ห้องอาหารมารีน คาเฟ่
หลังจากที่เราได้ตัดสินใจใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน โดยจองแพ็คเก็จทัวร์ "ราคาเดียวเที่ยวพะงัน 2 คืน 3 วัน" ของ โรงแรมปริ๊นเซส พาราไดร์ส เกาะพะงัน ที่ตั้งอยู่บนหาดริ้นนอกแล้ว จากนั้นก็ออกเดินทางมายังเกาะพะงันเข้าพักที่ โรงแรมปริ๊นเซส พาราไดร์ส เกาะพะงัน โดยทางโรงแรมมีรถมารับที่ท่าเรือ ซึ่งเป็นบริการที่รวมอยู่ในแพ็คเก็จแล้ว เราได้เข้าพักที่ห้อง Deluxe Double ตามแพ็คเก็จทัวร์ แต่ทางโรงแรมอัพเกรดให้เป็นห้อง Deluxe Sea Facing Double ซึ่งจะมีอ่างอาบน้ำที่ระเบียง และหันหน้าเข้าหาทะเล แต่จริง ๆ แล้วทุกห้องของทางโรงแรมปริ๊นเซส พาราไดร์ส จะสามารถมองเห็นทะเลได้ทุกห้อง
แพ็คเก็จทัวร์ "ราคาเดียวเที่ยวพะงัน 2 คืน 3 วัน" ของ โรงแรมปริ๊นเซส พาราไดร์ส เกาะพะงัน ที่เราซื้อมานั้น สนนราคาไม่แพงเลย ยิ่งเราใช้สิทธิ์ "เราเที่ยวด้วยกัน" ด้วยแล้ว จากราคาเต็ม 3,600 บาท / คน เหลือเพียง 2,160 บาท / คน โดยในแพ็คเก็จจะรวมถึง
- ห้องพัก จำนวน 2 คืน
- อาหารเช้า 2 มื้อ
- เที่ยวทัวร์รอบเกาะ 1 วัน ( 6 ชั่วโมง )
- อาหารเย็น 1 มื้อ
- รถรับ-ส่ง ท่าเรือเกาะพะงัน
กรณีที่ต้องการอาหารเย็นเพิ่มอีก 1 มื้อ จ่ายเพิ่มเพียงท่านละ 240 บาท
กาแฟร้อนริมหาดเช้า ๆ นี่มันฟินดีจริง ๆ
เช้านี้เป็นเช้าที่ทางน้องรีเซฟชั่นบอกกับเราไว้ว่ารถที่จะมารับพาพวกเราไปเที่ยวรอบเกาะพะงัน ตามที่ระบุในแพ็คเก็จ "ราคาเดียวเที่ยวพะงัน 2 คืน 3 วัน" นัดไว้ที่ 10.00 น. โดยทัวร์ครั้งนี้ จะมีระยะเวลา 6 ชั่วโมง และไม่รวมอาหารกลางวัน เราจึงมานั่งกินอาหารเช้าที่ห้องอาหารมารีน คาเฟ่ เพลิน ๆ ไปรอเวลารถมารับ
ไลน์อาหารของห้องอาหารมารีน คาเฟ่
อาหารเช้าของห้องอาหารมารีน คาเฟ่ โรงแรมปริ๊นเซส พาราไดร์ส เกาะพะงัน ส่วนใหญ่เป็นอาหารแบบโฮมเมต กึ่งบุฟเฟ่ต์ กึ่งตามสั่งโดยจะมีไลน์อาหารประเภทชีส แฮมประเภทต่าง ๆ ขนมปังหลากหลาย สลัดผลไม้จัดวางเป็นไลน์อาหารไว้ แต่เราสามารถสั่งประเภทไข่ที่ทำใหม่ ๆ จากในครัวได้อีก ไม่ว่าจะเป็น ไข่ดาว ออมเลต ไข่กวน หรือไข่เบเนดิกซ์ สามารถสั่งมาทานได้ไม่อั่นค่ะ
น้ำผลไม้สดที่ทางโรงแรมคั้นเอง ทั้งแตงโม สัปรด มะม่วง ไม่ใส่น้ำตาล กับผลไม้สด ๆ และสลัดผลไม้
แฮม หลากหลาย ชีสประเภทต่าง ๆ รวมถึงผักดองเองที่เอาไว้ทานกับชีส อร่อยและดีต่อสุขภาพ
เคาเตอร์สลัด ผักสด ๆ กรอบอร่อยมากค่ะ
จะบอกว่าแยมของทางห้องอาหารมารีน คาเฟ่ ก็เด็ดมากเพราะเป็นแยมทำเอง ได้รสเนื้อผลไม้เต็ม ๆ
มื้อเช้าของเราที่ขอเบคอนทอดกรอบเพิ่ม
กินอาหารเช้าริมทะเล หาดสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ อย่างนี้มีไม่ค่อยบ่อย
ไข่กวน สลัดผัก และเบคอนกรอบ
บรรยากาศของห้องอาหารยามเช้า แขกเริ่มทยอยกันลงมา
