"ภูผาสูงเสียดฟ้า ทุ้งหญ้าเขียวขจี
อากาศดีแสนสบาย หลากหลายไม้นานาพันธุ์
นามนั้น"เขาหลวง""
วันพักผ่อนก็เหมือนไม่พัก หากิจกรรมทำกัน ทริปนี้ชวนไปเดินขึ้น "เขาหลวงสุโขทัย" เป็นเขาที่อยากไปมากจนได้รู้ว่าเขาเปิดแล้วเราเลยทำการจองผ่าน App QueQ (จองก่อนวันเดินทาง 15 วัน) จองผ่าน App จะชัวร์กว่าเพราะช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงที่มาตราการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)
"เขาหลวงสุโทัย" ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติรามคำแหง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดสุโขทัย ด้วยความสูงระดับ 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ประกอบด้วย 4 ยอดเขา คือยอดพระเขาเจดีย์ ยอดเขาพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา และยอดเขานารายณ์
สิ่งที่ต้องเตรียม(มือใหม่หัดเดินก็ไปได้)
1. ความพร้อมของร่างกาย
2. เต็นท์
3. ถุงนอน,เสื้อผ้าที่ใส่สบายแห้งง่าย,หมวก,ปลอกแขน
4. ถุงมือ,เสื้อกันฝน,ไม้เท้าเดินป่า
5. ทิชชูแห้ง, ทิชชูเปียก, ช้อน, กล่องพลาสติกใส่อาหาร, ไฟแช็ก
6. ไฟฉาย, ถุงดำ, โลชั่นกันยุง
7. ยาสามัญประจำบ้าน
8. น้ำ, ขนมที่ให้พลังงานเยอะๆ
วันแรก
"เขาหลวงสุโขทัย" เปิดให้ขึ้นเวลา 08.00 น. และไม่อนุญาตให้ขึ้นเขาหลังเวลา 15.30 น.
เดินทางก่อนขึ้นเขา 1 วัน ไปถึงทางเข้าอุทยานฯ เสียค่าบริการเข้าในพื้นที่ คนละ 40 บาท ค่ายานพาหนะ 30 บาท/คัน ก่อนเข้าอุทยานฯ มีการวัดอุณหภูมิร่างกาย และสเปรย์มือด้วยแอลกอฮอล์ ตามมาตราการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)
ใครที่จองผ่าน App QueQ ทางเจ้าหน้าที่จะมีรายชื่อปริ้นออกมาแล้วเช็ครายชื่อตามที่ได้จองไว้
หรือใครที่ไม่ได้จองก็มาได้แต่ต้องมาแต่เช้า เพราะทางอุทยานจะให้โคต้าน้อยกว่าที่จองผ่านระบบ
ผ่านกระบวนการคัดกรองแล้วได้เข้าไปข้างในหาที่กางเต็นท์ นอนรอขึ้นเขาพรุ่งนี้ตอนเช้า เดินสำรวจสถานที่และบ้านพัก ที่เขาหลวงสุโททัยมีบ้านพักเปิดให้บริการด้วย แต่ทางเราไม่ได้จอง มากางเต็นท์นอนชิวๆรอขึ้นเขา
โรคที่ห้ามขึ้นเขาหลวง เช็คตัวเองด้วยนะคะว่าไหวไหม
บ้านพักมีราคาตั้งแต่ 1,200 - 4,500 /หลัง
มีร้านค้าสวัสดิการให้บริการด้วยนะคะ
ใครจองห้องพักไม่ทัน ไม่เป็นไร มีลานกางเต็นท์ให้บริการ
