ปล่อยความวุ่นวายให้ละลายไปกับสายน้ำ พาร่างกายไปเสพความสุข นอนริมน้ำตกแบบส่วนตัวแสนโรแมนติกที่ “สุกันทรา แคสตัส รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่ l Sukantara Cascade Resort and Spa”
ไตรมาสสุดท้ายปลายเข้าสู่ปลายปี โหมงานหนักมาตลอด ต้องมีเหนื่อยกันบ้างแล้วอะ ทริปนี้เลยอยากชวนหนีกรุงไปนอนฟิน ปล่อยร่างกายให้ได้พัก เคลียร์สมองให้ปลอดโปร่ง นอนริมน้ำตกแบบส่วนตัวกลางขุนเขาและธรรมชาติ แบบ unseen ที่นี่ที่เดียว
สุกันทรา แคสตัส รีสอร์ท ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม ใกล้กับน้ำตกตาดหมอก ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่แค่ 20 กว่ากิโลฯ ขับรถสบายๆ 40 นาทีก็ถึงที่แล้ว แค่ก้าวเท้าลงจากรถ ก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่น เสียงสายน้ำส่งเสียงต้อนรับ หอบเอาสดชื่นมากล่าวทักทาย ไม่ว่าจะยืนอยู่จุดไหนๆ ก็เห็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านกลางรีสอร์ท เหมือนกับว่าตอนเรามีน้ำตกเป็นของตัวเอง ยังคงเก็บเอาธรรมชาติแบบดั้งเดิมของพื้นที่ เอาไว้ให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ห้องพักที่นี่ตกแต่งสไตล์แบบเรือนล้านนา ถูกออกแบบให้แทรกตัวกลมกลืนไปกับธรรมชาติเลย มีห้องพักเพียง 16 ห้อง เพื่อให้เรารับความเป็นส่วนตัว ปล่อยเวลาให้เดินช้าๆ อยู่กับเสียงธรรมชาติ สายน้ำตก ที่ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย
แค่ก้าวเข้าที่พัก ก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นได้อย่างชัดเจน
มาพักที่นี่ อยู่จุดไหนก็ได้เห็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านกลางรีสอร์ท ตอนนี้เรามีน้ำตกเป็นของตัวเอง
มาถึง Lobby เช็คอินเรียบร้อยแล้ว ทางรีสอร์ทก็ส่งน้ำแอปเปิ้ลเย็น มาเสริฟความสดชื่นมาต้อนรับ ระหว่างดื่มน้ำ ก็เหลือบไปเห็นภาพถ่ายและรูปปั้นของแองเจริน่า โจลี่ ตอนที่มาพักที่นี่ ซึ่งจริงๆ แล้วที่นี่เขาค่อนข้างเป้นที่รู้จัก ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แถมคนดังๆ หลายๆ คนยังเลือกมาพักที่นี่
สายน้ำไหลลดหลั่นผ่านหน้าผาหิน จนกลายเป็นน้ำตกขนาดที่ผ่านกลางรีสอร์ทนี้ คงจะหาที่ไหนไม่ได้แล้วนอกจากมาพักที่นี่
ช่วงนี้มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เลยถือสบโอกาสเลือกจากห้องพักแบบ Suite Waterfall Pool Villa ซะเลย ให้อารมณ์แบบแช่น้ำ แล้วยังได้วิวน้ำตกแบบไม่มีใครมาแย่งเลย
Suite Waterfall Pool Villa เป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดของทางรีสอร์ท ตกแต่งแบบเรือนล้านนา แต่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บาหลี อยู่กลางธรรมชาติ และน้ำตกไหลผ่านหน้าห้องเลย เอาจริงๆ นะเหมาะสำหรับคู่รักจะมาฮันนีมูนที่นี่ หรือถ้าจะมาเป็นครอบครัวรองรับว่า Happy ทุกคน
