สวัสดีค่ะทุกคนนนน หลังจากที่ห่างหายไปนานพอสมควร วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันค่ะ เที่ยวง่ายๆ วันหยุดแบบ One Day Trip ด้วยรถไฟฟ้า MRT สะดวกสบายง่ายต่อการเดินทาง เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็ไปกันเล้ยยยยย ^^"
สำหรับจุดเริ่มต้นของเราในวันนี้นะคะ เนื่องจากเราอยู่ใกล้สถานีจตุจักรที่สุด เราจึงขอเริ่มต้นเดินทางด้วยสถานีนี้ล่ะกันนะคะ เราตัดสินใจซื้อเป็นบัตรเดินทาง MRT บัตรบุคคลทั่วไปเนอะ ราคา 180 บาท เดินทางขึ้นลงได้ทุกสถานีเลย ตอนคืนบัตรก็จะได้ค่าธรรมเนียมคืน 50 บาทนะคะ ส่วนใครสะดวกแบบซื้อเหรียญตามสถานีอันนี้เอาที่ทุกคนสะดวกเลยนะคะ น้ำตาลสะดวกแบบนี้ 😆
มาเริ่มกันสถานีแรกเลย สถานีที่เราจะไปเป็นสถานีแรก คือ สถานีท่าพระ เราเริ่มจากสถานีที่ไกลก่อนแล้วค่อยๆถัดมาเนอะ สำหรับเป้าหมายแรกของเราในวันนี้คือ ตลาดพลู ค่ะ หาของก่อนเลย เพราะหิวมากกกก กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะทุกคน 😋
เมื่อมาถึงสถานีท่าพระ ให้ทุกคนเดินออก ทางออก 3 แล้วลงลิฟต์มาเลยจ้า ออกมาจากลิฟต์ให้เลี้ยวขวานะคะ ก็จะเจอกับสะพานทางลง ตรงดิ่งมาลงใต้สะพานตามรูปเลยจ้ะ
ออกจากลิฟต์แล้วเลี้ยวขวาจะเห็นสะพานนี้ ขึ้นบันไดแล้วเจอทางแยกไม่ต้องเลี้ยวตรงอย่างเดียวนะจ้ะ เดินลงใต้สะพานนี้เลยจ้า
พอลงมาใต้สะพาน ให้เดินตามทางฟุตบาทไปรอรถเมล์ที่ใต้สะพานลอยนั้นเห็นมั้ย ใกล้นิดเดียวเองงง 😂
แล้วก็รอขึ้นรถเมล์สาย 57 หรือ 108 เพื่อไปตลาดพลู ค่ารถเมล์ 10 บาท บอกเขาว่าลงตลาดพลู เขาจะจอดให้ริมสะพานเดินรถนี่แหละ อย่าตกใจจ้ะ5555 จะมีฟุตบาทให้เดินกันโน๊ะ
แล้วเราก็เจอบันไดทางลงไปยังตลาดพลู เอ้าลุยสิคะ รออะไร อิอิ
วันนี้เรามาเร็วเกินไป ด้วยความที่ไม่ศึกษาให้ดีๆว่าตลาดจะมีของกินเยอะๆก็ตอนเย็น (ทริปกะทันหัน) เลยมีร้านแค่ไม่กี่ร้านที่เปิดอยู่ แต่ไม่เป็นไรเนอะ เราต้องได้กินสักอย่างแหละ อิอิ
ลงมาจากสะพานก็เจอเลยจ้ะ ขนมเบื้อง มาที่นี่ต้องกินขมมเบื้องเน้อออ อ่ะจัดมา 5 แผ่น 20บาท
อร่อยเริศอยู่น๊าา ไปลองกันนะคะทุกคน มีหลายๆร้าน ลองเดินดูรอบๆก่อนก็ได้ ...
