สวัสดีทุกคน ... กลับมาจากการเที่ยวที่ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่บนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ แถมกลับมายังต้องมาลุยงานอย่างหนักหน่วงอีก เพราะผมต้องทำงานที่ต้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้รู้สึกว่าเริ่มมีอาการปวดบ่า คอซะแล้ว อีกอย่างผมเองก็ไม่ได้ยืดกล้ามเนื้อสักเท่าไหร่ วันนี้เลยต้องไปเข้ารักษาตัวเองซะหน่อย เราเลือกวิธีการนวดรักษา ที่คลินิกแพทย์แผนไทย เลยนำมาแนะนำให้กับทุกคนในครั้งนี้
คลินิกที่เราจะมาแนะนำ ชื่อว่า " ธรรมานามัย คลินิก ( Dhammanamai Clinic ) " เป็นคลินิกแพทย์แผนไทยแและการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มีการเน้นการดูแล ส่งเสริม รักษาและฟื้นฟูร่างกายด้วยศาสตร์ของการแพทย์แผนไทย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านหัตถเวชกรรมแผนไทย และการรักษาโรคทั่วไปด้วยยาสมุนไพร
" ธรรมานามัย คลินิก " ตั้งอยู่ที่ซอยพหลโยธิน 3 การเดินทางมาที่นี่ก็สะดวกสบาย เพราะว่าอยู่ใกล้กับใจกลางกรุงอย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สามารถเลือกวิธีการเดินทางมาได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสนามเป้า (ทางออก 4) แล้วจะนั่งวินหรือจะเดินเข้าไปที่คลินิกก็ได้ หรือถ้าใครขับรถมาเองก็เลี้ยวเข้ามาที่ในซอยพหลโยธิน 3 นิดเดียวจะเจอซอยให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาอีก ตรงมาเรื่อยๆ คลินิกจะอยู่ทางด้านขวามือ
อาจจะเห็นว่าพื้นที่จอดรถด้านหน้าคลินิกน้อย แต่เราสามารถนำรถเข้าไปจอดตรง Abloom Service Apartment พอจอดรถกันเสร็จแล้วก็เข้าไปข้างในกัน
เข้ามาด้านในคลินิกก็จะต้องทำการตรวจวัดอุณหภูมิ + ล้างมือให้เรียบร้อย (เป็นวิถี new normal ไปที่ไหนก็ต้องเจอแบบนี้ เพื่อความปลอดภัยเนาะ)
เข้ามาแล้วนั่งรอที่โซฟาก่อน จากนั้นจะมีพี่เจ้าหน้าที่นำรองเท้ามาให้เปลี่ยน พร้อมกับเสริฟน้ำ infuse เย็นๆ ดื่มระหว่างรอ
อีกสักครู่พี่เจ้าหน้าที่จะนำเอกสารมาให้เรากรอกเพื่อทำประวัติ หลังจากที่เรากรอกเอกสารเรียบร้อยแล้วก็นั่งรอคุณหมอ ( ในเอกสารก็จะมีประวัติส่วนตัว อาการที่เป็น โรคประจำตัว เป็นต้น )
และทำการชำระค่าบริการทที่เค้าเตอร์ด้านใน
พอถึงเวลาคุณหมอก็จะเรียกเราเข้าไปที่ห้องตรวจ เพื่อซักประวัติ และตรวจร่างกาย ซึ่งคุณหมอที่ทำการรักษาเราก็จะเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ทั้งหมด
ก่อนอื่นก็ทำการวัดความดันก่อน
หลังจากวัดความดันเสร็จก็ทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย
หลังจากนั้นคุณหมอก็จะพาเราขึ้นไปยังห้องนวดที่อยู่ชั้น 2 ด้านบนนี้จะมีห้องนวดทั้งหมด 4 ห้องด้วยกัน มีทั้งห้องคู่ 2 เตียง และห้องใหญ่มี 4 เตียง
