ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า เป็นมือใหม่หัดรีวิวนะครับ
เพิ่งเคยรีวิวครั้งแรก อาจจะไม่สนุกเท่าไหร่ แต่อยากแชร์ความประทับใจครั้งนี้
เพราะรู้สึกชอบที่นี่จริงๆ สัมผัสธรรมชาติสุดๆ เหมาะกับมาพักสมอง
เพิ่งไปเที่ยวมาเมื่อวันที่ 7-8 มีนาคม 58 ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ (กลางวันร้อนจริงๆ)
ใช้ iphone5c ถ่ายทั้งหมด แต่งด้วยโปรแกรม VSCOcam แค่นั้นครับ 555
ภาพอาจไม่สวยเท่าไหร่ ไว้ถ้ามีกล้องดีๆจะทำรีวิวแก้ตัวใหม่ด้วยภาพสวยๆ ^^
ที่พักตั้งอยู่ใจกลางของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ต้องนั้งเรือที่ท่าเรือรีโซเทลเพื่อเดินทางเข้าไปในที่พักเท่านั้น
ทาเข้าท่าเรือจะอยู่เลยน้ำตกไทรโยคน้อย แต่ยังไม่ถึงน้ำตกไทรโยคใหญ่
ขับรถไปทางน้ำตกไทรโยค เลยไปนิด จะเจอทางเข้าเขียนว่า River Kwai Resotel
ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอลานจอดรถข้างซ้าย แต่อย่าเลี้ยวไปนะครับมันไม่ใช่ 5555
มันจะต้องเลยลงไปอีกนิดถึงจะเป็นที่จอดรถก่อนขึ้นเรือครับ
ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มต้น Slow life กันเลยยยยย
ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญานมือถือ(อาจมีนิดๆ) เน็ตนี่ไม่ต้องพูดถึง ขึ้น 3g แต่เล่นไม่ได้ 555
นี่คือทางเดินไปลงเรือครับ
ถ้าเราจองกับทางโรงแรมพร้อมเรือ เรือจะมีทั้งหมด 3 รอบนะครับ
รอบแรก 14:00 รอบสอง 15:00 รอบสุดท้าย 16:00
วันนั้นได้รอบ 15:00 พร้อมกับฝรั่งอีก 2 คน เรือเลยไม่แน่นเท่าไหร่
(แต่แอบเห็นป้ายเขียนว่าเรือออกทุกครึ่งชั่วโมง อาจไม่ใช่ราคาที่พักรวมค่าเรือครับ ลืมถามมา)
เรือเป็นแบบนี้ค้าบบบบบ นั่งแถวละ 2 คน
วิวทั้งสองข้างทางสวยมากกกกกก เป็นหน้าผาหิน มีต้นไม้แซมบ้าง
เจอเรือสวนกันบ้าง ส่วนใหญ่ที่เห็นบนเรือก็จะเป็นชาวต่างชาติซะส่วนมาก
เรือแล่นมาสักพัก ถึงแล้วครับ!! เอ้ยยยย ยังงงงง
อันนี้ยังไม่ใช่ที่พักของเรานะครับ อันนี้มีระดับกว่า มีแอร์ มีไฟฟ้า 5555
ราคาก็จะต่างกับที่เรากำลังจะไปครับ อันนี้แพงกว่าอยู่แล้ว
ในรูปคือ The Float House River Kwai ครับ รู้สึกว่าจะเครือเดียวกันกับที่เราจะไปพักครับ
มันดูสบายไป ของเราต้องเขาไปอีกครับ 55555
มีควายมาเล่นน้ำต้อนรับด้วย ^^
เห็นพี่คนขับเรือบอกว่าเป็นควายที่เลี้ยงไว้ดูเล่นครับ น่ารักดี ธรรมชาติสุดๆ
ระหว่างทางท้องฟ้าเปิด ในใจคิดว่ากลางคืนคงเห็นดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้าแน่ๆ
แต่….. ช่วงค่ำๆเมฆฝนมาเยือนแปปนึง ฝนตกนิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร เผื่อเห็นหมอกตอนเช้า