แล้วก็ไปต่อกันร้านนี้เลย สุริยากาแฟ เจ้าเก่าตลาดพลู ราคาเริ่มต้นแค่ 8 บาท ราคาถูกเนอะทุกคน เป็นร้านเก่าแก่ นั่งชิลๆ และคนก็เต็มร้านเลยจ้ะ ฮ่าๆๆ เราได้โกโก้มา 1 ถุง ใหญ่มากแค่ 20 บาทเองนะ หวานเข้มกำลังดี ช้อบชอบ
ได้น้ำ ได้ขนมแล้ว เดินต่อจ้าา เดินเรื่อยๆก็เจอ ร้านก๋วยจั๊บ ยังฮุยก๋วยจั๊บน้ำใส ไปลองกันนน ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามนู้นนน หาม้าลายแปป เดี่ยวรถชนเอาเด้อออ 😁 ระวังกันด้วยนะคะ รถที่นีี่เยอะและวิ่งค่อนข้างเร็ว ข้ามทางม้าลายเพื่อความปลอดภัยกันค่ะ
เราสั่งเป็นก๋วยจั๊บน้ำใส ใส่ทุกอย่างคือกินไม่เลือกอ่ะนะ หน้าตาก็จะประมาณนี้ ราคา 50 บาท เรากินแบบไม่ปรุงอะไรเลย น้ำซุปคืออร่อยอ่ะ ลองไปชิมกันดูนะคะ กินไปดูบรรยากาศรอบๆไป ชิลๆไปอีกกก
ใกล้ๆถัดไปจากร้านก๋วยจั๊บก็จะมีมุมถ่ายรูปออกแนว Street Art นิดๆ ไปถ่ายกันหน่อยจ้ะ
เนื่องด้วยตลาดยังไม่ค่อยมีร้านเปิดสักเท่าไหร่ เราเลยตัดสินใจกลับไปยัง MRT เพื่อไปเที่ยวที่อื่นต่อ จะได้ไม่เสียเวลาด้วยเนอะ ขากลับเราก็กลับด้วยรถเมล์เช่นเดิม
เห็นรถเมล์บนสะพานนั้นมั้ย ใช่แล้วล่ะ เราต้องขึ้นไปรอรถเมล์กันบนนั้นนะจ้ะ จะมีที่ให้ยืนรอเนอะ
อย่าถามว่าร้อนมั้ย ให้ถามว่าไหม้รึเปล่า ฮ่าๆๆๆๆ รอสักแปปรถเมล์ก็มา ก็บอกเขาว่าจะไปลงที่ MRTท่าพระ
แปปๆก็ถึงล่ะ ก็ขึ้นMRT ต่อไปยังสถานีต่อไปกันเล้ยยยย
มาต่อกันที่สถานีต่อไป.... อิสรภาพ ชื่อนี้เหมาะกับคนโสดๆอย่างเราเลยเนอะ ฮ่าๆๆๆ เมื่อถึงสถานีแล้วให้ออกทางออก2 นะคะ ซอยอิสรภาพ23
แวะถ่ายรูปกับป้ายที่บ่งบอกความเป็นตัวเองกันหน่อย ฮ่าๆๆๆ
ออกมาแล้วก็เดินตรงมาเรื่อยๆค่ะ เจอสะพานลอยก็ข้ามเลยจ้ะรออะไรล่ะ เห็นป้ายยัง เลี้ยวค่ะ เลี้ยวขวาเนอะ ตรงมาเรื่อยๆ อ่ะเห็นสี่แยกแล้วนะ ข้ามอีกค่ะ ข้ามถนนเก่งเหลื๊อเกินน
เดินข้ามถนนแล้วก็จมีซอยเล็กๆ เดินตรงมาในซอยอีกนิด จะเจอสี่แยกเล็กๆ เลี้ยวออกไปเลยค่ะจะเจอถนนใหญ่ ฝั่งตรงข้าม ก็จะเป็น วัดอรุณ
ใช่ค่ะ เราจะพาทุกคนไป วัดอรุณราชวราราม หรือวัดแจ้งกัน ซึ่งเป็นวัดนึงที่เราอยากมาเที่ยวนานมากๆๆๆ วันนี้ได้มาแล้ว เย้ๆๆๆ
วัดแจ้ง หรือวัดอรุณราชวราราม มีความหมายว่า วัดแห่งรุ่งอรุณ ชาวต่างชาติต่างก็เรียกวัดนี้ในความหมายเดียวกันว่า The Temple of Dawn เป็นศาสนสถานเอกลักษณ์ประจำกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ตั้งเด่นสง่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยากบอกว่าสวยมากจริงๆค่ะ ไปดูกันเลยยย เราพยายามถ่ายมาให้ดูเกือบทุกมุมเลยนะ แสงก็จะเจิดจ้าหน่อยเพราะเรามาตอนเที่ยงพอดี ดำไม่กลัว กลัวไม่ได้เที่ยวเน้อออ ไปจ้ะ ไปดูกัน