พอถึงเวลา 10.00 น. รถก็มารับเราที่หน้าเคาเตอร์ น้องรีเซฟชั่นก็อธิบายรายละเอียดทัวร์ของเราให้ฟังคร่าว ๆ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารหากเราต้องการแวะทานเป็นมื้อกลางวัน เราเพิ่งรูว่าเป็นไพรเวททัวร์เพราะมีเราแค่สองคน กับรถตู้คันใหญ่
(ซ้าย) ต้นยางใหญ่ (ขวา) ก้อนหินจารึก 4 รัชกาล
จุดแรกที่เราไปแวะชมกัน ถือได้ว่าเป็นจุดแลนมาร์คทางธรรมชาติจุดหนึ่งของเกาะพะงันเลยก็ว่าได้ "ต้นยางใหญ่" สูงถึง 13 - 14 เมตรและเป็นหนึ่งในแหล่งธรรมชาติที่เป็นแลนมาร์กของเกาะพะงัน เป็นต้นยางนา พืชต้นที่หาได้ง่ายใน ไทย พม่า ลาวและเวียดนามและยังสามารถโตได้จนถึง 50 เมตรเลยทีเดียว
พลับพลาที่ประทับ
จุดถัดมาคือ พลับพลาที่ประทับ กับหินจารึก 4 รัชกาล ณ ที่นี่ พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีเคยเสด็จประพาสหลายรัชกาล ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสน้ำตกธารเสด็จรวม 14 ครั้ง ปรากฏตามหลักฐานที่ทรงจารึกไว้ที่ก้อนหินบริเวณใกล้ ๆ
หาดน้ำตก หรือหาดเสด็จ
ห่างออกมาอีกประมาร 50 เมตร คือ ที่ตั้งของ "หาดน้ำตก" หรือที่เราเรียกกันว่า "หาดเสด็จ" ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ผืนทรายสีเหลืองทอง จุดเด่น ของ บริเวณนี้ คือ เป็นจุดสิ้นสุดของน้ำตกที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติธารเสด็จมาบรรจบกับทะเล ทำให้ บริเวณนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพ
น้ำตกธารเสด็จ
ขับรถออกไปไม่ไกลจากหาดเสด็จนัก ก็ถึงทางลงไปยังน้ำตกธารเสด็จ น้ำตกขนาดใหญ่ และมีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะพะงัน ที่ที่เคยมีพระมหากษัตริย์หลายรัชกาลเสด็จมาประพาส แต่วันนี้ดูเราจะไม่ค่อยมีโชค เพราะฝนไม่ค่อยตกในช่วงนี้ น้ำตกจึงค่อนข้างมีน้ำน้อยไปนิด
อุโบสถหลังเก่าวัดภูเขาน้อย จัดเป็นหนึ่งในอุโบสถที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทย
ออกจากน้ำตกธารเสด็จลงจากเขาที่มีความสูงชัน ลงมาบริเวณชุมชน ที่นี่พี่คนขับรถบอกกับเราเรียบ ๆ ว่า แวะไหว้พระกันหน่อยนะ จากนั้น ก็พาเราเลี้ยวรถเข้ามา ณ วัดภูเขาน้อย
วัดภูเขาน้อยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2432 โดยหลวงพ่อเพชร วชิโร หรือพระครูวิบูลย์ธรรมสาร ผู้เป็นที่เคารพนับถือของลูกหลานชาวเกาะพะงัน ท่านเป็นหนึ่งในภิกษุระดับปรมาจารย์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ในปี พ.ศ. 2540 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดภูเขาน้อยให้เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอันได้แก่ เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาทสีขาว มีความสูง 10 เมตร มีเจดีย์บริวารล้อมรอบ 8 กลุ่ม โดยเจดีย์บริวารแต่ละองค์มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแตกต่างกันไป อาทิเช่น เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม เจดีย์ทรงระฆัง เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง เจดีย์ทรงปราสาท เจดีย์ยกเก็จแบบพม่า เป็นต้น และมีการประดับตกแต่งรอบฐานด้วยเครื่องถ้วยจีน
