"ไปเที่ยวด้วยกัน" ทริปนี้ออกเดินทางขึ้นเหนือ ไม่มีแพลนในการเดินทาง ใช้เวลาสำหรับทริปนี้ 3 คืน 4 วัน (วันลาหมดเลยจ้า) เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สมาชิกร่วมทริปอีก 3 คน ยาวๆไปเลยจ้าาาาาา
ออกเดินทางจากอยุธยาเวลา 14.30 น. มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ จะถึงเมื่อไรเดี๋ยวรู้กัน
เวลา 19.30 น. เข้าสู่จังหวัดตาก เราแวะกินข้าวที่นี้ จุดนี้น่าจะเป็นจุดพักรถสำหรับนักเดินทางคนเยอะพอสมควรเลย ที่ขึ้นชื่อที่นี้คงข้าวต้มปลาริมทาง จัดว่าดีสำหรับเวลานี้ แต่เราคงไม่ได้กินเพราะคิวยาวมาก และระยะทางยังอีกยาวไกลเลยตัดสินใจกินอาหารตามสั่งแทนแล้วกัน 5555+
เวลา 22.45 น. ถึงเชียงใหม่แล้วจ้าว คืนนี้ไม่ได้จองที่พักมา เพราะไม่รู้ว่าจะนอนที่ไหนระหว่างลำปางหรือเชียงใหม่ ขับรถวนหาอยู่แปบนึง (โชคดีคนขับรถรู้ทางเชียงใหม่เลยหาที่พักง่าย) เราได้ที่พักแถวสนามบินเชียงใหม่ โรงแรมนิ่มซี่เส็ง สำหรับที่นี้คืนละ 900 บาท (แนะนำจองล่วงหน้าดีที่สุด) คะแนนสำหรับที่พักที่นี้ 9/10 เลยจ้า คืนนี้นอนฝันดี 23.30 น.
สวัสดีเชียงใหม่จ้าว เช้านี้ที่เชียงใหม่ Check Out ออกจากที่พักประมาณ 07.45 น. ออกมาข้าวกินกันจ้า มาเชียงใหม่ต้องกินข้าวซอยซินะ ไม่ใช่สำหรับเราหรอก สำหรับเช้านี้ข้าวมันไก่จ้าที่ตามหาอิอิ ร้านเด็ดที่แนะนำสำหรับข้าวมันไก่นะคะ "ร้านเกียรติโอชา" เด็ดจริง ประกอบกับไอศครีมมะพร้าว "ร้านมุกดา" มะพร้าวน้ำหอมเนื้อแน่นๆเลยจ้า
"ร้านเกียรติโอชา"
"ร้านมุกดา"
ก่อนออกเดินทางขึ้นไปปาย แวะสักการะหลวงพ่อวัดมหาวัน แล้วออกเดินทางกันจ้าาาาา
ขัวเหล็กนวรัฐ : สะพานข้ามแม่น้ำปิง คู่เมืองเชียงใหม่มากกว่า 100 ปี
"ขัว" แปลว่า สะพาน
ระหว่างทางผ่านสวนดอกไม้ เลยขอแวะถ่ายรูปสวนดอกไม้ก่อน ที่สวนดอกไม้ป้าจวนลุงใจ๋ ที่นี้มีดอกมากาเร็ตสีม่วงสดใสมาก แต่วันนี้แดดแรงไปหน่อย สู้ไม่ไหว
ออกเดินทางกันต่อ ขึ้นปายแล้วนะจ๊ะ ระยะทางระหว่างขึ้นไปปาย เส้นทางขึ้นเขาลงเขาตลอด แนะนำสำหรับคนที่เมารถควรนอนหลับหรือหาอะไรดูในโทรศัพท์ไประหว่างขึ้นเขานะจ๊ะ ถ้าไม่เช่นนั้นอ้วกแน่นอนจ้า
โดยระหว่างขึ้นเขาไปปายตลอดเส้นทางมีคาเฟ่ ร้านอาหารให้เราได้แวะพักผ่อนกันด้วยนะ
ขอแวะทานกาแฟกันก่อนน๊า ร้านแป้นเกล็ด คอฟฟี่ เป็นร้านกาแฟร้านแรกๆ เลยอยู่ทางขึ้นเขา ที่จอดรถกว้างขวาง กาแฟที่นี้เข้มข้น รสชาติดี
บรรยากาศร้านแป้นเกล็ด คอฟฟี่
เอสเปรสโซ่ร้อนเข้มๆ เลยจ้า ทานกาแฟเสร็จแล้วออกเดินทางกันต่อจ้า
เดินทางขึ้นมาถึงแถวบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปาย ประมาณ 12.00 น. กว่าๆ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ เริ่มหิวแล้วหล่ะ ที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปายจะมีร้านอาหารเหมือนเป็นจุดพักรถสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางยาวไปแม่ฮ่องสอน
สะพานข้ามแม่น้ำปาย
แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดคนที่ร้านอาหารค่อนข้างเยอะ เลยตัดสินใจขับรถออกมาหาหาอย่างอื่นทาน พอดีมองไปเห็นป้าย ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ไปซิจ๊ะรออะไร
ทางขึ้นไปร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่ปาย ทางขึ้นไปร้านโหดมากแม่ นึกว่าหลงซะแล้ว
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่ปาย ก็ถือว่าไม่ผิดหวังที่ขับรถขึ้นมา รสชาติดี ถึงอากาศจะร้อนแต่ร้านลมพัดบรรยากาศดีมาก ไม่ร้อนอย่างที่คิด (รีบกินแล้วรีบเดินทางกันต่อ)
ลงกลับมาจากก๋วยเตี๋ยวห้อยขา กลับเข้าสู่เส้นทามุ่งหน้าไปปาย
ระหว่างทางเราผ่านโป่งน้ำร้อนท่าปายด้วยหล่ะ แต่ไม่ได้แวะเข้าไปเที่ยวด้านใน เพราะต้องรีบไปที่พักแล้ว ถ้าไปช้ากว่านี้รถจะเข้าที่พักไม่ได้ เพราะมีถนนคนเดินที่ปาย
ถึงที่พักแล้วจ้า ประมาณ 15.00 น. โค้งที่พิชิตทั้งหมด 762 โค้ง
เราเลือกพักที่นี้ Rim-Pai Cottage ที่พักกว้างมาก บรรยากาศเหมือนบ้านสวน พนักงานต้อนรับดี ที่พักค่อนข้างเป็นส่วนตัว
ห้องพักกว้างมาก ชอบที่สุดคือห้องน้ำกว้างสุด คะแนนสำหรับที่พักที่นี้ 10/10 ไม่หักเลยจ้า
ประมาณ 16.00 น. ถนนคนเดิน เริ่มมีร้านมาตั้งแล้ว ถนนคนเดินปาย เปิดบริการทุกวันในช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ค่ะ และวันศุกร์-เสาร์ในช่วงหน้าร้อน และหน้าฝน พ่อค้าแม่ค้าจะเริ่มตั้งร้านขายของตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนไปถึงประมาณเที่ยงคืน ช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดน่าจะเป็นช่วงประมาณ 20.00-21.00 น. ที่อากาศกำลังเย็นสบายๆ
แอบถามแม่ค้าที่ขายของที่นี้ว่า "ช่วงโควิดเป็นยังไงบ้าง"
แม่ค้าบอกว่า "เงียบคะ แต่เมื่อวานคนเยอะ วันนี้ก็เยอะ"
ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่เรายังต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเองกันต่อไปน๊าาาา
บรรยากาศช่วงเย็นที่ ถนนคนเดินที่ปาย
เช้านี้ที่ปาย (16-11-2020)
ตื่นออกจากที่พักประมาณ 05.00 น. เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลหมอกหยุนไหล ใช้เวลาขับรถมาถึงจุดหมายประมาณ 10 นาที เราต้องจอดรถไว้ที่บริเวณลานจอดรถหมู่บ้านสันติชล แล้วนั่งรถโดยสารต่อขึ้นไปด้านบน (คนละ 50 บาท ควรหาเพื่อนเหมาขึ้นไปพร้อมๆกันนะคะ) อากาศที่นี้ค่อนข้างเย็น แต่ไม่ถึงกับหนาวมาก แต่ก็ควรมีเสื้อกันหนาวไปด้วยน๊า
ทางขึ้นไปด้านบน ทะเลหมอกหยุนไหล
ด้านบนมีร้านชา หมั่นโถวอร่อยๆ และข้าวต้มให้เลือกทานระหว่างรอพระอาทิตย์ด้วยน๊าา สำหรับเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย
พระอาทิตย์ขึ้นแล้วที่ทะเลหมอกหยุนไหล เวลาประมาณ 06.37 น. สวยมากกกกก
ธรรมชาติพร้อมจะโอบกอดเราเสมอในวันที่เราอ่อนหล้า
ไม่ว่าสิ่งที่เราเจอมันจะเป็นอย่างที่คิดไว้หรือไม่ แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีความหมายให้เราได้นึกถึงเสมอ
