ความสุขที่ได้มาโดยไม่ต้องใฝ่คว้า "บ้านปันสุข เพชรบุรีรมย์โฮมสเตย์" เป็นสถานที่พักผ่อนใกล้กรุงเทพมหานคร ไม่ต้องหรูหราขอแค่พอเพียง ก็สัมผัสถึงความสุขสบาย สุขกาย สุขใจที่เกินจะเพียงพอ
ทริปขับรถเที่ยวค่ำที่ไหน นอนที่นั่น เริ่มต้นทริปที่บ้านปันสุข จังหวัดเพชรบุรี โดยจองที่พักที่นี่เป็นสถานที่แรก ก่อนตัดสินใจเลือกสถานที่เที่ยวอื่นๆ (แผนเดิมก่อนโควิดตั้งใจจะไปน่าน หลวงพระบาง) ในระยะเวลาการเดินทางของทริป 8 วัน 7 คืน และในที่สุดสถานที่เที่ยวก็ลงตัว ต้องขอบคุณน้องร่วมทริป ที่ช่วยจัดหาสถานที่เที่ยวและที่พัก ที่สะอาด มีวิวสวยงามในทุกที่ที่ไป
คืนแรก พักที่ บ้านปันสุข เพชรบุรีรมย์โฮมสเตย์ จังหวัดเพชรบุรี สถานที่พักซึ่งเป็นที่สุดของการให้บริการด้วยใจ
รายละเอียดที่พักสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ FB บ้านปันสุข เพชรบุรีรมย์
ใช้เส้นทางนครปฐมเพื่อเลี่ยงการจราจรในเขตกรุงเทพฯ จากสนามบินดอนเมืองถึงบ้านปันสุข
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 11 โมงเช้า แวะซื้อของสดที่ตลาดดอนหวายเพื่อใช้ประกอบอาหารเย็นและอาหารเช้าพรุ่งนี้ มื้อกลางวันแวะทานที่เลม่อนทรีคาเฟ่ จังหวัดนครปฐม ประมาณ 4 โมงเย็นถึงบ้านปันสุข จ.เพชรบุรี ทางเข้าที่พักจะดูยากสักนิด เพราะเป็นถนนเล็กๆเหมือนทางเข้าบ้าน แต่พอถึงบ้านพัก "กระท่อมริมทุ่งนา พร้อมครัวไทยแบบสังคมชนบทสมัยก่อน" เหมือนได้ย้อนกลับไปในวัยเด็ก อยากทำอะไรก็ได้อย่างอิสระเสรี บ้านที่เปิดโล่ง ยังมีความเป็นส่วนตัว แยกสัดส่วนของแต่ละหลังอย่างชัดเจน
กางมุ้งก่อนนอน
มาถึงที่พักในเวลาที่ควรเตรียมอาหารมื้อเย็น ก่อนเข้าครัวเราก็สามารถเก็บผักสวนครัวข้างบ้านมาประกอบอาหารควบคู่ไปกับอาหารสดที่จัดเตรียมมาเอง (ทางที่พักมีเครื่องปรุง ไข่ไก่ให้)
ชุดอาหารพิเศษในมื้อเช้าจากที่พัก
จะมีสักกี่ครั้งที่จะมีโอกาสได้อาบน้ำแบบนี้
บรรยากาศบริเวณที่พัก
หลังจากเก็บสัมภาระเสร็จก็ประมาณ10 โมง ต้องออกเดินทางต่อ เพราะเป้าหมายวันนี้คือเนินมะปรางจังหวัดพิษณุโลก ดูเส้นทางแล้วอีกกว่า 7 ชม.จึงจะถึงจุดหมาย
เนินมะปราง เป็นอำเภอเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาหินปูน สูงตระหง่าน และได้รับการเรียกขานให้เป็น "กุ้ยหลินเมืองไทย" อีกแห่งหนึ่ง เนินมะปรางจึงเป็นสถานที่ได้รับเลือกให้เป็นจุดแวะพักระหว่างทางของพวกเรา
การเดินทางจะผ่านวัดทุ่งพระ (ถ้ำแก้ว) หมู่.๘ บ้านทุ่งพระ ตำบลบ้านมุง ซึ่งเป็นเวลาที่บรรดาค้างคาวจำนวนมาก บินออกจากถ้ำเป็นสาย โบกสะบัดเปลี่ยนทิศทางเป็นภาพเคลื่อนไหวไปมาบนท้องฟ้า (วันนี้ฟ้าค่อนข้างมืด)