มณฑปหลวงพ่อเพชร
ภายในวัดภูเขาน้อยยังมีหลักฐานแห่งความอัศจรรย์ที่หลงเหลือให้เห็นอยู่ทุกวันนี้ คือ รอยเท้าของหลวงพ่อเพชรที่ปรากฏอยู่หลายแห่ง แม้จะผ่านมาเป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้วนับแต่หลวงพ่อเพชรมรณภาพไป โดยเล่ากันว่าบริเวณนี้สมัยหลวงพ่อเพชรยังมีชีวิตอยู่เป็นเขตหวงห้าม พระเณรไม่สามารถเข้ามาได้ และเป็นที่หลวงพ่อเพชรใช้เป็นที่สำหรับวิปัสสนา ปลีกวิเวก ปัจจุบันมีการสร้างมณฑปครอบไว้ เพื่อเป็นที่สักการบูชาแก่ผู้ศรัทธา
(ซ้าย) สถูปและรอยเท้าหลวงพ่อเพชร (ขวาบน) รอยเท้าหลวงพ่อเพชรที่จากลึกไว้บนแผ่นหิน
เราได้เข้าไปกราบพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่ลงรักปิดทอง ประทับนั่งบนฐานชุกชีปูนปั้นลายกลีบบัวปิดทองประดับกระจกและมีผ้าทิพย์ปูนปั้นประดับด้วยลายดอกไม้ปิดทองประดับอยู่ตรงกลางฐาน ที่อยู่ในอุโบสถ์เก่า ซึ่งเป็นอุโบสถ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทย ก่อนจะแวะสนทนากับท่านเจ้าอาวาสเพื่อขอพร ก่อนจะออกเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวถัดไป
เกาะราฮัม
จุดท่องเที่ยวถัดไปของเรามีชื่อเก๋ไก๋ว่า "เกาะราฮัม" ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่ใช่เกาะ เพราะเป็นชื่อของ Beach club แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนหน้าผาริมหาดสน บนเกาะพะงัน ให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม มีทั้งกาแฟ และค็อกเทล มีมุมถ่ายรูปหลากหลาย มุมแฮงค์เอาท์ มุมโดดน้ำดูปลาจากหน้าผา มุมนอนเปลฟังเสียงคลื่นกระทบโขดหิน และด้านล่างของเกาะมีหาดสน และนางเงือกนั่งชมทะเลอยู่
หาดสน เกาะราฮัม
หาดแม่หาด เกาะม้า
เกาะม้า เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ปลายสุดด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพะงัน ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ ตั้งอยู่ระหว่าง หาดแม่หาด กับหาดทองหลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ เกาะม้าเคยได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีแนวปะการังอันแสนสวยงามและอุดมสมบูรณ์ ต่อมาเมื่อมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากความอุดมสมบูรณ์เริ่มเสื่อมถอย แนวปะการัง ถูกทำลายเสียหายไปเกือบทั้งหมด
