คำเตือน : รูปเยอะมาก
กลับมาเที่ยวกระบี่อีกครั้ง เพราะเป็นช่วงที่ทะเลสวยมาก สงบ คนน้อย ทริปนี้เดินทาง 2-4 มีนาคม 2564 ทริปนี้เราไม่ได้เดินทางคนเดียว หลอกพี่ที่รู้จักกันไปด้วย รอบนี้เราได้ใช้บริการเวียดเจ็ทครั้งแรก ตอนจองมีไฟล์ทเช้าแต่ใกล้วันเดินทางกลายเป็นเหลือแค่ไฟล์ท 11:05 สุวรรณภูมิช่วงนี้คนน้อยกว่าทุกทีที่เราเคยมา แต่ก็ไม่ได้เงียบเหงาอะไร
เวียดเจ็ทครั้งแรกที่เราใช้บริการออกตรงเวลา และที่เราชอบคือมา 2 คนก็จัดให้นั่งด้วยกัน รู้จากขากลับว่าขอนั่งริมหน้าต่างก็ได้ ขาไปเรานั่งกลาง เราว่าไม่อึดอัด ดูโล่งกว่าเจ้าอื่น
นั่งกลางและอยากได้รูปท้องฟ้า แต่ก็เกรงใจคนนั่งริมหน้าต่าง ก็เลยถ่ายแบบไม่รบกวนเขามากนัก
ถึงสนามบินกระบี่ตรงเวลา มากระบี่รอบนี้มีความเข้มงวดในมาตรการคนจากต่างพื้นที่เข้ากระบี่มากกว่าช่วงธันวาคม 2563 ที่เรามา นอกจากให้เช็คอิน ไทยชนะ ยังตั้งกรอกแบบฟอร์มของสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ด้วย อันนี้ขอชื่นชม สสจ.กระบี่มากๆ
ออกจากประตูผู้โดยสารขาเข้าตรงมาที่บูธ Shuttle bus service ไปอ่าวนาง คนละ 150 บาท (เจ้าเดิมจากรอบที่แล้ว) ส่งถึงโรงแรม มารอบนี้ก็ยังคงเป็นรถตู้อยู่เหมือนเดิม ผู้โดยสารน้อย มีรถบัสมาจอดรอเป็นสัญลักษณ์ให้เดินมาไม่หลง
มาอ่าวนางรอบนี้เราพักที่ dusitD2 Aonang Krabi เรารีวิวไว้ก่อนแล้ว ตามไปอ่านได้ที่ลิงค์นี้เลย dusitD2 Aonang Krabi
มื้อเที่ยงง่ายๆ ที่อ่าวนางที่ยังคงหาของกินยากเหมือนรอบธันวาคมที่เรามา สรุปมาพึ่งพา Burger king
กลับเข้าห้องพักไปหลบแดดสักนิด นั่งชมทะเลจากไกลๆ ไปก่อน
พอ 4 โมงก็ออกมาสำรวจย่านอ่าวนางอีกครั้ง เจอเพื่อนสนิทในแกงค์ต้องรีบมาถ่ายรูปด้วยทันที
หาดอ่าวนาง ยังคงสวยเหมือนเดิม เงียบสงบมาก
เดินยาวไปฝั่งหาดนพรัตน์ธารา เงียบและสงบมาก
เดินมาที่อ่าวนางแลนด์มาร์ค ช่วงนี้เขากำลังตกแต่งสถานที่ใหม่ แต่ kfc ปิดหนีไปแล้ว
เดินมาทันอาทิตย์ตกที่หาดอ่าวนาง สวยมาก
มื้อเย็นง่ายๆ ก็ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนี่แหละ กินง่าย อยู่ง่าย
กลับโรงแรมมาว่ายน้ำสักนิด ว่าจะลงสระตั้งแต่มาถึง สุดท้ายได้ลงตอน 1 ทุ่ม
