หลังจากที่ไม่ได้เที่ยวกันมา 3-4 เดือนเต็มๆ พอโควิดซาลง สถานที่ท่องเที่ยวก็เริ่มเปิดให้เที่ยว แล้วเราจะรอช้าอยู่ใย เปิดหาที่เที่ยวด่วนๆ ตามกลุ่มตามเพจ ใครๆก็ไปเขาค้อ-ภูทับเบิกกันช่วงนี้ ทะเลหมอกยั่วยวนใจเหลือเกิน เลยอดใจไม่ไหวต้องตามไปบ้างละ 555 เลยคุยกับแฟนว่าไปเขาค้อ-ภูทับเบิกกันไหม คุยกันไปคุยกันมา สรุปแฟนโอเค ตกลงไปนอนเข้าค้อ 1 คืน ภูทับเบิก 1 คืน เป็นทริป 3 วัน 2 คืน อย่างที่รู้กันการจะไปเที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิก ถ้าไม่มีรถส่วนตัวนี่ไปเที่ยวค่อนข้างยาก เพราะรถประจำทางไปไม่ถึงแน่นอน  พอดีบ้านผมอยู่พิจิตรเป็นเขตติดต่อเพชรบูรณ์ ลองดูGPS จากบ้านผมไปเขาค้อ 160 km. ไปภูทับเบิก 200 km.  ไม่ไกลมากเท่าไหร่ ก่อนไปก็อ่านตามรีวิวนะ เค้าบอกว่าชันมาก โค้งเยอะ ใจก็กลัวๆอยู่เหมือนกัน เอาวะ ถ้ามัวแต่กลัวก็ไม่ได้ไปสักที  ทริปนี้ผมเดินทางวันที่ 12-14 มิถุนายน 2563 

ผมขับไปทางเส้นเขารัง พอไปถึงทางเข้าเขาค้อ ผมก็ไม่แน่ใจว่าเข้าได้กี่ทาง แต่ผมเปิดGPSไป
มาถึงเขาค้อประมาณสี่โมงเย็น ผมมาพักที่ stratus resort ที่พักพึ่งเปิดได้ไม่นานนัก อยู่ติดกับไปรษณีย์เขาค้อ บอกก่อนเลยว่ารีวิวนี้ผมอาจจะไม่ได้มารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก เพราะเน้นไปพักผ่อนดูหมอกซะมากกว่า

ที่พักของเราเป็นเต็นท์โดมนะ จะมีทั้งโดมใหญ่แล้วก็โดมเล็ก ของเราพักโดมใหญ่จะมีห้องน้ำอยู่ในตัว

เปิดมาในห้อง หือดูดีมาก โดมค่อนข้างกว้างนะ เตียงใหญ่ โทนสีขาวดูสบายตา

ห้องน้ำประมาณนี้ ดูดีมากเลย 5555 ไม่คิดว่าในโดมห้องน้ำจะดีขนาดนี้

ส่วนโดมเล็กจะมีห้องน้ำส่วนตัวเหมือนกัน ห้องใครห้องมัน แต่ห้องน้ำจะอยู่นอกโดม เดินไม่กี่ก้าว

ตอนเย็นฟ้าระเบิดสวยมาก

มาเขาค้อทั้งทีมันก็ต้องหมูกะทะแล้วมั้ยล่ะ จัดหน่อย บรรยากาศฟินมาก

ตอนเช้ารีบตื่น เออมีหมอกด้วย นึกว่าจะไม่เจอซะแล้ว

มาเป็นช่วงๆนะแต่ไหลไวมาก

มองข้างๆที่พักนี่หนามาก อากาศก็เย็นๆนะ แต่ถึงกับไม่หนาว

อาหารเช้าเสริฟถึงโดมเลย มีผัดกระเพรากับข้าวต้มกุ้ง

มีรังนกแบบบาหลีด้วยนะ ถ่ายรูปเล่นก่อนออกเดินทางกันต่อ

ตอนแรกตั้งใจว่าจะแวะไปที่ทุ่งกังหันลม สรุปไม่ได้แวะ เลยเปิดGPSไปที่วัดผาซ่อนแก้ว พอดีเราเลี้ยวขึ้นทางปั้มน้ำมัน จะผ่าน Takmoh Coffee Khao Kho & โรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า ก่อนเลยแวะไปซะหน่อย

