‘ดินแดนหาดเขาถ้ำ’ หากจะหาจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ครบ จบทุกแบบในจังหวัดเดียวกัน ไม่ห่างจากกรุงเทพมากนัก ‘ประจวบคีรีขันธ์’ จังหวัดที่ยาวและแคบที่สุดของประเทศไทย น่าจะเป็นจุดหมายที่ควรต้องปักหมุด สำหรับการท่องเที่ยวสักหนึ่งทริป ด้ามขวานทองแห่งนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ชวนให้ออกไปตามหา มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน ทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งชายหาดขาวละเอียดทอดยาวไปกับทะเล ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ ผู้คนมีอัธยาศัยไมตรี อาหารรสเลิศ การเดินทางครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเติมพลังชีวิต ชาร์จแบตให้กับร่างกาย ชวนไปดูเมืองประจวบในมุมมองของเรา เพราะเราเชื่อว่าประจวบไม่ได้มีดีแค่ทะเล ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเรา ในทริป 3 วัน 2 คืน ถ้าพร้อมแล้วเตรียมบิดกุญแจ สตาร์ทรถแล้วออกเดินทางกัน
Highlight สถานที่ ที่ไม่ควรพลาด
1. ถ้ำพระยานคร
2. ลุงชาโฮมสเตย์
3. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
4. จุดชมวิวเขาแดง
5. ร้านกาแฟ Valista
6. อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
7. ครัวลุงหมึกป้าหลอด
8. โรงแรม แอทที บูทีค โฮเทล
9. อ่าวมะนาว
10. หาดปราณบุรี
Day 1
เตรียมพร้อมออกเดินทาง
กระเป๋าคู่กายใบเก่งนอนยิ้มแฉ่งอยู่ท้ายรถ นาฬิกาบนข้อมือส่งสัญญาณว่า ได้เวลาออกเดินทางแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน! ก่อนเดินทางเรามาเช็คความพร้อม เพราะการท่องเที่ยววิถีใหม่ จะต้องปลอดภัยและห่างไกลจากเชื้อโรค อย่าลืมใส่หน้ากาก พกเจลล้างมือ ทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน จุดหมายปลายทางที่ปักหมุดไว้ในทริปนี้ หลายต่อหลายแห่งตั้งอยู่เขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งตอนนี้ทางอุทยานเตรียมความพร้อมการท่องเที่ยวแบบ New Normal ที่เราจะต้องจัดการจองล่วงหน้า ผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ เลือกอุทยานปลายทาง กรอกรายละเอียดตามคำแนะนำ เลือกเวลาที่เดินทางเข้าอุทยาน และเมื่อทุกอย่างครบถ้วน จับพวงมาลัยให้มั่น ออกเดินทางกันเลย
เขาสามร้อยยอด อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย
สามร้อยยอดมีเรื่องเล่าถึง 3 ตำนาน บ้างก็ว่าที่นี่มีทิวเขาสลับซับซ้อนมากมายถึงสามร้อยลูก บ้างก็ว่าพายุคลื่นลมทะเลซัดจนเรืออับปางลง มีผู้รอดชีวิตเพียง 300 คน และบ้างก็ว่าที่นี่มีต้นสามร้อยยอดขึ้นอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่ว่าจะตำนานไหน ธรรมชาติที่สามร้อยยอดก็เต็มไปด้วย ทะเล ภูเขา ป่า และทุ่งน้ำจืด ทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์นี้ ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 4 และเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศ จุดหมายแรกของการเดินทางของเราก็คือ ‘ถ้ำพระยานคร’ สถานที่สำคัญที่ปรากฏอยู่บนตราประจำจังหวัด เป็นไฮไลท์สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เพียงสามชั่วโมงกว่าเราก็มาถึงหาดบางปู จุดนัดพบก่อนออกผจญภัย การเดินทางสู่ถ้ำพระยานครจากหาดบางปู ขาไปเราเลือกเสียเหงื่อเล็กน้อย ขึ้นเขาลูกน้อยๆ ข้ามไปยังหาดแหลมศาลา จากเขาลูกนี้มองมาทางซ้าย จะเห็นเห็นวิวของหาดบางปูได้ไกลสุดสายตา หากหันมามองไปขวา ต้องเผลอยิ้มกว้างกับวิวหาดทรายสีขาว ทอดตัวยาวไปกับแนวต้นสน ตัดกับท้องทะเลสีฟ้า มีฉากหลังเป็นเกาะน้อยใหญ่ภายใต้ท้องฟ้าสีสดใส
