แล้วเราก็เป็นหนึ่งในผู้พิชิต
ฆูนุงซีลีปัต เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวย และคงความเป็นธรรมชาติไว้มากที่สุด สามารถชมทะเลหมอกยามเช้า ได้ตลอดทั้งปี ชาวบ้านเรียกกันว่า เขาหิน กม. 21 ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อ ต.ตาเนาะแมเราะ กับ ต.อัยเยอร์เวง ยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 650 เมตร ซึ่งไม่สูงมากแต่สามารถมองเห็นวิวรอบตัวแบบ 360 องศา จุดชมวิวแห่งนี้ถูกค้นพบโดยกลุ่มวัยรุ่นที่ไปเที่ยวเล่นกัน และโพสต์ผ่านทางโซเชียล จากนั้นก็ได้มีการประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง
“เขาฆูนุงซีลีปัต” ชื่อเดิม "เขาฆูนุงสาลี" ได้เปลี่ยนชื่อ ตามรูปทรงของภูเขาที่คล้ายผ้าพับเป็นรูปสามเหลี่ยม "ฆูนุง แปลว่า ภูเขา" "ซีลีปัต แปลว่า ผ้าที่พับเป็นรูปสามเหลี่ยม"
มิตรภาพใหม่เกิดขึ้นที่นี่ "ยอดเขาฆูนุงซีลาปัต"
PKNY Let's Go
การเดินทาง
ปัจจุบันจะมี 2 เส้นทางหลักๆสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุย ชอบผจญภัย และรักการเดินป่า จะมีจุดนัดพบบริเวณ กม.28 ติดต่อ 081 0938549
ส่วนท่านที่คิดว่าร่างกายอาจจะไม่ไหว มีอีกเส้นทางที่โหดน้อยกว่า มีจุดนัดพบที่ กม.22 ติดต่อ พี่มู่หลาน (ประกายทิพย์) 0936156998, 0895956642
ทั้งสองเส้นทางจะไปเจอที่จุดเดียวกัน หากต้องการพักค้างคืนก็จะมีแคมป์พักบริเวณเดียวกันซึ่งเป็นของพี่มู่หลาน (เจ้าของพื้นที่ตรงนั้น)
ท่านที่ขับรถไปเองก็สามารถนำไปจอดไว้ ณ จุดนัดพบของท่าน
สำหรับการเดินทางของเรา หลังจากอิ่มหนำสำราญมาจากร้านนพดลฟิสชิ่ง ก็มาที่จุดนัดพบ กม.21 รอรถโฟว์วิลมารับ ประมาณ 5 โมงเย็นกว่าขึ้นรถไปยังแคมป์ที่พักซึ่งอยู่ห่างจากจุดชมวิวประมาณ 200 เมตร
ตลอดเส้นทางถนนจะเป็นแบบนี้
นั่งรถมาประมาณ 15 นาที ถึงจุดที่ต้องลงรถเพื่อเดินเท้า ซึ่งมี 2 ทางให้เลือก ทางซ้ายจะเดินง่ายกว่าแต่ระยะทางไกลกว่า ต้องเดินผ่านสวนยางพาราที่เป็นทางชันไปเรื่อยๆ แต่ไม่ชันมาก ประมาณ 500 เราไปทางขวาทางจะชันมากกว่าแต่ระยะทางใกล้กว่า ประมาณ 300 เมตร ลูกชายเจ้าของแคมป์ เป็นผู้นำทางไป สงสัยอยากให้เราไปถึงไวๆ 555 (ไหวมั้ยพี่ พักก่อนได้นะครับ) ไหวๆค่ะ สบายมาก แฮกๆ
ในที่สุดก็ถึงที่ตั้งแคมป์ ที่พักพร้อมอาหารและไกด์นำทาง
เป็นลานกางเต้นท์ในสวนยาง กว้างขวาง รองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นหลักร้อยคน
ราคาสำหรับ 2 ท่านๆละ 1,000 บาท สำหรับ 4 ท่านขึ้นไปท่านละ 800 บาท (พักเต้นท์ พร้อมเครื่องนอน มีห้องน้ำ ยังไม่มีที่อาบน้ำ อาหารเย็น ข้าวตามสั่ง 1 กล่อง ปิ้งย่าง 1 ชุด+ น้ำดื่ม)
