ใกล้เข้าหน้าฝนเต็มทแล้ว หากยังคิดไม่ออกว่าจะหลบหนีความวุ่นวายไปที่แห่งไหน ขอแนะนำ “บ้านกกกอด" สถานที่แสนสงบ สวยและเป็นธรรมชาติ มีวิวเขื่อน เห็นน้ำและภูเขาสุดลูกหูลูกตา เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ จึงไปพัก 1 คืนได้สบายๆ และที่สำคัญ ค่าที่พักถูกมากกก ตกคนละประมาณ 500 - 600 บาทเท่านั้น ราคาหลักร้อย วิวหลักล้านเลยจ้า ^^

ติดตามการเดินทางของเราด้วยน้าา ^_^ https://www.facebook.com/golitypage


ช่วงที่ผมไปพักเป็นช่วงปลายหนาวต้นร้อน อากาศในตอนเช้าดีมาก และไม่หนาวจนเกินไป ส่วนกลางวันค่อนข้างร้อน หากให้แนะนำผมอยากให้ทุกท่านไปช่วงหน้าฝนที่กำลังจะมา เพราะตอนอยู่ที่นั่นเจ้าของบอกว่าหน้าฝนจะอากาศเย็นสบายตลอดวัน และหลังฝนตกจะมีหมอกจางๆ ถ้ามีโอกาสจะไปอีกครั้ง แฮ่

บ้านกกกอดตั้งอยู่ที่ ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ผมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพไปยังที่หมายรวดเดียวถึง ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงครับ ส่วนการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ สามารถติดตามได้ในเว็บไซต์หลักของสถานที่เลย http://www.baankokkod.com/apps/documents ค่อนข้างละเอียดครับผม

ที่จอดรถในที่พักมีเยอะพอสมควร ตามภาพ ไม่ต้องกลัวเต็มจ้า

ทางเดินเข้าบริเวณที่พักพร้อมป้ายน่ารัก



วันที่ 1

พวกเราเช่าบ้านประเภท "บ้านวิวเขื่อน" เป็นห้องไม่มีแอร์ และเป็นห้องน้ำรวม แต่ข้อดีของห้องชนิดนี้คือ ท่านจะได้วิวโคตรแห่งความอลังการของน่านน้ำในเขื่อนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และมีระเบียงด้านหน้าด้วย เราไปกัน 3 คน ราคาคืนละ 1,200 บาท บวกกับเตียงเสริม 300 บาท ค่าใช้จ่ายตกประมาณคนละ 500 บาท เทียบกับทิวทัศน์ที่ได้รับแล้ว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม O_O

และห้องที่ผมพักเป็นห้องหลังแรกเลย ชื่อว่าห้อง "กอดดาว"

และนี่ก็คือด้านในของห้องพัก ขนาดไม่กว้างนัก สภาพใหม่ดีมาก และตกแต่งได้น่ารักเข้ากับธรรมชาติที่รายล้อม

หากนั่งอยู่ในห้องแล้วมองออกจากหน้าต่าง ท่านจะได้เห็นความงดงามของธรรมชาติที่บริการถึงที่ทันใจ

ตามที่ได้บอกไปข้างต้นว่าห้องชนิดที่ผมอยู่เป็นแบบห้องน้ำรวม ดังนั้นถ้าไม่รีวิวห้องน้ำด้วยก็ยังไงอยู่ ห้องน้ำอยู่ไม่ไกลจากห้องที่ผมพักนัก (แต่บางห้องค่อนข้างไกล) มีการแบ่งชายหญิงชัดเจน จำนวนห้องไม่มากนัก คนเยอะอาจต้องรอคิวกันนิดหลายคนจะต้องคิดว่า ยี้ๆๆๆๆๆ แหวะๆๆๆ ห้องน้ำรวม อี๋ย์ย์ ย ยักษ์การันต์แปดพันรอบ แต่ขอโทษ! ไม่ใช่สำหรับที่นี่ เพราะห้องน้ำที่นี่สะอาดมากๆๆๆ และยังมีการให้ถอดสับเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าห้องน้ำอีกด้วย

