ไปติดเกาะที่เกาะหมาก
ไปท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน
เที่ยวแบบไม่ซ้ำเติมธรรมชาติ
การท่องเที่ยวในแบบที่โลกจะรักคุณมากขึ้น
ท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนก็คือการท่องเที่ยวที่เน้นรูปแบบการพักผ่อน ตลอดจนการทำกิจกรรมต่างๆ ที่จะไม่เพิ่มการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ อาทิ ปิดแอร์ ปิดไฟ เมื่อไม่อยู่ห้องพัก หันมาสั่งอาหารเมนูที่หาได้เองจากในท้องถิ่น ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวพร้อมใจกันเปลี่ยนค่านิยมตรงนี้ demand เปลี่ยนไป supply ก็พร้อมเปลี่่ยนตาม ผู้ให้บริการก็พร้อมใจกันส่งเสริมกิจกรรมยามไม่อยู่ห้อง เปลี่ยนเมนูอาหาร ลดพลังงาน ลดการขนส่งวัตถุดิบจากระยะไกล อย่างถ้าเป็นเกาะก็ไม่ต้องขนส่งจากฝั่ง อาหารทะเลก็จากประมงเล็กๆ รอบเกาะ ไม่ต้องมีห้องเย็น เหล่านี้ก็ลดการใช้น้ำมัน ลดคาร์บอนในที่สุด
ไฟฟ้าบนเกาะนี้หลายๆ ผู้ประกอบการก็หันมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ น้ำในสระว่ายน้ำของหลายๆ รีสอร์ทก็ใช้พลังงานจากโซล่าเซลในการทำความสะอาด
กิจกรรมสนุกๆ ต่างๆ บนผิวน้ำก็จะเน้นพลังงานสะอาด ไม่มีสกู๊ตเตอร์เบิ้ลน้ำมัน ไม่มีเจ็ทสกีเบิ้ลน้ำมัน
นอกจากนี้ผู้ประกอบการบนเกาะยังพร้อมใจจัด happy hour เชิญชวนนักท่องเที่ยวปิดแอร์ ปิดไฟ ช่วงบ่ายๆ ออกมาท่องเที่ยวชมเกาะ โดยลดค่าบริการอาหาร เครื่องดื่ม กิจกรรมต่างๆ
การท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนจะเกิดได้ต้องมาจากความพร้อมใจกันร่วมมือทั้งจากนักท่องเที่ยวเอง ผู้ประกอบการ และคนในชุมชนนั้นๆ
ปัจจุบันเกาะหมากคือต้นแบบ low carbon destination ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปีที่ //ประมาณ 5 แล้วครับ เกาะหมากไม่ได้ต้องการการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งคงทนกว่าคือการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดำเนินกิจกรรมกระทบธรรมชาติให้น้อยที่สุด แหล่งท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน
โลกเราร้อนขึ้นทุกปี ทุกคนรู้ดีแล้ว ไทยเราก็ร้อนขึ้นทุกวัน หน้าหนาวแต่ละปีมาเพียงสั้นๆ หยิบเสื้อกันหนาวมาใส่ได้ไม่กี่วันก็เข้าสู่หน้าร้อนทันที ส่วนหน้าฝนวันไหนฝนไม่ตก ก็นับเป็นหน้าร้อนดีดีนี่เอง
ภาวะโลกร้อน ก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ คือก๊าซอันดับหนึ่งที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก กักกั้นรังสีความร้อนสะท้อนกลับมายังผิวโลก
