หลังจากตอนที่แล้วที่เราไปปีนัง [นั่งรถไฟไปเที่ยวปีนัง&ตามหาคาเฟ่ harry 2020 (ตอนที่ 3)] แล้วได้ลองชิม Butter beer ที่คาเฟ่ Harry เราติดใจมากกกกกก ก็เลยจะพยายามหาว่าที่เมืองไทยมี Butter beer ขายที่ไหนบ้าง 

ซึ่งคาเฟ่ที่หาเจอคือไปยากมากกกกก ส่วนคาเฟ่ที่หาง่ายไปง่ายก็ขาย Butter beer เป็นช่วงๆ ที่ไม่มีขายอีกแล้ว จนเราปลงแล้วว่าคงไม่ได้กิน Butter beer ที่เมืองไทยหรอก คั้นจะให้ซื้อของมาทำกินเองก็กลัวจะไม่อร่อย รอเก็บตังไปชิมที่โอซาก้าเลยก็แล้วกัน ฮรือออออออ TT^TT

แต่แล้ววันนึงเราไถมือถือเจอว่ามี Butter beer ขายแถมส่งตรงถึงบ้านอีกต่างหาก โอ้วววว *0* น้ำตาจะไหล ตอนที่เห็นก็ยังไม่มั่นใจว่าใช่ Butter beer ที่เราอยากกินไหม เพราะหน้าตามันเหมือนเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์สุดๆ แต่พอคนขายบอกไม่มีแอลกอฮอล์ เราก็กดสั่งเลยจ้ะ สั่งแบบไม่ต้องคิดเลยจ้ะ 5555555 

เราซื้อมา 1 กล่องราคา 390 บาท ข้างในก็จะมี Butter beer สำเร็จรูปพร้อมดื่มอยู่ 6 ขวด ก็จะแอบๆ เห็นว่ามีซองๆ อะไรสักอย่างใส่มาด้วย

มันก็คือผงทำ Butter beer โอโห้วววว พร้อมดื่มจนไม่รู้จะพร้อมยังไงแล้วแมรรรร่ ชอบมากกกกกก

แล้วของอีกชิ้นนึงที่ซ่อนมาในกล่องคือ ของแถมจ้าาาาา >////< เป็นพวงกุญแจของ Witch Craft ราคา 129 บาท สวยกว่าที่คิดเยอะเลยยย ชอบบบบบ >///< 

แต่ด้วยความห้าวหาญบวกกับความอยากรู้ว่ารสชาติของ Butter beer ว่าจะเหมือนปีนังไหม ฉันก็ทำการเปิดกินทันทีที่ได้มา มันไม่เย็นใช่ไหมก็ประโคมน้ำแข็งใส่เข้าไปเต็มแก้วเลยจ้ะ แล้วก็พบว่าฉันควรเชื่อเขาว่าต้องแช่เย็นก่อนกิน รสชาติคือเพี้ยนแรงมากแมรรรร่ 55555555555

หลังจากที่เราเฟลไปแล้วรอบนึง ก็เลยต้องเอาไปแช่เย็นตามที่เขาบอกก่อนแล้วกัน 555555 ระหว่างนั้นก็เลยไปคุ้ยๆ หาแก้วที่เก็บมาจากปีนังรอ

ตอนที่เทมานึกว่ามันจะเป็นสีเหลืองกว่านี้ เอ๊ะ มันจะเหมือน Butter beer ที่เราเคยรู้จักจริงๆ ไหมนะ 

เริ่มเป็นสีเหลืองเหมือนที่เรารู้จักแล้ว ^^

1 ขวดจะมี 325 mL. ซึ่งแก้วนี้เราเทไปประมาณ ขวดนิดๆ 

แล้วก็ตามด้วยการเทฟองตามไปสวยๆ เลยจ้าาา ระวังตอนเทฟองนิดนึง ฟองมันฟู่มากกกก ใส่นิดเดียวก็พอเดี๋ยวล้นแก้ว

งื้อออออ สวยเหมือนที่ปีนังเลยยยย

และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอยก็มาถึงนั่นก็คือการชิมรสชาตินั่นเองงงง จากที่ดูในรีวิวเขาว่ากันว่ารสชาติเหมือนที่ USJ แต่เราไม่เคยไปไง ก็เลยจะเทียบกับที่ปีนังก็แล้วกันน

คือรสชาติหลังแช่เย็นแล้ว มันอร่อยเลยแหละกินพร้อมฟองนมมันจะ ซ่าๆ หวานๆ หอมๆ แต่เรารู้สึกว่ามันซ่ามากกว่าปีนังแล้วก็หวานน้อยกว่านิดนึงทำให้กินได้บ่อยมากกว่า แต่ของที่ปีนังกินบ่อยๆ แล้วมันจะเลี่ยนเหมือนว่ามันจะอร่อยแค่ครั้งแรก 

ส่วน Craftman มันจะอร่อยทุกๆ ครั้งที่กิน ซึ่งของเพิ่งได้เมื่อวานแต่วันนี้ฉันกินหมดแล้วจ้าาา 5555 โดยรวมๆ แล้ว คือเราชอบมากกกกกกกกกก หากินง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัสของก็ส่งมาถึงบ้านเลย สะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว >///<

เห็นพ่อค้าบอกถ้าสั่งครั้งต่อไปจะเตรียมผ้าพันคอไว้ให้ สงสัยเราต้องรีบไปสั่งเพิ่มแล้วแหละ 55555 แล้วเจอกันบทความต่อไปจ้าาาา และสามารถติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ เพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน

ขอบคุณที่ติดตามค่าาาา ❤
Try to Try ก็แค่ออกไปลอง

ความคิดเห็น