มนวล สบายตามาก คือสวยงามสุดๆไปอีกแบบ
วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ชุมชนร่องเสือเต้น ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย อยู่ในเมือง เดินทางสะดวก หาไม่ยาก ถ้าใครได้ไปเยือนวัดสีขาวแล้วอย่าลืมต้องมาวัดสีฟ้าด้วยนะ
ไร่ชาฉุยฟง…
ต้นชาสีเขียววางเป็นแนวเส้นตรง แบ่งเป็นแถวๆ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยไปตามเนินเขาเล็กๆ หลายสิบลูก กว้างขวางยิ่งใหญ่อลังการงานต้นชา แม้ว่าจะดูไม่ร่มรื่นนัก แต่ก็มีเสน่ห์ตรงความสวยงามของการจัดเรียง มีความเขียวสดของใบชา ตัดกับสีสันของท้องฟ้าสีคราม ยิ่งถ้าช่วงเวลาดีๆ ท้องฟ้าแจ่มใส งามขนาด มีวิวให้ถ่ายภาพสวยๆเยอะมาก
นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร มีเบเกอรี่อร่อยๆ เค้กชาเขียว ชาเขียว ชาเย็น สารพัดเครื่องดื่ม ไว้รอต้อนรับผู้มาเยือน เคยไปนั่งเล่นๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย กินขนมกับชาเขียว ชมทุ่งใบชาไปเรื่อยก็เพลินเพลินไปครึ่งวัน คือที่นี่ลมจะเย็นมาก นั่งสบายๆ ลืมเวลาไปเลย
ไปเชียงรายแล้วห้ามพลาดนะครับ ไร่ชาฉุยฟงอยู่ อำเภอแม่จัน ออกจากตัวเมืองเชียงรายไปตามถนน เชียงราย-แม่สาย เข้าเขตอำเภอแม่จันก็ผ่อนคันเร่ง ตรงแยกป่าซาง ให้เลี้ยวตามป้ายไปเลย มีป้ายบอกทางไปตลอดเลยจ๊ะ
ชมดอกพญาเสือโคร่งบานที่ โรงเรียนบรรพตวิทยา…
ที่ชมดอกพญาเสือโคร่งมีเยอะแยะมากมาย ทำไมต้องแนะนำที่นี่ นั่นสิ ทำไม…
โรงเรียนบรรพตวิทยา อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย อยู่ใกล้ดอยผาตั้ง ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้า ไปหนึ่งได้ถึงสาม แต่ก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่ควรจะไป ที่อยากจะบอกคือ…
ที่นี่เหมือนเป็นความไม่ตั้งใจหรือตั้งใจก็ไม่ทราบแน่ชัด ครั้งที่เราเข้าไปเจอมัน ตื่นเต้น เร้าใจ ใฝ่รู้ คู่คุณธรรม มันสะกดจิตสะกดใจตราตรึงกับสิ่งที่ได้เห็น โคตรสวยอลัง ชมพูบานสะพรั่งเต็มต้น ต้นก็ใหญ่โตมโหฬาร ไม่แน่ใจว่ามีโรงเรียนก่อนหรือมีต้นพญาเสือโคร่งแล้วโรงเรียนมาสร้างที่หลัง ที่นี่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนหลายๆที่ที่ปลูกเรียงราย เพื่อรอนักเดินทางมาชื่นชม แต่ก็สวยเหมือนกันนะ ไม่ได้บอกว่าไม่สวย
ที่โรงเรียนบรรพตวิทยา เหมือนมันขึ้นมาเองตามธรรมชาติ ต้นใหญ่มาก สีสด เยอะด้วย มาแล้วจะตลึงพรึงเพริด ถ้าใครอยากจะชมดอกไม้สีชมพูบานแบบธรรมชาติรังสรรค์ในหน้าหนาว แนะนำที่นี่เลย ไม่ผิดหวังครับผม…
เทศกาลบอลลูนนานาชาติที่ไร่สิงห์ปาร์ค…
อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวเลย ว่าไปสมัยยังเป็นเด็กน้อย ตามงานวัด งานปีใหม่ งานเปิดการแข่งขันกีฬาของโรงเรียน ของจังหวัด จะต้องมีลูกโป่ง…
งานวัดนี่ตัวดีเลย สมัยก่อนยังไม่มีเป็นรูปทรงเป็นตัวการ์ตูน เหมือนปัจจุบัน สมัยนั้นก็ลูกกลมๆ เกลี้ยงๆ หลายสีสัน ถ้าเจอเป็นต้องกระตุกชายผ้าถุงแม่ จะเอาจะเอา…
