ผมฝันอยู่เสมอว่า...สักวันจะมีบ้านพักสงบๆ อยู่แถวชายทะเลแบบนี้
การได้มา “พรรณวนา รีสอร์ท” ในครั้งนี้ ทำให้รู้ว่าการจะสร้างฝันให้เป็นจริงได้ ไม่ต้องใช้พื้นที่ใหญ่เลย แค่มีความตั้งใจจริงและพื้นที่แบบลงตัวก็เพียงพอ
2 ไร่ กับห้องพักทั้งหมดราว 20 ห้อง มีครบทั้งสระว่ายน้ำ บ่อน้ำไว้พายเรือ คลับเฮ้าส์ และคาเฟ่เท่ๆ ส่วนตัวผมมองว่าออกแบบได้ลงตัวมากๆ ภูมิใจกับ “พี่ตั้ม” รุ่นพี่ร่วมสถาบันโรงเรียนหอวังคนนี้จริงๆ
“...พี่เปิดพรรณวนา รีสอร์ท มาได้ 5 ปีครับ แต่ซื้อที่ดินไว้นานมากแล้ว พอถึงเวลาก็อยากมาเปิดที่พักใกล้ๆ ทะเลกับเขาบ้าง (หัวเราะ) ด้วยความที่เราทำเกี่ยวกับ Landscape อยู่แล้ว จึงอยากให้ทุกพื้นที่สวยงามและได้ใช้ประโยชน์มากที่สุด...”
ผมเองอาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญการออกแบบที่พัก แต่ก็รู้ได้ว่าที่พักแห่งนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เพราะทันทีที่เข้าไปก็ประทับใจกับคลับเฮ้าส์ขนาดกำลังดี พร้อมสระว่ายน้ำขนาดเล็กๆ ที่เด็กเล่นได้สบายมาก (ผู้ใหญ่ก็เล่นได้เหมือนกัน) รวมถึงบ่อน้ำที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ เอาไว้พายเรือเล่นเพลินๆ ได้ (แต่ถ้าน้ำลดลงก็จะจอดเรือไว้ก่อนนะ...ฮา)
“...Welcome Drink ค่ะพี่หนุ่ม...น้ำมะม่วงหาว มะนาวโห่ เพิ่มความสดชื่นค่ะ...” เสียงผู้หญิงเล็กๆ ทักทายอย่างเป็นมิตรด้วยรอยยิ้ม น้องคนนี้คือ “ปาดา” ลูกสาวของพี่ตั้ม และเป็นเจ้าของคาเฟ่ชื่อเดียวกันว่า “Pada” ซึ่งเป็นภาษาเกาหลีแปลว่า “ทะเล”
อย่างไม่รอช้า ผมขอให้พี่ตั้มและน้องปาดาพาไปคาเฟ่ก่อน เพราะผมคอกาแฟอยู่แล้ว แต่ที่นี่ “Pada” มีไอเดียคอนเซ็ปต์ที่เข้าท่ามากๆ นั่นก็คือ “Coffee Meet Fruits” แปลตรงตัวได้ว่า “จับกาแฟมาเจอผลไม้” ด้วยความที่ระยองเป็นจังหวัดที่มีผลไม้ตลอดปี แนวคิดนี้จึงโผล่เข้ามาในหัวน้องปาดา วัยรุ่นอายุ 15 ปี
ผมจึงบอกน้องปาดาว่า “...ขอเมนูที่เป็น Signature ของร้าน จัดมาได้เลย!...” เพียงพริบตาเมนู “Espresso Citrusy” ก็มาอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ตรงหน้าผม รูปลักษณ์ภายนอกคือ เป็นกาแฟ Espresso เข้นข้น ผสมกับน้ำส้มอย่างได้สัดส่วน มี Layer ของสีดำกับสีส้มตัดเป็นชั้นๆ อยู่อย่างสวยงาม
“...พี่หนุ่มคะ รีบถ่ายรูปนะคะ เดี๋ยวน้ำส้มกับน้ำกาแฟจะผสมกันหมด แล้วจะไม่ได้ถ่าย (หัวเราะ)...” ผมนี่รีบหยิบกล้องขึ้นมารัวๆ แถบไม่ทันเลย และปิดท้ายด้วยการกระดก Espresso Citrusy รวดเดียวหมด ความรู้สึกที่ได้คือ...เหมือนกิน Americano เย็น แต่ได้ความ Fresh มากกว่าเพราะมีการผสมส้มเข้าไป...เอาเป็นว่าอร่อยและลงตัวสุดๆ ยิ่งได้ดื่มช่วงบ่ายๆ ร้อนๆ รับรองว่าสดชื่นได้ไม่ยากแน่นอน