ก็จะมีรูปเยอะหน่อยนะ อย่าเพิ่งเบื่อกันเลยยย ^^
เอาล่ะ หลังจากที่เราเดินกันจนคิดว่ารอบวัดอรุณแล้วนั้น เราก็ไปต่อกันที่วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ด้วยวิธีง่ายๆคือนั่งเรือข้ามฟากจ้าา เปลี่ยนการเดินทางนิดนึงนะคะ ไปกันเลยจ้าาา
เรือข้ามฟากจากท่าเรือวัดอรุณไปยังท่าเตียน ราคาแค่ 4 บาทเองนะคะ
นั่งแปปๆไม่ถึง 5นาที ก็มาถึงท่าเตียน พอมองกลับไปก็จะเห็นวิววัดอรุณริมแม่น้ำที่สวยงามมาก
หลังจากลงเรือมาให้เดินตรงออกมาจากระแวกตลาดริมท่าเรือเนอะ ออกมาๆๆเดี่ยวนี้แล้วเดินตรงดิ่งไปเลยจ้าา จะเห็นเป็นตึกสีครีม ขอบสีเขียว ตกแต่งสวยงาม มีร้านขายของเยอะแยะ รวมไปถึงธนาคารต่างตกแต่งตึกแนววินเทจๆ มีร้านอาหารและคาเฟ่ ร้านนั่งเล่นต่างๆมากมาย
เอาล่ะเราแค่แวะถ่ายรูปเฉยๆ หลังจากนั้นก็เดินตรงไป จะเห็นว่าซ้ายมือเป็นวัดพระแก้ว ขวามือเป็นวัดโพธิ์ วันนี้เราตั้งใจจะไปวัดโพธ์เนอะ เลี้ยวขวาค่ะทุกคน ไปค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอแล้วจ้า วัดโพธ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สวยมากกกกก เข้าไปดูด้านในกันก่อนนะคะ จะมีพระนอนองค์ใหญ่ ให้ทุกคนได้กราบไหว้ขอพรกันน่า ทางเข้าออกจะมีถุงให้เราใส่รองเท้าแล้วหิ้วเข้าไปทำบุญเก๋ๆค่ะทุกคน เก๋มั้ยล่ะ เข้าวัดไม่ต้องกลัวรองเท้าหายแล้วนะ ขอบอก หิ้วไปด้วยเลยจ้า เจ๋งดีนะ
เป็นไงคะ พอจะเป็นพรีเซนเตอร์ได้มั้ยคะ ^^" เอาล่ะเข้าไปดูบรรยากาศด้านในและกราบไหว้ขอพรกันดีกว่าเนอะ อิอิ
สำหรับ พระพุทธไสยาสน์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันว่า พระนอนวัดโพธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู องค์พระก่อด้วยอิฐถือปูนลงรักปิดทองทั้งองค์ พระบาทของพระพุทธไสยาสน์แต่ละข้าง ยาว 5 เมตร มีภาพมงคล 108 ประการ เป็นลวดลายประดับมุก ภาพมงคลแต่ละอย่างจะอยู่ในช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ล้อมรอบด้วยภาพกงจักร ซึ่งอยู่ตรงกลางพระบาททั้งสองข้างมีภาพเหมือนกัน
สวยใช่มั้ยล่ะ ต้องไปดูให้เห็นกับตานะคะสวยจริงๆค่ะ
หลังจากชมบรรยากาศด้านในแล้วนั้น เราก็จะพาทุกคนไปชมพระปรางค์ด้านนอกกันบ้าง เราแอบบอกนิดนึงเราหลงวัดนี้จริงๆนะ55555 หลงหาทางออกไม่เจอ ฝรั่งเดินตามคนไทยอย่างเรา ก็หลงไปด้วยกันแหละจ้า 55555 โนๆๆๆทางตัน จริงๆคงจะทะลุได้หมด แต่ช่วงที่เรามาเขากำลังบูรณะวัดอยู่พอดี เลยกั้นทางบางส่วน ก็จะต้องเดินวนหน่อยนึงนะคะ
ไม่บอกก็รู้ว่าเหนื่อยและร้อนมากจริงๆ เพราะมาช่วงเที่ยงพอดีเลยจ้ะ หลบแดดแปปนะคะ ^^