ห้องน้ำจุดแรก
ห้องน้ำจุดที่สอง
เต้นท์แดง ที่พักเราคืนนี้ (คืนที่สอง)
เก็บสัมภาระเรียบร้อย ได้เวลาไปชมพระอาทิตย์ตกกัน
จากที่แคมป์เดินทางต่อไปอีก 200 เมตร มีการไต่เขาไปเรื่อยๆ และช่วงประมาณ 50 เมตรสุดท้ายต้องมีไต่เชือกแบบนี้
จุดหมายอยู่ตรงหน้าแล้วจะรออะไร
เย่ๆ ในที่สุดก็ถึงยอดเขา เย็นวันนี้เมฆมากเหมือนฝนจะตก (อดดูพระอาทิตย์ตก) แต่ต่างก็ภาวนาให้มีฝน เช้าวันพรุ่งนี้จะได้เห็นทะเลหมอกกันจะจะไปเลย
บรรยากาศตอนเย็นขณะรอชมพระอาทิตย์ตก
การรอคอยอย่างมีความหวัง แม้แต่เจ้าตูบ
และแล้วพระอาทิตย์ก็ฝ่าเมฆฝนมาให้ยลโฉมนิดหนึ่ง
เล่นๆ กันเพลินๆ สนุกสนานแม้ไม่ได้ชมพระอาทิตย์ตก ตอนนี้ใกล้มืดแล้ว กลับไปที่แคมป์กัน
อาหารมื้อค่ำ หมูกะทะ เนื้อหมูสดๆ ผักสดๆ รออยู่ (ขอบอกว่ายังอิ่มมื้อกลางวันอยู่เลย)
สุดท้ายเราก็ทานกันไม่หมด อิ่มตามๆกันไป ต้องนั่งย่อยกันสักพักใหญ่ๆ ก่อนแยกย้ายกันเข้านอน
คืนนี้ลมแรง แต่คนนำทางที่นี่บอกว่า ถ้าทิ้งช่วงไม่ให้มีลมสัก 2-3 ชั่วโมง ตอนเช้าจะได้เห็นหมอก รอลุ้นกัน(อีกแล้ว)
เช้าวันที่สาม
ตื่นตี 4 อีกเช่นเคย ด้วยความเคยชินว่าถ้าไปจุดชมวิวต่างๆต้องตื่นเร็วๆ
แต่ลืมไปว่าจุดที่พักกับจุดชมวิวที่นี่ อยู่ใกล้กันนิดเดียว ออกเดินทางสัก ตี 5.30 น.ก็ทันชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
เส้นทางเดิม ที่เริ่มคุ้นเคย จุดหมายที่เต็มไปด้วยความหวังอยู่แค่เอื้อม
มาถึงเร็ว ไม่มีอะไรทำ ก็เล่นกันไปเรื่อย พี่มู่หลานจัดพร๊อบมาเพียบ
เช้านี้ยังมีลมอยู่เลย สงสัยหมดหวังแล้ว แต่ถึงแม้จะไม่มีหมอก บรรยากาศบนยอดเขาดีมากๆ อากาศดี มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศาเลยทีเดียว
ทานอาหารเช้ากันบนนี้ ฟินสุดสุด
ก็เชะๆ กันไป เสพบรรยากาศให้เต็มที่
ถึงเวลาลงเขากันแล้ว วันนี้มีโปรแกรมไปเที่ยวกันต่อกับเดอะแก๊งค์ มิตรภาพบนฆูนุงฯ ตอนกลับเดินเท้าลงจากเขาเส้นทาง 500 เมตร เดินสบายๆค่ะ เพื่อขึ้นรถโฟว์วิล ไปยังจุดที่จอดรถไว้ บ๊ายบ่าย ฆูนุงซีลีปัต เจอกันใหม่เร็วๆนี้ พร้อมทะเลหมอกค่ะ
ปล.ปกติแล้วจะมีทะเลหมอกทุกวัน แต่วันนี้ทำไมไม่มี เศร้า (เร็วๆนี้เจอกันใหม่แน่นอนค่ะ)
ต้องขอขอบคุณ ภาพตอนเผลอ จากน้องหน่อย น้องยา และพี่มู่หลานด้วยนะคะ
รีวิวก่อนหน้า ขับรถเที่ยวเบตง
อัยเยอร์เวง ขุนเขาทะเลหมอก
พิชิตยอด ฆูนุงซีลีปัต
ฝากสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจนะคะ
ติดต่อที่พัก และซื้อเสื้อที่ระลึก มีจำหน่าย ที่นี่ที่เดียว นะคะ (จัดไปค่ะ)
Paikannaka
วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 14.49 น.