ออกจากวัด ก็เดินทางต่อไปยังจุดหมายคืนนี้
คืนที่สอง พักที่ แคมป์หมาป่าใจดี อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก (กางเต้นท์)
ที่นี่ให้บริการสถานที่กางเต้นท์ ซึ่งกลุ่มเราจองได้ตรงจุดนี้
สามารถกางได้ 2 เต้นท์เต็มพื้นที่พอดี ค่ำแล้วช่วยกันหน่อย อึบๆ
เต้นท์เพื่อนบ้าน (ตั้งใจจองตรงนี้แต่ไม่ทัน)
ที่นี่รายล้อมด้วยขุนเขา แต่วันนี้อากาศไม่เย็น ทั้งๆที่มีพัดลมที่ทางสถานที่พักจัดเตรียมให้ แต่เมื่ออยู่ในเต้นท์ลมจะพัดผ่านน้อย เป็นคืนที่นอนไม่สบายเท่าที่ควร
ตื่นเช้ามาเจออากาศสดชื่น ชุ่มฉ่ำ แม้ไม่มีฝนตลอดทั้งคืน
มื้อเช้าชิวชิว
เก็บบรรยากาศก่อนเดินทางต่อ
เสียดายที่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม กลับมาเจอกับภาพแบบนี้
(น่าจะเป็นผู้มาพักกลุ่มก่อนหน้า ทิ้งไว้ แต่ก็แปลกใจที่ทางเจ้าของสถานที่ก็ไม่ได้จัดเก็บให้เรียบร้อยก่อนที่จะรับกลุ่มถัดไป)
ก็เป็นทางเลือกสำหรับแต่ละท่านนะคะ ส่วนตัวมองว่าที่นี่เป็นสถานที่แวะพักระหว่างทางที่ยังมีความเป็นธรรมชาติแม้ว่าจะไม่มีหมอก ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ไม่เห็นพระอาทิตย์ตก หากดูแลความสะอาดให้ดี มีห้องน้ำเพียงพอและไม่ไกลที่พักจะดีกว่านี้มาก (เต็ม10 ให้7)
ค่ากางเต้นท์ท่านละ 150 บาท
ทริปนี้อีกยาวนาน ต้องเดินทางกันต่อ ฝากติดตาด้วยนะคะ
คืนที่สาม พักที่ ม่อนเคียงดาว ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน (เต้นท์โดม)
จากบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์ สู่สุดยอดดอยแห่งน่านนคร ขับรถเที่ยวปลายฝน ตอนที่2 พักม่อนเคียงดาว ดอยเสมอดาว น่าน
คืนที่สี่ พักที่ วัดสะปัน อ.บ่อเกลือ จังหวัดน่าน (กางเต้นท์)
จากบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์ สู่สุดยอดดอยแห่งน่านนคร ขับรถเที่ยวปลายฝน ตอนที่ 3 กางเต้นท์ลานวัดสะปัน วิวหยุดเวลาที่สะปัน
คืนที่ห้า พักที่ บ้านเปียงปุย ดอยสกาด
จากบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์ถึงสุดยอดดอยจังหวัดน่าน ขับรถเที่ยวปลายฝน ตอนที่4 พักบ้านสวนดอยเปียงปุย ดอยสกาด ปัว น่าน
คืนที่หก พักที่ บ้านระเบียงดาว อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
คืนที่เจ็ด พักที่ อุทยานแห่งชาติวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธุ์
ฝากติดตามเพจที่นี่นะคะ
https://th.readme.me/id/Paikan...
ขอบคุณค่ะ
Paikannaka
วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18.36 น.