พวกเราเหล่ามนุษย์ท่องเที่ยว สามารถช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนนี้ได้
มาเป็นนักท่องเที่ยวหัวใจรักษ์โลก
Low Carbon Tourist
อพท. หรือองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยสำนักงานบริหารพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงและความร่วมมือของ ISMED สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้ริเริ่มแบรนด์ เกาะหมาก Low Carbon Destination ดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวที่สามารถดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ตามหลักการคงความสมดุลของสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม จนส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวที่สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และนำไปสู่เป้าหมายการสร้างแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
เกาะหมาก โลว์คาร์บอน
เกาะที่ไม่ถูกตามใจ
Unspoiled Island
กลางเมษา ฮาวาย high season ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสตามใจตัวเองอีกครั้ง ด้วยการกลับมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 10 เดือน สู่เกาะหมาก เกาะที่ไม่ถูกตามใจมาในฐานะ 1ใน10 บล็อกเกอร์อาสารักษ์โลก
กลับมายืนที่เดิม กับมุมเดิมๆ ที่เริ่มรู้สึกเหมือนเกาะนี้เป็นบ้านอีกหลังหนึ่ง บ้านของธรรมชาติและผู้คนที่คุ้นเคย
People come as quest ... come back as friends
ครั้งนี้เดินทางมาในฐานะทราเวลบล็อกเกอร์อีกครั้ง ตามคำเชิญชวนของอพท.อีกหน กับ
ภารกิจติดเกาะ
Low Carbon Castaway
ปะ ปะ ไปกัน ขึ้นเกาะ พร้อมกันที่แหลมงอบ ตรงท่าเรือกรมหลวงชุมพรฯ นั่งสปีดโบ๊ท 50 นาทีถึงเกาะหมาก
เรือเร็วมีวันละ 16 เที่ยว ไป 8 เที่ยว กลับ 8 เที่ยว
เรือเร็วขาไปเที่ยวแรกสุด 10.30 เที่ยวสุดท้าย 16.00
เรือเร็วขากลับเที่ยวแรกสุด 8.00 เที่ยวสุดท้าย 13.30
เรือมี 4 บริษัท สลับกันออกตามตารางเวลา ดูตารางเวลาในแผนที่ข้างล่าง
เรือลีลาวดี ขึ้นเกาะที่ท่าหน้ามากะธานีรีสอร์ท (สีแดง)
เรือปาหนัน ขึ้นเกาะที่ท่าหน้าเกาะหมากรีสอร์ท (สีเหลือง)
เรือสวนสุข และเรือSeatales ขึ้นเกาะที่ท่าเรืออ่าวนิด
ในหน้าโลว์ หรือ Green season เรือทุกลำขึ้นเกาะที่ท่าเรืออ่าวนิด
รายละเอียดเรือ ดูเพิ่มเติมได้ที่เวป ilovekohmak อีกที่หนึ่ง >> http://goo.gl/ucRP6v
ส่วนเรือ Seatales สามารถเช็ครายละเอียดได้ที่เพจ https://www.facebook.com/seataleskohmak/
หรือโทร
ลีลาวดี 095-707-7036
ปาหนัน 087-614-7641
สวนสุข 06-1428-8048