เข้ามาในห้องก็จะมีชุดมาให้เราเปลี่ยน
ขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนน้า เราจะเปลี่ยนชุดข้างในห้อง หรือจะเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำก็ได้เช่นกัน เราเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำดีกว่า ห้องน้ำก็จะอยู่ด้านนอก ( แต่จะมีห้องนวดที่มีห้องน้ำในตัวด้วยนะ )
ในห้องน้ำจะมีให้อาบน้ำได้ด้วย ส่วนอุปกรณ์ที่อยู่ในห้องน้ำมีครบครันมาก
เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็เข้ามารอในห้อง ส่วนชุดของเรานั้นให้เอาไปแขวนไว้ในตู้ ซึ่งจะอยู่ตรงหัวเตียงนั่นเอง
คุณหมอก็เข้ามาทำการรักษาเราแล้ว ของผมปวดบ่าคุณหมอก็จะเริ่มจากให้การนั่งแล้วนวดบริเวณบ่า สะบัก หลังจากนั้นก็จะให้นอนลงเพื่อนวดบริเวณหลัง และผมมีปวดขาด้วยคุณหมอก็จะนวดไล่ลงไปที่ขาให้ด้วย
ตอนที่เริ่มนวดตอนแรกๆ ก็รู้สึกว่าเจ็บเพราะคุณหมอบอกว่ากล้ามเนื้อของผมตึงมาก แต่เหมือนพอนวดไปเรื่อยๆ ผมก็รู้สึกเจ็บน้อยลง รู้สึกว่ากล้ามเนื้อคลายตัวขึ้น ความรู้สึกมันจะไม่เหมือนเราไปนวดไทยเพื่อผ่อนคลาย อันนี้จะเน้นการนวดกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับอาการที่เป็นมากกว่า
พอนวดไปจนครบเวลาแล้ว คุณหมอก็จะทำการประคมร้อนต่อ โดยใช้ลูกประคบสมุนไพร
พอเสร็จขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเบาขึ้น ความปวดก็น้อยลงกว่าเดิมเยอะมาก แล้วคุณหมอยังให้คำแนะนำวิธีการดูแลตัวเองให้เราไปปฏิบัติต่างๆ ให้เรา พร้อมกับท่าบริหารต่างๆ อีกด้วย
ไปเปลี่ยนชุดแล้วลงไปด้านล่าง
ลงมาแล้วพี่เจ้าหน้าที่ก็เอาของว่างมาเสิร์ฟ เป็นกล้วยน้ำผึ้ง + น้ำขิงร้อนๆ
ก่อนกลับเราก็จะได้ลูกประคบกลับมมาด้วย เป็นลูกประคบที่คุณหมอประคคบให้เรานั่นแหละ เราสามารถนำไปใช้ต่อได้อีกประมาณ 2-3 ครั้ง จะมีวิธีการเก็บ วิธีการใช้บอกไว้ที่ถุง
จบแล้ว … กับการนวดรักษาครั้งแรกของผม รู้สึกโล่ง สบายตัวมากเลย แต่การนวดรักษานี้แนะนำให้มานวดติดต่อกันเป็นประจำ แล้วก็ต้องกลับไปทำท่าบริหารบ่อยๆ
เรามาดูอัตราค่าบริการกันบ้างดีกว่า
- นวดรักษา ค่าบริการ 1,200 บาท/ชั่วโมง
นอกจากการนวดรักษาแบบที่เรานวดแล้ว ยังมีการบริการแบบอื่นด้วย
การนวดสร้างเสริมสุขภาพ
- นวดปรับสมดุล
- นวดกล้ามเนื้อขาและเท้าเพื่อส่งเสริมการรักษา
- นวดรักษาด้วยน้ำมันหอมระเหย
- ขัดผิวด้วยสมุนไพร
- อบสมุนไพร
- ประคบสมุนไพร
กิจกรรมพิเศษ
- ฤาษีดัดตน
เวลาเปิด - ปิด
เปิดทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 23.00 น.
ติดต่อสอบถาม
โทรศัพท์ : 095-516-9717
E-mail : [email protected]
Website : www.dhammaclinic.com
เที่ยวแบบเรา : Once-a-month
วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.30 น.