ห้องส้วมสะอาดสดใสมากมายเช่นกัน และที่สำคัญๆๆๆๆ มันมีที่ฉีดตรูดดดดดดดด แต่สงสัยอยู่อย่างนึง ทำไมถึงมีคำว่า Exit แล้วชี้ลูกศรลงไปในโถ ถ้าให้ผมเดาน่าจะเป็นทางหนีไฟของที่พักแห่งนี้ ถือว่ามีระบบความปลอดภัยได้มาตรฐานครบเครื่องจริงๆ 555+

ในส่วนของห้องอาบน้ำก็สะอาดไม่แพ้กัน แต่พื้นห้องบางทีมันขยับกุกกักได้ ระวังลื่นนิดนึง

พอคุยเรื่องห้องน้ำเสร็จ เราก็มาต่อห้องอาหารกันเลย ห้องอาหารที่นี่ปลอดโปร่ง น่านั่ง ที่สำคัญมีตู้น้ำดื่มเย็นเจี๊ยบดื่มฟรี ใครอยากกินน้ำเย็นๆ หรืองกน้ำแจกในห้องพัก ก็มาดื่มที่นี่ได้เลย

ที่นี่มีเรือคายัคด้วยนะ ใครอยากพายเล่นล่ะก็ อุปกรณ์พร้อม

บรรยากาศรอบๆ ที่พักครับ

จุดเด่นของที่พักแห่งนี้คือจะมีจุดชมวิวเป็นสะพานทอดยาวออกไปกลางน้ำทั้งสองสะพานครับ มาเริ่มจากสะพานแรกกันดีกว่า วิวกว้างขวางมาก

ปลายสะพานจะมีทางลงไปยังศาลาสีแดงครับ นั่งชิล ลมพัดตลอดเวลา เย็นสบาย ลืมความร้อนไปได้เลย

หากมองจากสะพานไปยังที่พักก็สวยไม่แพ้กัน

ส่วนสะพานอีกฝั่งหนึ่งจะไม่ต่างกันมาก แต่ฝั่งนี้จะมีเก้าอี้นั่งสวยดี และมีทางลงโป๊ะไปพายเรือคายัคเล่นได้ตามที่บอกครับ

ที่นี่มีเป็ดและห่านเลี้ยงไว้ด้วยนะ เป็ดน่ารักใจดี ร้องกั่บๆๆ ตลอดเวลา ส่วนห่านเหมือนจะน่ารักนะ แต่โคตรดุร้าย ไปใกล้มัน มันเรียกพวกมาไล่เราเป็นฝูงเลย วินาทีนั้นโกรธมากครับ อยากเอามาทำขาห่านให้มันรู้แล้วรู้รอด!

ในช่วงเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตก มีแสงทองรำไรสวยงาม

ชอบต้นไม้ที่มันขึ้นโดดๆ บนยอดเขา (ตามภาพล่าง) ที่นี่เป็นแบบนี้แทบทุกเขาเลย แปลกตาดีครับ

ภาพด้านล่างนี้เป็นห้องพักไฮโซ ชื่อว่าบ้านชมดาว มีห้องแอร์และห้องน้ำในตัวสะดวกสบายยิ่งนัก แต่ส่วนตัวคิดว่าวิวสวยสู้ห้องพักที่ผมอยู่ไม่ได้ร้อก อิอิ~

วิวดีไม่ดี ต้องถามสองคนนี้เลยคร้าบ ^^

เมื่อตะวันลับแสง ท้องฟ้าย่อมมืดมิด เป็นโอกาสที่ดีที่จะนำภาพบรรยากาศห้องพักยามราตรีให้ท่านได้ชม

ภาพด้านล่างนี้เป็นบรรยากาศด้วยภาพดาวหมุนยามวิกาล ที่ดาวค่อนข้างสั่นและเบลอ เพราะสะพานไม้มันขยับตลอดเวลาครับ เลยได้เท่าที่ได้ในภาพนั่นแล T_T

