กลับมาที่จังหวัดกาญจนบุรีอีกเช่นเคย แต่คราวนี้เราไม่ได้พาทุกคนมาที่คาเฟ่เหมือนคราวที่แล้วหรอกนะคะ เพราะเราจะพาทุกคนมาเที่ยวน้ำตกเอราวัณ ซึ่งเป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงาม เพราะน้ำจะเป็นสีออกเขียว ๆ ฟ้า ๆ ที่อยู่ท่ามกลางป่าเขา กลมกลืนกับธรรมชาติสุด ๆ เนื่องจากกว่าจะได้มาถ่ายรูปและเที่ยวชมน้ำตกครบทุกชั้นเนี่ย เราเคยมาก่อนหน้านั้นแล้วรอบนึงค่ะ แต่เสียดาย...คืนก่อนวันที่จะมาฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำป่าไหลหลาก น้ำกลายเป็นสีน้ำตาลขุ่นเลย 5555 เราก็เลยมาแก้ตัวอีกรอบค่ะ โชคดีที่คราวนี้มาถูกจังหวะ แถมมาก่อนที่จะมีโควิดระบาดอีกรอบ แหม่ โชคช่วยเสียจริง ^^” ไม่งั้นล่ะก็อดถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ แล้วล่ะค่ะ สำหรับใครที่อยากตามเรามาเที่ยวบ้างล่ะก็... เราปักหมุดข้อมูลการเดินทางมาเที่ยวน้ำตกเอราวัณไว้ที่ด้านล่างสุดให้แล้วนะคะ พูดเยอะล่ะเจ็บคอ เรามาชมภาพน้ำตกสวย ๆ ไปพร้อมกันดีกว่าค่ะ ^^

ก่อนจะเดินเข้าไปชมน้ำตกเอราวัณ เรามาถ่ายรูปป้ายเป็นที่ระทึก เอ้ย!!! ที่ระลึก กันก่อนดีกว่าค่ะ เพื่อให้รู้ว่ามาถึงแล้วนะ ถึงแล้วจริง ๆ ไม่มีมโน ไม่มีกายทิพย์ 555555

น้ำตกเอราวัณตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ บริเวณฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งน้ำตกเอราวัณมีชื่อเดิมว่า “น้ำตกสะด่องม่องลาย” ที่มาจากชื่อของ “ห้วยม่องลาย” ลำธารอันเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกค่ะ

ธารน้ำตกของน้ำตกเอราวัณนั้นอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และสวยงาม โดยไหลพาดผ่านลงมาจากยอดเขาและผาหินปูนที่สูงตระหง่านจากระดับน้ำทะเลประมาณ 65 - 996 เมตร เป็นระยะทางต่อเนื่องกันประมาณ 1.5 กิโลเมตร จนเกิดเป็นน้ำตกลดหลั่นกันถึง 7 ชั้นค่ะ

ป้ายบอกชื่อและระยะทางของน้ำตกแต่ละชั้นว่ามีชื่ออะไรบ้าง และมีระยะทางเท่าใด ซึ่งน้ำตกแต่ละชั้นก็จะมีการตั้งชื่อให้คล้องจองกันค่ะ เริ่มจาก...

เดินมาถึง น้ำตกชั้นที่ 1 “ไหลคืนรัง” สบายมาก เดินเข้ามาไม่ไกลก็ถึงแล้ว

น้ำตกชั้นที่ 1 “ไหลคืนรัง” เป็นน้ำตกชั้นเล็ก ๆ เหมาะสำหรับนั่งเล่นพักผ่อน หรือถ้าใครรู้สึกหิว ๆ หรือกระหายน้ำ ตรงข้ามกับน้ำตกชั้นนี้ก็มีร้านค้าสวัสดิการขายเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม, อาหารประเภทส้มตำ คอหมูย่าง พิซซ่า, หรือขนมขบเคี้ยว ราคาค่าอาหาร/เครื่องดื่มก็ราคาปกติเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งที่นี่จะดีมากตรงที่ไม่ใช้กล่องโฟมเลย แต่จะใช้กล่องพลาสติกใส ๆ แทน ถ้าต้องการซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มจะต้องแลกคูปองก่อนนะคะ และเวลากินเสร็จต้องนำไปทิ้งที่ถังขยะกันนะคะ เพื่อที่ว่าธรรมชาติสวย ๆ จะได้อยู่กับพวกเราอย่างนี้ไปนาน ๆ ค่ะ ^^

