มันดีกว่าที่คิด มันดีต่อหัวใจ
นั่นคือ เกาะยาวน้อยค่า :)
เกาะยาวน้อย อยู่ที่ไหน ?
เกาะยาวน้อยอยู่ตรงกลางระหว่างจังหวัดภูเก็ต กับจังหวัดกระบี่ ด้านเหนือของเกาะจะติดกับจังหวัดพังงา ทางใต้ของเกาะจะติดกับเกาะยาวใหญ่ บรรยากาศบนเกาะ เงียบสงบ ผู้คนน่ารัก ที่สำคัญ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าวิวสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
4 ที่พักในฝัน
1. Roost Glamping
2.Keemala
3.Paradise Koh Yao Noi
4.Tree House Koh Yao Noi
สำหรับการเดินทางของเรา เราเดินทางจากกทม.ค่ะ โดยสายการบินแอร์เอเชีย ไปกลับราคาโปรโมชั่นคนละ 350 บาท (ดีงามเนอะ) เดินทางตั้งแต่วันที่ 13-16 มีนาคม 63 ค่ะ และระหว่างที่เที่ยวในภูเก็ตเราเหมารถพร้อมคนขับนะคะ (พี่เค้าใจดี พาไปเที่ยวทุกที่เลย)
แพลนการท่องเที่ยว
วันที่ 1 (13/03/63)
- ถ่ายเครื่องบินที่หาดไม้ขาว
- เข้าจองห้องพักที่ Keemala
- เข้าชมหาดนุ้ยบีช
- ดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ
- เข้าที่พัก Roost Glamping
วันแรก 13/03/63 ถึงสนามบินภูเก็ตช่วงเช้า จุดแรกที่เราไปเก็บภาพก็คือ .... หาดไม้ขาวค่ะ
ณ จุดนั้นคือร้อนมากกกกกกกกก นั่งรอเครื่องบินเกือบ 10 ลำ กว่าจะได้ภาพที่ถูกใจ เรานั่งถ่ายตั้งแต่ 9 โมง จนถึง 11 โมงเลยค่ะ .... ไหม้เกรียมสุดๆ แต่ก็สู้ 5555
จุดต่อไปของเราก็คือ Keemala รีสอร์ทค่ะ เราจะเข้าไปจองห้องให้เพื่อน เลยได้ถือโอกาสเก็บภาพห้องราคา 20,000 มาให้ชมด้วย (ปล.สำหรับราคาของที่พักจะไม่คงที่นะคะ เพราะจนท.แจ้งว่าราคาจะขึ้นลงตามโปรโมชั่นและช่วงเวลาค่ะ)
ทางผ่าน เราลัดเลาะไปทางชายหาดสุรินทร์ หาดป่าตองนะคะ
ก่อนถึงหาดนุ้ย เราแวะเข้าไปจองห้องพักให้เพื่อนที่ Keemala ค่ะ จริงๆ ช่วงไปที่ไม่ต้องจองก็ได้ เพราะห้องว่างมาก ช่วงนั้นก็คือ โควิดเริ่มระบาดใหม่ๆ ลูกค้าคือไม่มีเลย น้องๆเจ้าหน้าที่เลยมีเวลาพาเราขับรถชมห้องนั้นห้องนี้ สวยมากๆ
จองห้องชมห้องเรียบร้อย เราก็ไปต่อกันที่หาดนุ้ยบีชค่ะ เค้าบอกว่าเกาะนี้เป็นเกาะลับ สำหรับการเดินทางคือ โหดมากกก เราไม่สามารถนำรถส่วนตัวเข้าได้ค่ะ เพราะมันวิบากและขรุขระสุดๆ ดังนั้น เราต้องจอดรถไว้ด้านนอก แล้วนั่งรถของเจ้าหน้าที่เข้าไปแทนค่ะ ค่ารถไปกลับคนละ 200 บาทจ้า