ใครที่อยากลองเครื่องดื่มแบบ Coffee Meet Fruits ก็ยังมีทั้งเมนู Espresso Grapeyard กาแฟผสมส้มโอบด Espresso Colada กาแฟผสมนมมะพร้าวสัปปะรด และอีกมากมาย ส่วนผมขอจัด Cold Brew กาแฟสกัดเย็นอีกสักเซ็ท กับกาแฟ Drip อีกสักหน่อย (Drip เขาไม่ได้ขายนะครับ...อันนี้ผมอยากกินเอง เลยให้น้องบาริสต้าจัดให้)
ระหว่างทางที่เดินกลับมาที่พัก ผมเห็นการตกแต่งของ “Pada” ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายทะเลแบบ Minimal สบายๆ ไม่ดูอึดอัดจนเกินไป แฝงไปด้วยสไตล์ Beach แบบบาหลี จากไม้ไผ่ที่นำมาเป็นโครงสร้างโดยรวม แถมด้วยสไตล์ Morocco กับสีแดงอิฐนวลๆ ทำให้บรรยากาศร้านน่านั่ง ทั้งในส่วนของ Indoor และ Outdoor และยังแยกส่วนของการกินอาหารหนักๆ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้บดบังกลิ่นกาแฟหอมๆ ในแบบ Coffee Meet Fruits สำหรับลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ
คืนนี้พี่ตั้มจัดให้ผมพัก “Private Studio” เป็นห้องขนาดใหญ่ Facility ครบครัน เรียกได้ว่ามาแต่ตัวก็พอ (อย่าลืมเสื้อผ้านะ...ฮา) แล้วถ้าให้พูดถึงความเนี้ยบเรียบร้อยของพัก ผมยกให้เทียบเท่าโรงแรม 4 ดาวเลย ส่วนระบียงหน้าห้องพักก็กว้างขวาง ซื้อของมานั่งทานเล่นได้แบบสบายๆ หรือถ้ายังไม่จุใจหน้าห้องยังมีมุมปิ้งย่างให้ปาร์ตี้แบบเล็กๆ ยามค่ำคืนด้วย
สำหรับใครที่ชอบจักรยาน “พรรณวนา รีสอร์ท” มีให้ยืมปั่นกันฟรีๆ โดยแบบ “Deluxe Room” จะจอดรอไว้ที่หน้าห้อง และช่วงเย็นๆ ก็ปักหมุดกันไว้ได้เลยที่ “หาดแม่รำพึง” ห่างจากที่พักเพียง 2 กม. แต่ถ้าใครไม่อยากปั่น พี่ตั้มก็มีบริการ “รถสามล้อซาเล้ง” ไปรับส่งถึงหาดเช่นกัน
ย้อนกลับไปที่มุมปิ้งย่างหน้าห้องผมอีกครั้ง พี่ตั้มจัดเมนู Seafood มาให้แบบเต็มๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก สดและอร่อยมากๆ สมกับที่อยู่ใกล้ ‘เล อีกหนึ่งของเด็ดที่สำคัญคือ “น้ำจิ้ม Seafood” รสชาติแซ่บโดนใจจริง หากใครมาพักที่นี่แล้วไม่ได้สั่งอาหารทะเลและน้ำจิ้มสูตรพี่ตั้มแล้วล่ะก็...ถือว่ามาไม่ถึงนะครับ
“....ลูกค้าที่พัก Private Studio เราจะเตรียมพวกเตาปิ้งย่าง ถ่าน และอุปกรณ์ให้ครบเลย เขาจะซื้อของสดมาเองจากตลาดข้างนอกก็ได้ หรือจะบอกให้ทางเราเตรียมวัตถุดิบไว้ด้วยก็ได้เหมือนกัน พี่ทำให้ได้หมด...เอาเป็นว่าตามใจลูกค้าก็แล้วกัน (หัวเราะ)...” เป็นคำตอบของพี่ตั้ม หลังจากผมถามถึง Service เรื่องอาหารเย็น ฟังแล้วก็สบายใจได้เลยว่า พร้อมให้บริการในทุกแบบจริงๆ