ให้ลึกไปกว่านั้นต้องน้ำยาลูกโป่งนี่ดิของจริง ป้ายจากหลอดเล็กๆ แล้วอมๆเลียๆให้ติดน้ำลายหน่อยๆ เอามาเป่านะ ยิ่งใหญ่ยิ่งจ๊าบ สักพักเพื่อนมาตบใส่หน้า โคตรเซ็งอ่ะ…พอก่อนๆ เดี๋ยวจะย้อนไปไกลเกิน
มาเข้าเรื่องดีกว่า…ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทุกๆช่วงเวลาของเทศกาลวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ทางสิงห์ปาร์ค จะจัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ มีการแสดงบอลลูนแบบต่างๆ 30-40 ลูกจาก 10 กว่าประเทศ มีการแข่งขันบอลลูนด้วย มีการออกบูธอาหาร การแสดงของศิลปิน นักร้อง คือจัดเป็นอีเว้นท์ใหญ่เลยทีเดียว มีโอกาสมีเวลาต้องลองไปสักครั้งจะชอบ จริงๆนะ
ไปใช่เวลาให้มันเนิ่นนานที่เชียงแสน…
อำเภอเชียงแสนอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 60 กิโลเมตร เดินทางประมาณชั่วโมงนึงก็ถึงแล้ว ที่นี่มี ความสงบ ความเรียบง่าย อยู่ที่นี่เหมือนเวลามันเนิ่นนานแต่ไม่น่าเบื่อ ทุกวินาทีของเวลา คือ การปลดปล่อยความวุ่นวายทางความคิด ความสับสนในจิตใจ ปล่อยมันลอยไปกับน้ำโขง
เรามีโอกาสได้ไปพักผ่อนที่ บ้านแซวการ์เด้น แอนด์ รีสอร์ท ที่นี่เงียบสงบแต่มีเสน่ห์น่าหลงไหล อยู่ติดริมฝั่งโขง บรรยากาศดีมากมาย ได้ไปไหว้สักการะพระธาตุผาเงา พระธาตุจอมกิตติ แห่งเชียงแสน แค่นี้ก็สุขกายสบายใจล้นเหลือ
ใครเหนื่อย ใครเพลียจากการงาน การต่อสู้กับการดำรงชีวิตในทุกๆวัน ลองหาเวลาไปปลดปล่อยความชุลมุนทั้งหลายทั้งปวงทิ้งไว้ที่น้ำโขง ณ.เชียงแสน ชาร์จพลังมาให้เต็มเพื่อกลับมากระชุ่มกระชวย ซู่ซ่ากันใหม่…
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ…
เชียงรายนี่ยังกะดินแดนที่รวบรวมศิลปะ ศิลปินระดับโลก ไว้ที่นี่ที่เดียวเลย เชียงราย มีวัดร่องขุ่น สีขาวสกาวเรืองรอง มีวัดร่องเสือเต้น สีฟ้าระยิบระยับไปด้วยศิลปะขั้นเทพ และอีกหนึ่ง ศิลปะขั้นสุดเช่นกัน พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติแห่งชาติ สุดยอดฝีมือด้าน จิตรกรรม ประติมากรรม อีกท่านหนึ่ง…
งานของอาจารย์ถวัลย์ จะเป็นศิปะแบบล้านนา เน้นไม้แกะสลัก งานแสดงเขาสัตว์หลายแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นเขาควาย เขากวาง มีหนังจรเข้ หนังสัตว์ โทนสีจะออกแนวทมึนทึม ดุดัน ด้วยสีดำ น้ำตาล ตัวบ้านที่จัดแสดงงานจะมี 35 หลังทุกหลังจะทาด้วยสีดำเป็นหลัก จะมีสีน้ำตาลของไม้ปะปนอยู่บ้าง อันเป็นที่มาของชื่อ บ้านดำ การจัดวางงานแสดงก็จะดูแปลกๆหน่อย แต่มีความลงตัวนะ ก็ขึ้นชื่อว่างานศิลปะ ก็ต้องมีความเข้าใจในแนวลึก มันเป็นปรัชญา จะให้มองง่ายๆไม่ได้…
ทุหวันนี้อาจารย์ถวัลย์ ได้เสียชีวิตแล้วแต่ก็ยังมีผู้สืบทอด ดูแลบ้านดำกันต่อไป บ้านดำจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ตั้งแต่ 9:00-17:00 น.เก็บค่าเข้าชม 80 บาททั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ใครไปถึงเชียงรายแล้วต้องไปสักครั้ง…
แล้วเราจะกลับมาพบเจอกันใหม่นะ เชียงราย…
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันพฤหัสที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.34 น.