บรรยากาศและความสวยงามของหาดนุ้ย คุ้มค่ากับการเดินทางมานะคะ เพราะมันสวยมากๆ เครื่องเล่นทุกอย่างด้านในเล่นได้ฟรีค่ะ ถ่ายรูปฟรีด้วย มีน้ำ มีขนมบริการฟรี และมีคาเฟ่เล็กๆมีเครื่องดื่มและอาหารจำหน่ายด้วยค่ะ หากใครเข้าไปแล้วจะดื่มด่ำกับธรรมชาตินานแค่ไหนก็ได้ แต่คิวรถเที่ยวสุดท้ายคือ 5 โมงเย็นค่ะ
พระอาทิตย์จะตกแล้วววว พี่ชายคนขับของเราก็รีบเตือนว่าต้องไปแหลมพรหมเทพแล้วนะ เดี๋ยวไม่ทันพระอาทิตย์ตก ......... โอเค วิ่งเลย
ตะวันลับขอบฟ้า พี่ชายก็ขับรถไปส่งที่ที่พักคืนแรกค่ะ นั่นก็คือ Roost Glamping สไตล์คือเต้นท์ค่ะ ห้องที่เราพักเป็นเต้นท์ส่วนตัว ห้องน้ำส่วนตัว แต่แยกออกจากตัวเต้นท์ ราคา 2,230 บาทต่อคืน/2 คน ไม่รวมอาหารเช้า
วันที่ 2 (14/03/63)
- เดินทางไปเกาะยาวน้อย โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือบางโรง
- ทานข้าวเที่ยงที่ร้านริมเลบนเกาะยาวน้อย
- เช็คอินที่พัก Paradise Koh Yao Noi
ก่อนเช็คเอ้าท์ แล้วเดินทางไปทาเรืองบางโรง เราต้องเพิ่มพลังด้วยอาหารเช้าดีๆซักมื้อก่อนค่ะ เมนูนี้คือซิกเนเจอร์ของร้านเลยค่ะ อร่อยมากๆ
จากที่พัก Roost Glamping มาท่าเรือบางโรงใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ค่ะ เราต้องใจจะข้ามเกาะแต่เช้า เพื่อจะได้ใช้เวลาเยอะๆบนเกาะ แต่ไปๆมาๆ กว่าจะได้ข้ามคือเรือสปีดโบ้ทรอบ 11 โมงค่ะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาทีนะคะ)
วิวนี้ มองจากท่าเรือเกาะยาวน้อยไปยังเกาะยาวใหญ่ค่ะ สวยมาก
ถึงเกาะปุ๊บเราต้องเหมารถแท๊กซี่เข้าที่พักค่ะ สำหรับค่ารถคือคนละ 400 บาท (ได้ยินตอนแรกแบบตกใจมาก โอ้โหหหห แพงเว่อร์ ขับไปรอบเดียวนี่พี่คือรวยเลยนะ แต่ .... อย่าเพิ่งตัดสินคนแค่ภายนอกค่ะ รอดูตอนต่อไป 5555) คันที่เรานั่งไปมีนักท่องเที่ยวคนไทยอีก 2คนค่ะ น้องเค้าพักที่เคปกูดู ซึ่งพอน้องเค้าลงไปแล้ว ก็เหลือเรากับเพื่อนสองคน พี่คนขับเดินลงมาบอกให้พวกเราไปนั่งข้างหน้า แกบอกว่าระยะทางต่อจากนี้จะวิบากมาก ฝุ่นจะตลบอบอวน พี่แนะนำให้ไปนั่งข้างหน้าดีกว่า ........ ตอนแรกเราก็ลังเล เพราะอยากนั่งหลังชมวิว แต่ก็ตัดสินใจถูกละที่นั่งข้างใน
จากเคปกูดู พี่คนขับเค้าพาเราไปเที่ยวรอบเกาะด้วยค่ะ แกถามว่าทานข้าวมารึยัง มีที่ไหนอยากไปมั้ย เดี๋ยวจะพาไป เพราะรีสอร์ทที่เราพักนั้น ไกลจากแหล่งชุมชนมาก เข้าไปแล้วออกยาก ตอนแรกเราก็เกรงใจ แต่แกอธิบายว่า มันไกลและเดินทางลำบากจริงๆ เราก็เลยโอเคค่ะ หนูอยากไปกินปูที่ร้านริมเล พี่พาไปหน่อยได้มั้ย :) แกบอก ไม่มีปัญหา จะไปไหนเดี๋ยวพาไปหมด ... เย้ พี่แบบ ใจดีมากๆ
