"ปลาร้าเลย ต้นตำรับฉบับปลาร้า" จากอาหารอีสานประจำบ้าน สู่เมนูอีสานคุณภาพสำหรับทุกคน

ปลาร้าเลย ต้นตำรับฉบับปลาร้า

อาหารอีสานเป็นเมนูที่หลาย ๆ คนชอบกินมากก เพราะมีรสชาติเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนอาหารภาคอื่น แต่บางคนก็ไม่ชอบอาหารอีสาน โดยให้เหตุผลว่ารสจัดเกินไป อาจจะเคยไปกินร้านที่ทำเค็มไป เผ็ดไป เปรี้ยวไป และที่สำคัญเลยคือ ไม่ชอบปลาร้า บางคนแค่ได้กลิ่นก็แย่แล้ว ถึงจะมีเมนูที่ไม่ใส่ปลาร้า แต่ขึ้นชื่อว่าอาหารอีสาน ปลาร้ามันเป็นส่วนที่ทำให้รสชาติเข้าถึงความเป็นอาหารอีสานจริง ๆ นะ พอไม่ใส่ก็เหมือนขาดอะไรไป 55555 ดังนั้น รีวิวนี้ "กิน จน จน" จะพามารู้จักกับร้านอาหารอีสานร้านนึง ที่ proud to present ความเป็นปลาร้าแบบ original แถมยังสะอาด และรสชาตินัวอย่างที่สุด กับร้าน "ปลาร้าเลย ต้นตำรับฉบับปลาร้า" ค่าาาา

เล่าประวัติของร้านนี้ให้ฟังก่อนว่า ร้าน ปลาร้าเลย ปกติเค้าจะขายอาหารฝรั่ง พอเจอวิกฤติโควิดรอบแรกช่วงต้นปี 63 เข้าไป ทางร้านก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ตอนนั้นทางร้านไม่มีหนทางจะช่วยประคับประคองพนักงานเลย อย่างน้อยเลี้ยงข้าวพนักงานก่อนที่จะต้องปิดร้านในช่วงโควิดก็ยังดี เลยให้แม่ครัวทำอาหารเลี้ยงพนักงาน แม่ครัวเลยทำอาหารมาเป็นส้มตำปลาร้า คอหมูทอด แจ่วบอง แกงเปรอะ เมนูอาหารอีสานเลย พอพนักงานทุกคนลองกินดู ทุกคนตกใจในรสชาติ รีแอคชั่นทุกคนแสดงออกอย่างถ้วนหน้าแบบในรายการวาไรตี้เลย 55555 เลยถามแม่ครัวว่า ทำไมมันนัวแบบนี้ แกเลยไปหยิบไหออกมาจากครัว ละเล่าให้ฟังว่า แกเอาปลาร้ามาเองจากบ้านเกิดที่จังหวัดเลย ปรุงรสตามสูตรของบ้านแก ทางเจ้าของร้านก็เลยขอให้แกทำแจกจ่ายคนรอบตัว ใครได้ลองกินก็มีแต่คนบอกชอบในความนัว ความลาวของรสชาติมาก ๆ

ดังนั้น ทางร้านก็เลยเล็งเห็นโอกาส ไหน ๆ ก็ขายหน้าร้านไม่ได้ละ เลยลองเปิดขายอาหารอีสานออนไลน์ ทำส่ง Delivery ซะเลย หลาย ๆ คนกินอาหารอีสานกันอยู่แล้ว จะได้ให้ทุกคนได้ลองชิมอาหารอีสานที่ปรุงด้วยปลาร้าสูตรเมืองเลย และผลจากการตัดสินใจในวันนั้น ก็ทำให้ "ปลาร้าเลย" อยู่มาจนวันนี้ค่ะ

หน้าตาเมนูของร้านค่ะ สามารถสั่งได้หลายวิธี ทั้งสั่งโดยตรงกับทาง Line@ หรือผ่าน platform สั่งอาหารได้เกือบทุกแอพเลย ทั้ง Grab Gojek Lineman Robinhood อันหลังสุดนี่แอพไรอะ เพิ่งเคยได้ยิน 5555555 เดี๋ยวจะให้รายละเอียดไว้ท้ายรีวิวนะคะ