นั่งเรือมาได้สัก 15 นาที ก็เห็นที่พักเราแล้วครับบบบบ
ถึงแว้วววววว!!! The River Kwai Jungle Rafts
ในรูปนี้คือที่รับประทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น ครับ รอบล้อมด้วยธรรมชาติ
พอเรือเทียบที่พัก ก็จะมีพนักงาน น่าจะเป็นชาวมอญ มาต้อนรับ
มี Welcome Drink แต่เราไม่ได้ชิม มัวแต่ตื่นเต้น 55555
ก็ Check-in ตามปกติ ให้ใบจองที่พักไป เขาก็จะอธิบายว่ากินข้าวกี่โมง มีการแสดงระบำมอญกี่โมง
การแสดงต้องซื้อบัตรเพิ่มคนละ 160 บาท แต่ของเรารวมไปกับที่พักเรียบร้อยครับ
เสร็จแล้วก็ได้กุญแจหมายเลขห้องพัก ของเราได้ห้อง 43 ไกลจากเซนเตอร์นิดนึง แต่ดีครับ สงบดี
ถ้าได้ห้อง 17-19 นี่ใกล้เซนเตอร์มาก อาจจะมีเสียงเรือรบกวน เพราะเรือจะเทียบจอดแถวนั้นครับ
เปลหน้าห้อง เห็นฝรั่งหลายคนนอนหลับกันสบายยยย 555
มายืนตรงแพหน้าห้องแล้วมองไปทางขวาก็จะเป็นแบบนี้ครับ
แล้วมองไปทางซ้ายยยยยยยย
จะมีเตียงอาบแดดอยู่บนแพหน้าห้อง 2 เตียงครับ
ภาพบรรยากาศหน้าห้องครับ
จะมีคนเดินผ่านตลอด เพราะว่าเวลาเล่นน้ำ จะลอยตัวกันมาเรื่อยๆๆ ผ่านแต่ละห้องๆ
จนถึงประมาณห้องที่ 60 ก็จะขึ้นแล้วเดินไปห้องเบอร์ต้นๆกันใหม่ เหนื่อยดีครับ เหนื่อยเดิน 5555
เตียงสำหรับนอนสองคนครับ
และมีอีกเตียงข้างๆแบบนี้ครับ เผื่อมา 3 คน หรือมา 2 คน แยกคนละเตียงก็ได้
ห้องน้ำไม่มีประตูนะครับ! เป็นแค่ผ้าใบรูดเปิด-ปิด 5555
ขนาดห้องก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัดครับ
เปลส่วนตัวระเบียงหลังห้อง อันนี้ไม่ต้องแย่งใคร มีทุกห้องครับ ^^
4 โมงกว่าเกือบ 5 โมง ก็เริ่มมีเจ้าหน้าที่จุดตะเกียงมาวางให้หน้าห้องครับ ห้องละ 2 อัน
ต่อไปคือกิจกรรมที่พลาดไม่ได้!!!
ได้เวลาเล่นน้ำแล้วววววว
เด็กฝรั่งไม่กลัวเลย เล่นกันสนุกสนาน
เขามีชูชีพให้ใส่นะครับ อยู่ตรงใกล้ๆ Lobby หยิบได้ตามสบายเลย
น้องสองคนนี้ลอยมาขึ้นหน้าห้องเราพอดี เลยขอถ่ายภาพหน่อย ^^
เด็กตัวเล็กๆก็เล่นได้ถ้าไม่กลัว 555 แต่ควรจะมีผู้ปกครองคอยดูนะครับ เพราะน้ำเชี่ยวมากกกกก
คนว่ายน้ำแข็งๆก็ไม่ง้อชูชีพ ส่วนใหญ่จะฝรั่งทั้งนั้น
ผมลองไม่ใส่ชูชีพรอบนึง เหนื่อยแทบตาย ไม่ไหว ขอใส่ชูชีพลอยตัวสบายๆดีกว่า
ถ้าไม่เล่นน้ำก็นอนอ่านหนังสือชิวๆบนเปลได้ หรือนั่งหย่อนขาแช่น้ำสบายๆได้ครับ
แต่เล่นน้ำสนุกมากๆ ไม่อยากขึ้นเลย แต่เหนื่อยตอนเดิน 5555
เล่นน้ำเหนื่อยแล้ว เริ่มหิวแล้ว ก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวดินเนอร์ใต้แสงตะเกียงสุดโรแมนติก
พอ 1 ทุ่ม ก็จะมีเสียงเคาะระฆังหรืออะไรสักอย่าง
พร้อมกับเสียงตะโดนว่า DINNERRRRRRRRRRRRRR!!!