ช่วงที่ผมเดินทางไปที่ “พรรณวนา รีสอร์ท” เป็นการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 ของสถานการณ์ COVID-19 ทางที่พักจึงมีการเปลี่ยนอาหารเช้าจาก Buffet เป็นแบบ Main Course แต่ก็ยังคงความอร่อยไว้เหมือนกันโดย “พี่เก่ง” ภรรยาคนสวยของพี่ตั้ม
“...ตรงคลับเฮ้าส์ ปกติเราจะทำอาหารเช้าแบบ Buffet แต่ช่วงนี้จะเราจะเน้นเรื่อง Social Distancing ไม่ให้มึคนมารวมตัวมากเกินไป พี่จึงให้พนักงานไปเสิร์ฟถึงห้องลูกค้าน่าจะสะดวกกว่า แต่ถ้าใครอยากมาทานที่คลับเฮ้าสก็ได้นะคะ เราจัดที่นั่งให้มีระยะห่างไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้คอยบริการด้วยค่ะ...ว่าแต่คุณหนุ่มจะรับอาหารเช้าเลยไหมคะ?”
ผมยิ้มและพนักหน้าแทนคำตอบ อึดใจเดียว American Breakfast จานใหญ่ก็มาอยู่ตรงหน้าผม กินของอร่อยไปด้วย ชมวิวสระว่ายน้ำที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่ร่มรื่นไปด้วย รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก สมกับชื่อ “พรรณวนา” ที่แปลว่า ป่าที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ และที่สำคัญเป็นชื่อของลูกสาวคนโตของพี่ตั้มที่สลับชื่อหน้าและหลัง จนกลายมาเป็นชื่อที่พักสุดเก๋แห่งนี้
ก่อนกลับ ผมขอแวะไปเติมคาเฟอีนอีกครั้งที่ “Pada” สายตามมองไปเห็นห้องพักอีกแบบที่ดูใหญ่โต น่าจะพักได้หลายคน “...ใช่เลยหนุ่ม Family Cottage เป็นห้องพักใหญ่ที่สุดของเรา จะเป็นส่วนตัวหน่อย เหมาะมากันเป็นครอบครัวมากๆ…” พี่ตั้มเฉลยให้ผมฟังก่อนที่ผมจะถามซะอีก (ฮา)
Americano ร้อนๆ หอมๆ ที่อยู่ในมือผมคงจะหมดเพียงไม่กี่นาที ในระหว่างทางที่ขับรถกลับ แต่ความรู้สึกของการได้มาเที่ยว “Pada & Panwana” รีสอร์ทและคาเฟ่ของพี่ตั้มในครั้งนี้ คงไม่หมดลงง่ายๆ ไม่ใช่เพราะความเป็นรุ่นน้องรุ่นพี่หอวังที่ผูกพันกันมา แต่ด้วยการออกแบบที่ลงตัวสวยงาม การใส่ใจในลูกค้าทุกคน การบริการและยิ้มอย่างเต็มใจ ทำให้การกลับมาที่นี่…เป็นสิ่งที่แน่นอนสำหรับผมอย่างที่สุด
“Pada Cafe & Panwana Resort” ถือว่าเป็น “ความสงบที่ซ่อนแอบ แถบ (ทะ) ‘เลระยอง” ที่ใครมาก็ต้องประทับใจ…ผม “หนุ่ม แชมป์แฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย” ขอคอนเฟิร์ม
ขอขอบคุณ : พี่ตั้ม พี่เก่ง น้องปาดา น้องปาดา สมาชิกทุกคนของ Pada Cafe & Panwana Resort ที่ดูแลเรื่องที่พัก อาหาร และทุกอย่างเป็นอย่างดี รวมถึงพี่เจี๊ยบและพี่โน รุ่นพี่หอวังที่ร่วมมาแจม ทำให้การเล่าเรื่องเก่าๆ ในรั้วโรงเรียนสนุกขึ้นอีกเป็น 10 เท่า
Nuim Navigator
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.05 น.