เตรียมของจองที่กางเต็นท์เสร็จเริ่มหิวแล้วของที่จะเตรียมไปกินบนเขาก็ยังไม่มี ดีหน่อยวันที่ไปตรงกับวันศุกร์ จะมีตลาดไนท์ ทุกอาทิตย์ เป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร มีอาหารให้เลือกซื้อเยอะมากๆ ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 15-16 กิโล ถนนดีไม่ค่อยมีรถวิ่ง
ทุกอย่างครบกลับอุทยานฯ ไปอาบน้ำพักผ่อนเก็บแรงไว้เดินขึ้นเขา ที่อุทยานฯมีห้องน้ำให้บริการ สะอาดมาก น้ำเย็นอาบแล้วสดชื่น แบ่งห้องน้ำชาย-หญิง
วันที่สอง
ตื่น 05.00 น. รีบตื่นเพราะต้องรีบมาเข้าคิวเดียวจะไม่ได้ลูกหาบ (แนะนำใครอยากจ้างลูกหาบให้มาแต่เช้า) ยืนรอคนแรกเลย เจ้าหน้าที่ทำงาน 08.00 น. แต่วันที่ไปเป็นวันหยุดยาว เจ้าหน้าที่มาเร็ว
ช่วงที่รอเจ้าหน้าที่ก็อ่านข้อมูลและเตรียมเงินเสียค่าบริการ
-ค่ามัดจำขยะ 200 บาท (ลงมาได้คืน)
-ค่ากางเต็นท์บนเขาคนละ 30 บาท (มีบริการเต็นท์ ถุงนอน และอุปกรณ์ต่างๆให้เช่า)
จุดต่างๆที่เราจะเดินผ่านและจุดที่จะไปกานเต็นท์ ระยะทาง 3.7 km. ถึงจุดพัก
เตรียมของให้ลูกหาบ(ราคา 25 บาท/กิโลกรัม) ลูกหาบคนหนึ่งหาบได้ 40 กิโลกรัม/คน
พร้อมแล้วออกเดินทางไปพิชิต "เขาหลวงสุโขทัย" ทางเข้าขวามือจะมีพระให้ไหว้ก่อนขึ้นเข้าด้วย
ไหว้พระขอพรเสร็จ เริ่มเดินไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก55555+
เดินผ่านจุดแรกต้นปะดู่ใหญ่ นั่งพักนิดหนึ่งไปต่อ จุดสองมออีหก ผ่านไปเรื่อยๆจนไปพักจุดที่สามจุดชมวิว555++++ คิดเดินกลับได้ไหมเห็นความสวยงามแล้ว5555555+
เติมน้ำ เติมขนม เดินต่อจร๊ายังไม่ครึ่งทางเลย55++
เหนื่อยก็พัก พักแล้วไปต่อ เดินชิวๆจร๊า55555+++
นี้เดอะแก๊ง เพื่อนร่วมทางเราเอง เด็กๆแข็งแรงมากมากันครั้งที่ 3 แล้ว วิ่งไม่เหนื่อย ตามแถบไม่ทัน
หลบให้ลูกหาบก่อนดูแล้วน่าจะหนักมากๆ
เดินไปได้สักพักยังไม่ถึงไทรงามเลย มีหมอกลอยมาสักพักอากาศเริ่มเย็น ตามมาด้วยฝนตกงานเข้าแล้วจร๊าตกหนักด้วยขนาดฝนไม่ตกยังเดินยาก ฝนกตกลงมาบรรเทิงเลยจร๊า55555555++
ในที่สุดเราก็ถึงไทรงาม แล้ว กว่าจะถึงโอ้ยลำบากแต่ก็เดินชิวๆได้ เย็นสบาย เดินชิวๆเดียวก็ถึง
เย้ๆถึงแล้ว ใกล้จะถึงฝนยิ่งตกแรง ไม่ไหวแล้วหนาวๆๆๆๆๆๆๆ
ตกแรงขนาดนี้ขอกางเต็นท์ข้างในแล้วกันนะ
ใช้เวลาเดิน 3.26 ช. ระยะทาง 6.20 กม. เนื่องจากเดินไม่ใช่ทางตรงจับเลยไม่ได้ตรงกับที่ทางอุทยานฯบอกไว้
กางเต็นท์นอนรอฝนหยุดตกจะได้ไปถ่ายรูปที่ "ผานารายณ์" ฝนตกแรงไม่มีวี่แววจะหยุด หลับเพลินเลย ตื่นขึ้นอ้าวฝนหยุดแล้วไปดูหมอกกัน