น้ำตกชั้นที่ 2 “วังมัจฉา” อยู่ถัดจากน้ำตกชั้นที่ 1 “ไหลคืนรัง” มาแค่นิดเดียวค่ะ แต่ขอบอกเลยว่าน้ำน่าเล่นกว่าและสวยกว่าค่ะ เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำมาก ๆ เลยค่ะ เพราะว่าจะมีแอ่งน้ำให้ลงไปเล่นได้ แถมยังมีฝูงปลาพลวงแหวกว่ายและอาศัยอยู่ในน้ำด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือเจ้าหน้าที่ของอุทยานจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านจากน้ำตกชั้น 2 ขึ้นไปนะคะ แต่ถ้าจำเป็นหรือต้องการนำห่อขนม / เครื่องดื่มขึ้นไปกินหรือดื่มจริง ๆ ก็จะต้องจ่ายค่ามัดจำลงทะเบียนขวดน้ำ หรือห่อขนมต่าง ๆ ก่อน แล้วเจ้าหน้าที่จะทำสัญลักษณ์ไว้ให้ เพียงเท่านี้ก็นำติดตัวขึ้นไปได้แล้ว และขากลับให้นำติดตัวมาด้วยนะคะ เพื่อทิ้งในถังที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้และรับเงินมัดจำคืน แต่ถ้าไม่นำกลับมาแสดงว่าทิ้งไว้ในป่าก็จะต้องจ่ายค่าปรับนั่นเองค่ะ

พอเดินไปสักหน่อยก่อนจะขึ้นไปน้ำตกชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก” ก็จะเจอสะพานและน้ำตกย่อยระหว่างทางที่เป็นช่วงปลายน้ำของน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งสวยงามไม่แพ้กัน ยิ่งถ้าแสงแดดสะท้อนลงมาที่น้ำตกยิ่งสวยสุด ๆ เลยค่ะ

น้ำตกชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก” อยู่ห่างจากน้ำตกชั้นที่ 2 “วังมัจฉา” เพียง 100 - 200 เมตรเท่านั้น ซึ่งน้ำตกชั้นนี้สวยงามสมกับชื่อน้ำตกจริง ๆ ค่ะ เพราะสายน้ำตกจะตกลงมาในระดับสูงลงถึงแอ่งน้ำเขียวสีมรกตอันกว้างใหญ่เบื้องล่าง และเมื่อเข้าไปยืนเล่นน้ำข้างในบริเวณน้ำตกก็จะทำให้รู้สึกสดชื่นซู่ซ่า เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำจริง ๆ เลยค่ะ

น้ำตกชั้นที่ 4 “อกผีเสื้อ” มีระยะทางห่างจากน้ำตกชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก” ขึ้นไปอีกเพียง 250 เมตรเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะดูเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่เส้นทางที่ขึ้นมาถึงน้ำตกชั้นนี้ก็มีความชันจนคนส่วนมากเดินต่อแทบไม่ไหวค่ะ ซึ่งเหตุผลที่น้ำตกชั้นนี้ชื่อว่า “อกผีเสื้อ” ก็เพราะว่าลักษณะของเนินหินทั้ง 2 ก้อนบริเวณที่น้ำตกไหลผ่านลงมานั้นคล้ายกับเนินอกของนางผีเสื้อสมุทรในวรรณคดีไทยนั่นเองค่ะ สำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นท้าท้ายหรือต้องการเล่นสไลเดอร์ไหลลื่นตกลงมายังแอ่งน้ำด้านล่าง ขอแนะนำว่าให้มาเล่นที่น้ำตกชั้นนี้ค่ะ

น้ำตกชั้นที่ 5 “เบื่อไม่ลง” สมกับชื่อน้ำตกจริง ๆ ค่ะ เพราะน้ำตกชั้นนี้สวยมาก สวยจนเบื่อไม่ลง ยิ่งเวลาที่แสงแดดตอนสาย ๆ สะท้อนลงมากระทบกับผิวน้ำ ทำให้ผิวน้ำนั้นออกสีเขียวอ่อน ๆ ฟ้า ๆ ยิ่งสวยงามมากขึ้นไปอีก ซึ่งหากใครจะมาที่น้ำตกชั้นนี้อาจจะต้องเดินขึ้นเขาอีก 500 - 600 เมตร เลยค่ะ แต่สำหรับเราต่อให้ไกลหรือเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่หวั่น ขอแค่เดินขึ้นไปพิชิตถึงน้ำตกชั้นที่ 7 ก็พอ ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่แล้วนี่เนอะ ^^ ถ้าใครได้ขึ้นมาชมน้ำตกชั้นนี้ รับประกันได้เลยว่าเบื่อไม่ลงแน่ ๆ เลยล่ะค่ะ 5555

น้ำตกชั้นที่ 6 “ดงพฤกษา” เป็นน้ำตกที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ โดยม่านน้ำที่ไหลลงมานั้นยังแหวกม่านพฤกษาออกมาเลยค่ะ และนี่ก็คือที่มาของชื่อน้ำตกชั้นนี้นั่นเอง รับรองว่าใครที่เดินมาถึงน้ำตกชั้นนี้แล้วรับรองได้ว่าต้องหายร้อนและหายเหนื่อยอย่างแน่นอนค่ะ