ขับรอบเกาะชมวิวมาซักพักก็ถึงแล้ว ร้านริมเล ......................... บรรยากาศดี อาหารอร่อย ของขึ้นชื่อคือ ขนมครก แต่เสียดาย เราอิ่มมาก ทานไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวมาครั้งหนา้จะมาลองนะ
อิ่มแล้ว เดินทางไปที่พักได้
คืนนี้เราพักที่ Paradise ซึ่งจริงๆตอนแรกจอง Tree House ไว้ค่ะ แต่เนื่องจากที่พักนี้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่สามารถเข้าพักได้ เราก็เลยเปลี่ยนมาพักที่ Paradise แทน (ทั้ง 2 ที่ เป็นรีสอร์ทในเครือเดียวกันค่ะ อยู่ข้างๆกันเลย แต่พาราไดซ์เด็กพักได้) พอเปลี่ยนที่พักแล้ว สรุป เด็กไม่ได้มาด้วยค่ะ เนื่องจากคุณแม่น้องติดธุระ แผนเราก็เลยเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ถึงจะไม่ได้ห้องที่ Tree House ต้องก็เข้าเยี่ยมชมได้
เราเช็คอินเกือบบ่าย 3 ได้ค่ะ สำหรับระยะทางจากร้านริมเล มายังรีสอร์ทพาราไดซ์อยากบอกว่าโหดมาก โหดไม่แพ้นุ้ยบีชเลยค่ะ ทั้งชั้น ทั้งขรุขระ โอ้โห กว่าจะถึง ไปกลับน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ค่ะ แล้วสำหรับค่ารถที่คิดว่าแพงในตอนแรกนั้นคือไม่เลย ไม่แพงเลย กว่าเค้าจะขับเข้าไปแล้วขับออกมาคือยากมาก แต่ถ้าใครอยากเดินทางที่สะดวกสะบายกว่านี้ รีสอร์ทมีบริการเรือสปีดโบ้ทส่วนตัวนะคะ ราคาคนละ/เที่ยวละ 1,200 บาท เร็ว แล้วก็สบาย
ก่อนกลับ เราถามชื่อและเบอร์โทรพี่คนขับค่ะ เพราะว่าขากลับ เราอยากให้แกมารับเหมือนเดิม แต่แกบอกว่า แกไม่สามารถเข้ามารับเองได้ ถ้าลูกค้าต้องการรถมารับต้องแจ้งผ่านโรงแรมเท่านั้นค่ะ เราก็เลยโอเคบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวเราแจ้งโรงแรมให้ว่าเรารีเควสให้คุณมารับ แกก็บอกโอเค (พี่คนขับชื่อ บังหล่อ)
ถึงห้องเรารีบเก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อชม วิว ถ่ายรูปรีสอร์ทค่ะ
สวยมากอ่า มองไปทางไหนก็สวยไปหมด เหมาะจะมากับแฟนมากกกกกกกกกก
เช้าวันที่ 3 (15/03/63)
ความรีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น .... สวยแบบว้าว ว้าว ว้าว เลยค่ะ จริงๆ
อาหารเช้าของที่นี้เป็นแบบบุเฟต์อินเตอร์นะคะ มากมายหลายอย่าง
ทานเสร็จ ก็ไปอาบน้ำเก็บของเตรียมตัวเช็คเอ้าท์ตอนบ่าย 2 ค่ะแล้วก็รอบังหล่อมารับ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มารับค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่โรงแรมไมไ่ด้ทำเรื่องให้บังหล่อเข้ามา แกเลยไม่กล้าเข้ามา แต่เบื้องต้น ทางโรงแรมกับทางบังหล่อได้คุยโทรศัพท์กันแล้ว ว่าทางโรงแรมอนุญาตให้บังหล่อเข้ามาได้ แต่บังหล่อบอกว่า เข้าไปไมไ่ด้เพราะไม่มีใบอนุญาต