ซึ่งเราก็มีโอกาสได้ลองบ้างค่ะ ทางร้านทำแพคเกจออกมาดีมากเลยค่ะ ใส่กล่องมาเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ต้องมาใส่จานเราเองเลย

เริ่มจาก "แจ่วบอง" เป็นเมนูที่ร้านภูมิใจนำเสนอมาก ๆ อันนี้อร่อยมากก รสชาติถือว่าจัด มีความเค็มนำตามแบบแจ่ว แต่ก็มีความนัวปลาร้า และความเผ็ด ที่พอดีกันมาก ๆ

ซึ่งพระเอกตัวสำคัญก็คือ “น้ำปลาร้า” เค้าใช้ปลาร้าหมักจาก หมู่บ้าน ราฎทิพรส จ.นครสวรรค์ ซึ่งปกติจะทำกินแจกจ่ายกันเองในหมู่ญาติ เอกลักษณ์ก็คือ จะใช้ปลาใหญ่มาควักไส้ ทำความสะอาดก่อนแล้วหมัก นานข้ามปี เลยสะอาดและกลิ่นไม่เหม็น ผสมและหมักกันต่อ กับ น้ำปลาร้าแบบจังหวัดเลย จนได้น้ำปลาร้าสูตรเฉพาะ ของปลาร้าเลย รสนัว หอม และ สะอาด มากๆ

คือหลาย ๆ คนที่เคยกินอาหารอีสานทั่วไปมาบ้าง อาจจะไม่เคยกินแจ่วบองมาก่อน บอกก่อนว่ารสชาติแจ่วบองถือว่ารสจัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ร้านนี้มีความนัวของแต่ละรสชาติที่พอดี ซึ่งเราจะรู้สึกถึงความอร่อยได้ชัดขึ้น ถ้ากินคู่กับข้าวเหนียว ของทอด และผักแกล้มนะคะ

จิ้มกับข้าวเหนียวนี่ blend เหมือนเกิดมาคู่กัน 55555

มาสคอร์ตของอาหารอีสานก็คือส้มตำอยู่แล้วค่ะ วันนี้เราสั่งเมนูส้มตำมา 2 อย่าง เริ่มจากเมนูแรก "ตำปลาร้าเลย" เป็นตำลาวใส่ปลาร้า คนที่เคยกินส้มตำปลาร้าน่าจะนึกรสชาติคร่าว ๆ ได้ แต่ของร้านนี้จะนัวยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ Signature ของปลาร้าสูตรเมืองเลย จะนัวกว่าปลารัาปกติ แล้วรสจะไม่จัด บวกกับความสะอาดของปลาร้า ทำให้เมนูนี้นัวมาก ๆ

อีกตำนึงคือ "ตำหลวงพระบาง" ที่มีเอกลักษณ์คือ มะละกอเส้นใหญ่แบบเส้นก๋วยเตี๋ยว รสชาติจะไม่หวาน แล้วก็จะใส่กระถินให้ Texture อีกแบบค่ะ

ต่อไปเป็นเมนูของทอดนะคะ เมนูนี้คือ "หมูปลาร้า" ที่ดังในบ้านเรามานานละ แต่เรายังไม่เคยกินเลย ซึ่งจะเป็นการกินหมูทอดคู่กับแจ่วบองตัวแรกค่ะ

ที่เราบอกว่า แจ่วบองต้องมากินคู่กับของทอดและข้าวเหนียว อันนี้คือดีมากกก เข้ากันเด๊ะะะ

"คอหมูย่าง" เมนูคลาสสิคมากของอาหารอีสาน ที่ใคร ๆ ก็ชอบกิน แต่หลายครั้งเรามักจะเจอแต่หมูสามชั้นที่เป็นมันซะ 70% มีเนื้ออยู่นิดเดียว ร้านนี้หมูลีนมากค่ะ เป็นเนื้อแบบมันแทรกไม่เยอะ แต่เนื้อฉ่ำมากก ไม่แห้งไม่สาก กินกับน้ำจิ้มแจ่ว อันนี้ไม่ต้องเป็นคนที่เซียนอาหารอีสานก็รับรู้ได้ว่าของดี 55555

