Snow Monster นั่นคือสิ่งที่ผมคาดหวังไว้ก่อนขึ้นไปที่แหล่งออนเซ็น Zao Onsen อย่างที่รู้กัน การขึ้นภูเขาซะโอ (Mount Zao) เนี่ย เราไม่มีทางรู้เลยว่า วันที่เรากำหนดที่จะไปนั้น ฟ้าจะเปิด หรือฟ้าจะปิด ฝนจะตก หรือฝนไม่ตก หิมะจะเยอะพอจนเกิดเป็นปิศาจหิมะไหม หรือจะเจอพายุหิมะหรือไม่ นอกจากการวางแผนแล้ว ดวงก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน และครั้งนี้… ดวงผมไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
สำหรับการเดินทางไปภูเขาซะโอ (Mount Zao) เริ่มที่การเดินทางกันก่อน เริ่มต้นที่สถานียามากาตะ(Yamagata) ลงไปซื้อตั๋วที่สถานีรถบัสด้านล่างราคา 4,500 เยน ซึ่งรวมเที่ยวรถบัสไป-กลับ และกระเช้าไป-กลับไว้แล้ว
ในสถานียามากาตะ มีเลโก้ชิงคันเซนอยู่ด้วย
ได้ตั๋วรถบัส รวมกระเช้าที่ Zao มาแล้ว
ตารางรถบัส ก่อนขึ้นไป ก็เช็คตารางรถไป-กลับได้ครับ
รถบัสไปที่เขา Zao ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จาก Bus stop เดินไปสถานีกระเช้าอีก 10 นาที และขึ้นกระเข้าอีก 2 ชั้น ใช้เวลาอีก 30 นาที ก็จุดสิ้นสุดกระเช้าบนเขา Zao
มาถึงสถานี Zao Onsen แล้ว
หน้าสถานี มีแผนที่ของเขา Zao ด้วยครับ
เดินมาถึงสถานีกระเช้าเพื่อขึ้นเขาแล้ว ชื่อสถานีว่า Zao Sanroku
ขึ้นมาแล้ว 1 ชั้น ที่สถานี Juhyo Kogen ใช้เวลาประมาณ 7 นาที วิวสวยงาม แต่… เราทำใจไว้แล้วล่ะว่า ไม่เจอ Monster แน่ๆ เพราะก่อนหน้านั้น หิมะได้เริ่มละลายแล้ว
ถึงแล้วววววสถานี Jizo Sancho ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากสถานี Juhyo Kogen
ทำไมถึงต้องมาที่นี่ เพราะอยากมาดู Snow monster และเค้ามีงาน Lighting snow festival ด้วย แต่อย่างที่เห็นกัน… ปีนี้หิมะละลายเร็วมากกกกก จาก snow monster เลยกลายเป็น Snow Zombie แถมฝนยังตกอีกต่างหาก เรียกได้ว่าซวยซ้ำซ้อนเลยจริงๆ 55555
อย่างที่เห็นครับ Monster หายไปแล้ว เหลือแต่ Zombie TT^TT แถมฝนตกหนักอีก ก็ได้แต่นั่งรอฝนหยุดด้านในร้านอาหารของที่นี่
ระหว่างรอ ก็สั่งโคร็อกเกะเนื้อมาทาน แกล้มดราฟท์เบียร์นุ่มๆ
ฝนเริ่มซาแล้ว เอาล่ะ ออกไปลุยกันหน่อย มาถึงแล้วทั้งที ออกไปถ่ายรูปและสนุกกันดีกว่า ชาวแก๊งค์เราก็ยังสู้ แม้ข้างนอกจากอุณหภูมิ 1-2 องศา บวกฝน บวกลม ก็ยังสู้
พระจิโซ เขาว่าถ้าช่วงหิมะตกหนักๆ หิมะจะปกคลุมจนท่านเหลือแต่เศียรพ้นขึ้นมาจากหิมะ
พอจะนับได้ว่าเป็น Monster ได้ไหม? 5555 เอาน่ะ อย่างน้อยก็เจอตั้ง 2 ตัว (ต้น) แน่ะ
แต่ … ถึงเราจะไม่ได้เจอ snow monster อย่างที่หวังไว้ แต่วิวข้างบนเขาซาโอะแบบนี้ ก็สวยไปอีกแบบนะครับ เพราะถ้าเรามาตอนฟ้าเปิด เราก็จะไม่เห็นภาพที่เราเห็นแบบนี้เช่นกัน
ยังพอถ่ายรูปออกมาสวยน้าาาา… (เข้าข้างตัวเองๆ 555)
จากนั้นก็ได้เวลากลับก่อนกำหนด มีเวลาเหลือ เลยได้มาลองกินเนื้อ Yonezawa หากโอซาก้ามีเนื้อโกเบ โทโฮคุก็มีเนื้อโยเนซาว่า เป็นของขึ้นชื่อเหมือนกัน อยากรู้ว่าเป็นยังไงก็มาอ่านรีวิวอันนี้ได้เลย
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ^ ^
กล้องที่ใช้ถ่ายภาพในรีวิวนี้ก็คือ :
– Canon 60D Lens Fix 50 f.1.8 และ 18-135 f.3.5
– Fuji X-A3 Lens Fix 52 f.1.4
– HUAWEI P30 Pro
Pink Yangmatoy
วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 22.35 น.