สรุป บังหล่อ ไม่ได้เข้ามา เมเนเจอร์เลยขับเรือมาส่งเราที่ท่าเรืออีกที่ค่ะ แล้วให้สองแถวมารับอีกทีนึง
พี่เมเนเจอร์ ทรีเฮ้าส์ ขับเรือมาส่ง พร้อมขอโทษทางเราที่มีการสื่อสารผิดพลาด และทำให้เราเสียเวลาค่ะ
รีสอร์ทสวย อาหารอร่อย บริการเยี่ยม ประทับใจทุกอย่างนับแต่ก้าวเท้าเข้ารีสอร์ท .... เลิฟเลย
ภาพด้านบนวิวข้างหน้า คือ sixsent koh yao นะคะ
นั่งเรือไม่ถึง 15 นาที ก็ถึงท่าเรือแล้วค่ะ แล้วมีน้องของ Paradise มารอรับด้วย พอเราถึงฝั่งปุ๊บ น้องก็บอกว่า ขอโทษแทนบังหล่อด้วยนะ ที่เค้ามารับไม่ได้ พี่เค้าฝากมาบอกว่าเค้าเสียใจ และขอโทษจริงๆ
เรานี่ก็อึ้ง ว่าน้องเค้ารู้เรื่องได้งัย น้องก็เลยบอก ว่าเค้าเป็นเพื่อนกัน บังหล่อโทรมาเล่าให้ฟัง
เราก็เลย อ๋ออ บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากค่ะ เสร็จปุ๊บ น้องเค้าก็ถามว่าจะให้ไปส่งไหน เราก็เลยบอกว่า เราจะนอนที่เกาะนี้อีกคืน แต่ยังไมไ่ด้จองห้องเลย น้องมีแนะนำมั้ย
เอาวิวสวยๆ ติดทะเล .... น้องน่ารักมาก พาขับเที่ยวรอบเกาะอีกแล้ว นี่พามาแวะท่าเรืออีกที่ สวยมากๆ
หลังจากขับวนรอบๆแล้ว เราก็ได้ที่พักถูกใจละ นั่นก็คือ ... Holiday Resort ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน ดีงามมากกก วิวสวยมาก ที่สำคัญ ใกล้เคปกูดู คาเฟ่ในฝันสุดๆ
ส่วนมื้อเย็นฝากท้องไว้ที่ร้านข้างๆรีสอร์ทนะคะ
เช้าวันสุดท้าย 16/03/63
แพลนวันนี้คือ นั่งเรือไปเกาะห้อง ลากูนเกาะห้อง เกาะนอก และเดินทางกลับไปยังสนามบินภูเก็ตประมาณบ่าย 3 ค่ะ
รีบตอนแต่เช้า เดินมาดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ด้านหน้าหาดรีสอร์ทเคปกูดูค่ะ ... วิวสวยสุดๆ
รางวัลของคนตื่นเช้า มันสวยสดชื่นอย่างนี้นี่เองง
ทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็รอให้คนรถมารับไปท่าเรือค่ะ วันนี้เราจะไปเที่ยวเกาะห้องกัน
ปล. สำหรับค่าทัวร์เกาะ เราซื้อที่ร้านข้าวคุณลุงเมื่อวานตอนเย็นค่ะ ไปแบบจอยทัวร์ ตกคนละ 300 บาท ครึ่งวัน เดินทางตั้งแต่ 8 โมงเช้าค่ะ (แต่พอถึงเวลาจริงๆ ไม่มีใครเลยค่ะ มีแค่เรา 2 คน ส่วนนักท่องเที่ยวคนอื่น เค้าเปลี่ยนใจไม่ไปค่ะเพราะเค้างอนคนเรือ คนเรือไปรับเค้าช้า 555+)