น่ารักดีครับ ^^
ดินเนอร์ใต้แสงตะเกียงเริ่มแล้ววว
เขาจะจัดโต๊ะรอไว้เลยครับ ถ้าเรามาก่อนก็ได้เลือกนั่งตามใจชอบ
แนะนำให้ติดโลชั่นกันยุงมาด้วยจะดีครับ กันไว้ก่อน จะได้กินข้าวแบบแฮปปี้
ลืมถ่ายกุญแจห้องให้ดู เหอๆ
นี่คือกุญแจห้องครับ มีไฟฉายเล็กๆให้ด้วย เผื่อไว้ส่องตอนกลางคืนมืดๆ
แต่จริงๆแค่มีตะเกียงก็พอ ถือไปไหนมาไหนได้สบาย
ถ้าพร้อมแล้วก็บอกเขาได้เลยครับ
เขาจะเอาอาหารมาให้ ตั้ง 5 อย่าง !! เยอะมากกกก เติมได้ไม่อั้นนะครับ
ผมกินไป 3 จาน 5555
กับข้าวก็อร่อยมากๆ หรือหิวก็ไม่รู้ ^^
มีผลไม้ล้างปากเป็นสับปะรดกับแตงโม (ขอเพิ่มได้เหมือนกัน)
ระหว่างกินข้าวก็จะมีคนคอยบริการตลอด อยากได้อะไรเพิ่มก็คอยยกมือบอกเขาเอา
บางคนอาจฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องนะครับ พูดอังกฤษเลยก็ได้ เขาอาจจะเข้าใจกว่า
ตอนกินใกล้เสร็จก็จะมีคนมาขายบัตรเขาชมระบำมอญ คนละ 160 บาทครับ (สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อแบบรวมห้องพักมา)
นักแสดงก็เป็นน้องๆชาวมอญในหมู่บ้าน เต้นกันเต็มที่มากๆ ถือว่าคุ้มครับ
พอจบก็จะมีน้องๆมายืนตรงทางออกพร้อมกล่องใส่ทิป เผื่อใครใจดีให้เพิ่มครับ
แต่ผมให้ขนมไป แนะนำว่าซื้อขนมมาให้ก็ได้นะครับ น้องๆน่าจะชอบ ^^
สำหรับคนที่ยังไม่อยากเข้านอน ก็มีบาร์ไว้รับรอง หุหุ
แต่….. เราเตรียมมาเองครับ 5555
กะว่าจะเอามาใส่ถุงแช่ในแม่น้ำให้เย็นๆ แต่น้ำแรงมากๆ กลัวถุงขาดปลิวหาย อดกินอีก
เลยไปขอซื้อน้ำแข็งเขา 1 ถัง กับขอแก้วเขา ตอนแรกคิดว่าจะเก็บเรา 100 บาท
แต่ถูกมากๆๆๆๆๆ เขาคิดเรา 20 บาท ทั้งๆที่เราไม่นั่งที่ Jungle Bar ด้วย ใจดีสุดๆ
คืนนั้นก็นั่งดื่มบนแพหน้าห้อง เอาเท้าแช่น้ำ เปิดเพลงจากมือถือ อากาศเย็นสบาย ^^
แต่เสียดายมองไม่ค่อยเห็นดาว เพราะเมฆบังส่วนใหญ่
ตอนแรกก็กลัวว่าจะนอนไม่หลับนะครับ แต่ยิ่งดึกอากาศยิ่งเย็น อาจเพราะมีฝนปรอยๆช่วงเย็นๆค่ำๆนิดหน่อย
ไม่มีพัดลม แต่ต้องห่มผ้า อากาศดีมากๆๆๆ
มาต่อวันที่ 2 กันดีกว่า
ตื่นเช้ามาด้วยอากาศสดชื่นนนนนน
ออกมาระเบียงหลังห้องตกใจ น้ำลงเยอะมาก เห็นหินกรวดเลย
กลางคืนฝนตก เช้ามาคิดว่าจะมีหมอก ดันไม่มี แต่น้ำใสแจ๋วววววว ^^
นอนเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์สักพัก ก่อนไปกินข้าวเช้า
มาแล้วครับอาหารเช้า อันนี้เติมไม่ได้นะครับ หมดแล้วหมดเลย ยกเว้นชากาแฟ 5555
ขนมปังรสแปลกๆ แต่ก็กินได้ครับ ถ้ากินไม่หมดก็ให้ปลากิน ถือว่าแบ่งๆกัน อิอิ
กินข้าวเช้าเสร็จเราก็จะไปเดินเล่นที่หมู่บ้านชาวมอญกันครับ เพราะยังมีเวลาเหลือเฟือ
ทางเดินไปหมู่บ้านมอญ อยู่ด้านหลังรีสอร์ทนี่เอง
เจอสาวมอญกำลังกวาดพื้นอยู่ เลยขอถ่ายภาพหน่อย
เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอป้ายบอกทางครับ
อยากไปไหนก็ไปตามป้ายได้เลยยยยย
แต่..... ทำไมเรารู้สึกว่าระยะทางที่เดินจริงกับป้ายมันไม่เหมือนกันเลย
รู้สึกเดินไกลมาก แต่ป้ายบอก 200 เมตร 5555 อาจเพราะไม่ชินทางก็เป็นได้
เจอชาวบ้านกำลังทำงาน รดน้ำต้นไม้กันอยู่พอดี
มีสนามฟุตบอลด้วยนะเออ ไม่ธรรมดา ^^
ใกล้ถึงวัดมอญแล้ว อันน้น่าจะเป็น Meeting Hall ของชาวบ้านเขาหละ
เดินมาเรื่อยๆจนถึงวัด จำได้ว่ารู้สึกว่าไกลจัง มันไม่น่าใช่ 50 เมตรนะ
สรุปคือ 500 เมตร ป้ายผิด เหอๆ
ยืนไหว้ธรรมดา เพราะไม่ได้เตรียมอะไรมา เลยทำบุญไปแทน
ระหว่างทางมีของขายด้วยนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าของผู้หญิงซะเยอะ
มีให้ขี่ช้างด้วย แต่เสียเงินนะครับไม่ทราบว่าเท่าไหร่
โรงเรียนของน้องๆชาวมอญครับ มีตู้หยอดบริจาค ก็ช่วยๆกันได้นะครับ
พอดีไปตรงกับเสาร์อาทิตย์เลยไม่เจอเด็กๆมาเรียนเลย เป็นห้องโล่งๆ ใกล้ๆที่ขี่ช้าง
เหม็นมูลช้างกันเลยทีเดียว แต่น้องๆคงชินแล้ว บอกแล้วใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ
เราก็เดินไปเรื่อยๆไม่รีบ เจอชาวบ้านแนะนำให้เดินไปถ้ำพระมอญ
เราก็ถามว่าไกลไหม เขาบอกไม่ไกล ก็เลยเดินตามเขาไป ใจง่านเนอะ 5555
ทางเดินจะผ่านป่าไผ่เขียวขจี ต้นใหญ่ๆทั้งนั้น
แต่ขอโทษนะครับ ลืมถ่ายป่าไผ่มา T_T
ถึงแล้วถ้ำพระมอญ
จริงๆก็เป็นถ้ำเล็กๆ มีพระให้ไหว้ครับ เราก็ไหว้ธรรมดา
แต่วิวตรงนี้ไม่ธรรมดานะครับ สวยมากกกกกกกกกกกกกกก
เป็นมุมหน้าผาหินตัดกับแม่น้ำด้านล่าง สวยมากจริงๆ ยืนตะลึงอยู่นาน ฮ่าๆ