ลงมาจะทะเลหมอกหยุนไหล จะเจอหมู่บ้านสันติชล เป็นชุมชนท่องเที่ยวที่นำเสนอเอกลักษณ์ วัฒนธรรมของชาวจีนยูนนานเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว เราแวะไปดูบรรยากาศด้านในกัน
บรรยากาศ หมู่บ้านสันติชล
บรรยากาศ หมู่บ้านสันติชล
บรรยากาศ หมู่บ้านสันติชล
บรรยากาศ หมู่บ้านสันติชล : การโล่ชิงช้าแบบชาวเขา ลักษณะเหมือนชิงช้าสวรค์
บริเวณลานจอดรถหมู่บ้านสันติชล มีร้านค้าที่ชาวบ้านนำสินค้ามาจำหน่าย ราคาไม่แพง ใครมาเที่ยวอย่าลืมอุดหนุนกันน๊าา
เกาลัดอร่อยมาก
หลังจากเดินเที่ยวหมู่บ้านสันติชลจนทั่วแล้ว ก็เดินทางกลับที่พัก Check Out ลงกลับไปเชียงใหม่กันเถ๊อะ
ระหว่างเดินทางกลับ แวะเติมพลังก่อนน๊า
ร้านหลงกลิ่นคาเฟ่ ร้านอยู่ริมถนนทางลงปาย เจ้าของร้านคุยเก่ง รสชาติกาแฟธรรมดา อาศัยถ่ายวิวแล้วกันเนอะ
ลงมาได้ครึ่งทางแล้ว ประมาณ 11.50 น. เริ่มหิวอีกแล้ว
แวะพักทานข้าวกันที่ Coffee Hill อาหารรสชาติดีมาก วิวธรรมชาติสุดๆ
เราลงมาถึงอ.แม่ริม เชียงใหม่ น่าจะมาณ 13.20 น. สมาชิกร่วมเดินทางอยากถ่ายรูปกับสวนดอกไม้อีก เราเลยหาสวนดอกไม้ที่จะไปถ่ายรูป โดยตั้งใจจะไป I Love Flower Farm ตาม Gps ไปเลยจ้าาาา
มาเจอสวนลุงสิงห์ เป็นสวนที่อยู่ติดกับลานจอดรถของสวน I Love Flower Farm (ไม่หลงน๊า)
สวนลุงสิงห์ เป็นสวนของชาวบ้านที่นี้ก็สวยน๊า ถึงดอกไม้จะไม่เยอะมาก แต่สวยไม่แพ้ที่อื่นเลยนะ
สวนลุงสิงห์
คืนนี้พักที่ โรงแรมแอทพิงค์นครเชียงใหม่ อยู่ถนนนิมมานซอย 12
เรามาถึงที่พักประมาณ 15.10 น. Check In เสร็จขอพักร่างก่อนนะ
พร้อมแว้ว ออกไปเที่ยวกันต่อ
มาเชียงใหม่ไม่นั่งรถแดงได้ไง ขึ้นรถแดงมาลงประตูท่าแพ 555+
ประตูท่าแพ
แล้วนั่งรถแดงกลับมาถนนนิมมาน ฝากท้องสำหรับมือเย็นไว้ที่ ร้านพริกทอด อยู่ถนนนิมมานซอย 5 ร้านนี้มีอาหารเมืองด้วยหล่ะ รสชาติถือว่าดี
เดินออกจากซอยมา หาของหวานกินกันต่อเลยจ้า
เราแวะกินนมร้านนนมนต์นมสด อยู่ถนนนิมมานเหมินทร์ (ไม่แวะคงไม่ได้) คือดี๊มากกกกก ช่วงที่ไปถึงคนน้อยเลยไม่ต้องเบียดเสียดกันเหมือนทุกครั้ง
อิ่มแล้วกลับที่พักได้ พักร่างจ้าพรุ่งนี้เดินทางกลับ
เช้านี้ที่เชียงใหม่ (17-11-2020) ตื่นมาก็หาร้านกาแฟก่อนเลยจ้า
ร้าน Light Up Cafe' อยู่ถนนนิมมานซอย 15
ออกเดินทางกลับกันจ้า
แวะซื้อของฝากที่ตลาดทุ่งเกวียน
แคปหมูสุดอร่อยของขึ้นชื่อของที่นี้
ในทุกการเดินทาง จุดหมายเป็นสิ่งที่ทุกคนตั้งเป้าหมายไว้ บางครั้งก็สมหวังบางครั้งก็ผิดหวังกับปลายทางที่ได้เจอ แต่จงอย่าลืมระหว่างเพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะพาเราไปยังจุดหมายนั้นที่ตั้งไว้.
ขอบคุณคนขับรถที่น่ารักสำหรับทริปนี้ มันไกลมากและทางก็โหดจริงๆ และขอบคุณผู้ร่วมทริปด้วยเพราะถ้าไม่มีผู้ร่วมทริปไปด้วยก็คงไม่สนุกแบบนี้
Journey Together
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.34 น.