ตามรอยเสด็จ สู่ถ้ำพระยานคร
ระยะทาง 430 เมตร บนแผ่นหินขรุขระ ที่เต็มไปด้วยเงาไม้ร่มรื่น เวลาผ่านเกือบ 1 ชั่วโมง ก็มาถึง ‘ถ้ำพระยานคร’ ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ขณะที่พระยานครศรีธรรมราชแวะพักหลบพายุ จึงมาพบถ้ำแห่งนี้ ความงามของถ้ำเป็นที่เลื่องลือ จนเจ้านายมาหลายพระองค์ต้องเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง
ภายในถ้ำถูกแบ่งออกเป็นสองห้องใหญ่ โพรงหินขนาดใหญ่ที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างขึ้น แสงแดดส่องผ่านปากปล่องลงมา ทำให้เกิดต้นไม้น้อยใหญ่ในภายในถ้ำ ที่ปากปล่องเราจะเห็นสะพานมรณะ ทอดผ่านปากปล่องถ้ำ ที่สามารถพบได้เพียงไม่กี่แห่งในประเทศ ลึกเข้าไปในถ้ำอันมืดมิด บนพื้นดินขรุขระเหมือนหลังจระเข้ แสงสว่างปลายอุโมงค์กำลังพาเราค่อยๆ เดินเข้าไปยังโพรงถ้ำข้างใน ลมพัดเอื่อยๆ พาเอาความเย็นจากในถ้ำ เข้ามาปะทะตัวเป็นระยะๆ แสงทอดลงจากปากปล่องถ้ำ ตกกระทบมายังอาคารทรงไทย ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินดินกลางถ้ำ พลับพลาพระที่นั่งทรงไทยองค์นี้ ถูกออกแบบและสร้างจากกรุงเทพ แล้วยกขึ้นมาประกอบเป็น ‘พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์’ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงเสด็จมายกช่อฟ้า และจารึกพระปรมาภิไธยไว้บนผนังถ้ำ ความงดงามของพระที่นั่ง ภายใต้ความอัศจรรย์ของถ้ำ เกิดเป็นบรรยากาศที่เหนือจินตนาการ ความเหน็ดเหนื่อยที่มีทุเลาลงทันตา คุ้มค่ากับการเดินทางขึ้นมา ถ้ำพระยานครแห่งนี้จึงเป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดไปเยือน
น้ำ คือชีวิต
‘ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว’ ตั้งอยู่ในทุ่งสามร้อยยอด ทุ่งน้ำจืดขนาดใหญ่ทางทิศตะวันตก ของ ‘อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด’ เมื่อมาถึงที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมธรรมชาติ จากเส้นทางเดินศึกษาพันธุ์ไม้น้ำและนกนานาชนิด บนสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปในทุ่ง ระหว่างทางก็จะมีศาลาให้แวะพักชื่นชมธรรมชาติ หรือจะเลือกลงเรือไปสัมผัสความงามจากธรรมชาติรอบทุ่งได้เช่นกัน
รอบๆ ทุ่งมีภูเขาสามร้อยยอดสูงตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง สะท้อนผิวน้ำเกิดเป็นความงามที่ถูกรังสรรค์จากธรรมชาติ ทุ่งสามร้อยยอดยังเปรียบเหมือนพื้นที่ชีวิต ที่มีความหลากหลายของระบบนิเวศ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้น้ำ จำพวก อ้อ กก สาหร่าย และบัวชนิดต่างๆ เป็นแหล่งอาศัยของนกใหญ่น้อย ปลานานาชนิด และวิถีชีวิตของคนที่นี้ได้อยู่ ได้พึ่งพิงกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้านล้าน
หลับฝันดีที่ ‘ลุงชาโฮมสเตย์’ ที่พักทำเลดีที่สุดในเขาสามร้อยยอด บ้านพักที่ทำด้วยไม้ขนาดกะทัดรัด พี่เเก้มผู้เป็นทุกอย่างของที่นี่ ลงมือสร้างเองทุกขั้นตอน มีบ้านพักให้บริการแค่สามหลัง ที่พักไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ไม่มีน้ำอุ่น มีภูเขา มีทุ่งน้ำ มีธรรมชาติ มีการดูแลเหมือนคนในครอบครัว