การตกแต่งห้อง Suite Waterfall Pool Villa นี้ จะได้อารมณ์เรือนที่ประทับเจ้านางล้านนา เขาแบ่งอาคารออกเป็น 3 ส่วน คือ เรือนเอาท์ดอร์อเนกประสงค์ ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้นั่งสังสรรค์เอกเขนกริมน้ำแบบสบายๆ
เรือนนอนจะอยู่ในหลังใหญ่ที่สุด พื้นที่ก็กว้างขวาง ห้องพักสะอาด เตียงนี่เรียบสุดๆ อีกอย่างที่ภาพถ่ายทอดไม่ได้ คือตั่งแต่เปิดประตูมา ก็ได้กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง ช่วยเพิ่มความประทับใจและเพิ่มระดับดีกรีแห่งความสุข
นั่งมองจากที่นอนได้มองออกไปแล้วเจอวิวแบบนี้ สบายใจไปอีกแบบนะ
ส่วนห้องนี้จะเป็นเรือนหลังเล็กแยกต่างหาก จะเอามีไว้หย่อนใจ หรือจะเสริมเตียงเพิ่มหากมาหลายคนก็ได้
เก็บกระเป๋าเสร็จแล้วอันดับแรก ก็ต้องลงอ่างจาคุซซี่ผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากันสักหน่อย อากาศเย็นนิดๆ ได้น้ำอุ่นมานวดตัว รอบล้อมด้วยบรรยากาศบาหลีอย่างงี้ บอกได้คำเดียวฟินมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เขาเตรียมให้ครบครัน ไม่ต้องกังวลว่าลืมพกอะไรมาไม่ครบเพราะที่นี่เขาเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว ผ้าเช็ดตัวเรียบกริบ ชุดคลุมกลิ่นหอมๆ สบู่แชมพูสมุนไพร อะไรๆ น่าหยิบน่าใช้ไปหมด
สระว่ายน้ำส่วนตัวหน้าห้องพัก เหนื่อยนักลงไปแช่น้ำผ่อนคลาย จากตรงนี้ได้วิวน้ำตกจากหน้าที่พัก ถ่ายรูปเก๋ๆ ให้ feel เหมือนอยู่บาหลี
ที่นี่ เขาเลือกที่จะออกแบบห้องพัก โดยยังเคารพพื้นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ห้องพักที่นี่ถูกออกแบบให้แทรกตัวกลมกลืนไปธรรมชาติ ผู้เข้าพักจะได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ห้องพักแต่ละหลังจากตั้งแยกจากกัน เพื่อความส่วนตัว
จริงๆ แล้วที่นี่เขาก็มีห้องพักหลากหลายถึง 5 แบบ มาถึงที่นี่แล้วทั้งที่ก็ต้องขอไปสำรวจห้องพักสไตล์อื่น อย่าง Waterfall Lanna Cottage กันดูสักหน่อย
ภายในห้อง Waterfall Lanna Cottage จะมีความโดดเด่นตรงหน้าตั้งอยู่หน้าน้ำตก ถ้าอยากได้วิวพานอรามา ห้องนี้ก็เป็นอีกห้องที่แนะนำ
การตกแต่งก็ยังคงเป็นแบบโมเดิร์นล้านนา พื้นที่ใช้สอยกว้างขว้าง แอร์เย็นฉ่ำ อินเตอร์เร็วและแรง เตียงนุ่มเรียบกริบ อีกอย่างที่ recommended เลย รีสอร์ทล้อมรอบด้วยธรรมชาติป่าเขา ขนาดนี้แต่เราไม่เจอทั้งยุงและแมลงมารบกวนให้ระแวงเลยสักนิด
เครื่องอำนวยความสะดวกภายในห้องนี้ก็ครบครัน ไม่แพ้ Suite Waterfall Pool Villa
เปิดประตูออกจากห้องพักก็ได้เห็นวิวแบบนี้เลย
สระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่เขาเลือกให้วางตัวขนานไปกับแนวน้ำตก ถ้านั่งดูวิวแล้วยังฟินไม่พอ ก็เปลี่ยนชุดแล้วโดดลงน้ำ แช่ตัวเกาะขอบสระมองดูสายน้ำ เหมือนกับว่าได้แช่ตัวอยู่ในน้ำตกเลย