Sea Tales 091-010-6455
ทายสิเรามาเรือไร ลีลาวดีเที่ยวแรกสุด โอ้ว ตอบกันถูกหมด มาขึ้นที่นี่ มากะธานี เรือออกเลทนิดหน่อย แล่นราว 50นาที สปีดโบ๊ท 60ที่นั่ง มาขึ้นเกาะเอาตอนแดดเปรี้ยงเกือบเที่ยงพอดี แดดแรงหัวแดงแจ๋ ถ่ายมาไม่สวย เคยมาพักที่นี่หนก่อนเลยเอาภาพหนนั้นมาปลากรอบหน่อยนะครับ อิอิ
มาคราวนี้ไม่ได้มาคนเดียว อพท.มายกพล 10 บล็อกเกอร์มาปล่อยเกาะ มาติดเกาะกันราว 4-5 วัน แบ่งสายรับกระจายกัน 4 ทีม รับภารกิจสื่อสารเรื่องราวดีดีของเกาะหมาก เกาะโลว์คาร์บอนแห่งนี้ให้โลกโซเชียลโดยเฉพาะเพื่อนๆ ผู้รักธรรมชาติและแสวงหาที่เที่ยว ใสใส หัวใจอนุรักษ์ เกาะหมากแห่งนี้นับเป็นต้นแบบ Low Carbon Destination ที่ตอบโจทย์ขานรับกระแสท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่กำลังมาแรง 10 บล็อกเกอร์แบ่งสายกันเป็น 4 ทีม
- Eat it fresh ท่องหมู่เกาะ กินทะลุพิกัด บล็อกเกอร์สายกินออกพิสูจน์ความสดของวัตถุดิบที่หาได้ในถิ่น
- Cycling Island ตะลุยเกาะนักปั่น บล็อกเกอร์สายปั่นออกกำลังน่องปั่นสัมผัสรอบเกาะ
- Man & Wild ท้าทายยอดเขาสูงกลางทะเล ข่าวว่านอกจากดั่นด้นขึ้นเขาแผนที่แล้วยังดำดิ่งพิสูจน์ความงามใต้ทะเล
- Light Chaser นักล่าแสง สุดแดนตะวันออก ภารกิจกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร นายน้ำฟ้าถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ล่ะฮะ
Light Chaser ล่าแสง! เราก็มาตีโจทย์ ตีความกัน ล่าแสง ล่ายังไง ไล่ตามตะวันหรือ แสงในที่นี้น่าจะเป็นแสงแห่งการถ่ายภาพนั่นเอง ดังนั้นภารกิจหลักของทีมเราจึงโฟกัสไปที่บันทึกภาพ ถ่ายทอดมุมสวยๆ ของเกาะหมากมาฝากกัน
นกแอ่นแปซิฟิค นกรับแขกประจำเกาะหมาก มาทีไรต้องได้เจอทุกทีไป
เอาล่ะครับ เที่ยงพอดี ตะวันตรงหัว เงาสั้น คอนทราสจัด ไม่ใช่เวลาถ่ายรูปสวย ใช้เวลาช่วงนี้เคลื่อนย้ายกายจากท่าเรือไปโยนกระเป๋าเข้าที่พักกันก่อน
เราเลือกพักที่ Cinnamon Art resort & Spa คุ้นเคยกันดีเพราะผมเคยมาพักที่นี่แล้วหนนึง แต่ละสายแต่ละทีมแยกย้ายกันพักคนละที่
a place you feel like home
The Cinnamon Art Resort & Spa
ครั้งแรกมาพักยังเป็นคนแปลกหน้ากัน กลับจากคราวนั้นก็แอดเฟรน ทักทายกันบ้างจนกลายเป็นคนคุ้นหน้า
ภาพความทรงจำเก่าๆ กลับมา ยังจำ front beach หลังนี้ได้
และซากเรืออับปางลำนี้ได้ ที่เกยตื้นสงบนิ่งอยู่หน้าอ่าวตั๋น ตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก
กับภาพสะพานที่ยาวที่สุดในเกาะหมาก ทริปนี้เราจะกลับมาเซลฟีที่นี่อีกครั้ง แต่ตอนนี้เรามาแค่โยนกระเป๋าเท่านั้น พร้อมละ ออกปฏิบัติภารกิจกัน