บรรยากาศก็เป็นอย่างที่เห็น มาผิดเวลาชีวิตเปลี่ยน อากาศแบบร้อนมากๆ 555 แต่ถ้าตอนเช้านี่คิดว่าน่าจะสวยมาก

สั่งน้ำมากินแก้กระหาย สักแก้วพอ 555 ราคาค่อนข้างแรงนะ ที่นี่ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มนะ อาหารก็มี วันที่ไปตรงกับวันเสาร์คนเยอะมากๆ
ใกล้ๆกันจะมีอีกร้านนึงคือ pino latte ร้านดังที่ทุกคนต้องแวะ แต่เราหรอไม่ได้แวะนะ อากาศร้อนมาก คนก็มากเช่นกัน

เรามาแวะกันที่วัดผาซ่อนแก้ว คนเยอะมากๆ ก่อนเข้าต้องวัดไข้ติดสติ๊กเกอร์ ค่อนข้างวุ่นวายเลย 

แต่สถานที่เค้าสวยมากจริง ใครไปควรแวะนะ แต่ถ้าเป็นไปได้เสาร์-อาทิตย์ อย่าไป ถ้าไปควรไปเช้าๆเลย

สวยมาก เราแวะไหว้พระ ถ่ายรูปแป๊บเดียวแล้วก็ออกกันมาเลย

จากวัดผาซ่อนแก้ว เราก็ยิ่งยาวไปภูทับเบิก ระยะทางประมาณ 50 กว่ากิโล ก่อนขึ้นแวะเซเว่นตรงแยกภูทับเบิก ซื้อของตุนไปนิดหน่อย ใครจะซื้อของอะไรขึ้นไปซื้อตรงนี้ได้เลย เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ข้างบนราคาน่าจะบวกไปอีก

ทางไม่ได้ชันมากอย่างที่เค้าว่ากัน แต่มันชันแบบมีโค้งไปเรื่อยๆ ขับไปพักไปจนมาแวะตรงโค้งเลข 3 ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าใช่หรือเปล่า เพราะจากที่อ่านมาเค้าบอกว่ามันจะมีศาลา แต่วันที่ขึ้นไปไม่เห็นนะ แต่มองลงไปมันก็เห็นเป็นเลข 3 นะ

คือวันที่ขึ้นภูทับเบิก ตรงกับวันเสาร์ ที่พักไม่ต้องพูดถึง ลองหาเป็น10ที่เต็มหมด เลยไปได้ที่ผาหัวสิงห์

นี่แหละฮะเรามาพักกันที่เต็นท์ที่ออกข่าวดังๆ 555 ซึ่งตอนนี้รื้อเต็นท์ไปล่ะ แล้วก็ห้ามนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์บริเวณนี้ได้ แต่สามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้นะ ทางขึ้นจะอยู่ตรงข้ามกับบ้านดาวเหนือ ขึ้นไปทางภูฟ้าเพียงดิน

วิวสวยมากครับ ขนาดตอนกลางวัน

วิวอีกฝั่งนึง เห็นเป็นทิวเขาสวยมาก นี่คือภาพตอนประมาณบ่ายโมงนะ

อาหารกลางวัน จริงๆก็บ่ายแล้วแหละ 55555 เราไปหากินตรงใกล้ๆจุดชมวิวภูทับเบิก

มาสำรวจพื้นที่ตรงหอวัดอุณหภูมิ มองลงเห็นจะเห็นทางที่เราขึ้นมา โอโห้ โค้งเยอะสูงมาก

จุดที่วุ่นวายสุด น่าจะเป็นจุดนี้ ยามเช้าจะเต็มไปด้วยผู้คน ที่พักดังๆ อย่างไร่ริมผา ริมผารีสอร์ท เดอะม้ง จะอยู่ตรงจุดนี้  เรียกง่ายๆว่าตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่จะมีโอกาสเห็นทะเลหมอกมากที่สุด

ตอนเย็นชวนแฟนไปเดินถ่ายรูปเล่น ที่ปลายผาหัวสิงห์ วิวสวยเลย มองไปจะเห็นสวนสววรค์

ฝนมาแล้ว มองเห็นเป็นม่านฝนเลย

อักฝั่งนึงเป็นทิวเขา มุมถ่ายรูปเยอะเลย

บรรยากาศยามเย็น แสงสวยมาก นี่เวลาประมาณทุ่มนึงนะ

โชคดีทั้ง2วันเลย เจอท้องฟ้ายามเย็นสวยทั้งเขาค้อ ภูทับเบิก

ยามเช้าเราขับรถไปที่ไร่ริมผา กะว่าจะไปดูทะเลหมอกที่ ปรากฎว่าหมอกหาย แง คิดว่าวันนี้คงแห้วแน่ๆ

