สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อยากออกไปติดเกาะ ที่สวยๆๆบรรยากาศดีดี การเดินทางสะดวก จขกทขอแนะนำเกาะกูดเลยค่ะ หลายๆท่านอาจจะไม่รู้ใช่ไหมคะว่าเกาะกูดอยู่จังหวัดอะไร เกาะกูดที่ว่านี้อยุ่จังหวัดตราดค่ะ อยู่ใกล้ๆเกาะช้าง เกาะหมาก นั่นเอง จะว่าไปแล้วเกาะกูดนี้เราสามารถเดินทางด้วยการขับรถไปเองก็ได้ หรือนั่งรถโดยสารประจำทางก็ได้ สะดวกมากๆค่ะ ว่าแต่หลายๆคนอาจจะสงสัยสัยว่าเกาะกูดควรไปกี่วันดีล่ะ

แต่แนะนำเวลาที่เหมาะสมในการติดเกาะกูดนั่นคือแบบ 3วัน2คืนค่ะ เพราะถ้ามาสองวันหนึ่งคืนไม่คุ้มค่าเอาซะเลยค่ะ
.......เรามาพูดถึงเรื่องการเดินทางกันก่อนนะคะ การเดินทางเราจะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอกนะคะ โดยต้องไปเช็คอินที่เคาเตอร์เรือที่ลูกค้าจองไว้นะคะ พอถึงเวลารอบเรือ ทางบริษัทเรือก็จะพาเรามาขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่จอรอเราอยู่กลางทะเลค่าาา ไปกันเลยยยย… 

ใช้เวลาเดินทางราว 45 นาทีนะคะ โดยเรือจะเทียบที่อ่าวสลัด แล้วเราก็ต้องเปลี่ยนจากเรือมานั่งสองเเถวเข้าที่พักนะคร้าาา

 

สำหรับเราพักอ่าวตะเภาก็นั่งรถจากท่าเรือมารีสอร์ทประมาณ 30 นาทีเท่านั้นเองค่าาา นี่เป็นรีสอร์ทที่เราพักค่ะ น่าพักใช่ไหมล่าาา

วันแรกเราถึงเกาะค่อนข้างไวเนื่องจากเราเข้าเกาะเรือรอบแรก บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทสวย น่าอยู่เหมาะกับการมาพักผ่อนมากค่ะ 

ริมทะเลจะมีเจ้าลูกแดงๆนี่ค่ะ สวยแปลกตาดี ซึ่งใครรู้ว่าคือลูกอะไรบอกได้เลยนะคะ ถามใครก็ไม่มีใครตอบ จขกทได้เลยย 555555
 

ถึงเกาะไวแบบนี้เราไม่รู้จะทำอะไรก็จองทริปออกไปตกหมึก ตกปลา ไปดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็นกันค่ะ

 

บรรยากาศรีสอร์ทริมคลองยายกี๋ค่ะ สองข้างทางจะเป็นป่าชายเลน สุดคลองก็จะเป็นทะเลค่ะ ธรรมชาติที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทีเดียวค่ะน้ำเป็นเงาของต้นไม้สีเขียว อากาศเย็นชื้นทั้งวันค่ะเพราะป่าเยอะ และจะได้ยินเสียงสัตว์ แมลงที่อยู่ในป่าตลอดเวลาค่ะ 

 

บรรยากาศระหว่างข้างทางที่เราออกเรือไปตกหมึกนะคะก็จะเป็นพวกรีสอร์ทริมคลอง สวยมากๆๆค่ะ

อันนี้รูปบนจะเป็นบรรยากาศร้านอาหารของกัปตันฮุครีสอร์ท ฝั่งนึงติดคลอง ฝั่งนึงติดทะเล 

อากาศบอกเลยว่าแดดทะเลยามบ่ายร้อนจับใจค่ะ แต่ก็คุ้มค่ากับน้ำทะเลสวยๆใสๆ 

ใช้เวลาครึ่งวันบ่ายไปกับการถ่ายรูป ดูน้ำทะเลสวยๆและหย่อนเบ็ดตกปลา  

ปลาที่ได้จะไม่ได้ตัวใหญ่นักค่ะเพราะเป็นการตกกลางวัน หากใครอยากตกได้ตัวใหญ่แนะนำตกตอนกลางคืนค่ะ มีโอกาสเยอะกว่าที่จะได้ปลาตัวใหญ่ 

ปลาที่ได้มาทริปนี้สามารถทำบาบีคิวบนเรือได้เลยนะคะ ฟินมากๆๆ กว่าจะปิ้งเสร็จก็ใกล้พระอาทิตย์ตกดิน

