สวัสดีค่ะ ^^
วันนี้จะชวนวิ่งหนีโควิดไปภาคเหนือกัน มาภาคเหนือครั้งนี้เราจะไม่พาขึ้นดอยนะคะ
แต่จะพาไปหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาดูบ้าง
หลุดจากชีวิตที่จั๊กอิหยังซักแปบ แว๊ปไปนอนหุบเขากันซักคืน
"ณ บ้านนาตอง อ.เมือง จ.แพร่"
เริ่มต้นการเดินทางเข้าเมืองแพร่กันค่ะ เมืองน่ารัก ดู cute ดีค่ะ แวะร้านแรกกันเลย
"Charlotte hut cafe "
เป็นร้านกาแฟตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นหน่อยๆ มีเครื่องแก้ว โหลที่หล่อด้วยเซรามิก ที่มีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป ตามเอกลักษณ์แบบถ้วยชามคนญี่ปุ่นคือถ้วยนี้มีลายเดียวบนโลกกก 55555 ภายนอกร้านบรรยากาศร่มรื่นมีที่ให้นั่งกระจายแบบไม่แออัด เป็นร้านใครมาเมืองแพร่ ก็น่าที่จะเข้ามาแวะเวียนกันนะ
" วัดในเมืองแพร่ "
ได้มีโอกาสไปชมวัดที่อยู่ในเมืองแพร่ค่ะ มีที่น่าสนใจหลายที่ เช่น วัดจอมสวรรค์ วัดพระธาตุดอยเล็ง และวัดที่ไม่ควรจะพลาด "วัดพระธาตุช่อแฮ พระโกศัยเจติยารักษ์" วัดอารามหลวงคู่บ้านคู่เมืองของเมืองแพร่
เมื่อสักการะพระธาตุเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางต่อไปพระธาตุดอยเล็ง มีพระธาตุอยู่บนภูและมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองแพร่ วัดพระธาตุดอยเล็งออกมากไกลจากตัวเมืองไม่มากนักและอยู่เลยออกมาจากพระธาตุช่อแฮเพียงนิด เมื่อธุจ้า....สิ่งศักสิทธ์ครบทุกที่แล้วนั้น เราก็เดินทางต่อกันค่ะ
ไปบ้านนาตองกันนนนน
นั่นคือเส้นทางไปบ้านนาตองค่ะ ดูเหมือนจะไกล แต่ทุกจุดคือยังอำเภอเมืองอยู่เลย ว่าแล้วก็ปักแผนที่ใน google map แล้วเดินทางกันค่ะ
แต่เด๋วก่อนนนนนน....ก่อนที่เราจะเดินทางมาที่นี่ เราได้ติดต่อที่พักก็คือ homestay ไว้ ฉะนั้นถ้าใครไม่มั่นใจในการเดินทางผ่าน google map ให้ขอโลเคชั่นที่พักที่ติดต่อผ่านไลน์ไว้นะคะ เพราะเวลาที่ขับตามเส้นทางไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางอยู่บ้างค่ะ หรือถามคนแถวนั้นก็ได้ค่ะ บางทีอาจจะกังวลว่ามาถูกทางมั้ย เพราะทางดูเหมือนจะไม่ค่อยมีบ้านคน 55555555 แต่จริงๆ มีหมู่บ้านนะคะ แค่ป่าเยอะและหมู่บ้านอยู่ไกลออกไปเท่านั้นเอง และสำคัญคือโทรศัพท์บางเครือค่ายไม่มีสัญญาณ เช่น ดีซัมติง เป็นต้น
ขับรถเข้ามาตามทางคอนกรีตแคบๆ และก็มาถึงหมู่บ้านในหุบเขาปลายทางของเรา
"หมู่บ้านท่องเที่ยว บ้านนาตอง ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่"
เราเข้าไปที่พักที่เราติดต่อไว้ "นาตองอิงดอยโฮมสเตย์"
