ถ้าพูดถึงทะเลใกล้กรุงเทพฯที่สามารถไปเที่ยวได้ในวันหยุดแบบ 2 วัน 1 คืน พัทยาน่าจะเป็นตัวเลือกระดับต้นๆเพราะการเดินทางที่สะดวกสบายและสิ่งอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวครบถ้วน ที่พักก็มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักร้อยยันหลักหมื่น
วันนี้เราไปพักที่โรงแรมชื่อแปลกริมถนนพัทยาสายสองที่เป็นหนึ่งในโรงแรม M Gallery ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ up-scale ของเครือ Accor ลองดูว่าจะเป็นอย่างไร
Hotel Baracuda Pattaya - M Gallery อยู่ริมถนนพัทยาสายสองเยื้องทางเข้าห้าง Roya Garden Plaza นิดเดียว อาคารโรงแรมรูปทรงแปลกตาสังเกตุง่าย หน้าโรงแรมไม่กว้างนักแต่ตัวโรงแรมเป็นลักษณะยาวลึกเข้าไปด้านใน มีที่จอดรถในร่มสะดวกสบาย
เคาท์เตอร์ต้อนรับเรียบง่ายอยู่ตรงกลางห้องโถงขนาดใหญ่ มีการใช้เส้นแสงบนเพดานและผนังที่เหมือนคลื่นให้ความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว ถัดจากเคาท์เตอร์ต้อนรับเป็น business corner ที่สามารถใช้นั่งคุยงานหรือใช้คอมพิวเตอร์ได้ หน้าลิฟท์มีงานศิลปะให้ชมเป็นปลาที่ประกอบขึ้นจากวัสดุหลายอย่างเช่นชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์ในห้องครัว เครื่องมือต่างๆ ซึ่งผลงานนี้จะมีตั้งไว้ในห้องพักด้วยนะครับ
ห้องพักขนาดไม่ใหญ่โตมากแต่ไม่แคบจนอึดอัด แปลกตาตรงวางเตียงไว้กลางห้องนี่แหละ ด้านหลังเตียงเป็นโต๊ะทำงาน และแน่นอนว่ามีเจ้าปลาโลหะมาตั้งไว้ด้วย ห้องพักดูโล่งๆมีการใช้เส้นโค้งมาประดับไม่ให้รู้สึกแข็งเกินไป
ห้องอาบน้ำเซ็กซี่สยิวกิ้วมาก ไม่มีประตูมีแค่ม่านกั้นไว้เท่านั้นถ้ามากับเพื่อนได้ไล่เพื่อนไปข้างนอกตอนอาบน้ำแน่ๆ ส่วนห้องน้ำมีประตูปิดตามปกติ อ่างล้างหน้าอยู่หน้าห้องน้ำ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องน้ำครบถ้วน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆในห้องมีให้ครบถ้วนตามมาตรฐานโรงแรมใหญ่ๆ เครื่องดื่มในตู้เย็นไม่ฟรีนะครับ
ห้องพักที่นี่ตอนกลางวันจะดูธรรมดาแต่จะเห็นว่ามีแนวไฟสีน้ำเงินอยู่ซึ่งจะแสดงความจี๊ดจ๊าดออกมาตอนปิดม่านหรือพระอาทิตย์ตกไปแล้วนั่นแหละ เปลี่ยนอารมณ์จากห้องธรรมดาให้จัดจ้านขึ้นมาได้เลย เมื่อรวมกับพรมสีฟ้าที่เหมือนเป็นคลื่นน้ำ ทำให้เหมือนกับลงไปใต้ทะเล อีกอย่างที่ชอบคือสวิทไฟ เนื่องจากในห้องจะมีไฟหลายจุด บางโรงแรมไม่ได้บอกว่าสวิทนี้ใช้ปิดไฟดวงใหนก็ต้องเดาเอา แต่ที่นี่จะบอกไว้เลยว่าสวิทใหนใช้ปิดไฟส่วนใหน สะดวกขึ้นมาก