ในยามที่น้ำทะเลลดลงต่ำจะเกิดแนวสันทรายสีขาวอมน้ำตาลอ่อนทอดยาวไกลจาก “หาดแม่หาด เกาะพะงัน” เชื่อมต่อไปถึง “เกาะม้า” ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 200 เมตร คล้ายกันกับ “ทะเลแหวก” ใน จ.กระบี่ โดยทะเลแหวกที่เกาะม้านี้มีเกิดจากอิทธิพลของลม ที่พัดเข้าสู่เกาะพะงันด้านตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี แล้วลมพัดตลอดต่อเนื่องจนเอาทรายมากองรวมกันเกิดเป็นสันทรายทอดยาวจากหาดแม่หาดสู่เกาะม้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งสันทรายนี้อาจจะเกิดขึ้นสวยงามหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่นลมในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดอยู่ในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าลมว่าวนั่นเอง
หาดมาลิบู
หาดมาลิบู เป็นหาดที่สวยงามน้ำทะเลสีฟ้าครามและทิวเขา ชายหาดเป็นส่วนหนึ่งของ Malibu Beach Resort และตั้งอยู่ทางเหนือในหมู่บ้านโฉลกหลำ ชายฝั่งที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์มและยังสามารถพบต้นไม้สีเขียวสดใสบนชายหาดซึ่งเป็นภาพที่เห็นได้ยาก นอกจากนี้ยังเป็นหาดที่ผู้คนนิยมมาทำกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Kite หรือกีฬาทางน้ำอื่น ๆ
นักกิจกรรมต่าง ๆ มาฝึกเล่นกีฬาทางน้ำกันมากมาย
การเล่น Kite ที่หาดมาลิบู
ธนาคารปูม้าบ้านหินสองกอง แหล่งอนุบาลลูกปูม้าก่อนปล่อยลงทะเล
นอกจากจะเป็นที่ตั้งของ ธนาคารปูม้า บ้านหินสองกองแล้ว ใกล้ ๆ กันนั้นยังเป็นที่ตั้งของหาดวกตุ่ม ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและเงียบสงบ มีหาดทรายสีน้ำตาลอ่อน เต็มไปด้วยต้นมะพร้าว และเป็นจุดชมวิวท้องทะเลและพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยแห่งหนึ่งในเกาะพะงัน
หาดวกตุ่ม เกาะพะงัน
360 องศา บาร์
จุดสุดท้ายของการทัวร์รอบเกาะพะงันของเราวันนี้คือ 360 องศา บาร์ เป็นบาร์เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนหน้าผา สามารถมองวิว 360 องศาของเกาะพะงันที่สวยงาม เสียแต่ว่าเราต้องรีบกลับเร็วไปหน่อย เพราะครบ 6 ชั่วโมงของ แพ็คเก็จทัวร์แล้ว เลยไม่ได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ 360 องศา บาร์ แห่งนี้
เกาะม้า มุมมองจาก 360 องศา บาร์
เรากลับมาถึง โรงแรมปริ๊นเซส พาราไดร์ส เกาะพะงัน ในเวลาเกือบห้าโมงเย็น ยังพอมีเวลาที่เราจะจัดการตัวเองก่อนเวลาอาหารเย็น เพราะเที่ยวมาทั้งวัน เลยอยากอาบน้ำล้างตัวสักหน่อย
เมื่อกลับมาในห้อง พนักงานทำความสะอาดได้ทำความสะอาดห้องเราไว้เรียบร้อยแล้ว และที่ยังคงสร้างความประทับใจทุกครั้งที่เจอ คือ ใบไม้และดอกไม้ดอกหนึ่งที่อวยพรให้ฝันดี ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อแขกของที่นี่ ซึ่งน่ารักดี