จากนั้นเราเดินเล่นไปตามหมู่บ้าน มีบ้านเรือนแทบจะนับหลังได้ มีวัด 1 แห่ง ที่มีพระเพียง 1 รูปประจำวัด ตลาดของที่นี่ก็คือร้านขายของชำ 2 ร้าน ที่ไม่ได้อยู่ติดกันและเลือกขายแต่สิ่งจำเป็น ร้านอาหารเป็นร้านเตี๋ยวอยู่ร้านนึง มีลำธารใสๆ ที่เป็นสายต้นน้ำของแม่น้ำก๋อน บรรยากาศรอบๆสงบมาก และเคลื่อนไปอย่างช้าๆ และเสียงคลอเบาๆ จากธรรมชาติที่ อีกฝากนึงของลำธารเป็นเนินของภูเขาขึ้นไป ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งเพราะปลูก หาของป่า
"ทุกอย่างดูเนิบและช้า แต่ไม่มีสิ่งใดหยุด แน่นอนเพราะมันเคลื่อนไปตามเวลา"
พระอาทิตย์ดูคล้อยต่ำและแดดไม่ได้แรงเหมือนชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นสัญญาณให้รู้ว่ากำลังจะถึงเวลาของอาหารเย็นและทุกบ้านก็ต่างเตรียมอาหารเพื่อคนในครอบครัว ค่อยๆ มีควันจางๆ ลอยเบาๆ จนถึงควันขโมงที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านสำหรับเตรียมอาหารลอยตามทางเล็กในหมู่บ้าน
แต่มื้อเย็นของเราวันนี้ เรามีอาหารจากโฮมสเตย์ที่คุณป้าจัดเตรียมไว้ให้ ลาภปากละจ้าาาา แบบไม่ต้องทำเองเลยยยย แบบไม่ได้ขี้เกียจนะแต่กลัวกินไม่ได้
มื้อเย็นของเรา อาหารเรียบง่ายตามแบบของหมู่บ้านที่นี่ แต่ลำแต้ๆเจ้าาาาาาาาาา
กู้ดดดด มอออ นิ่งงงงงง
ตื่นมาก็แทบจะนิ่งเลย อากาศดีจนต้องยืนจิบกาแฟนิ่งๆ กันซักแปบบบบ แล้วออกเดินเล่นรับหมอกอ่อนๆ ในตอนเช้าที่ลอยเบาๆอยู่เหนือผิวน้ำ ไปเดินเล่นกันค่ะ
ถึงเวลาต้องออกจากบ้านนาตองแล้ววว ขอบคุณความสุขที่เราได้ใช้ ขอวางมันไว้คืนและเราต้องกลับไปจุดที่เรามาและเราเองก็ไม่สามารถที่จะทิ้งมันได้ ขอบคุณความสุขที่ได้รับและซักวันจะกลับมาใช้มันอีก อาจจะเป็นที่นี่หรือที่อื่นๆอีก ขอบคุณจ้า
เดินทางต่อกันเลยค่ะ ระหว่างทางที่เราจะเข้าเมือง เราได้แวะร้านริมแม่น้ำก๋อน ซึ่งถนนเส้นที่จะออกไปยังตัวเมืองแพร่ จะมีร้านนั่งชิลริมน้ำก๋อนอยู่หลายร้านทีเดียว
เราจึงแวะกันที่ร้าน "ชลลชาติ" กันแปบนึงงง
เมื่อถึงตัวเมืองแพร่ ไม่มาไม่ได้ คือต้องแวะช้อปปิ้ง "เสื้อม้อฮ่อมที่ทุ่งโฮ้ง"
กินเตี๋ยวที่ "ก๋วยเตี๋ยวคนกะเหลอ"
ก่อนจะบ๊ายบายกันจริงๆ เราก็แวะ Cafe กันอีกสักที่ เพื่อเติมพลังในการขับรถทางไกลของเรากันค่ะ
"Slope cafe คาเฟ่บ้านเบ้ว"
เมื่อได้แหล่งพลังงานกันแล้ว ก็ต้องบ๊ายบายกันจริงๆ ละนะ
แล้วพบกันอีกนะ....... เมืองแป้ ลำกำลังดี
-----------------------------------------------------------------------------------------------
go_with_puay
วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 14.58 น.