สำหรับคนที่รักสุขภาพ สามารถมาใช้บริการห้องออกกำลังกายได้เปิดตลอด อุปกรณ์ออกกำลังกายครบถ้วน ลู่วิ่งอยู่ชั้นล่างส่วนชั้นบนมีจักรยานให้ปั่นซึ่งวิวดีกว่านิดหน่อย
มื้อเย็นวันนี้ฝากท้องไว้ที่ห้องอาหาร S E A Restaurant เสริฟอาหารนานาชาติ ห้องอาหารค่อนข้างกว้างขวางมีที่นั่งให้เลือกได้หลายมุม แต่ผมว่าไฟในห้องอาหารมันมืดไปหน่อยเลยเลือนั่งริมหน้าต่างวิวสระว่ายน้ำ
สมาชิกบัตร Accorplus ก็สามารถมานั่งรับประทานของว่างช่วงบ่ายได้ฟรี มีของให้เลือกทานไม่มากนัก พอแก้หิวได้ช่วงบ่ายๆ
หิวแล้ว สั่งอาหารกันดีกว่า รายการอาหารเรียบง่ายมีให้เลือกทั้งใทย ฝรั่งได้หมด หลังจากสั่งอาหารไปสักครู่ พนักงานนำขนมปังมาเสริฟให้ ห่มผ้ามาน่ารักเชียว
อาหารมาแล้ว ตกแต่งจานสวยมากใช้จานสีดำช่วยให้อาหารดูเด่นขึ้นอีก จานแรกเป็นแซลมอนทาทาร์ ซึ่งใส่อโวคาโดมาด้วย ทานรวมกันให้ความนวล รสชาตินุ่มเปรี้ยวเลมอนเล็กน้อย ต่อมาเป็นสเต็กแซลมอน ปลาหนังกรอบเนื้อยังนุ่ม ปรุงรสนิดเดียวด้วยเหลือพริกไทย บีบมะนาวบนชิ้นแซลมอนเสียหน่อยเพิ่มความเปรี้ยว มาคู่กับมันม่วง ได้รสหวานตัดเปรี้ยว สุดท้ายเป็นอกเป็ดรมควัน เนื้อเป็ดไม่เหนียว ชิ้นหนาพอสมควร ได้รสพริกไทยหอมควันจางๆ
ทีแรกกะว่าทานเสร็จจะไปนั่งดื่มต่อที่บาร์ของโรงแรมแต่ว่าปิดปรับปรุงหมด เลยเดินไปข้างโรงแรมมีโรงเบียร์ ซึ่งหลังนั่งดื่มกันสักพักเราสรุปกันว่า "ใช้ได้ทีเดียว"
ให้ดูบรรยากาศกลางคืนของโรงแรมเสียหน่อย มีการเปิดไฟซึ่งเน้นสีฟ้าหรือม่วงตามจุดต่างๆ สวยงามใช้ได้
เช้าแล้วมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร S E A Restaurant เหมือนเดิม อาหารที่อยู่ในไลน์อาหารเหมือนจะน้อยนะครับแต่ว่าสามารถสั่งอาหารหนักๆได้จากรายการที่ติดไว้ให้ดู คุณภาพอาหารโดยรวมก็ตามมาตรฐานโรงแรมระดับ 4 ดาวโดยทั่วไปครับ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น
โดยสรุปผมว่าโรงแรมนี้เหมาะกับคู่รัก ห้องพักสยิวกิ้วมาก การเล่นสีฟ้า น้ำเงิน ม่วงตามจุดต่างๆและไฟที่เสริมเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศเซ็กซี่ได้อีก การบริการของพนักงานได้ตามมาตรฐานไม่ดีไม่แย่ Hotel Baracuda Pattaya ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวสำหรับที่พักในราคาเริ่มต้นประมาณ 3พันบาทต่อคืน...
Pratuneung
วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 12.14 น.