อันนี้เป็น "น้ำตกแซลม่อน" เนื้อปลาจะเป็นเกรดสเต็กนะคะ ไม่ได้เป็นชาชิมิที่ลายสวยแบบตามร้านซูชิ แต่อร่อยมากกกก รสชาติน้ำตกปกติมันจะเค็มนำ แต่ของร้านนี้นัวมาก น่าจะเป็นอันที่นัวที่สุดในทุกเมนูที่ได้ลองเลย ไม่มีรสไหนโดด มัน blend กันพอดีไปหมด และอีกอย่างที่แปลกคือ ปลาจะอยู่กึ่งกลางระหว่างสุกกับดิบ เราไม่รู้เค้าทำอะไรมา อาจจะลวกแบบสะดุ้ง หรือเป็นปลาดิบนี่แหละ แต่ทำให้สุกด้วยความเปรี้ยวของมะนาวแบบ ceviche แต่เพราะ texture แบบนี้ มันเลยทำให้ทำเป็นน้ำตกละอร่อยมากก

เวลากินอาหารอีสานชุดใหญ่ ต้องมีเมนูน้ำเอาไว้ซดด้วยค่ะ อันนี้คือ "ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน" เช่นเดียวกับน้ำตก คือรสชาตินัวมาก ความเค็ม เผ็ด เปรี้ยว หวาน ทุกอย่างรวมกันพอดี ซดได้จนหมดแน่นอนค่ะ แล้วกระดูกอ่อนหมูที่ใส่มา แทบละลายในปากเลย

และเมนูสุดท้าย ตัวนี้เป็นเมนูที่แพงที่สุดของร้านค่ะ คือ "วากิวโคราชย่าง" มาเป็นสเต็กเลย น่าจะประมาณ 200-300 กรัม เรนจ์นี้แหละค่ะ เป็นเนื้อไทย-วากิวนะคะ ย่างมาแบบ medium ไม่สุกเกินไป อันนี้ก็ดีมากก ไม่เหนียวเลยนะ เพราะย่างมากแบบ medium ใช้ช้อนส้อมหั่นก็ขาด texture มีความได้เคี้ยว รสชาติเนื้อไม่ได้เข้มขนาดเนื้อไทยทั่วไป กินกับน้ำจิ้มแจ่วหรือแจ่วบองก็ได้หมดค่ะ

เราอะจะมีปัญหาเวลาสั่งเมนูเนื้อย่างในร้านอาหารอีสาน เพราะเนื้อไทยเวลาสุกเท่าหมู มันจะเหนียวมาก แต่ถ้าย่างพอให้เหลือแดง ๆ มันจะทำให้นุ่มขึ้นและหวานขึ้นค่ะ

สรุปกับร้าน "ปลาร้าเลย ต้นตำรับฉบับปลาร้า" ร้านนี้เรามองว่า เป็นอาหารอีสานคุณภาพระดับร้านขึ้นห้างอะ คุณภาพวัตถุดิบและความสะอาด อยู่ในระดับดีมาก รู้สึกได้เลยว่า ใช้แต่ของดีมาทำ แล้วยังทำรสชาติได้ถึงมาก จุดขายสำคัญที่สุดของร้านนี้คือ รสชาติที่มาจากปลาร้าสูตรเมืองเลยค่ะ มันจะนัวกว่าปลาร้าสูตรอื่น ทำให้อาหารของร้านนี้ จะ "นัวนำ" ทำให้คนที่ไม่ได้กินอาหารอีสานเป็นปกติ จะสามารถรับรู้ถึงความอร่อยของเมนูพวกนี้ได้ กล้าพูดว่า อร่อยทุกอย่างที่ได้ลองเลยค่ะ