กล้องพร้อม กระติกน้ำยังชีพพร้อม นี่คือกระติกประหยัดขยะ พกกระติกน้ำติดตัวลดการทิ้งขยะขวดน้ำได้
แต่ก่อนอื่น สต๊าฟน้องB บอกว่า... ไปกินข้าวกันก่อนนะพี่นะเดี๋ยวไม่มีแรงล่าแสงนะ
กินข้าวไปก็มองแดดไปมันเพลียหัวใจ แดดบ่ายอ่อนๆ กลางเมษา แสงยังร้อนแรง หลบใต้ร่มบังเงาในร้านครัวเจ๊แหม่มกินซีฟู๊ดกันต่อไป
ครัวเจ๊แหม่ม เป็นร้านธรรมดาๆ ข้างทาง ใครชอบประหยัดมาเลย จากหน้ามากะธานีเดินตรงมาตามทาง 300 เมตรถึงละ ร้านอยู่ขวามือ
ซีฟู๊ดอร่อยๆ สดๆ ราคาเบาๆ แบบชาวบ้าน พิกัดร้าน https://goo.gl/lJn3Mc
ที่ข้างร้านเจ๊แหม่ม มีสนามโล่งๆ เห็นป้าย
Koh Mak Disc Golf
@ Holiday Beach Resort
น้องสต๊าฟบอกว่าระหว่างรอแสงแห่งการถ่ายภาพจะขอถือโอกาสเชิญชวนมาแนะนำให้รู้จัก ความสนุกแบบโลว์คาร์บอนรูปแบบใหม่ล่าสุดกัน นั่นคือ
การเล่นจานร่อนในกฎกติกาแบบเดียวกับการเล่นกอล์ฟ กีฬาชนิดนี้กำลังเริ่มเป็นที่นิยมในเมืองฝรั่งหลายๆ ประเทศ สำหรับเมืองไทยกำลังเริ่มเข้ามา มีที่ไหนบ้างไม่รู้ ที่รู้แน่นอนคือมีที่เกาะหมากนี่แล้ว บริการโดย Holiday Beach Resort
สนามเล่นอยู่ที่ข้างร้านเจ๊แหม่ม ก่อนเล่นก็ไปติดต่อที่ฮอลิเดย์ก่อนครับ พร้อมกับทดลองซ้อมเล่นกันที่นั่น ฮอลิเดย์บีชก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอีก ออกจากมากะธานีแทนที่จะตรงไปครัวเจ๊แหม่มเราก็เลี้ยวซ้าย ไม่ถึงครึ่งกิโลก็ถึงฮอลิเดย์แล้ว
ฟิ้ววว!! ทดลองเล่นจานร่อนกันหน้าหาด ที่ฮอลิเดย์ บีช จำเปลนอนสองอันมุมเดิมตรงนี้ได้ ยังคงอยู่ที่เดิม กับรีสอร์ทที่มีลานสนามหญ้าสุดกว้าง กับเปลญวณผูกต้นมะพร้าวแบบนี้
หลังจากซ้อมมือเป็นที่เรียบร้อย เราก็ย้ายมาสนามจริง เล่นกันเลยครับ หนุกหนุก ฮาๆ ประสาคนยังไม่คล่อง ชู๊ดจานร่อนให้ลงห่วง
เราใช้ห่วงแทนหลุมกอล์ฟ หลุมนี้พาร์ 3 ระยะ 60m. ครับ ชู๊ดลงนะนั่นนายน้ำฟ้า 555
นับว่าเป็นกิจกรรมให้ความสนุกสนานแบบรักษ์โลก คลีนๆ กรีนๆ น่าสนับสนุนครับ
ผมทำแผนที่สนาม Disc Golf ไว้ให้ดู
หลังจากเล่นดิสกอล์ฟกันเสร็จก็เซอร์ไพร๊ซ์ครับ กระบอกภารกิจแรกโผล่มาไม่ทันตั้งตัว
Mission #01
ล้อเล่นลมล่าแสงสุดท้าย
Small Catamarans Sailboat
อีกหนึ่งกิจกรรมบนผิวน้ำ ความสนุก สุข บนพลังงานสะอาด 0% คาร์บอน
ภาพประทับใจทุกครั้งที่เดินทางมาเกาะหมากคือ ทะเลที่สบายตา ที่นี่ คุณจะไม่เห็นบานาน่าโบ๊ท เจ็ทสกี ที่นี่ มีแต่คายัค เรือใบ
เอาล่ะครับ ภารกิจแรกล้อเล่นลมที่เราได้รับมาก็คือออกสัมผัสกิจกรรมบนผิวน้ำด้วยเรือใบเล็กชนิดสองท้อง catamarans sailing boat
จุดปล่อยเรืออยู่ที่