พักผ่อนแล้ว อีกอย่างที่ไม่ได้อยากให้พลาด ต้องได้ดินเนอร์อาหารเหนือรสดีมากๆในขันโตก ท่ามกลางวิวหลักล้าน แค่นึกภาพตามก็โรแมนติกแล้ว ถ้าได้มาจริงๆ จะโรแมนติกขนาดไหน
ดินเนอร์ขันโตก ในวิวหลักล้าน ยิ่งช่วงนี้อากาศเชียงใหม่กำลังดี ยิ่งถ้าได้กินกับคนรู้ใจ มันจะดีต่อใจขนาดไหนกัน
มองไปทางไหนก็เจอกับต้นไม้นานาพรรณ ภายในโรงแรมมีมุมโน้นมุมนี้ ที่จัดวางมาอย่างมาพอเหมาะพอเจาะ ให้ได้นั่งพัก ลงแช่น้ำ หรือจะถ่ายรูปได้อย่างเหลือเฟือ
กลางรีสอร์ทมีสะพานทอดยาว สามารถข้ามไปยังอีกฝั่งได้ อีกหนึ่งเช็คพ้อยท์ของที่นี่ ถ้ามาแล้วอย่าลืมมาแวะถ่ายสวยๆ ตรงนี้นะ ^^
ได้รับการปรนนิบัติจากธรรมชาติ และบริการจนสุขขั้นสุดแล้ว ก็ต้องแวะมาเติมความสุขยามเช้า ที่โซนรับประทานอาหาร ซึ่งจะอยู่บริเวณเดียวกับ Lobby จุดนี้เราก็จะได้นั่งมองน้ำตกในบรรยากาศยามเช้า มีหมอกไหลมาจางๆ ดีไปอีกแบบ
อาหารเช้าหน้าน้ำตกแบบนี้ มีได้ที่นี่ที่เดียว
เมนูอาหารเช้าเขามีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มร้อนๆ หรือซุปมักกะโรนี หรืออยากได้สไตล์ american breakfast สามารถเเจ้งทางรีสอร์ทได้ แอบกระซิบว่าทานอาหารที่นี่อร่อยทุก มีใจให้กับทุกเมนูแน่นอน
อากาศดีๆ ยามเช้าพาเอาน้อนออกมาเล่นน้ำ อวดความน่ารักๆ เป็นแบบให้ถ่ายรูปอย่างไม่ถือตัว
แล้วยังได้ทักทายถ่ายรูปกับน้องนกยูง ที่จะมาวนเวียนอยู่รายรอบตัวเรา ถ้าน้องอารมณ์ดีก็จะรำแพนอวดสีสวยให้ได้ชมกัน
ช่วงเวลาอันแสนสุข ในที่พักแสนโรแมนติคอบอุ่น บรรยากาศดี อาหารอร่อย และบริการที่ดีมาก จนกลายเป็นอีก 1 ที่พักในดวงใจในเมืองเชียงใหม่
วันพักผ่อนที่จะถึงนี้ ลองแวะไปใช้ชีวิตแบบใกล้ชิดธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมนกชมไม้ นั่งจิบกาแฟริมน้ำตก ฟินกับอาหารอร่อย เอาวุ่นวายละลายไปสายน้ำ ปล่อยให้ธรรมชาติได้โอบกอด ในที่พักบรรยากาศสุดหรู และบริการดีๆ แนะนำที่เลย “สุกันทรา แคสตัส รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่ l Sukantara Cascade Resort and Spa” แม่ริม เชียงใหม่
ที่นี่สามารถใช้สิทธิ์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันมีส่วนลดให้ถึง 40%
สิทธิ์นี้มีถึงวันที่ 31 มกราคม 2564
“สุกันทรา แคสตัส รีสอร์ท แอนด์ สปา l Sukantara Cascade Resort and Spa”
พิกัด : ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (ใกล้น้ำตกตาดหมอกเพียง 1 กม.)
Gps : https://goo.gl/maps/NW2XUD91Noo5j4RF8
ข้อมูลเพิ่มเติม
website : www.sukantara.com
fb : SukantaraResort
tel : 081 881 1444, 081 881 6570
ติดตามการเดินทางแบบเราเพิ่มเติมได้ที่ แค่อยากออกไป
แค่อยากออกไป
วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 22.45 น.