หลังจากอาบน้ำอาบท่า เก็บข้าวเก็บของเรียบร้อยแล้ว ยังพอเหลือเวลาอีกนิดหน่อย เลยคิดว่าจะลงไปนั่งเล่นแถว ๆ ชายหาด แต่พอเดินลงมาเราพบว่าพนักงานเขากำลังจัดเซ็ต ฮันนีมูน ดินเนอร์กันอยู่ เพราะมีลูกค้าจองไว้ ก็เลยเปรย ๆ ไปว่า อยากนั่งแบบนี้บ้าง ซักพักน้องบริกรก็เดินมาบอกว่า จะให้เสิร์ฟแบบเซ็ตฮันนีมูน ดินเนอร์มั้ยค่ะ เพราะลูกค้าจองไว้ดึก ถ้าพี่จะนั่งก่อนก็ได้เลย เราก็เลยตกลงไหน ๆ ก็ทำมาแล้วนี่ อิอิอิ
การจัดวางพื้นที่สำหรับเซ็ต ฮันนีมูน ดินเนอร์
ห้องอาหารมารีน คาเฟ่
ว่าแล้วน้อง ๆ บริกรก็นำอาหารของเรามาเสิร์ฟ วันนี้มี 4 เมนู คือ ปลากะพงสามรส ปลาแซลมอน ยำมะม่วง มัสมั่นไก่ และผัดผักรวมมิตร
อาหารเย็นมื้อนี้ของเรา
เริ่มจากปลาแซลมอนยำมะม่วง เราได้ปลาแซลมอนชิ้นสวย ทอดจนสุกสีส้มสดใส วางมาบนยำมะม่วงรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม หวาน อร่อยนัวสดชื่น เหมาะกับการเรียกน้ำย่อยค่ะ
บรรยากาศเซ็ต ฮันนีมูน ดินเนอร์ ริมหาดริ้นนอก
ปลากะพงสามรส ปลากะพงตัวพอดีกิน แล่เป็นชิ้น ทอดจนกรอบกรุบ ราดด้วยซอสสามรส เปรี้ยว หวานนำ เผ็ดเค็มตาม รสสำผัสกรอบนอก นุ่มในหวานฉ่ำด้วยสอนสามรส โรยด้วยกระเพราทอดกรอบหอมกรุ่น เคียงด้วยผักสดไว้ตัดรส
จะไฟสวย ๆ ฟังเพลงคลอเบา ๆ และดินเนอร์ของเรา
สำหรับมัสมั่นไก่ นี่แทบไม่ต้องพูดถึง ทั้งข้น มัน หอมเครื่องแกง หวานถั่วเข้มข้น จนอยากจะขอขนมปังปิ้งมากินแนมด้วย แต่ข้าวสวยร้อน ๆ หอมกรุ่นก็ช่วยได้เยอะ ไก่ชิ้นกำลังเหมาะ กินกับมันฝรั่งในมัสมั่นให้รสสัมผัสหนึบนุ่มชุ่มหวานมัน
บรรยากาศใต้แสงไฟ โรแมนติกมาก
ผัดผักรวมมิตร ได้ผักหลากหลายทั้งกระหล่ำปี ดอกกระหล่ำ คะน้า เห็ด ข้าวโพดอ่อน แครอท และผักอื่น ๆ ผัดมาได้กรอบหวาน ไม่สลดน้ำมัน และที่สำคัญไม่ขม ขนาดคนไม่ค่อยชอบกินผักอย่างเรายังกินเสียหมดจาน
สร้างบรรยากาศด้วยค๊อกเทล จาก BAR I RA
ไหมไทย และบลูฮาวาย หอมหวานชื่นใจ
ได้เวลาสมควรจึงได้ย้ายกายขึ้นห้องเพื่อจะมาพักผ่อน เก็บสารร่างไว้เที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้ ที่เราจะต้องเที่ยวกันเองแล้ว แต่วันนี้เป็นวันที่มีความทรงจำดี ๆ ทั้งสถานที่ อาหารและบรรยากาศ รวมทั้งมิตรภาพรายรอบตัว
สนใจโปรแกรมแพ็คเก็จทัวร์ "ราคาเดียวเที่ยวพะงัน 2คืน 3 วัน" แพ็คเก็จทัวร์ของ โรงแรมปริ๊นเซส พาราไดร์ส เกาะพะงัน ที่ตั้งอยู่บนหาดริ้นนอก หรือห้องพักของทางโรงแรม สามารถสอบถามหรือติดต่อได้ตามที่อยู่ด้านล่างนะคะ สามารถใช้ส่วนลดของโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ได้ด้วยค่ะ
Website :: https://www.princessparadiseko...
ขอบคุณที่รับชม
สายลม ที่ผ่านมา
วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 01.33 น.