ไม่ได้เห็นแบบนี้มานานมากกกกกกก จำไม่ได้แล้วว่าตัวอะไรอยู่ข้างใต้
เคยเห็นตอนเด็กๆ มาเห็นอีกทีตอนนี้เลย 5555
ขอน้องกินขนม น้องไม่ให้กิน 5555 น่ารัก
ชมวิวเสร็จแล้วก็เดินกลับครับ มีน้องหมานั่งรอด้วย
ขากลับรู้สึกใกล้กว่าขามา ทั้งๆที่เดินทางเดิม อาจเป็นเพราะชินทาง ^^
ยังพอมีเวลาเหลือให้โดดน้ำเล่นอีกรอบ!! เพราะเรือจะมารับตอน 11 โมงครับ
เลยไม่ลังเลที่จะเล่นน้ำต่ออีกสักหน่อย เพราะสนุกมากจริงๆ ถึงจะเหนื่อยเดินก็เถอะ 5555
จริงๆถ้าจะกินข้าวกลางวันที่นี่ก็ได้นะครับ มีเรืออีกรอบตอนบ่ายโมง
ถ้าไม่รีบก็ค่อยกลับรอบนั้นก็ได้ แต่เรากลับรอบ 11 โมงครับ
เรือมารับแล้ววววววว แอบไม่อยากกลับ
แต่ถ้าอยู่ต่อก็ไม่มีอะไรทำ นอกจากเล่นน้ำ เล่นน้ำ และเล่นน้ำ 55555
ขอสรุปคร่าวๆตามความเห็นตัวเองนะครับ
ชอบเพราะสงบมากๆ อาจมีเสียงดังนิดหน่อยจากลูกค้าที่มากันหลายๆคนอันนี้พอเข้าใจครับ
เหมาะกับคู่รัก(ที่ชอบธรรมชาติ สามารถอยู่โดยไม่มีแอร์ได้ ไม่งั้นคงหงุดหงิดใส่กัน 555)
มากับเพื่อนก็โอเคนะครับ แต่ก็รักษาความสงบให้เขานิดนึง
มาคนเดียวน่าจะดี ถ้าไม่กลัวความมืด 555 เหมาะสำหรับคนต้องการพักสมองมากๆ
ไม่ต้องติดต่อกับใคร อยู่กับตัวเอง กับธรรมชาติสักวันสองวัน เติมพลังชีวิตได้ดีทีเดียวครับ
พกหนังสือเล่มโปรดมานอนอ่านสักเล่ม หรือนอนฟังเพลงเพราะๆกับบรรยากาศดีๆ ฟินไปอีกแบบ
จริงๆทางรีสอร์ทเขาก็มีอุปกรณ์อาบน้ำให้ครบนะครับ
แต่เตรียมไปเองได้ก็จะดี เขามีผ้าเชดตัวให้ ครีมอาบน้ำ ยาสระผม เอาไปเองด้วยก็จะดีเพราะไม่พอ 555
โลชั่นกันยุ่งควรเตรียมไปครับ เพราะกลางคืนจะได้นั่งชิว สบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องยุง
ไฟฉายถ้าไม่ลำบาก พกไปก็ได้ครับ
สุดท้ายก็ขอขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย
หรือถ้าใครเคยไป จะแนะนำอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีนะครับ ^^
ใครสนใจลองเข้าไปชมเวปไซต์ได้ครับ
http://www.riverkwaijunglerafts.com
ปล.ไม่ได้ค่ารีวิวหรือนายหน้าใดๆนะครับ
ชอบจริงๆ ^^
Chaiwat Chinurairat
วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 17.55 น.