2 ทุ่มสระปิดเราลงมากินโรตีน้ำแกง มะตะบะ และโรตีกล้วยไข่ แนะนำเลยโรตีน้ำแกงดีมากที่สุด แกงเข้มข้นมาก 3 อย่าง 90 บาทเท่านั้น
จบวันแรกด้วยของอร่อยนี่ฟินมากจริงๆ
เช้าวันที่ 2 ของทริปตั้งใจออกมาเดินสำรวจไปทางฝั่งมัสยิดบ้านอ่าวนาง มารอบก่อนไม่มีเวลามา ยามเช้าอากาศดีมาก เย็นสบาย เงียบ สงบ
แวะมัสยิดบ้านอ่าวนางสักนิด สวยงาม สงบมากๆ
เดินย้อนกลับไปที่หาดอ่าวนาง เช้านี้มีความแปลกตาบนหาด มีสาหร่ายสีดำเต็มหาดไปหมด มันดูไม่น่าลงทะเลเลย แต่บรรยากาศโดยรวมยังดีมาก
จองทริปไปจอยทัวร์เกาะห้องด้วย Speedboat ที่เลือก Speedboat ตอนเลือกเขาบอกจะได้มีเวลาขึ้นจุดชมวิว 360 องศาที่เกาะห้อง บริษัททัวร์ที่เราจองส่งต่อให้อีกเจ้าออกทัวร์แทน วันนั้นคนน้อย (3 มีนาคม 2564) มีแค่ 6 คน คนมาครบเร็วมาก เรือออกก่อนกำหนด 30 นาที ทั้งเรืออายุรวมกันน่าจะ 400 ปีได้ เรากลายเป็นเด็กน้อยในทริปนี้ทันที เดินมาลงเรือที่หาดอ่าวนาง เดินลุยสาหร่ายสีดำไปขึ้นเรือ ลื่นๆ หยึยๆ เทศบาลกำลังทำความสะอาดชายหาดอยู่พอดี
เป็นทริปเรือออกทะเลที่เราใส่หน้ากากตลอดเวลา คนในจอยทัวร์ไอเกือบตลอดเวลา เราไม่รู้ว่าพี่ๆ ทั้งหลายป่วยไหม เราไม่อยากป่วยด้วยอะไรก็แล้วแต่ที่มาจากคนอื่นตอนไปเที่ยว เราต้องป้องกันตัวเอง จุดแรกที่ทัวร์พามาคือเกาะเหลาลาดิง เกาะนี้จะเป็นอีกจุดที่เป็นสัมปทานรังนกเจ้าเดียวกับที่ถ้ำไวกิ้ง ไกด์บอกให้เวลา 40 นาทีต่อจุด เกาะเหลาลาดิงสงบมาก เราชอบ หามุมนั่งๆ นอนๆ ผ่อนคลายได้ดีเลย
แต่ 10 นาทีเท่านั้นทั้ง 5 คนเดินขึ้นเรือ เราก็อึ้งไปเลย สุดท้ายรีบเก็บภาพแล้วตามขึ้นเรือเป็นคนสุดท้าย
จุดที่ 2 ของวันนั้น คือ เกาะผักเบี้ย มีพื้นที่ให้เดินได้เยอะขึ้น สนุกขึ้น พอลงเรือได้เรารีบทำเวลาถ่ายรูปก่อนเลย เก็บภาพเท่าที่อยากได้ กลัวว่าจะพลาดเหมือนเกาะเหลาลาดิงอีก เกาะนี่ก็ให้เวลา 40 นาที แต่แล้วก็ใช้กันแค่ 20 นาที
ออกจากเกาะผักเบี้ยก็ไปที่ทะเลในหรือห้องลากูน ตอนไปน้ำลด speedboat เข้าไปได้แค่นิดหน่อย รูปที่ได้ไม่ค่อยโดนใจ แต่ก็ขอบคุณที่ถ่ายรูปให้
มีเสียงจากคนถ่ายมาว่า "หนูว่าพี่ถอดหน้ากากดีกว่านะ" เราต้องกลับไม่ซ่อมที่นี่อีกครั้งแน่นอน
มาถึงเกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีเวลาที่นี่ 3 ชั่วโมง ก็ถือว่าเขามาทบให้ที่นี่แล้วกัน ขึ้นเกาะได้ก็แจกข้าวเลย