เราตั้งใจเก็บบรรยากาศมาให้ทุกคนได้ดูจริงๆน๊าาา ^^
เอาล่ะนะหลังจากที่เราเดินกันจนเป็นที่พอใจแล้วนั้น อากาศร้อนๆแบบนี้นั้น ไหนๆเราก็มา ท่าเตียน กันแล้ว ก็ไปหาคาเฟ่ต์ชิลๆ ดื่มน้ำเย็นๆ นั่งเลือกรูปชิลๆดีกว่าเนอะ
เราขอแนะนำร้านนี้เลย ฮาเตียนคาเพต์ ดูจากทางเข้าแล้วก็คิดว่าเป็นร้านกาแฟธรรมดาทั่วไป แต่พอเข้าไปเท่านั้นแหละค่ะ แอร์เย็นฉ่ำ แฮร่ ไม่ใช่ล่ะ เป็นร้านที่สวยมากๆ ดูแปลกตาดี ตอนแรกคิดว่าไม่มีที่นั่งเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วนั้นเขามีที่นั่งอยู่ชั้นบนค่ะ ตกแต่งร้านสวยมากแปลกตาออกแนววินเทจๆ มีทั้งหมดสามชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะตกแต่งต่างกัน ชั้นหนึ่งจะออกแนวจีน พร้อมมุมของสะสมต่างๆ
ยิ่งขึ้นไปยิ่งตะลึงค่ะ ร้านสวยมากจริงๆ ได้รูปมาอีกแล้ว เมมเต็มแล้วเนี้ยยย ฮ่าๆๆ หยอกๆๆ ร้านสวยจริงๆค่ะ
เราสั่งน้ำลิ้นจี่โซดา กับชากุหลาบมา ราคาแก้วล่ะ 95 บาท เอาน่าเหมาะกับบรรยากาศร้านแบบนี้นะคะ สวยจริงๆ และยังสามารถนั่งชิลๆได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีขนมหวานต่างๆ เค้ก เจ้าของร้านและพนักงานน่ารักเป็นกันเองมากๆค่ะ บริการอย่างดีเลยยยย
ชิลพอยัง ไปต่อกันดีกว่าค่ะ จาก ฮาเตียนคาเฟ่ เดินเท้ากันประมาน100เมตร เพื่อไป MRT สนามไชยค่ะ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลย ถ่ายๆ แล้วก็ถ่ายให้พอค่ะ สถานีสนามไชยถูกตกแต่งไปด้วยประตูคล้ายๆประตูพระราชวัง สีประตูช่างกลมกลืนกับเสื้อเราจริงๆเลย ถ้าไม่แดงไม่มีแรงเดินอ่ะเนอะ ฮ่าๆๆๆ
เอาล่ะเราก็ขอจบการรีวิวไว้แค่สถานีสนามไชยล่ะกันน๊าา จริงๆแล้วเรายังไปต่อสถานีวัดมังกร เพื่อไปยังวัดเน่งเล่ยยี่ แต่พอไปถึงแล้ว ที่วัดเขากำลังบูรณะใหม่อยู่เลยเข้าไปถ่ายรูปด้านในไม่ได้ ไว้โอกาสหน้าเราจะไปใหม่เนอะ หากใครพอจะมีเวลาว่างก็ลองนั่ง MRT ไปเที่ยวแบบเราได้นะ ยังมีอีกหลายๆที่ที่เราเองยังไม่ได้ไปเลย ไว้มีโอกาสไปแล้วจะมาเขียนรีวิวเพิ่มนะคะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ออกไปเที่ยวกันค่ะทุกคนนนนน ^^
สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริปนี้
ค่าบัตรโดยสาร MRT 130บาท ไม่รวมเนียมที่ได้คืนมา 50บาทตอนคืนบัตร
ค่ารถเมล์ 20 บาท
ค่าเรือ 4 บาท
ค่าของกิน แล้วแต่ทุกคนนะคะ
รวมแล้ว 154 บาท สำหรับทริปนี้
กำเงินไปเผื่อๆ 300 ก็ยังเหลือกลับบ้านนะคะ อิอิ ไว้เจอกันทริปหน้าค่ะ บ๊ายยย ^^
จะไปป่ะ | Ja Pai Pa
วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 01.37 น.