ได้ไปร่วมชมการแสดงคอนเสิร์ตการกุศลที่ช่างชุ่ย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชื่อเก๋ ๆ ว่า LOVE & JOURNEYS ดนตรี ความรัก การเดินทาง แต่ที่มาของคอนเสิร์ตนี้กลับเก๋กว่า ใครจะคิดว่ามาร่วมฟังเพลงเพลิน ๆ ในสถานที่สบาย ๆ แล้วจะได้ร่วมทำบุญด้วย
บรรยากาศดี ๆ ที่ช่างชุ่ย
คอนเสิร์ตครั้งนี้จัดโดย คุณแพวพราว อรุณศิริ (ดาว) ผู้จัดตั้งโครงการ โดยริเริ่มจัดกิจกรรมดนตรีขนาดเล็กมาโดยตลอดระยะเวลา 4 ปี ในแต่ละครั้งจะจัดด้วยงบประมาณของตัวเองทั้งสิ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นตัวแทนกลุ่มนักดนตรีออกไปแสดงดนตรีหารายได้ให้กับตามมูลนิธิ เด็กด้อยโอกาสทางด้านดนตรี ไม่ว่าจะเป็น คนพิการผู้ที่ใช้ดนตรีเพื่อฝึกษะการเคลื่อนไหวร่างกาย ฝึกสมาธิ ฝึกการฟังประสาทสัมผัส หรือเด็กต่างจังหวัดขาดทุนทรัพย์ซื้ออุปกรณ์ดนตรี เป็นต้น
ลงทะเบียนเข้างาน
ดังนั้นจึงเลือกแสดงดนตรีจิตอาสาพร้อมด้วยกลุ่มนักดนตรีที่เห็นพ้องกัน จับมือกันออกทำดีให้สังคมผ่านเสียงเพลง
ของที่ระลึกที่จำหน่ายเพื่อการกุศลในงาน
โครงการ ดนตรี ความรัก เดินทาง ได้ผ่านช่วงเวลาที่ก่อตั้งมาอย่างอิ่มเอมใจ ในวันนี้ได้มีผู้ร่วมสนับสนุนจัดทำคอนเสิร์ตภายใต้ชื่อเดียวกันกับโครงการ นั่นคือ LOVE & JOURNEYS ดนตรี ความรัก การเดินทาง
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้ร่วมสนับสนุน ซึ่งมีจิตใจงดงาม เพราะเพียงผู้จัดตั้งโครงการอื่นปากเล่าวัตถุประสงค์ของการทำขึ้น ผู้สนับสนุนทุกคนก็ยินดีจะเข้าร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ทันที แม้ว่าครั้งนี้อาจจะยังเป็นคอนเสิร์ตขนาดเล็ก แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มคนที่จะทำประโยชน์อันดีต่อสังคม ให้ขยายผลเติบโตขึ้นในอนาคต
ครั้งนี้ เป็นการจัดคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสบทบทุนมอบให้กับ มูลนิธิหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องจากผู้จัดได้มีโอกาสได้เข้าเรียนพื้นฐานทฤษฎีดนตรีที่นี่ฟรี เพราะวัตถุประสงค์ของพระองค์ คือการให้ทุกคนได้เรียนฟรี มาศึกษาดนตรีพระราชนิพนธ์ สืบค้นฟรี
เยาวชนจิตอาสา น้องอามิ น้องกอข้าว ร่วมร้องเพลงพระราชนิพนต์
ประโยคหนึ่งที่สร้างความประทับใจคือ “เราสร้างมาให้แม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีรองเท้าใส่ก็เข้ามาได้” ประโยคนี้ท่านผู้อำนวยการหอสมุด พูนผล เล่าให้ฟัง ผู้จัดจึงเกิดความคิดว่าซักวันหากมีโอกาสจะจัดกิจกรรมดนตรีเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์หอสมุดเป็นที่รู้จักมากขึ้น
งานเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 15.30 น. ถึงแม้นจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่บรรยากาศอบอุ่น และมีพิ้นที่เพลิน ๆ ให้เราได้เดินเล่น และเลือกที่นั่งได้อย่างสบาย ๆ ไม่แออัด จนเวลา 16.30 น. ก็เปิดให้พวกเราเข้าสู่บริเวณพื้นที่จัดงาน ลานไม้ (ข้างอาคารแดกดิ้น)
ช่วงแรก ๆ แม้นคนจะน้อยไปหน่อย ด้วยว่าเป็นวันศุกร์สิ้นเดือน แถมมีฝนตกปรอย ๆ อีกทั้ง บางส่วนยังหวั่นใจกับวิกฤตการณ์ไวรัสที่กำลังระบาดอย่างหนัก แต่ทางผู้จัดงานก็ได้เตรียมแอลกอฮอล์ล้างมือเตรียมเอาไว้ผู้ร่วมงานทุกท่านที่โต๊ะลงทะเบียนเรียบร้อย เพียงแต่พวกเราเตรียมหน้ากากอนามัยของตัวเองมาเพิ่ม ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
จนเวลาประมาณ 17.30 น. คุณโจนัส คุณอาท และคุณดาว พิธีกรผู้ดำเนินรายการ ก็ขึ้นมากล่าวถึงที่มาที่ไปของกิจกรรม
ตามมาด้วยการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ จากเยาวชนจิตอาสา น้องอามิ น้องกอข้าว จากนั้น พิธีกรและ คณะผู้จัด ก็ได้ขึ้นมากล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน และถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน
ศิลปิน IDOL วง BESTIE แขกรับเชิญร่วมแสดงดนตรีด้วยกีต้าร์ ร่วมกับพี่ณเอก ผู้แต่งเพลง "เท่าฟ้า" ตามมาด้วยความบันเทิงจาก ศิลปินเยาวชนวง ONLY MONDAY
จนช่วงหัวค่ำ เป็นช่วงเวลาของศิลปินชาวเชียงใหม่ วง Suthep Band โดยมีวง RUST JAM เป็นผู้รับไม้ ให้ความบันเทิงต่อ
ไม่ปล่อยให้ผู้ชม ผู้ฟังรอนาน วง E-SAN FUSION ก็ขึ้นมาสร้างความบันเทิง โดยมีคุณโจนัส เข้ามาแจม ในขณะเดียวกันที่วงนักเล่นกำลังเช็ตเครื่องดนตรีเพื่อรอสร้างความเพลินเพลินให้ผู้ชมต่อไป
ศิลปินต่าง ๆ ขึ้นมาถ่ายภาพร่วมกันบนเวที
คณะผู้จัดขึ้นมากล่าวถึงวัตถุประสงค์ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
วงนั่งเล่นพร้อมแล้ว
วงนั่งเล่น มาพร้อมกับบรรยากาศอบอุ่น สวยงาม เป็นกันเอง เล่นเพลงอคูสติกฟังง่าย ๆ ทุกเนื้อเพลง และตัวโน๊ตให้ข้อคิดที่เรียบง่าย และงดงาม ฟังได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่
เรียกได้ว่างานนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เป็นที่จดจำ และได้นำเงินไปสมทบการ มูลนิธิหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้จัด และผู้ชม ผู้ฟังทุกท่าน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมดี ๆ เพื่อสาธารณะกุศลเช่นนี้ จะเกิดขึ้นอีก และสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมต่อ ๆ ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ค่ำคืนนี้ จบลงด้วยรอยยิ้ม และความอิ่มเอม ของทุก ๆ คนที่มาร่วมงาน ก่อนเดินทางกลับบ้านอย่างมีสวัสดิภาพ เพื่อมาพบกันอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
สายลม ที่ผ่านมา
วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 03.00 น.