เกาะแรกของทัวร์ ชื่อว่า ... เกาะนอก จุดชิมวิวของเกาะนี้คือบนยอดเขาเลยค่ะ ปีนขึ้นไป จะมีเชือกไว้โรยตัวค่ะ
เกาะต่อไปคือ เกาะผักเบี้ยค่ะ (แค่ขับผ่านนะคะเพราะเราบอกพี่คนเรือเราไม่แวะ)
ต่อไปคือ ลากูนเกาะห้อง
ต่อไปคือ เกาะห้อง ค่ะ สำหรับทางเข้า จะมีทางเดียว
หลังจากที่เราล่องเรือเข้าชมเกาะห้องแล้ว เราก็รีบไปที่แหลมหาด (หาดพระจันทร์เสี้ยว ที่อยู่เกาะยาวใหญ่ค่ะ)
เกือบบ่าย 2 แล้ว เรารีบบึ่งกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รอเวลากลับฝั่งภูเก็ตค่ะ แพลนของเราคือ ถึงท่าเรือบางโรงประมาณ 4 โมงเย็น แล้วเพื่อมารับไปทานข้าวที่พังงา เสร็จก็ขึ้นเครื่องกลับกทม. 2 ทุ่มเลยค่ะ
บ่าย 2 เราแจ้งที่พักให้เรียกแท็กซี่มารับให้ไปส่งที่ท่าเรือค่ะ ค่ารถจาก Holiday ไปยังท่าเรือคนละ 100 บาทค่ะ พอถึงเวลาก็มีคนมารับ คำทักทายแรก ขอคือโทษเรา ..... เรางง ว่าขอโทษเราทำไม พี่เค้าก็เลยบอกว่า ขอโทษที่วันนั้นบังหล่อไม่ได้ไปรับที่พาราไดซ์ .... เรานี้อ๋อออออเลย 5555+ เรารีบถามว่า พี่รู้ได้งัย !!!
แกบอก บนเกาะเค้ารู้หมดแล้วครับเรื่องน้องผู้หญิง 2 คน ที่ไม่ได้ไปรับ ทางเกาะอยากขอโทษมากๆที่ปล่อยให้รอ .... เราได้ยินเราขำเลยอ่ะ โอ้ววว เรื่องแค่นี้กลับเป็นปัญหาระดับชาติเลย โห้ยย ทำไมคนบนเกาะเค้าน่ารักขนาดนี้ นี่ที่เคยได้ยินมาว่า บนเกาะไม่มีขโมย เสียบกุญแจรถไว้ข้ามวันข้ามคืนก็ไม่หายนี่คงจะเรื่องจริงซินะ
เราก็เลยบอกว่า พวกพี่อย่าคิดมาก เราสองคนไม่ได้โกรธเลย อีกอย่างรีสอร์ทเค้าก็ขอโทษแล้วและก็บริการดีมากๆ ไม่เป็นไร อย่าคิดมากนะ แกก็บอกว่า รู้สึกผิด 55555+ ตอนลงเรือ พวกพี่ๆแท็กซี่ก็มาโบกมือส่งลา โง้ยยย น่ารักจุง ประทับใจทริปนี้มากๆค่ะ
วิวระหว่างทาง เราผ่านรีสอร์ท เดอะนาคาด้วยนะคะ เราเคยมาพักเมื่อครั้งที่แล้ว เห็นแบบนี้ก็ยิ่งคิดถึง
มาถึงร้านอาหารที่พังงา ก็ได้วิวพระอาทิตย์ตกพอดีเลยค่ะ สวยมากกก เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่เห็นไข่แดงตกน้ำ
สุดท้าย ขอบคุณความโชคดีที่ไม่ทิ้งตั๋ว ขอบคุณที่ไปเที่ยวทันภูเก็ตล็อคดาวน์ .... สัญญาว่าเราจะไปเยี่ยมคุณอีกให้ได้ค่ะ เกาะยาวน้อย
---------------------
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านจนจบนะคะ ปล. ภาพถ่ายอาจจะไม่คุมโทนนะคะ เพราะมันหลายใจ :))
Whatdayistoday Playplern
วันพฤหัสที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 15.13 น.