เดินขึ้นเขาอย่างทรหดจากน้ำตกชั้นที่ 6 “ดงพฤกษา” มาตั้ง 250 เมตรแหน่ะ บอกเลยว่าเส้นทางขึ้นเขาไปบนน้ำตกชั้น 7 “ภูผาเอราวัณ” นั้นโหดเอาเรื่องค่ะ ต่อให้มีบันไดให้ขึ้นสะดวกกว่าแต่ก่อนที่ต้องปีนป่ายเขาขึ้นมาก็ยังแทบหมดแรงเลยค่ะ 5555

ในที่สุดเราก็พิชิตน้ำตกเอราวัณครบทั้ง 7 ชั้นซะที เย้!!! ระยะทางตั้ง 2 กิโลเมตรกว่า ๆ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น ^^

น้ำตกชั้นที่ 7 “ภูผาเอราวัณ” เป็นน้ำตกชั้นบนสุดและชั้นสุดท้ายที่สวยงามมากที่สุดเลยล่ะค่ะ เพราะว่าหากมองหน้าผาตรงหน้าไกล ๆ จะมีลักษณะเหมือนเป็นหัวช้างสามเศียรคล้ายกับช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตกชั้นนี้นั่นเองค่ะ

พอถ่ายรูปชั้นนี้จนพอใจแล้วก็เดินกลับลงมาค่ะ แล้วก็ถ่ายรูปไประหว่างทาง วิวไหนสวยก็ถ่าย วิวไหนรู้สึกเฉย ๆ ก็เดินผ่าน แต่ส่วนมากจะแวะถ่ายรูปที่น้ำตกชั้น 5 มากกว่า แล้วก็ถ่ายรูปวิวภูเขาเขียว ๆ ตรงจุดชมวิวค่ะ

เห็นผิวน้ำที่แสงแดดตกกระทบลงมาแล้ว สวยงามมากจริง ๆ ค่ะ

มาชมวิวภูเขาสีเขียวสวย ๆ กันดีกว่าค่ะ

ยิ่งแสงแดดสะท้อนกับผิวน้ำมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้น้ำตกสวยงามมากเท่านั้นค่ะ

พอเดินลงมาถึงน้ำตกชั้นที่ 2 วังมัจฉา คนก็เริ่มมาท่องเที่ยวกันเยอะมากขึ้น บ้างก็เอาเสื่อมาปิกนิก บ้างก็ใส่เสื้อชูชีพเล่นน้ำตก โชคดีที่เรามาแต่เช้า เลยได้ถ่ายรูปสวย ๆ แบบไม่ติดคน 5555 จากนั้นก็นั่งรถกอล์ฟที่คอยให้บริการค่ะ คนละ 30 บาทเท่านั้น แต่ถ้าใครสะดวกเดินชมวิวธรรมชาติสวย ๆ ข้างทางก็เพลินดีค่ะ แถมได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย


สำหรับใครที่มาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี อย่าลืมแวะมาถ่ายรูป เล่นน้ำตก หรือชมวิวสวย ๆ ที่น้ำตกเอราวัณกันนะคะ แล้วอย่าลืมเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยการไม่ทิ้งเศษขยะ ขวดน้ำ ห่อขนม ลงบนพื้นหรือที่น้ำตก เพื่อที่ว่าคนอื่นจะได้ชมธรรมชาติสวย ๆ เหมือนกันค่ะ


ปล. บางรูปเป็นรูปที่พี่เราถ่าย ถ่ายสวยกว่าเราอีก 5555


📍 ปักหมุดได้ที่: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ 4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250

🚘 GPS: https://goo.gl/maps/UmioVuyytGLtaxBK8

👍 Facebook: https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติเอราวัณ-Erawan-National-Park-580314699117381/

📞 โทร. 034-574-222, 034-574-234, 034-574-288

💸เสียค่าเข้าชม:

คนไทย
เด็ก >> (เดิม) ราคา 50 บาท / (ใหม่) ราคา 30 บาท***
ผู้ใหญ่ >> (เดิม) ราคา 100 บาท / (ใหม่) ราคา 60 บาท***

ชาวต่างชาติ
เด็ก >> (เดิม) ราคา 200 บาท / (ใหม่) ราคา 150 บาท***
ผู้ใหญ่ >> ราคา 300 บาท

ยานพาหนะ
รถยนต์ >> 30 บาท
รถจักรยานยนต์ >> 20 บาท

***ทั้งนี้ค่าเข้าชม (ใหม่) นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปค่ะ***

🏡 เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.

Windy_love_Travel หญิงสาวผู้รักการท่องเที่ยว

 วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.21 น.

ความคิดเห็น