Koh Mak Cococape Resort
ประสบการณ์แรกในการแล่นเรือใบสำหรับผมเลย ก็เลยไม่กล้าเอากล้องใหญ่ลง กลัวร่ม กลัวกล้องพัง ดีว่ามี GoPro มาด้วย ภารกิจแรกนี้เลยต้องพึ่งพาภาพจากเจ้ากล้องกันน้ำตัวน้อยนี้ ได้ภาพนิ่งมาจากการแคปเจอร์จากคลิบวีดีโออีกที สีสันแปร่งๆ ขออภัยด้วยนะครับ ฮวี่
เรือชนิดนี้ขึ้นได้คราวละ 3 คน คนบังคับเรือบอกว่าที่เกาะหมากนี้อ่าวทางด้านนี้ หมายถึงอ่านสวนใหญ่ เป็นบริเวณที่น่าเล่นเรือใบที่สุด ลมไม่แรงคลื่นไม่สูง น้ำไม่ลึกมาก ทัศนียภาพสวน แถมแล่นข้ามเกาะไปขึ้นเกาะขามก็ใกล้นิดเดียว สองกิโลกว่าๆ ก็ถึงแล้ว เกาะขามนี่ถ้าฝรั่งยังนิยมมาพายคายัคจากหน้าเกาะหมากรีสอร์ท ตรงจุดนั้นไม่ถึงสองกิโลก็ถึงเกาะขาม
หลับตาฟังเสียงคลื่นรีดลม อาบลมห่มแดดเย็น เพลานี้บอกเลยว่าสุดฟิน ปล่อยเวลาไหลไปเรื่อยๆ
แล้วก็มานอนทิ้งตัวบนเกาะขาม อาร์
เส้นทางที่แล่นใบก็ประมาณนี้นะครับ เส้นเหลืองๆ คนบังคับเรือคุยว่าเค้าเคยแล่นไปตั้งโน่นแหน่ะ เกาะช้าง
ช่วงนี้เฟสบุ๊คเริ่มมี Live กำลังเริ่มนิยม ผมงี้เลยมา Live ครั้งแรกบนเรือใบกลางทะเล ได้น้องเอ้ ทีมงานจากรายการ All Area ออกอากาศทางช่อง True Travel Channel มาช่วย Live ให้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังเป็นเพื่อนแล่นเรือใบ
ได้เวลาบ่ายหน้าเข้าหาฝั่ง มารอเก็บแสงสุดท้ายกัน
ปลายสะพานโคโค่เคป มีบาร์ค๊อกเทลบริการเครื่องดื่มในราคาไม่แพงด้วย ผมงี้ตรงไปหยิบเครื่องดื่มโปรดมานั่งจิบไปชมตะวันไป ระหว่างนี้ก็ตั้งกล้อง GoPro เก็บวีดีโอ Timelape ไป เมฆเยอะไปหน่อย ถึงเยอะมาก มาเป็นม่านขมุกขมัวเลย ออกันตรีมอยู่ตรงขอบฟ้าตะวันตก สืบเนื่องจากมีพายุฤดูร้อนเข้ามาในแถบไทยเราพอดี นี่ล่ะครับสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
แสงสุดท้าย กับวันเมฆเยอะ
เปักหลักล่าแสงสุดท้ายกัน ณ ปลายสะพานโรแมนติก โคโค่เคปรีสอร์ท
หากคุณจะหลงรักเกาะไหนสักเกาะ
มาท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน เที่ยวแบบไม่ซ้ำเติมธรรมชาติ
เกาะหมากแห่งนี้ก็พร้อมจะหลงรักคุณ
ปิดท้ายภารกิจล่าแสงวันแรกด้วยคลิป Timelapse ตะวันลาลับฟ้าเฉี่ยวเกาะผี
มุมมองจากปลายสะพาน ณ โคโค่เคปรีสอร์ท
แล้วพบกันใหม่รีวิวตอนหน้า กับ Mission #02 กัน
ขอขอบคุณ อพท. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และ ISMED แม่งานหลักในทริปครั้งนี้ครับ
เกาะติดภารกิจติดเกาะของบล็อกเกอร์ทั้งหมดได้ที่เพจโลว์คาร์บอนช้างหมากกูด>> https://www.facebook.com/lcd.chang.mak.kood/
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.42 น.