แดดร่มลมตก พี่แก้มอาสาพาเราล่องเรือในทุ่งสามร้อยยอด พาไปชมทุ่งน้ำจืดอันกว้างใหญ่ เรือค่อยๆ พาเราออกเดินทาง พี่แก้มอธิบายถึงวิถีชีวิตของคนที่นี่ ถ้อยทีถ้อยอาศัยพึ่งพิงธรรมชาติกันอย่างพอเพียง ไม่ต้องหรูหราแต่เต็มไปด้วยความสุข
เฆมกลุ่มใหญ่เริ่มก่อตัว ลมฝนเย็นๆ พัดกระทบหน้า ทีวีวิวจอยักษ์แบบ 360องศา นั่งมองจากสะพานไม้ไผ่ ที่ทอดยาวลงไปในทุ่งน้ำ แทบจะหมดหวังจากวิวแสงสุดท้ายของวัน แต่แล้วก็เหมือนฟ้าจะเป็นใจ ภาพแสงสุดท้ายจากขอบเขา ก็แหวกห่าฝนและกลุ่มเฆม ออกมาให้เราได้พบเห็น มันช่างงดงามสมคำร่ำลือ
Day 2
เขาแดง 360 องศา
เขาหินปูนลูกเตี้ยๆ ที่มีหน้าผาสีแดง กลายเป็นที่มาของชื่อภูเขา หมู่บ้าน วัด และคลอง ในย่านนี้ ยอด ‘เขาแดง’ เป็นจุดชมวิวชื่อดัง ของอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด การจะขึ้นเขาแดงไม่ยากเย็น จากพื้นดินค่อยๆ เดินไต่ระดับความสูงบนทางหิน ไม่นานนักเราก็ขึ้นมาถึง ‘จุดชมวิวเขาแดง’
เราสามารถนั่งมองวิวรอบตัวได้แบบ 360 องศา ด้านหน้าจะเห็นชายฝั่งทะเลยาวออกไปไกลสุดสายตา ด้านหลังเป็นทิวเขาสามร้อยยอดสลับซับซ้อน แม้ฟ้าวันนี้จะไม่เป็นใจ ให้เราได้กล่าวทักทายพระอาทิตย์ การได้นั่งมองวิวธรรมชาติ 2 รูปแบบ จุดชมวิวเขาแดงจึงเป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด
เติมความสุข ระหว่างการเดินทาง
‘ง่วงจอดพัก’ เห็นป้ายนี้ทีไรง่วงทุกที ขับรถบนถนนที่เป็นทางตรงยาวๆ ของประจวบ ต้องหาจุดแวะเติมพลัง คาเฟ่สีเหลือง ‘Valista Coffee’ คาเฟ่บรรยากาศดีริมถนนเพชรเกษม เมนูของทางร้านมีให้เลือกหลายแบบตามความชอบ เครื่องดื่มรสละมุน ขนมอร่อย จัดวางมาอย่างสวยงาม พร้อมให้ได้ถ่ายภาพเช็คอิน ถ้าได้มาประจวบอยากให้ลองเก็บร้านนี้ไว้ในเช็คลิสต์
กุยบุรี ซาฟารีเมืองไทย
‘กุยบุรี’ ผืนป่าพิเศษที่เกิดจากฟื้นฟูพื้นที่แห่งความขัดแย้ง ระหว่างชาวไร่สับปะรดในพื้นที่ กับช้างป่าที่ลงมากินพืชผลของชาวบ้าน จนเกิดเป็นโครงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และจัดตั้งขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 90 ของไทย ในปี 2541 ปัจจุบันป่ากุยบุรีกลายเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเต็มไปตัวฝูงช้างป่า กระทิง วัวแดง สัตว์นานาชนิด ที่ได้อยู่ได้หากินกันอย่างมีความสุข ทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า ‘ซาฟารีเมืองไทย’
กิจกรรมไฮไลท์ ของการมาเยือนที่นี่ คือ การนั่งรถชมสัตว์ป่า เกิดจากความร่วมมือระหว่างอุทยานและชาวบ้าน กิจกรรมชมสัตว์ป่าจะเริ่มในช่วงบ่ายของวัน รถกระบะ 4 ล้อ ค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ การรอคอยอย่างใจจดจ่อก็เริ่มขึ้น สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าโปร่ง สลับทุ่งหญ้าสีเขียว ระหว่างทางเรามีโอกาสพบกับครอบครัวช้างป่า กำลังเดินหากิน โดยมีช้างตัวผู้เป็นจ่าฝูงเดินนำ ตามมาด้วยช้างที่มีขนาดลดหลั่นกันลงมา ลูกช้างตัวน้อยจะเดินอยู่กลางฝูง รายล้อมไปด้วยช้างพี่เลี้ยง ที่คอยดูแลระวังภัย นักสื่อความหมายชุมชนบอกกับเราว่า ถ้าเจอช้างป่าให้เราสังเกตอารมณ์ของมัน หากเห็นมันยืนกระดิกหาง สะบัดหูไปมา บ่งบอกว่ากำลังอารมณ์ดี แต่ถ้าเห็นช้างป่าหูผึ่งไม่สะบัด หางชี้ตรง แปลว่ามันกำลังอารมณ์ไม่ดี เลี่ยงได้เลี่ยงก่อนเลย