มองไปทางวัดป่าภูทับเบิกก็ยังพอมี แต่ไม่มาก

จากนั้นเราก็เดินลงไปถ่ายรูปเล่น แถวๆไร่กะหล่ำปี ปรากฎว่าหมอกเริ่มหนาขึ้น

เริ่มฟู วันนี้น้องหมอกมาทำงานสาย

เราชอบบ้านพักตรงนี้มากเลย ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ดูไม่วุ่นวาย เราก็เลยไปหาข้อมูลมา ที่พักตรงนี้ชื่อบ้านกลางแสงดาว กะไว้คราวหน้าจะไปพักที่นี่แน่นอน

สักพักน้องหมอกก็มาเต็ม จากที่มองไปโล่ง ก็ถือว่ายังโชคดีที่เจอ อาจจะฟูเต็มพื้นที่
แต่อย่างว่าแหละไม่มีใครคาดเดาได้เลย อยู่ที่ดวงล้วนๆ บางคนไป 10 ครั้ง เจอหนเดียว บางคน ไป 2 ครั้ง เจอทั้ง 2 ครั้ง ส่วนผมหรอไป 2 ครั้ง ก็เจอแบบนี้ทั้งสองครั้ง โถ่ ไม่เจอแบบฟูๆกะเค้าบ้าง TT

กลับมาที่ผาหัวสิงห์ มีหมอกเหมือนกันแฮะ

เริ่มฟูขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน ภาพนี้ถ่ายเวลา 07.46 น.

ผู้คนแวะเวียนมาถ่ายรูปกันอยู่ตลอด ไม่ขาดสาย ตั้งแต่เช้ายันเย็น เป็นจุดยอดฮิตที่ทุกคนต้องแวะ

วิวจาหหน้าเต็นท์เรา หมอกมาเต็ม สักพักก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอก

บรรยากาศดีมากๆ

ไม่น่าเชื่อ ตื่นมาเช้ามืดไม่มีหมอกสักนิด พอสายๆหน่อยมาจากไหนไม่รู้ กลายเป็นวันที่ผมไปหมอกช่วงสายๆ สวยกว่าตอนเช้าเฉย รู้งี้ไม่น่ารีบตื่น 555

สุดท้ายก็ได้เวลา บ๊ายบายภูทับเบิก ไปแว๊นซ์ลงเขากันดีกว่า

ขาลงนี่ถนนถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ขับสบายๆชมวิวข้างทางฟินเลย จะว่าไปหมอกแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะ

ก็ประมาณนี้ล่ะกันเนาะ สิ่งที่อยากจะบอกสำหรับคนที่จะไปเขาค้อ-ภูทับเบิกเลยก็คือ

1.ไปเสาร์-อาทิตย์ต้องทำใจเพราะคนเยอะมากๆ ถ้าไปวันธรรมดาได้จะดีมาก
2.ที่พักควรจองล่วงหน้า ที่ดังๆเต็มเร็วมาก
3.ถ้ามีเต็นท์ไปเองประหยัดกว่า ที่พักส่วนใหญ่ราคาแรง
4.สำหรับผมนะ ทางไม่ได้ชันมากอย่างที่เค้าขู่ๆกัน มันแค่ชันแบบขึ้นไปเรื่อยๆแล้วโค้งเยอะแค่นั้น เราสามารถจอดพักได้ตามจุด
5.ถามควรเอารถอะไรไป ผมมองว่ารถอะไร เครื่องเท่าไหร่ก็น่าจะไปได้นะ มันขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของคนขับ
6.รถส่วนตัวไม่มีไปได้ไหม ตอบว่าได้ แต่อาจจะยากหน่อย ถ้าขับรถเป็นแนะนำให้เช่ารถขับ ถ้าขับไม่เป็นนั่งรถมาลงที่หล่มสักแล้วโบกรถขึ้นบนภู คิดว่าน่าจะไม่ยาก แล้วก็มีคนที่ทำแบบนี้มาแล้วหลายคน

ยังไงก็ฝากรีวิวนี้ไว้ด้วยนะครับผม  ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ ^^