ผานารายณ์ มุมไหนก็สวย สวยมากๆ คิดไม่ผิดเลยที่อยากขึ้นมาดู
มีพระธาตุเล็กๆด้วยนะ
นั่งชมวิวไม่อยากกลับเลย แต่ต้องกลับเพราะฝนจะตกมาอีกแล้ว
ลงมาจากข้างบนค่อยมาถ่ายป้าย เพราะตอนขึ้นมาฝนตกแรงถ่ายไม่ได้
เย็นแล้วหิวด้วย อาบน้ำเสร็จ ต้มมาม่าใส่ไข่กินดีกว่า
อุทยานฯมีห้องน้ำให้อาบน้ำแต่ถ้าวันไหนฝนตก น้ำจะขุ่นหน่อย คืนนี้นอนบนเขาก็จะเย็นๆหน่อย ฝนก็ตกปรอยๆ อากาศกำลังดี คืนนี้คงไม่มีดาว เมฆเยอะ นอนยาว(ฝันเอาเลข555+++++++)
วันที่สาม
หลับสบายตื่นสายตั้งใจจะไม่ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเพราะฝนตกทั้งคืนตกถึงเช้าน่าจะเห็นแค่หมอก สรุปถามพี่เต็นท์ข้างๆที่ตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก็เห็นแค่หมอกเยอะเหมือนเมื่อวานตอนเย็น ดีแล้วเราได้นอนพักผ่อนเตรียมเก็บของเดินลงจากเขา
วันลงก็เหมือนเดิมขาดไม่ได้ เดอะแก๊งเราเดินเป็นเพื่อนกันนะ
กลับแล้วนะ มีโอกาสจะกลับมาใหม่ ทำไมจุดนี้คนอื่นถ่ายสวยจัง แต่เรา................
ตอนลงใช้เวลา เดิน 1.30 ชั่วโมง ไม่ใช่เดิน ใช้คำว่าวิ่งลงดีกว่าเพราะฝนตกวันที่ขึ้นทำให้ทางลงก็รื่นมันมากๆประสบการณ์เลย ทั้งสนุก ทั้งมัน ทั้งเหนื่อย แต่ก็ดีใจที่ได้มาหาเขานะ
**หมายเหตุ** เตรียมน้ำให้พอกับที่จะกินจะใช้นะเพราะระหว่างขึ้น-ลง ไม่มีน้ำให้เติม หรืออาจจะไปช่วงที่ระบบน้ำแก้ไขถึงไม่มีน้ำให้เติมระหว่างทาง
ขอบคุณหัวหน้าอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ที่อนุญาตให้บินโดรน เก็บภาพสวยๆ เป็นอีกเขาที่ประทับใจทุกๆของการเดินทางตั้งแต่ไปถึงเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมาก แถมชาวสุโขทัยก็น่ารักเดินตลาดคุยเหมือนกับรู้จักกันมานาน เห็นร้อยยิ้มของทุกคนแล้วมีความสุขทั้งเพื่อนที่เดินขึ้นเขาด้วยกัน นี้แหละที่เขาเรียกว่า "ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ"
"หวังว่าเขาหน้าเราจะได้เจอกันนะ #คู่เที่ยวIndy"
ค่าใช้จ่าย
1. น้ำมันรถ 840 บาท (ไป-กลับได้)
2. ค่าเขาอุทยานคนละ 40 บาท
3. ค่ารถเข้าอุทยาน 30 บาท
4. ค่าลูกหาบ ไป-กลับ 600 บาท (กิโลละ 25 บาท)
5. ค่ากางเต็นท์คนละ 30 บาท
6. ค่าขนม ค่าน้ำ 420 บาท
รวม 2,030 บาท (ไป 2 คน ตกคนละ 1015 บาท)
ติดตามเราได้ที่เพจ #คู่เที่ยวIndy นะคะ
ฝากช่องด้วยนะ
คู่เที่ยวIndy
วันพฤหัสที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.29 น.