รีบกินรีบขึ้นจุดชมวิว 360 องศา ขึ้นตอนเที่ยงๆ นี่แหละ แดดดีมาก ไกด์บอก 419 ขั้น ค่อยๆ เดินไม่เกิน 15 นาที โอเครีบไปก่อนเลย คนอื่นยังกินข้าวอยู่
เริ่มเห็นวิวแล้ว สนุกแล้ว
ใช้เวลา 10 นาทีถึงยอดแล้ว ไม่ยาก เดินง่าย ขึ้นมาถึง WOW มากจริงๆ สุดมากๆ ตุ้มสุดๆ
ด้านบนพอไม่มีลมมันร้อนหนักมาก มือถือขึ้นเตือน overheated ได้คลิปมาแค่อันเดียวเท่านั้น เสียดายมาก
ลงมาได้ก็ถึงเวลากิน ส้มตำที่ร้านอาหารสวัสดิการอร่อยมากจริงๆ
อิ่มแล้วก็ลงน้ำสักนิด ยังมีเวลาอีก ชั่วโมงกว่า
และแล้วก็ออกก่อนเวลาอีกจนได้ แต่ก็โอเคแล้ว รอบหน้าคงเหมาหางยาวมาเอง ขากลับมาส่งที่หาดนพรัตน์ธารา เพราะฝั่งอ่าวนางน้ำขึ้นสูง ฝั่งนี้สวยและสงบมาก ขนาดมีคนเยอะมากยังสงบเลย
มื้อเย็นวันนั้นร้านโรตีแนะนำให้ไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลที่ครัวลองแลบุฟเฟ่ต์ ของเยอะมาก ตื่นตาสุดๆ ในราคาหัวละ 299 บาท กินได้น้อยก่อนมากินเกือบอิ่มมาแล้ว
ขามาร้านเรียกพ่วงข้างมา ขากลับที่ร้านมาส่งที่โรงแรม ใจดีกับคนต่างถิ่นมากๆ
วันสุดท้ายตื่นออกไปหายายสาสักนิด มารอบก่อนก็ไม่ได้แวะ มาเช้าก็สวยอีกแบบ
สายๆ ก็ออกมาร้านกาแฟ Patio coffee ที่ Glur hostel บรรยากาศร้านดีมาก ชอบ ถ่ายรูปสนุก
เดินกลับถึงโรงแรม รถที่จะมารับไปสนามบินที่นัดกับเมื่อวาน 13:30 ขอเปลี่ยนเวลาเป็น 12:30 (โทรหาเรา 12:25) เราขอเป็น 12:40 เพราะยังไม่ได้อาบน้ำทั้งคู่ รถมาถึง 12:30 จริงๆ ขออภัยทุกคนบนรถที่ต้องรอเราลงมา 12:35 รีบที่สุดแล้ว เข้าใจบริษัทรถด้วย บ่ายไม่มีคนเลยรวบมารวมรอบเที่ยงครึ่ง มาถึงสนามบินแล้วมื้อเที่ยงเราติดใจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูรสเนื้อมาก
ขากลับขอนั่งริมหน้าต่างก็ได้ เราถ่ายรูปมันส์มาก แค่ 1 ชั่วโมงรัวไป 200 กว่ารูป
ทริปนี้ประทับใจหลายอย่าง
- โรตีน้ำแกง
- การบริการของ dusitD2 Aonang
- ร้านลองแลบุฟเฟ่ต์
- ธรรมชาติที่กระบี่ในช่วงนี้
เรื่องไม่ประทับใจเราไม่พูดถึงดีกว่า เก็บความประทับใจแล้วเดี๋ยวกลับไปซ่อมส่วนที่ไม่โอเคพอ
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 04.49 น.