อันนี้บรรยากาศตอนแสงแดดเริ่มหมด (ภาพนี้สวยแบบ no filter) น้ำที่นี่ใสจนขนาดมองเห็นว่าใต้ทะเลมีหอยเม่นหรือปะการังจุดไหนบ้าง

พระอาทิตย์พร้อมจะค่อยๆเลื่อนลงสู่ขอบฟ้า ลมเอื่อยๆนั่งกินปลาดูพระอาทิตย์ตกดิน แหม่....บอกได้เลยว่าใครที่อยากสัมผัสความเป็นทะเลในอีกรูปแบบที่แตกต่างออกไป ทริปนี้แนะนำเลยค่ะ เรือตกปลามาส่งเราเข้าฝั่งประมาณ 18.00 น  นะคะ มะบริการส่งถึงรีสอร์ทฟรี (มื้อเย็นแนะนำถ้าไม่เช่ามอเตอร์ไซค์สามารถทานอาหารที่รีสอร์ทได้เลยค่ะเพราะการขับรถออกไปหาร้านอาหารก็ไม่ได้หาร้านง่ายๆเหมือนเกาะอื่นๆค่ะ)

วันที่สองเราจะพาไปออกทริปดำน้ำกันนะคะ ทริปที่เราจะไปกันเป็นทริปดำน้ำเกาะรังนะคะ จะอยู่ในอุทยานหมูเกาะช้างง จากเกาะกูดมาเกาะรังใช้เวลาราวๆ 45 นาทีค่ะ ปะการังที่นี่สวยใช้ได้เลยค่ะ ดอกไม้ทะเลเยอะมากค่ะ แต่วันที่ไปคลื่นแอบแรงกว่าจะหยิบกล้องมาถ่ายรูปได้ก็เกือบจะเมาเรือ 5555

 ทริปนี้เสร็จประมาณ 15.30 นะคะ แสดงว่ากลับมารีสอร์ทเรายังพอมีเวลาไปขับรถเล่นบนเกาะค่ะ ไปกันค่ะว่าจะมีที่ไหนน่าเที่ยวกัน

อันนี้เป็นหมู่บ้านชาวประมงค่ะ บรรยากาสดีมากค่ะ แต่การเดินทางอาจจะใช้เวลาค่อนข้างเยอะค่ะ เพราะหลายสิบกิโลเลยค่ะ แต่อาหารทะเลที่นี่สดและให้เยอะมากก บอกได้เลยว่าคุ้มกับที่บิดมอเตอร์ไชค์ไปจนเหนื่อยค่ะ 5555

 

ขากลับจากหมู่บ้านชาวประมง แอดขอพามาเเวะทานของหวานที่  good view cafe กันสักหน่อยค่ะ บรรยากาศเริศค่ะ ถ้ามาทันพระอาทิตย์ตกแอดบอกเลยว่าวิวจะสวยมาก

แวะสั่งชาเขียวดื่มเย็นๆแก้เหนื่อยกันสักหน่อย นั่งซึมซับบรรยากาศฟินๆ ก่อนกลับรีสอร์ทไปพักชาร์จแบต 

.

.
สำหรับวันที่สามเรากลับกันเรือรอบช้าสุด 12.00 ค่ะ ตื่นเช้ามาก็ขอออกไปสัมผัสความงามของน้ำตกทั้งสองแห่งกันสักหน่อยค่ะ 

นั่นคือน้ำตกคลองเจ้ากับน้ำตกคลองยายกี๋ค่ะ แต่ก็ได้เเค่มองนะคะ ไม่ได้ลงน้ำเพราะว่าเดี๋ยวถ้าเล่นจะเพลินจนกลับรีสอร์ทเพื่อไปขึ้นเรือไมทันค่ะ อิอิ 

คนน้อย น้ำใส เย็นสบายยยยย เงียบสงบ แต่ถ้าจะลงเล่นน้ำก็อย่าลืมใส่ชูชีพกันด้วยนะคะ ^^

สำหรับทริปนี้จบแบบฟินๆค่ะ จขกท ขอแนะนำหากคุณอยากพักผ่อนทะเลสวยๆบรรยากาศดีดี เกาะกูดเป็นเกาะๆนึงที่น่าสนใจ ด้วยธรรมชาติ คลอง ทะเล ป่า ภูเขา และวิวของรีสอร์ทที่สวยๆจะทำให้คุณอยากกลับมาติดเกาะเเห่งนี้อีกครั้งค่ะ