ถ่ายรูปเสร็จสักพักก็เข้านอน เตรียมพร้อมตื่นเช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นในวันถัดไป~




วันที่ 2

ในวันใหม่นี้ผมรีบตื่นเช้ามว้ากก เพื่อถ่ายบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น ตื่นปุ๊บก็รีบบึ่งไปที่ปลายสะพานทันที อย่าถามนะว่าแปรงฟันหรือยัง เราไม่บอกนายหรอก

เราขอยกช่วงเช้าเป็นช่วงไฮไลท์ของการมาเยือน ณ ที่แห่งนี้เลย อากาศในช่วงนี้เย็นสบายดีมากกกก และแสงตอนเช้าพระอาทิตย์ขึ้นนี่สวยเกินบรรยายจริงๆ ครับ หากใครมาแล้วตื่นไม่ทัน ท่านจะพลาดความประทับใจที่ดีที่สุดไปเลยล่ะ จริงๆ นะะะ ^_^

พอพระอาทิตย์ขึ้นปุ๊บ ผมนี่อยากหยุดเวลาไว้ ณ ตอนนี้เสียจริง

หลังจากได้ฟินไปกับบรรยากาศตอนเช้าแล้ว ไม่นานนักแดดก็เริ่มแรง อากาศก็เริ่มร้อนขึ้น ก็เลยตัดสินใจไปกินอาหารเช้ากันดีกว่า~

สำหรับอาหารที่นี่จะมีให้เลือกระหว่างข้าวต้ม กับชุดอาหารเช้า เลือกได้อย่างเดียว หากต้องการเพิ่มต้องเสียเงิน ซึ่งผมได้เลือกอาหารเช้ากันทั้งทีม เลยไม่มีภาพข้าวต้มมารีวิว *0*

อาหารเช้ามีขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว อยากให้มีเยอะกว่านี้นิดนึง


สรุปทั้งหมด

จากการเข้าพักเป็นเวลา 2 วัน ขอสรุปข้อดีข้อเสียดังนี้จ้า

ข้อดี

  • บรรยากาศดีสุดบรรยาย เงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก เทียบราคาแล้วเกินคุ้ม
  • เดินทางไม่ไกล (กรุง) ไปเสาร์อาทิตย์ได้ ไม่ต้องรอวันหยุด
  • แม้จะเป็นห้องน้ำรวม แต่ห้องน้ำสะอาด
  • พนักงานบริการดีมากๆ

ข้อเสีย

  • ส่วนตัวคิดว่าอาหารเช้าน้อยไปนิด อย่างน้อยถ้าเลือกทั้ง 2 อย่างไม่ได้ ให้เยอะกว่านี้หน่อยก็ดีนะ ^^
  • หากไปหน้าร้อนอากาศค่อนข้างร้อนเป็นพิเศษ แต่ถ้าไปหน้าฝนล่ะก็ อากาศดีเลย~

สำหรับผมแล้ว ที่นี่ถือเป็นสถานที่ที่ประทับใจแห่งหนึ่งในกาญจนบุรี ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ ที่อยู่ใกล้กรุงแล้ว ที่นี่มีความเป็นธรรมชาติสูงที่สุดแห่งหนึ่งเลยครับ ถ้าตอนนี้อายุ 5-6 ขวบ คงร้องไห้งอแงลงไปดิ้นพราดๆ ไม่ยอมกลับบ้านเป็นแน่แท้ อยู่แล้วไม่อยากกลับจริงๆ ครับ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปเยือนแน่นอน และจะไม่พลาดช่วงหน้าฝนเลย!

อ่านแล้วชอบ ฝากติดตามเราด้วยน้า ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/golitypage แอดมินใจดีมาก ไม่กัดจ้าา ^^

ขอบคุณทุกท่านสำหรับการอ่านคร้าบ ฝากติดตามผลงานของเราต่อด้วยนะครับ ^__^

ความคิดเห็น