อีกไฮไลท์สำคัญ ที่ทำให้เราเดินทางมาที่นี่ คือ ฝูงกระทิง ใฝ่ฝันอยากจะเห็นกระทิงตัวเป็นๆ มานานมาก ปกติจะเห็นเฉพาะในร้านสะดวกซื้อ วันนี้จึงต้องจดจ่อกับสองข้างทางมากเป็นพิเศษ รถกระบะ 4 ล้อค่อยๆ เคลื่อนไปยังจุดชมสัตว์ จนเราได้พบกับกระทิงฝูงใหญ่ กำลังแกว่งหางเล็มหญ้า มีกระทิงตัวใหญ่น้อยคละกันไป มีชำเลืองขึ้นมามองบ้างเป็นระยะ
Seafood ริมทะเล
อาหารทะเลราคาไม่แรง ที่คนประจวบบอกต่อ ‘ครัวลุงหมึก ป้าหลอด seafood’ ร้านอาหารทะเลริมอ่าวประจวบ สารพัดเมนูซีฟู้ด ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา อยากกินอะไรเขาทำให้ได้ทุกจาน อาหารก็สดเหมือนเพิ่งยกขึ้นมาจากทะเล รสดี น้ำจิ้มซีฟู้ดจัดจ้าน ที่สำคัญราคาถูกน่าตกใจ ตกใจมากจริงๆ ยกให้เป็นอีกร้านประทับใจที่ต้องกลับมา
นอนชิลล์ริมทะเล AT T Boutique Hotel
โรงแรมแสนเงียบสงบ ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงบนหาดคลองวาฬ ‘AT T Boutique Hotel’ พื้นที่แห่งการพักผ่อนหย่อนกาย นอนชิลรับลมทะเล มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย ห้องกว้างขวางตกแต่งเรียบหรู สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ครบครัน หลับสนิทนอนสบาย ในราคาจับต้องได้
Day 3
อยากเห็นเครื่องบิน เช็คอินอ่าวมะนาว
อดีตสมรภูมิรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเพื่อใช้ไทยเป็นทางผ่าน วีรชนชาวประจวบได้ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสุดกำลัง จากกองบินน้อยที่ 5 ในอดีต ปัจจุบันเป็นกองบิน 5 กองทัพอากาศ หากแวะเวียนมาเยือนเมืองประจวบ ต้องไม่พลาดอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ‘อ่าวมะนาว’ หาดโค้งทอดยาว ทรายขาวเนื้อละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด คลื่นลมไม่แรง ริมหาดร่มรื่นด้วยร่มเงาต้นสน ที่นี่ไม่มีเครื่องเล่นและการทำประมง อ่าวมะนาวอยู่ในเขตกองบิน 5 กองทัพอากาศ เราจึงมักจะเจอเหล่าบรรดาเครื่องบินบินอวดโฉมเหนือท้องฟ้าในอ่าวนี้ จึงเป็นหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเหมาะกับทุกคนในครอบครัว
ปราณบุรี ไมอามี่เมืองไทย
ที่นี่ ‘ปราณบุรี’ ชายหาดแสนสงบจนได้รับความนิยม ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหัวหิน หาดทรายสีขาวทอดตัวยาวจากปากน้ำปราณไปจรดเขากะโหลก ถนนและทางเดินริมหาด ยาวเลียบไปตามแนวทะเล ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ จนได้รับสมญานาม ‘ไมอามี่เมืองไทย’
AVIS ให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องสนุก
การเดินทางตลอดทริป 3 วัน 2 คืน ในประจวบคีรีขันธ์ สนุกสุดเหวี่ยง และปลอดภัย ด้วยบริการรถเช่าจาก AVIS บริการรวดเร็วและใส่ใจ จองรถง่ายๆ แค่คลิกไปที่ http://www.avisthailand.com/TH... แล้วกรอกรายละเอียด เพียงเท่านี้ก็ได้พาหนะคู่ใจขับสนุกทั่วไทย จะใกล้จะไกลหายห่วงราบรื่นปลอดภัยเมื่อเดินทางด้วย AVIS
ชวนเพื่อนร่วมแชร์บทความ ถ้ำ เขา เรา ทะเล จากเราได้อีกหนึ่งช่องทางเลยจ้า
#memyselfi #แค่อยากออกไป #ประจวบคีรีขันธ์
#amazingไทยเท่compettion2020 #10สไตล์เที่ยวไทยเท่ #เที่ยวไทยสวยทุกที่เท่ทุกสไตล์
ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางได้ที่นี่เลยจ้า แค่อยากออกไป
แค่อยากออกไป
วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 10.14 น.