"ปากเซ" เราได้ยินชื่อนี้มานาน อยู่ใกล้ๆบ้านเรานี่เอง จนวันหนึ่งเราได้มีโอกาสเดินทางไปพบกัน"

ในช่วงฤดูหนาวของปลายปีที่แล้วเดือนธันวาคม และอีกไม่กี่วันหน้าปฏิทินปีใหม่ก็จะถูกเปิดขึ้น เรากลับบ้านที่ อ.พิบุลฯ จ.อุบล และเราก็นึกถึงที่นี่ขึ้นมาระหว่างทาง เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอดีที่จะแวะไปทำความรู้จัก "ปากเซ"


สะพานมิตรภาพลาว - ญี่ปุ่น


"ปากเซ" เมืองเอกของแขวงจำปากสัก สปป.ลาว ประตูสู่ลาวใต้ เป็นเหมือนห้องรับแขก ไว้ต้อนรับนักเดินทาง เป็นจุดเตรียมพร้อม และมีบริการทุกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางออกไปเที่ยวยังเมืองต่างๆของแขวงจำปาสัก ซึ่งมีที่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเยอะมากๆทั้งป่าเขาน้ำตกและวัฒนธรรมตลอดจนมรดกโลกอย่างปราสาทหินวัดภู

การเดินทางมาปากเซนั้นไม่ยากเลย ยิ่งปัจจุบันนี้สะดวกมากๆ มีรถโดยสารระหว่างประเทศนั่งจากกรุงเทพยาวๆมาได้เลย แต่เราเริ่มต้นจากบ้านเรา อ.พิบูลมังสาหาร อำเภอหนึ่งในจังหวัดอุบล นั่งรถตู้โดยสารจากตัวอำเภอไปด่ายชายแดน ไทย-ลาว "ช่องเม็ก" แค่มีพาสสปอตก็ผ่านไปได้สบาย แต่ถ้าใครไม่มีก็ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวไปได้ แต่อยู่ในลาวได้ไม่เกิน 3 วัน


"สะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น เมื่อมองจากริมแม่น้ำโขงฝั่งปากเซ"


"อรุณสวัสดิ์ปากเซ"

ไม่ว่าจะไปที่ไหนสิ่งหนึ่งที่เราไม่อยากพลาดคือ การตื่นมารอดูการเดินทางแสงแรกของวัน จากตัวเมืองปากเซเราบิดมอเตอร์ไซด์ข้ามสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น ออกมาเป้าหมายคือ "วัดพูสะเหลา" อยู่บนภูเขาลูกเล็กๆตรงข้ามกับตัวเมืองปากเซ จากข้างบนจะมองเห็นวิวเมืองปากเซ และปากแม่น้ำเซโดน บรรจบกับแม่น้ำโขงอยู่เบื้องหน้า ส่วนเบื้องหลังคือภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์


สำหรับทางขึ้นไปยังวัดพูสะเหลาเราจะเดินขึ้น หรือว่าจะขับรถขึ้นไปถึงเลยก็ได้ เราเลือกที่จะเดินขึ้นแค่เห็นบันไดก็รู้ถึงความเหนื่อยที่จะเกิดขึ้นแล้ว จากบันไดปูน ต่อด้วยบันไดไม้ขึ้นมาเรื่อยๆ ก็จะพบพระพุทธรูปสีเหลืองทางอร่ามองค์ใหญ่ หันหน้าไปยังเมืองปากเซ เดินขึ้นบันไดมาเหนื่อยๆ พอเห็นวิวทำให้ลืมความเหนื่อยไปเลย

"วัดพูสะเหลา"


เรามาหยุดอยู่ตรงที่ศาลาชมวิวภายในวัด นั่งมองนั่งรอไปเรื่อยๆ สักพัก หมอกค่อยๆลอยมา เพียงไม่กี่นาทีก็หมอกก็เริ่มเยอะขึ้น เราก็ได้แต่มองดูนิ่งๆ นึกในใจ วันนี้เป็นที่โชคดีวันหนึ่ง เรามาค้างที่ปากเซแค่คืนเดียว แต่ก็มีโอกาสได้เห็นมัน ถือว่าเป็นของขวัญจากธรรมชาติ ของขวัญจากเมืองปากเซที่มอบให้กับเราและน้องชายสองคน ได้แต่มองดูแล้วยิ้มในใจ เพราะไม่นานก็คงกลายเป็นความทรงจำ


บรรยากาศบนวัดพูสะเหลา

มีพระพุทธรูปเรียงกันสวยงามมาย


พระพุทธรูปองค์ใหญ่ทางด้านฝั่งเมืองปากเซ

"เมืองปากเซ เมืองมองจากวัดภูสะเหลา"



"ด่ายชายแดนช่องเม็ก"


สำหรับการเดินทางมายังเมืองปากเซ สปป.ลาว นั้นสะดวกมากๆ

  • จากขนส่งหมอชิต มีรถโดยสารระหว่างประเทศวิ่งตรงมาปากเซเลย รถของ บขส. ถือว่าสะดวกมากๆ รถจะวิ่ง กรุงเทพ - อุบลราชธานี และ ก็ไปยังด่านชายแดนช่องเม็ก
  • หรือจะเลือกมาขึ้นรถที่ บขส.จ.อุบลฯ เลยก็ได้มีเหมือนกัน มีทั้งรถตู้ อุบล-ช่องเม็ก และรถบัส พอถึงด่านชายแดน ช่องเม็กข้ามด่านแล้วก็จะมีท่ารถเข้ามายังเมืองปากเซ
  • มีพาสปอสก็ผ่านได้เลยไม่ต้องมีวีซา สำหรับใครที่ไม่มีพาสปอส ก็สามารถทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวได้ที่ด่านช่องเม็ก โดยที่ทำจะอยู่ก่อนถึงด่าน แต่แนะนำให้ทำพาสปอสไปเพราะจะสะดวกมากๆ
ความคิดเห็น