ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
UNSEEN
สุราษฎร์ธานี
ที่อยู่ : ตำบล บ้านทำเนียบ อำเภอ คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี 84180
เวลาทำการ : 8.00 - 17:00
โทรศัพท์ : 077-953121
ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบ่อน้ำผุดใสสะอาด ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโดยมี "ตาน้ำ" เป็นหัวใจหลักของป่าต้นน้ำแห่งนี้ น้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินนั้นไหลลอดใต้ภูเขาผ่านออกมายังจุดที่เรียกว่าตาน้ำ ซึ่งเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์
การเดินทาง จาก "ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี - ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด"
ระยะทางประมาณ 60 KM. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เนื่องจากถนนช่วงก่อนจะถึงลานจอดรถของป่าต้นน้ำจะเป็นถนนลูกรังประมาณ 3-4 กิโลเมตร การขับรถควรใช้ความระมัดระวัง
ลานจอดรถของที่นี่จะเป็นสวนปาล์มจะมีเจ้าหน้าที่คอยโบกให้จอดตามช่องเพื่อความเป็นระเบียบ
พอถึงลานจอดรถของป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร
กฏระเบียบ - ข้อห้าม
ใกล้กันกับที่จอดรถจะมีร้านอาหาร ร้านน้ำ ของทานเล่น
ร้านกาแฟ
ห้องน้ำ
สะอาดและเป็นระเบียบมาก เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา
เดินผ่านสวนยางไปเรื่อยๆ ไม่ร้อน
แผนผังของป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
มาถึงจุดคัดกรอง
- ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
- ลงทะเบียน
ลงทะเบียนเสร็จเดินไปเรื่อยๆ ตามทาง เพื่อไปซื้อบัตรเข้าชม
บัตรเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 25 บาท ถ้านั่งเรือพายด้วย 65 บาท
- เด็ก 15 บาท ถ้านั่งเรือพายด้วย 45 บาท
- คนในพื้นที่ 10 บาท (แสดงบัตรประชาชน)
- ชาวต่างชาติ 95 บาท
หน้าทางเข้ามีห่วงยางให้เช่า
สามาถเช่าตู้ล็อคเกอร์ฝากของได้ที่นี่
บริเวณทางเข้าจะมี เจ้าหน้าที่ คอยให้คำแนะนำและตรวจสิ่งของที่ต้องห้ามนำเข้าไป
เดินเข้ามาตามทางเรื่อยๆ มีเชือกกั้นเลนและป้ายบอกทางเข้า - ออก อย่างชัดเจน
ทางร่มรื่นเดินสบายมาก
ที่บ่อน้ำผุดจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยและให้คำแนะนำอยู่ตลอดเวลา
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดมีลักษณะเป็นน้ำผุดจากเชิงเขา คาดว่าเป็นโพรงน้ำไหลมาจากผืนป่าชุมชนจำนวนกว่า 2,000 ไร่ แต่ด้วยความใสของน้ำจึงได้รับความสนใจจากชาวบ้านมาเล่นน้ำ และบอกต่อๆ กันไป จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ผู้นำชุมชนจึงได้ร่วมกันพัฒนาให้เป็นจุดเล่นน้ำท่ามกลางธรรมชาติ
ตาน้ำสามารถตักดืมได้ตรงนี้
จ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธ
ทางนี้ไม่อะไรครับ เป็นทางเดินของชาวบ้านไปสวนยาง
พื้นที่บริเวณป่าต้นน้ำเดิมนั้น ชาวบ้านเข้ามาตั้งรกรากอยู่อาศัยมาตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2501 ได้อาศัยผืนป่าและสายน้ำจากป่าต้นน้ำแห่งนี้หล่อเลี้ยงมาตลอด เมื่อชุมชนเริ่มขยายตัวจึงเกิดแนวคิดที่จะสงวนและอนุรักษ์ผืนป่าไว้ให้เป็นป่าต้นน้ำของชุมชน เพื่อให้เป็นแหล่งน้ำใช้ในยามฤดูแล้ง
บ้านน้ำราดแห่งนี้จะถูกกั้นออกเป็น 2 ส่วน เพราะที่นี่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงนำมาไว้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมที่สำคัญ รวมถึงเอาไว้กินไว้ใช้เป็นหลัก แต่เมื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม จึงกั้นส่วนเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำได้ แต่อีกส่วนก็ยังคงเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สงวนเอาไว้ไม่ให้ใครลงไปเล่นอย่างเด็ดขาด
ความใสของน้ำมองเห็นปลาได้อย่างชัดเจน
นอกจากจุดน้ำผุดแล้ว สายน้ำแห่งนี้ยังไหลผ่านเป็นลำธารขนาดเล็กรวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร มีความร่มรื่นสวยงามซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
บรรยากาศโดยรอบถูกโอบล้อมไว้ด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่เขียวขจียิ่งมองยิ่งสบายตา
บรรยากาศโดยรอบเขียวขจี ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ เหมาะกับการนั่งพักผ่อน
น้ำใสสะอาดจนสามารถมองเห็นพื้นทรายด้านล่างได้แบบชัดเจน
พื้นของบ่อน้ำจะเป็นพื้นทรายตะกอนหินปูน จึงทำให้น้ำไม่ขุ่น มีความใสอยู่ตลอด
น้ำบริสุทธิ์ที่ผ่านการกรองจากธรรมชาติ
ลักษณะเป็นบ่อน้ำจืดสีฟ้าอมเขียวใสราวกับกระจก ลึกประมาณ 1 เมตร
บ่อน้ำไม่ลึกมากสามารถสามารถนั่งจุ่มเท้า หรือลงไปแช่ได้อย่างสบาย
น้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินก็จะไหลลงไปยังคลองมะเลาะ ไปสู่น้ำตกน้ำราดธารทอง แล้วจึงไหลไปยังพื้นที่ของหมู่บ้านบ้านน้ำราดและบ้านย่านยาว
อากาศร้อนๆ แบบนี้ก็ต้องมาคลายร้อนกัน กับการทำกิจกรรมลงเล่นน้ำในบ่อน้ำผุด ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างก็ไม่พลาดกิจกรรมนี้
โซนด้านหลังมีเรือให้นักท่องเที่ยวได้พายเล่นในลำคลองมะเลาะ
เพื่อชมความสวยงามของป่าพุ
ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรโดยใช้เวลาไป-กลับประมาณ 30 นาที
สาเหตุที่บ่อน้ำแห่งนี้ยังมีความใสสะอาดและสวยงามเช่นนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าทางเจ้าหน้าที่นั้นได้มีมาตรการดูแลรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี ทุกคนที่มาจึงเข้ามาได้แค่เล่นน้ำเท่านั้น ไม่มีการนำของมาดื่มมากินให้สกปรก อยากให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษากฎระเบียบและมีวินัยในการเข้าเยี่ยมชม เพื่อที่ป่าต้นน้ำจะได้ไม่ถูกทำลายและยังสวยงามไปจนชั่วลูกชั่วหลานต่อไป
ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการรับชมครับ
เป็นเพื่อนกันได้ที่...
FACEBOOK : https://www.facebook.com/poom.evolution.9
YOUTUBE: https://www.youtube.com/channel/UCawmAphtDjSCkoB89pIbXWw/videos?view_as=subscriber
Apisit Poom Sukpakdee
วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 20.25 น.